Sharing together
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
22 สิงหาคม 2550

วิธีอยู่กับคนที่เราเกลียด

*วิธีอยู่กับคนที่เราเกลียด*

ถ้าเรารู้สึกไม่ชอบหน้าใครสักคนหนึ่งแต่จำเป็นต้องอยู่ทำงานด้วยกันในที่ทำงานเดียวกันทุกๆ วัน ผมควรจะวางตัวอย่างไรดีครับ มันอึดอัดไปหมด ไม่มีความสุขเลยตลอดเวลาที่อยู่ในสำนักงานร่วมกันคนคนนี้

==========================

วิสัชนา โดย ว.วชิรเมธี

รู้ไหมว่า เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้คนละกี่ปี

ชีวิตนั้นสั้นยิ่งกว่าหยดน้ำค้างเสียอีก จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า

ถ้าเราใช้เวลาอันแสนสั้นนี้ไปมัวหลับๆตื่นๆอยู่ในความรัก โลภ โกรธ หลง หมั่นไส้คนนั้น ปลาบปลื้มคนนี้ ริษยาเจ้านายใส่ไคล้ลูกน้อง ปกป้องภาพลักษณ์ (อัตตา) กด (หัว)

คนรุ่นใหม่หลงใหลเปลือกของชีวิต โดยลืมไปเลยว่าอะไรคือสิ่งที่ตนควรทำอย่างแท้จริง คิดดูเถิดว่า เราจะขาดทุนขนาดไหน

ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เขียนบทกวีไว้ว่า

''น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝัน
ฆ่าชีวาคือพร่าค่าคืนวัน จะกำนัลโลกนี้มีงานใด''

คนเราไม่ควรพร่าเวลาอันสูงค่าด้วยการปล่อยตัวปล่อยใจ ให้ตกเป็นทาสของความชอบ ความชัง มากนัก เพราะถ้าเราวิ่งตามกิเลส กิเลสก็จะพาเราวิ่งทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อไปไม่รู้จบ กิเลสไม่เคยเหนื่อย แต่ใจคนเราสิจะเหนื่อยหนักหนาสาหัสไม่รู้กี่เท่า

ควรคิดเสียใหม่ว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะชอบหรือไม่ชอบใคร หรือเพื่อที่จะให้ใครมาชอบหรือมาชัง แต่เราเกิดมาสู่โลกนี้เพื่อทำในสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะทำ เอาเวลาที่รู้สึกแย่ๆ กับคนอื่นนั้นหันกลับมามองตัวเองดีกว่า ชีวิตนี้เรามีอะไรบ้างที่เป็นแก่นสาร มีงานอะไรบ้างที่เราควรทำ นอกจากนั้นก็ควรมองกว้างออกไปอีกว่าเราได้ทำอะไรไว้ให้แก่โลกบ้างแล้วหรือยัง

คนทุกคนนั้นต่างก็มีดีมีเสียอยู่ในตัวเอง ถ้าเราเลือกมองแต่ด้านเสียของเขา
จิตใจของเราก็เร่าร้อน หม่นไหม้ เวลาที่เสียไปเพราะมัวแต่สนใจด้านไม่ดีของคนอื่นก็เป็นเวลาที่ถูกใช้ไปอย่างไร้ค่า

บางที่คนที่เราลอบมอง ลอบรู้สึกไม่ดีกับเขานั้น เขาไม่เคยรู้สึกอะไรไปด้วยกันกับเราเลย เราเผาตัวเราเองอยู่ฝ่ายเดียวด้วยความหงุดหงิด ขัดเคืองและอารมณ์เสีย
วันแล้ววันเล่า สภาพจิตใจแบบนี้ไม่เคยทำให้ใครมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาได้เลย

ลองเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมองโลกเสียใหม่ดีกว่า

คิดเสียว่าคนเราไม่มีใครดีพร้อมหรือ เลวไม่มีที่ติไปเสียทั้งหมดหรอก เราอยู่ในโลกกันคนละไม่กี่ปี ประเดี๋ยวเดียวก็จะล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว มาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระทำไม อะไรที่ควรทำก็รีบทำเถิดปล่อยวางเสียบ้าง ความโกรธ ความเกลียดนั้นไม่มีคุณค่าอะไรต่อชีวิตอันแสนน้อยนิดนี้เลย มุ่งไปข้างหน้า ไปหาสิ่งที่มีคุณค่าให้ชีวิตดีงามดีกว่า

วิธีที่แนะนำทั้งหมดนั้น นักภาวนาเรียกว่า ''การกลับมาอยู่กับตัวเอง''
กล่าวคือ ถ้าเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอยู่กับคนที่ไม่ถูกโฉลก แทนที่จะปล่อยใจให้อยู่กับ ความรู้สึกแย่ๆไปตลอด ก็ควรหันกลับเข้ามา ''มองด้านใน'' แก้ไขที่ตัวเอง อย่ามุ่งแก้ไขที่คนอื่น เพราะยิ่งพยายามแก้ไขคนอื่น ก็ยิ่งยุ่งเหมือนลิงทอดแห
ยิ่งเราให้ความสำคัญกับคนที่เราเกลียดมากเท่าใด สภาพจิตใจก็ยิ่งแย่ลงมากเท่านั้น

วิธีที่ดีที่สุดในการอยู่กับคนที่เรารู้สึกไม่ดีหรือเป็นปฏิปักษ์ก็คือ การดึงความรู้สึกจากเขามาอยู่เราทุกขณะหรือถ้าเช่นนั้นก็ย้ายตัวเองออกไปเสียจาก สภาพแวดล้อมเช่นนั้นให้เร็วที่สุด อย่าอยู่นานจนทุกข์นั้นกลัดหนองเป็นมะเร็งร้ายในอารมณ์

ปราชญ์จีนบอกว่า ''ถ้ามีขุนเขาขวางท่านอยู่ข้างหน้า อย่าเสียเวลาย้ายขุนเขา
แต่จงย้ายตัวเอง ''

ดังนั้นเราควรจะย้ายภูเขาที่อยู่ข้างในหรือจะย้ายภูเขาที่อยู่ข้างนอก?

[บทความดีดี จากเจ๊ยบ น้องที่ทำงาน]



Create Date : 22 สิงหาคม 2550
Last Update : 22 สิงหาคม 2550 17:00:15 น. 4 comments
Counter : 678 Pageviews.  

 
ขอบคุณมั่กๆสำหรับข้อคิดดีๆ

กะลังเซ็งในหัวข้อดังกล่าวอยู่พอดีเรยอ้ะค่ะ

อ่านแล้วสบายใจขึ้นเยอะ


โดย: Sowilo วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:17:35:11 น.  

 
สุดโยด


โดย: sanomaru วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:17:47:21 น.  

 
ดีจังค่ะ เห็นด้วยอย่างแรงนะ

ขอบคุณนะคะที่แนะนำหนังสือดีๆให้อีกเล่ม บีมจะลองไปหาดูนะคะ

บีมไม่รู้เหมือนกันค่ะว่า ถ้าถามบีมตอนนี้ว่าจะอยู่กับคนที่เกลียดได้ยังไง ตอนนี้บีมไม่อยากเกลียดใครเท่าไหร่แล้วค่ะ เพราะมันเผาใจเราให้ร้อน เกลียดไปก็เท่านั้นอ่ะค่ะ มาแก้ที่ตัวเองแหละ ถูกที่สุด ดับไฟก็ต้องดับเอง (ไฟในใจ) คนอื่นมาดับไม่ได้หรอกค่ะ นี่แหละ เค้าถึงต้องมีการฝึกตัวเองไงคะ เนาะ เพราะเวลาเรามีอารมณ์ต่างๆขึ้นมา สติที่เราฝึกไว้ ยิ่งแข็งแรง แข็งแกร่งแค่ไหน มันจะมาจับเอาไว้เร็วเท่านั้นค่ะ เมื่อเรารู้ตัวแล้วว่าเราโกรธ หรืออะไรก็ตาม ความรู้สึกนั้นจะหายไปเองค่ะ ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ

แต่พี่บีมไม่อยากโกรธหรือเกลียดใคร เพราะมันเผาใจจริงๆค่ะ มันร้อน ก็ไม่โกรธดีกว่าจะได้เย็นใจ หน้าไม่แก่ก่อนวัยด้วย อิอิ

ถ้าถามบีมว่า แล้วบีมไม่ทุกข์มั่งเหรอ ทุกคนก็ต้องมีความทุกข์หมดล่ะค่ะ ยกเว้นแต่ว่าเราจะรู้วิธีพ้นทุกข์ จะจัดการกับมันยังไง พุทธศาสนาเค้ามีบอกแล้วค่ะ เพียงแต่เราต้องสนใจศึกษาแค่นั้นเอง และควรต้องเข้าใจลึกซึ้งด้วย

บีมค่อยๆฝึกตัวเอง จากเด็กขี้โมโห ขี้อิจฉาริษยา สารพัดอย่าง ค่อยๆนั่งสมาธิ อ่านหนังสือข้อคิดดีๆ สังเกตธรรมชาติว่ามันเป็นอย่างไร ชีวิตคนก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาตินี่คะ ถ้าเราละเอียดอ่อนพอจะสังเกตกลไกของมัน เราก็จะเข้าใจชีวิตเรามากขึ้นค่ะ

บีมเคยดูหนังแอนิเมชั่นของญี่ปุ่นเรื่องนึงค่ะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร ตอนที่นางเอกเครียด เค้าไปอยู่ในทะเล เค้าอยู่นิ่งๆ ฟังเสียงจากทะเลค่ะ บีมก็ไม่รู้ว่ามันดียังไงหรอก เลยลองเอามาทำดู ตอนบีมเครียดมากแล้วไปทะเล บีมลองไปลงน้ำ เอา "ตัวเรา" ออกไป เหลือแต่ร่างกายและวิญญาณที่นิ่งสงบ หลับตา ลอยอยู่ในน้ำ บีมได้ยินเสียงทะเล มันไม่ใช่ซ่าๆนะคะ แต่มันเป็นเสียงจากที่ลึก เสียงที่ธรรมชาติสร้างมาใต้ท้องทะเล มันบอกไม่ถูกค่ะ แต่ทีบีมรู้สึกคือ โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ ลึกล้ำ และวิเศษ ซึ่งบีมเองมีแค่นี้เอง แค่ตัวเล็กๆกับจิต กับอารมณ์ บีมรู้สึกเลยว่าตัวเราเล็กนิดเดียว แต่อะไรล่ะที่ทำให้ "คน" เราใหญ่คับฟ้า ก็ "ความคิด" ของเราไงคะ อะไรที่ทำให้ "ปีระมิด" มันมโหฬารขนาดนั้น ก็เพราะ "ความคิด" คนไงคะ

พระพุทธองค์จึงมีคำที่ว่า "สัมมาทิฏฐิ" คือ ความเห็นชอบ เห็นชอบไม่ใช่เห็นด้วย เห็นชอบ คือ เห็นตรงตามความเป็นจริง ความเป็นจริงที่เราทุกคนปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดประเทศอะไร สีผิวอะไร คุณก็ปฏิเสธมันไม่ได้ ความเห็นชอบต้องใช้ "จิต" เข้าถึงค่ะ ไม่ใช่ "ความคิด"

พูดมาซะยาวเรยย

บีมขออนุญาต add คุณใน Friend List นะคะ


โดย: Nada_diamond วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:23:27:41 น.  

 
ยินดีครับ

ลึกซึ้งจริงๆ ครับกับผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุยังน้อยคนนึงที่มีความคิดดีได้อย่างนี้ครับ

ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดดีๆ ครับ


โดย: dupdip วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:14:34:01 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

dupdip
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ยินดีมากๆ ที่ได้เข้ามาอ่านบทความดีๆ กันครับ เนื้อหาใน blog ก็ได้รับ forward mail จากพี่ๆ น้องๆ และผองเพื่อนกันต่อๆ มา ซึ่งมีเยอะมาก ก็ได้แต่ forward ต่อ แต่ก็ไม่มีที่เก็บไว้ share กันอ่านได้มากเท่านี้ ก็หวังว่าจะเป็นช่องทางนึงที่จะเป็นประโยชน์ สร้างกำลังใจ และให้ข้อคิดดีๆ กันไปบ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ จะยินดีมากขึ้นอีกครับ ถ้าจะบอกต่อๆ กันไปให้เป็นวงที่กว้างขึ้นๆ ไปอีกครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์เพราะไม่มีสิทธิ์ที่จะไปสงวนครับ ถ้ามีบทความดีๆ อยาก share หรือทักทายกันก็ส่ง mail มาที่ dup2do@yahoo.co.th ครับ
[Add dupdip's blog to your web]