Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
ประสบการณ์คลอดลูก...ตอนที่ 1

ประสบการณ์คลอดลูก...ตอนที่ 1
นานมากเลยที่ไม่ได้ up blog เนื่องจากอินเตอร์เน็ตที่ทำงานโดนยึดและเตรียมตัวกับการเป็นคุณแม่มือใหม่

เมื่อวันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2550 เวลา 06.00 น. เป็นเวลาตื่นนอนตามปกติเพื่อที่จะอาบน้ำและเตรียมตัวไปทำงาน จู่ๆก้อสังเกตว่ามีมูกเลือดออกมา จึงนึกถึงคำพูดของหมอที่บอกว่าถ้า มีมูกเลือดออก หรือมีน้ำเดิน ให้รีบไปโรงพยาบาล เราจึงได้บอกสามีว่ามีมูกเลือดออก ให้พาไปโรงพยาบาลหน่อย แต่อีกใจก้อห่วงงาน กะว่าจะไปทำงานก่อนแล้วค่อยไปหาหมอ แต่อีกใจก้อกลัวว่าจะมีอะไรเป็นอันตรายไหม ถ้ามัวแต่รีรอ เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลพญาไท 2 (ฝากท้องไว้ที่นี่) ไปถึงโรงพยาบาลตั้งแต่เจ็ดโมงกว่าๆ แต่หมอที่เราฝากท้องไว้นั้น จะเข้ามาตรวจก้อนู้นแน่ะ 9 โมง แม้จะวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก เก็บปัสสาวะแล้ว กินเวลาไปไม่เท่าไหร่เอง

ในระหว่างนี้พยาบาลก้อพยายามติดต่อหมอที่ดูแลเรา แต่ว่าหมอไม่รับโทรศัพท์ซะที เรากับสามีเลยไปหากาแฟกิน แต่แหม มันก้อหิวด้วยอ่ะ เลยกินทั้งแซนวิช ทั้งครัวซองซะอิ่มเลย พอกลับไปรอหมอที่แผนกสูติ ผู้ช่วยหมอมาคุยด้วยบอกว่าหมอยังถามถึงอยู่เมื่อวานเลยว่าคุณยังไม่เห็นคลอดซักที ความจริงเรามีนัดกับหมออีกครั้งวันพุธที่ 12 ธันวา (วันรุ่งขึ้นนั่นเอง) แต่พอมีมูกเลือดเลยรีบมาก่อน พยาบาลถามว่ากินอะไรมารึยัง เราบอกไปว่าเรากินมาแล้ว พยาบาลก้อทำหน้าตกใจ มานั่งนึกได้ว่า ก่อนการผ่าตัดเค้าห้ามกินอะไรทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง แหม ก้อไม่มีใครบอกนี่นาว่าจะต้องผ่าตัด ระหว่างนี้ก้อเริ่มรู้สึกปวดท้องหน่อยๆ แต่ปวดหลังมากกว่าปวดท้องซะอีก แต่เป็นการปวดที่ทิ้งช่วงห่างประมาณ 15 นาทีปวดครั้งนึง
เกือบๆ9 โมง พยาบาลเพิ่งจะติดต่อหมอได้ หมอให้เราขึ้นไปรอที่ห้องคลอดเลย แม้ว่าเราจะยังไม่มีอาการแบบคนเจ็บท้องคลอดที่ปวดจะเป็นจะตายอย่างที่เห็นในทีวีก้อตาม พยาบาลติดแท็คที่ข้อมือ ซึ่งเขียนชื่อ-นามสกุลไว้ แล้วให้นั่งรถเข็นขึ้นไปที่ห้องคลอด ยังแอบพูดกับพยาบาลเลยว่า ไม่เหมือนคนจะไปคลอดเลย เพราะดูเหมือนไม่มีอาการอะไรบ่งบอก สามีตามมาเป็นกำลังใจที่ห้องคลอดด้วย ให้รู้สึกอุ่นใจดี

พอขึ้นมาที่ห้องคลอด ต้องเปลี่ยนชุด เป็นเสื้อผูกหน้าและใส่ผ้าถุง และที่สำคัญต้องถอดชุดชั้นใน พร้อมทั้งของทุกอย่างออกจากตัวให้หมด ห้องคลอดที่นี่ตกแต่งน่ารักดี สบายตา ไม่ดูเครียด หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก้อนอนบนเตียง พยาบาลจะเอาเครื่องวัดการเต้นของหัวใจเรา เครื่องวัดการเต้นของหัวใจลูก เครื่องวัดการเจ็บท้อง มาติดไว้ที่ตัวเรา ในระหว่างนี้ก้อนอนรอ ร้อ รอ รอให้หมอมาตรวจ ซักพักนึง หมอมาตรวจว่าปากมดลูกเปิดเท่าไหร่แล้ว เฮ้อ เพิ่งจะ 3 เซ็นต์เอง ยังห่างไกล 10 เซ็นต์อีกตั้งเยอะ หมอถามว่าจะคลอดเองหรือว่าจะผ่าคลอด เราก้อยืนยังอย่างหนักแน่นว่า ขอคลอดเองค่ะ (เหตุผลคือ จะได้ฟื้นตัวมาเลี้ยงลูกเร็วๆ และแพ็คเกจค่าทำคลอด แบบธรรมชาติ ถูกกว่าตั้งเกือบหมื่นแน่ะ อันนี้สำคัญ) หมอเลยให้นอนรอให้ปากมดลูกเปิด 4-5 เซ็นต์ก่อน แล้วถึงจะบอกได้ว่าเราจะสามารถคลอดเองได้มั้ย ซึ่งหมอให้รอดูถึงบ่ายสองโมงว่าจะเปิดถึงขนาดนั้นมั้ย ถ้าไม่ได้ ก้อต้องผ่าคลอด ในระหว่างนี้แม่สามีโทรมาว่าถ้าจะคลอดให้คลอดวันนี้เลยนะ เพราะเป็นวันดีมากๆ แล้วต้องคลอดช่วงเวลา บ่ายโมงถึง5โมงเย็น เพราะเป็นฤกษ์ดี พอหมอได้ยิน หมอบอกว่าช่างเรื่องฤกษ์มันเหอะ มันทำให้คนไข้เครียดเปล่าๆ เราก้อบอกว่าเราไม่ถือหรอก แต่ผู้ใหญ่เค้าอยากได้

โอ้แม่เจ้า นี่มันเพิ่ง เก้าโมงเช้าเองนะ ต้องรออีกตั้งนานแน่ะ เรากับสามีก้อนอนเล่น ดูทีวีกันไป แต่แล้วเราก้อรู้สึกปวดท้องและปวดหลังเป็นระยะๆ ปวดหลังนี่ทรมานมากกว่าปวดท้องอีกแฮะ จากที่ปวด 10 นาทีครั้ง เริ่มถี่ขึ้นเป็น 7 นาทีครั้ง 5 นาทีครั้ง ทุกครั้งที่ปวดนี่ แทบขาดใจ ต้องบีบมือคุณสามีไว้ซะแน่น เพิ่งรู้ว่าคนเจ็บท้องคลอดมันทรมานอย่างนี้นี่เอง แล้วเราก้อจะจับเวลาเองทุกครั้งที่ปวดว่ามันถี่ขนาดไหน ลุ้นให้มันปวด 3 นาทีครั้ง เพราะมันแสดงว่าปากมดลูกเปิดมากขึ้นเยอะแล้ว แต่ว่าความถี่ในการปวดของเรามันต่ำสุดที่ 5 นาทีครั้ง พอจับเวลามาถึงนาทีที่ 4 ทีไร ไม่อยากให้ถึงนาทีที่ 5 เลย เพราะมันปวดสุดๆ หมอเค้าจะรู้ว่าความปวดของเรามันถี่ขนาดไหนจากเครื่องที่เค้าติดไว้ที่ท้องเรานี่แหละ ซึ่งมันจะปริ๊นออกมาเป็นกราฟให้ดู ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเครื่องมือวัดความปวดด้วย ช่วงที่ไม่ปวดเราก้อ ส่งข้อความหาเพื่อนๆ ว่า “ตอนนี้เราอยู่ห้องคลอดแล้ว กำลังรอคลอดอยู่ แต่ปัญหาคือ หิวจัง” แหมก้อต้องหาอะไรระบายอารมณ์หน่อยนะ บางทีก้อโทรหาเพื่อน โทรสั่งงาน โทรหาคนที่บ้าน หรือบางทีก้อลุกขึ้นมาหวีผม กลัวว่าเดี๋ยวตอนคลอดจะถ่ายรูปออกมาไม่สวยน่ะ แต่หวีไปก้อเท่านั้นแหละ เพราะพอปวดท้องที ก้อทุรนทุรายจนหัวยุ่งอยู่ดี หลังๆเลยเลิกหวีแล้ว

ตอนที่อยู่ในห้องคลอดนี่ เค้างดน้ำและอาหารเราทุกอย่าง โอ้โฮ หิวมาก รู้สึกโมโหหิวมากกว่าปวดท้องคลอดซะอีก แถมสามียังออกไปหาอะไรกินตอนเที่ยงเย้ยเราอีก โฮๆๆๆๆ หิวอ่ะ พอบ่ายสองโมงถามพยาบาลว่าหมอจะมารึยัง เพราะหมอต้องมาดูว่าคลอดเองได้มั้ย ปรากฏว่าหมอติดผ่าตัดคนอื่นอยู่ อีก2 ชั่วโมงจะมา เราก้อต้องทนปวดต่อไป

...มาติดตามตอนต่อไปในอีกหน้าของ blog นะจ๊ะ...



Create Date : 31 ธันวาคม 2550
Last Update : 31 ธันวาคม 2550 19:28:06 น. 2 comments
Counter : 1701 Pageviews.

 
รออ่านอยู่ค่ะ เล่าแบบไม่เครียดเลย ทำให้รู้สึกว่าการคลอดลูกไม่ได้น่ากลัวซักนิสส


โดย: kimoshii IP: 123.225.172.131 วันที่: 31 ธันวาคม 2550 เวลา:21:00:44 น.  

 


โดย: สาวอิตาลี วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:14:07:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เรื่องเล่า...ก่อนเข้านอน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





♥ You Never Walk Alone ♥
Friends' blogs
[Add เรื่องเล่า...ก่อนเข้านอน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.