เพื่อนส่งผมไปพม่า
ก่อนผมจะออกเดินทางไปพม่าหนึ่งวัน พี่เต้ยสามารถนัดก๊วนได้ครบอีกหนหนึ่ง นัยว่าเป็นการส่งท้ายก่อนที่ผมจะออกเดินทางไกลเสียหลายวัน 

ก่อนหน้านี้ ผมก็โม้ให้พรรคพวกฟังตามนิสัยเดิมว่า จะไปเล่นกอล์ฟที่พม่าแล้วนะ ต่อไปอาจจะเล่นในประเทศน้อยลง ที่จริงก็พูดไปอย่างนั้นแหละ พอให้ขำ ๆ ไม่คิดอะไรมาก ลงสนามที่ไหน ฝีมือผมก็ไม่พัฒนาไปถึงไหน เอาแค่เล่นให้สนุกและผ่านแต่ละวันไปอย่างแสนสุข

 ในบรรดาเพื่อนร่วมก๊วนของผม คุณหน่อยภูวนาถต่างหากที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยที่สุด ไปแทบทุกเดือน เดี๋ยวไปญี่ปุ่น เดี๋ยวไปฮ่องกง เดี๋ยวไปสิงคโปร์ ต้นเดือนหน้าก็จะไปเยอรมันอีกแล้ว ไปทีหนึ่งก็ได้งานกลับมาเยอะแยะมากมาย ทั้งทำนิตยสาร   จัดแรลลี่ จัดอีเวนซ์และผลิตรายการโทรทัศน์ แต่นอกจากเล่าสู่กันฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบธรรมดาเหมือนกับที่บอกเพื่อนว่า พรุ่งนี้จะไปชัยนาท มะรืนนี้จะไปนครสวรรค์ ไปต่างประเทศในคำบอกเล่าของเขาออกแนวนั้น 

แต่ผมสิเป็นขั้วด้านตรงข้ามของเขา แค่จะไปเล่นกอล์ฟพม่าก็โม้เสียเป็นคุ้งเป็นแคว โม้เสียหลายวันติดต่อกันจนเพื่อน ๆคิดว่า เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าสนใจ  

ผมเคยสำรวจตัวเองว่านิสัยขี้โม้นี่ได้มายังไง เริ่มเป็นจอมโม้ตั้งแต่ตอนไหน และเมื่อไรจะเลิกคุยโม้เสียที ผมคิดว่านิสัยนี้น่าจะได้รับมาจากปู่ มีคนเล่าว่าปู่ผมชื่อนายนำ เป็นจอมโม้ประจำตำบล ชอบออกไปนั่งไขว่ห้างอวดภูมิที่ร้านกาแฟในตอนเช้า และเป็นคนคุยได้ทุกเรื่องครอบจักรวาล ว่ากันว่า ปู่ของชอบฟังข่าวจากทางวิทยุ และก็นำสิ่งที่ได้ยินมาไปนั่งวิเคราะห์เจาะลึกให้เพื่อน ๆ ได้รับฟัง ผมโตไม่ทันตอนที่ปู่ยังแข็งแรง จำได้แต่เพียงว่า ตอนผมอายุสักสี่ห้าขวบ ปู่ก็ป่วยด้วยโรคเบาหวาน นอนครางโอดโอยอย่างทุกข์ทรมาน และก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา 

ผมคิดว่า เรื่องโม้โอ้อวด ผมน่าจะมีส่วนคล้ายปู่อยู่ไม่น้อย

 แค่นั่งเครื่องบินราคาถูกไปพม่าราวหนึ่งชั่วโมงเศษ ๆ ก็ทำราวกับได้บินด้วยยานอวกาศไปยังดาวอังคาร

ผมบอกว่าเพื่อน ๆ จะเขียนประสบการณ์เรื่องกอล์ฟมาให้อ่านกันนะครับ

ทุกคนอมยิ้ม ไม่อยากเชื่อ หรือไม่อยากอ่านก็เดาไม่ออก

พี่เต้ยถามว่า มีเพื่อนร่วมก๊วนหรือเปล่า 

ผมส่ายหน้าบอกว่าไม่มี แต่ไม่แน่อาจจะได้เล่นกับเพื่อนฝรั่งของคามินคนใดคนหนึ่ง ได้ข่าวว่านอกจากเล่นชินลงแล้วเพื่อนคนหนึ่งของเขายังเล่นกอล์ฟได้ดีด้วย แต่ใจผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไร เล่นกับใครก็ได้ ผมอาจจะได้แจมกับเพื่อนใหม่ ๆ ชาวต่างชาติ หรือไม่ก็ลงเล่นคนเดียว เดินคู่กับแคดดี้สาวชาวพม่าหน้าตาจิ้มลิ้ม  ทำท่าให้เหมือนว่า สนามนี้เป็นของเราคนเดียว 

พักหลังนี่ผมออกรอบคนเดียวบ่อยครั้ง บ่ายวันไหนว่างขึ้นมาก็หิ้วถุงกอล์ฟออกไปสนามชลประทานข้างบ้าน จ่ายค่าสนามราคาถูก ลงเล่นกันใครก็ได้ เพราะ กอล์ฟเป็นเรื่องของสมาธิล้วน ๆ เล่นก๊วนไหนก็เหมือนกันหมด สุดท้ายก็ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้ และเล่นให้ดีที่สุด ทุกช็อต ทุกหลุมมีความสำคัญเหมือนกันหมด 

ในหนังสือของคุณหมอวิธานก็บอก “กอล์ฟไม่ได้แข่งกับใคร มีแต่จะต้องแข่งกับตัวเอง”
ในหนังสือgolf digestมีคำแนะนำให้นักกอล์ฟคนหนึ่งเคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อว่าจะได้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับตัว เขาบอกว่า “จงหาสิ่งที่คุณชอบเพื่อให้สมาธิของคุณนิ่งที่สุด” 

ดร.บ็อบ โรเทลลาบอกว่า “อย่าลังเล และทำให้ดีที่สุด อย่ากังวลกับช็อตนั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่กำลังจรดลูก  หากคุณเริ่มมีอคติให้ก้าวออกมาก่อน  แล้วทำสมองให้ปลอดโปร่ง จินตนาการถึงช็อตที่ต้องการตี แล้วจึงสวิงไปด้วยความมั่นใจ ผลที่ออกมาจะดีกว่าเดิมเสมอ”

ผมคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับเพื่อนร่วมก๊วนเลย มันเกี่ยวกับตัวเราล้วน ๆ ดังนั้นจะเล่นกับใคร 
ก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไร ขอแค่เล่นให้ดี ทำสกอร์ให้มีตัวเลขต่ำลง ความสุขก็จะค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ 

แต่นั่นแหละการได้ออกรอบกับเพื่อนร่วมก๊วนที่เป็นขาประจำหรือเป็นเพื่อนสนิทกัน ข้อดีที่เราไม่อาจละเลยหรือมองข้ามไปได้ก็คือมิตรภาพ การได้อยู่ใกล้เพื่อน ได้ออกกำลังกายกับเพื่อน ได้เดินเคียงข้างกัน พูดคุยกันทุกเรื่อง ทั้งเรื่องทุกข์เรื่องสุข อาบน้ำด้วยกัน แต่งตัวพร้อมกันและทานข้าวด้วยกันมื้อหนึ่งก่อนจะแยกย้ายจากกัน ผมว่าทั้งหมด เป็นบรรยากาศที่วิเศษที่สุดเสมอมา

ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน ผมมักจะคิดถึงบรรยากาศที่อบอุ่นอย่างนี้ทุกเวลา ตั้งแต่เริ่มจับไม้กอล์ฟ ผมติดพี่เต้ย คิดถึงคุณหน่อย คิดถึงพี่เจน อยากอยู่ใกล้ ๆ พวกเขามากกว่าใครทั้งหมดแล้ว เวลานัดเจอกันตอนตีห้าครึ่ง ยังเช้าตรู่ ฟ้ากำลังจะเปิด นกกาเริ่มบินออกจากรัง ไปสนามไหนก็มักจะเห็นรถมิตซูบิชิของพี่เต้ยจอดรออยู่ก่อนแล้ว สักพักคุณหน่อยก็ขับบีเอ็มตามมา พี่เจนควบฟอร์จูนเนอร์มาด้วยความเร็วสูง และมักจะมาเป็นคนสุดท้ายเสมอ เจอหน้ากันแทบไม่ต้องพูดอะไร รู้สึก อบอุ่นอยู่ในใจ เหมือนว่า โลกนี้ไม่มีอะไรน่ากังวล เราต่างมีกันและกันเสมอ

เล่นกอล์ฟกับพี่เต้ยกับคุณหน่อยมาหลายเดือน ไปไหนมาไหนก็คิดถึง ผมจึงมักจะส่งข่าวคราวถึงเขาเสมอ เล่าให้เขาทั้งสองฟังถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ บางเรื่องก็เผลอเล่าในเรื่องที่ไม่ควรเล่าเช่นเรื่องไปแอบรักแคตดี้คนหนึ่งอายุสามสิบแปด แล้วกลัวว่าเขาจะรู้ตัว หรือกลัวภรรยาจับได้ว่าเราคิดนอกใจ แค่รักก็รู้สึกเป็นทุกข์แล้ว ถ้าขืนทำมากไปกว่านี้คงได้ตกนรกทั้งเป็น ไม่คิดอยากจะเล่าใคร แต่เล่าแล้วก็รู้สึกดีที่ได้ระบายออกไป 

เช้าวันนี้ พี่เต้ยนัดผมให้ไปพบกันที่หน้าด่านเก็บเงินบางปะอิน ผมไปสนามราชครามไม่ถูก ก็ขอให้พี่เต้ยจอดรถรออยู่บริเวณนั้นจะได้ขับตามพี่เขาไป 

คุณหน่อยนั้นเขามาเล่นสนามนี้บ่อย จึงไม่มีปัญหาในการเดินทาง 
ส่วนพี่เจนก็บอกว่าเคยขับรถผ่าน เห็นชื่อสนามราชครามก็เลี้ยวรถเข้าไปดูมาหนหนึ่งแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้ใครนำทาง

สนามราชครามอยู่ที่บางไทร จังหวัดอยุธยา เปิดให้บริการทั้งกลางวันและกลางคืน มีขนาด๑๘หลุม พาร์๗๒ ห่างจากกรุงเทพฯราวสี่สิบห้านาที สนามแห่งได้รับการออกแบบอย่างสมบูรณ์ เน้นความท้าทายในการเล่น ข้างในมีทั้งร้านอาหาร โปรช็อปและโรงแรมในราคาคืนละสองพันบาท สามารถชมความงามของสนามกอล์ฟได้จากระเบียงห้องพัก 

ผู้ออกแบบสนามแห่งนี้คืออดีตหมอฟัน ดร.สุกิตติ กลางวิสัย มีการออกแบบให้มีความท้าทายทั้งนักกอล์ฟมือใหม่และมือโปร ลักษณะหลุมและเลย์เอาท์ออกแบบให้มีความหลากหลาย ทั้งลอนคลื่น น้ำ และบังเกอร์ ทำให้ผู้เล่นต้องวางแผนให้ดี แถมยังเพิ่มความสนุกให้กับนักกอล์ฟมากยิ่งขึ้น

ดร.สุกิตติ กลางวิสัยเป็นผู้ออกแบบสนามกอล์ฟชื่อดังหลายแห่งเช่นสนามกอล์ฟภูเก็ต คันทรีคลับ สนามกอล์ฟล็อช ปาล์ม คลับภูเก็ต สนามกอล์ฟธัญธานี กรุงเทพฯ สนามกอล์ฟมาเจสติก ครีก คันทรีคลับ หัวหิน สนามกอล์ฟโซลสยามรีสอร์ต แอนด์คันทรีคลับนครราชสีมา 

นักกอล์ฟหลายคนโหวตให้สนามกอล์ฟมาเจสติกครีกคันทรีคลับเป็นสนามที่ดีที่สุดภายใต้การออกแบบของดร.สุกิตติ

ข้อมูลจากเว็บไซต์แห่งหนึ่งบอกว่า ขณะนี้มีนักกอล์ฟในประเทศถึง๖๐๐,๐๐๐คน และมีสนามกอล์ฟให้เลือกเล่นถึง๓๐๐ สนาม ธุรกิจของสนามกอล์ฟมีแนวโน้วเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละสิบตามกระแสนิยมกีฬากอล์ฟที่มาแรงในกลุ่มนักกอล์ฟชาวไทย

ผมเพิ่งเล่นได้แค่ ๑๐ สนาม สนามราชครามถือเป็นที่สนามที่๑๑ ส่วนสนามที่๑๒ และ๑๓ ผมวางแผนจะไปเล่นที่พม่า

 ผมเคยอ่านบทความเรื่องไปเล่นกอล์ฟในพม่าของนักเขียนท่านหนึ่งบอกว่า สนามกอล์ฟพม่านั้นมีอยู่ทุกเมืองใหญ่ ๆ ราคาถูกกว่าเมืองไทยครึ่งหนึ่ง ที่พม่ามีโปรกอล์ฟชื่อดังขวัญใจชาวพม่าชื่อจ่อ โม เขาเคยเป็นแชมป์ในการแข่งขันสิงคโปร์โอเพนเมื่อปี๒๕๔๐ 

นอกจากนี้ประเทศพม่าก็เคยจัดให้มีรายการแข่งขันเมียนมาร์โอเพ่นปี๒๐๑๐ที่สนามthe punhlaing ผู้ชนะจะได้เงินถึง๙.๙ล้านบาท มีนักกอล์ฟชาวไทยอย่างประหยัด มากแสง ภาสเมธ โพธิ์กำเนิด ปริยะ ชุณหสวัสดิกุล กิระเดช อภิบาลรัตน์ พิจิตร เพชรเกษม รณชัย จำนง บุญชู เรืองกิจ และชินรัตน์ ผดุงศิลป์เข้าร่วมแข่งขันด้วย

พรุ่งนี้จะเดินทางแล้ว วันนี้ที่ราชครามถือว่าเป็นการซ้อมใหญ่ให้ตัวเองนิ่ง ๆ อีกสักนิดหนึ่ง เจอสนามในต่างประเทศเข้าจะได้ไม่ประหม่าหรือตื่นเต้นมากนัก

เราขึ้นแท่นทีออฟที่หลุมหนึ่งตอนหกเจ็ดโมง รอเจ้าหน้าที่อยู่เกือบชั่วโมง พี่เต้ยบอกว่าตอนโทรมาจองก็บอกแล้วว่าจะมาตั้งแต่เช้า เจ้าหน้าที่ก็รับปากค่ะ ๆ แต่พอมาจริง ก็ไม่มีใครสักคน จะออกไปเล่นในสนามก่อนค่อยมาซื้อตั๋วทีหลังก็ไม่ได้ ทางสนามเขาห้ามเอาไว้ สุดท้ายก็เลยนั่งคุยกันในสโมสร รอให้น้องเจ้าหน้าที่เขามาเปิดช่องขายตั๋ว

พี่เต้ยถามถึงคุณวินัยว่า ทำไมไม่ชวนมาด้วย ผมตอบว่า ชวนแล้ว ทีแรกรับปากว่าจะมา แต่ก่อนวันนัดคุณวินัยก็โทรมาบอกว่า เป็นหวัดกะทันหันสงสัยออกรอบไม่ได้ ผมก็ว่าไม่เป็นไร รอให้หายก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่
ผมเล่นได้เกือบดี ทำแต้มตามหลังคุณหน่อยมาติด ๆ ในเก้าหลุมแรก แต่เก้าหลุมหลังไม่รู้มีอะไรมาดลใจคุณหน่อยทำได้ทั้งเบอร์ดี้ และพัตพาร์ได้สามหลุมติดกัน คะแนนทิ้งห่างผมหลุดลุ่ย เขาหันมายิ้มและบอกว่า นี่ไงที่บอกว่ากอล์ฟเป็นเรื่องของความไม่แน่นอน 

ผมพยักหน้าเห็นด้วยและก็ยกมือยอมแพ้เขาอย่างไม่มีข้อกังขา

เราใช้เวลาอยู่เกือบห้าชั่วโมงบนสนาม อากาศไม่ร้อนมากนัก ลมพัดโชยมาเบา ๆ  ราชครามยังเป็นสนามเปิดใหม่ ต้นไม้ยังโตไม่เต็มที่ แต่ละต้นมีเชือกพยุงไว้เป็นเหมือนใยแมงมุม มีอยู่ช็อตหนึ่ง ผมตีลูกลอยโด่งขึ้นฟ้า จนเฉียดหลอดไฟ 

ผมถามแคตดี้ว่า ถ้าหากลูกไปถูหลอดไฟแตก ผมต้องจ่ายเงินใช่ไหม

แคตดี้บอกว่า ต้องจ่ายแน่นอน แต่จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเสียหาย ทางสนามจะส่งเจ้าหน้าที่มาดู ถ้าเสียหายมาก็จ่ายหนัก แต่เสียหายน้อยก็จ่ายไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าสามพันบาท พูดจบแคตดี้ก็บอกว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทางสนามไม่ทำประกันไว้ นักกอล์ฟจะได้ไม่ต้องระวังมาก
จบหลุมที่สิบแปดด้วยความสวยงาม เป็นหลุมสุดท้ายที่พื้นรองเท้าคู่ใหม่ข้างซ้ายของผมหลุดออกมาพอดี ผมแปลกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น รองเท้าคู่นี้ยี่ห้ออะดิดาสสีดำเพิ่งซื้อใหม่ที่เมืองเอกเมื่อวันก่อน ใส่เป็นครั้งที่สอง จู่ ๆ ก็หลุดออกมาเฉยเลย ผมต้องถอดออกมาหิ้วและเดินออกจากสนามด้วยเท้าเปล่า

คุณหน่อยบอกว่า ทางร้านคงจะเก็บไว้นาน เพราะขายไม่ออก กาวก็เลยหมดสภาพ เจอน้ำหรือความชื้นเข้านิดหน่อยก็ร่อนหลุดออกมา แต่ไม่ใช่เรื่องยาก ไปร้านซ่อมรองเท้าให้เขาทากาวใหม่ ก็สามารถนำมาสวมใส่ได้เหมือนเดิม

เดินกลับมายังสโมสร เข้าห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่เต้ยขอตัวออกไปก่อน เพราะมีนัดประชุมอะไรบางอย่าง เหลือเราสามคน พี่เจนนำเสนอให้ไปทานข้าวเที่ยงกันที่ร้านปลาเผาแถวสามโคก เป็นร้านที่พี่เชิด ทรงศรีเคยพาเรามาเลี้ยงครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน พี่เจนว่าไปกินเพื่อระลึกถึงพี่เชิดด้วย

ระหว่างที่นั่งอยู่ในร้านอาหาร ผมก็อดไม่ได้ที่จะเผลอโม้เรื่องที่จะไปตีกอล์ฟที่พม่าอยู่หลายนาที จนกระทั่งรู้สึกตัวว่าพูดอยู่ฝ่ายเดียวมากไปแล้ว จึงสงบปากสงบคำฟังเรื่องการบริหารงานในฐานะนายกสมาคมนักเขียนของพี่เจนบ้าง  ปีหน้ามีโครงการเยอะแยะมากมาย เล่ารายละเอียดกันสองวันคงไม่จบ ในขณะที่คุณหน่อยก็วางแผนการที่จะไปดูบริษัทรถยนต์ในเยอรมัน 

นี่ถ้าไม่เกรงใจ และมีเงินอีกสักนิด ผมคงขอซื้อตั๋วตามติดคณะไปด้วย ไปถึงก็ค่อยหาเวลาว่างชวนคุณหน่อยไปเดินหวดลูกในสนามกอล์ฟสักรอบหนึ่ง

ชาตินี้ได้ไปตีกอล์ฟที่เยอรมันสักหน คงโม้ได้ยาวกว่านี้แน่นอน














Create Date : 13 ธันวาคม 2555
Last Update : 13 ธันวาคม 2555 15:09:42 น.
Counter : 1487 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kajohnrit
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ธันวาคม 2555

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
14
17
18
23
24
25
27
29
31