ความจำสั้น แต่ไม่มีวันลืมเธอ

แปรรูปความเจ็บปวด


ฟรอยด์ บอกว่า การพูดระบายความรู้สึกออกมา ช่วยทำให้ความเจ็บปวดแสนสาหัส กลายเป็นความเจ็บปวดในระดับธรรมดาของมนุษย์ทั่วไปได้

แต่ที่ฟรอยด์ ไม่ได้บอกคือ เราคงต้องดูให้ดีด้วยว่าจะพูดกับใคร

ความรู้สึกของคนเราไม่เท่ากัน ที่เจ็บปวดแสนสาหัสของเรา อาจจะเป็นแค่ความเจ็บปวดธรรมดาๆ ของใครอีกคนก็ได้

ไอ้เจ้าตัวความเจ็บปวดนี่แม้ว่าเราจะชิงชัง รังเกลียดรังงอนมันแค่ไหน แต่ลึกๆแล้วเราก็มีความผูกพันธ์ ความรู้สึกที่ลึกซึ้งบางอย่างกับมัน

เพราะสิ่งที่จะทำให้คนเรามีความรู้สึกระดับแสนสาหัสได้แสดงว่า สิ่งนั้นมันจะต้องมีความสำคัญกับใครคนนั้นจริงๆ ความเจ็บปวดที่มาจากสิ่งสำคัญแบบนั้น คงไม่มีใครอยากสลัดมันทิ้งแบบเดียวกับสลัดรองเท้าเก่าๆคู่นึงหรอก

สำหรับเรา บางทีควมเจ็บปวดที่มันเอ่อล้นอยู่มากมาย ก็ทลายกำแพงของริมฝีปากบนกับริมฝีปากล่างได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ทันได้ดูว่าคนที่เราพูดด้วยเขาพร้อมที่จะรับฟังรึเปล่า

แต่ก็มีอยู่หลายครั้ง ที่พยายามดูให้มั่นใจก่อน ว่าเป็ช่วงเวลาที่น่าจะพูดได้ และเป็นคนที่เราสนิทที่สุดแล้ว กลับให้ผลไม่ต่างกัน

หลังจากคำพูดสุดท้ายหลุดปากออกไป มันมักจะตามมาด้วยความรู้สึกที่ว่า ไม่น่าเลย เราไม่น่าพูดออกไปเลย

เพราะท่าทีเฉยเมย ดวงตาที่สงสัยว่ามันจะเจ็บปวดอะไรนักหนา และอาการที่บอกให้รู้ว่า เมื่อไหร่จะพูดจบซะที ของคนฟัง แม้เพียงนิดเดียวเท่านั้นที่เราจับความรู้สึกนั้นได้ แต่ในช่วงเวลานั้น แม้เพียงนิดเดียว มันก็มากพอ

นอกจากความเจ็บปวดนั้นจะยังสาหัสอยู่เหมือนเดิม ยังจะเป็นการเพิ่มความเจ็บปวดรูปแบบใหม่เข้ามาอีก

โบราณบอกว่า พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง

แต่ถ้าชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป จะให้ไม่พูดก็อาจจะได้ แต่ถ้านิ่งเสีย บางทีความเจ็บปวดแสนสาหัสนั้น อาจบ่มตัวเป็นความเจ็บปวดในระดับที่มนุษย์ไม่อาจจะทนได้อีกต่อไปก็ได้

หลายครั้งที่อยู่คนเดียว หลายครั้งที่มั่นใจแล้วว่า ไม่สามารถพูดกับใครได้จริงๆ เราเลือกวิธีการระบายออกด้วยการเขียน

เศษกระดาษที่มีตัวหนังสือยึกยือกองเป็นตั้งๆบนโต๊ะ กับที่ซุกๆไว้ในลิ้นชัก

แต่ก่อนนี้ บางทีมองดูกองเศษกระดาษพวกนั้นแล้วก็เศร้าๆเหมือนกัน นี่เราไม่มีใครที่สามารถพูดเรื่องพวกนี้ด้วยได้เลย จริงๆเหรอ

แต่เดี๋ยวนี้ เรามองมันแบบยิ้มๆ แม้ว่าตั้งเศษกระดาษจะกองสูงขึ้น

อาจเพราะ เราเข้าใจความต่างของระดับความรู้สึกของแต่ละคนมากขึ้น และการเขียน ช่วยแปรรูปความเจ็บปวดแสนสาหัสเป็นความเจ็บปวดในระดับธรรมดาของมนุษย์ได้

ระดับความรู้สึกของเรา อาจทำให้ชีวิตของตัวเองยุ่งยากเกินจำเป็นอยู่สักหน่อย แต่ในหลายๆที ด้วยระดับของความรู้สึกนี้ มันก็เป็นสื่อนำความปิติยินดี และความสุขอันมากมาย ในขณะที่มันอาจเป็นเพียงความสุขในระดับธรรมดาของใครอีกหลายคน

สำหรับเรา จะสลัดรองเท้าเก่าๆคู่นึงทิ้ง ยังยากเลย ก็ถ้าลองว่าเราใช้มันมาจนเก่าแล้ว ก็แสดงว่ามันสำคัญกับเราจริงๆ ต่อให้เก่าโทรมแสนสาหัสแล้ว ก่อนจะทิ้งก็คงต้องเย็บต้องปะกันให้ถึงที่สุดก่อนล่ะ




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2549
19 comments
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2549 11:22:27 น.
Counter : 799 Pageviews.

 

อย่ากลัวที่จะเจ็บปวด เพราะความเจ็บปวดช่วยให้เรา
เติบโตขึ้นนะค่ะ ไม่มีใครที่ไม่เคยเจ็บ
เพียงแต่เขาเลือกที่จะเก็บมันเอาไว้กับตัวเท่านั้นเอง
เมื่อพูดกับใครไม่ได้ ก็พูดกับตัวเองนี่แหละค่ะ
เป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นทุกความเจ็บปวดไปด้วยดี
เพื่อก้าวต่อไปที่มั่นคงนะ

 

โดย: บัวริมบึง 15 พฤศจิกายน 2549 12:30:40 น.  

 

ไม่มีใครที่เกิดมาแล้ว...ไม่พานพบกับความเจ็บปวด

 

โดย: Alps_s (Alps_s ) 15 พฤศจิกายน 2549 12:38:34 น.  

 

ได้แต่ยินยอมรับความเจ็บปวด

 

โดย: PutterZ (ToppuT ) 15 พฤศจิกายน 2549 15:05:18 น.  

 

อ่านจบแล้วผมตบเข่าผางเลย!!
ตรงทุกประเด็นแบบเป๊ะๆ

แปรรูปมันซะเลยไหนๆก็ไหนๆแล้ว หาประโยชน์กับมันซะเลยเจ้าความเจ็บปวดนี่

 

โดย: อุปกรณ์ประกอบฉาก IP: 203.188.44.202 15 พฤศจิกายน 2549 15:21:56 น.  

 



อ่านแล้วคิดถึงเพลง sand in my shoes ของ dido จังเลยค่ะ

 

โดย: สไปเดอร์แมว (สไปเดอร์แมว ) 15 พฤศจิกายน 2549 16:37:25 น.  

 

อ่านแต่ละประเด็นแล้วก็พยักหน้าตามหงึกๆ

ผมมีรองเท้าคู่เก่าหนึ่งคู่ที่รักมาก ไม่เคยคิดจะทิ้งมัน
ใส่ตากแดด ลุยฝน จนหนังมันแข็งโป๊ก
พื้นทะลุเป็นรู เวลาฝนตก เดินลุยน้ำ ถุงเท้าผมชุ่มฉ่ำมาก

ทนไม่ไหวเลยพามันไปร้านซ่อม พนักงานได้แต่ส่ายหน้า บอกว่าคอนเวิร์สมันซ่อมยาก คงทำอะไรกับมันไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องทิ้งครับ

ตอนนี้ผมมีคู่ใหม่แล้ว ดีใจ

อะไรที่มันชำรุดก็ทิ้งๆ มันไปเสียบ้างเถอะครับ เราเป็นทุกข์เพราะเราไปยึดติดกับมันเอง ลองหาสิ่งใหม่ สร้างความผูกพันใหม่ๆ ดีกว่าเนอะ

 

โดย: King Of Pain 15 พฤศจิกายน 2549 19:21:28 น.  

 

อืมม์ เป็นมุมมองที่น่าสนใจนะ
แต่ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่
โดยเฉพาะเรื่องการเขียน
สำหรับพี่ เขียนด้วยเหตุผลต่างๆ ไป
ตามเวลาและวาระ
และการเขียนถึงความเจ็บปวดเนี่ยยากที่สุด
เพราะคำไม่ค่อยพอ :)

 

โดย: พี่'ปราย IP: 58.8.71.99 16 พฤศจิกายน 2549 1:31:15 น.  

 

อยากปลอบใจ แต่ผมไม่รู้จะเริ่มยังไง

เอาเป็นว่า.. อย่างน้อย คุณก็สบายใจได้ ว่ามีคนคอยรับฟังอยู่แถวนี้

เรื่องอยากพูดกับใคร เฉพาะบางเรื่อง กับเฉพาะบางคน
อันนี้เข้าใจ..

ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

โดย: aston27 16 พฤศจิกายน 2549 3:22:17 น.  

 

ถ้าให้เลือกระหว่างการพูดระบายความเจ็บปวดกับการเขียนระบายความเจ็บปวด ผมคงเลือกการเขียน

เพราะการพูดบางอย่างกับบางคน ความเจ็บปวดอาจทบทวี

 

โดย: praparkarn IP: 61.19.231.4 16 พฤศจิกายน 2549 14:04:46 น.  

 

คูณบัวริมบึง ขอบคุณมากค่ะ

คุณ Alps_s ใช่ค่ะ แต่ถ้าเจอบ่อยๆเข้า ก็หาทางจัดการกับมันได้ดีขึ้นค่ะ

คุณ Topput นั่นเพลงใช่มั๊ยค่ะ..เออใช่ๆของน้องมี่

คุณอุปกรณ์ประกอบฉาก อยากทำเรานัก ต้อองเอาคืนซะบ้างเนอะ



คุณสไปเดอร์แมว เคยผ่านหูมาบ้างเหมือนกันค่ะ ( แต่แปลไม่ออก )

คุณKing Of Pain เราก็ใช้คอนเวิร์สอยู่ค่ะ พื้นเริ่มเป็นรูมาได้สักพักแล้ว แต่ส่วนอื่นๆยังดีอยู่ แม้จะใช้มา 5 ปีแล้ว คงต้องขอเวลาร่ำลากันอีกสักหน่อยค่ะ อาจจะอีกสัก 1 ปี..นานไปเปล่าคะ

พี่'ปราย นอกจากเขียนแล้ว ปุ๋ยใช้วิธีพูด (แบบออกเสียง ) กับตัวเองค่ะ แต่ต้องดูหน้าดูหลังให้ดีด้วย เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นจะเข้าใจผิด

คุณ aston 27 ขอบคุณมากๆค่ะ ระยะหลังมานี่ เราเริ่มสงบมากขึ้น ไม่ค่อยฟูมฟายเหมือนแต่ก่อน อายุมากแล้วมั้งคะ เลยยอมรับอะไรๆได้ดีขึ้น ขอบคุณจริงๆค่ะสำหรับความปราถนาดี

คุณPraparkarn ใช่ที่สุดค่ะ

ขอบคุณทุกๆคนมากค่ะทั้งความคิดเห็นและความห่วงใย ช่วงนี้เรามีเรื่องต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ เลยอาจจะหายหน้าไปบ้าง แต่จะพยายามค่ะ..ไฟท์โตะ

 

โดย: goldfish memory 17 พฤศจิกายน 2549 7:20:39 น.  

 

แปรรูปความเจ็บปวดแล้วอยู่ร่วมกับมันได้โดยไม่ทุกข์ใจมากขึ้น ผมว่านั่นก็ดีที่สุดแล้วครับ
เพราะไม่ว่าจะอย่างไร เราก็ไม่มีทางสลัดมันออกไปได้ทั้งหมด สู้ๆครับผม

 

โดย: sTRAWBERRY sOMEDAY 17 พฤศจิกายน 2549 9:16:41 น.  

 

คู่ใหม่ก็ต้องเป็นคอนเวิร์สแน่นอนครับ

 

โดย: King Of Pain 17 พฤศจิกายน 2549 18:05:28 น.  

 

หวัดดีค่า

เราว่าคนเรามักจะเป็นแบบนี้แหละค่ะ ทุกข์ของเราเท่าภูเขา แต่ทุกข์คนอื่นเล็กเท่าเมี่ยง จนกระทั่งวันหนึ่งที่เราเจ็บปวดจากเหตุการณ์คล้ายกัน เราจะรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดของคนอื่นที่เคยมองว่ามันเล็กน้อย

สำหรับเรา เวลาที่เจ็บปวดมากคือ ตอนที่พูดระบายความทุกข์กับคนที่เรารักมาก ๆ และคิดว่าเขาจะเป็นทุกอย่างสำหรับเรา และจะเข้าใจเรามากพอแต่ก็คิดผิด ก็จะเหงากว่าเดิม เศร้ากว่าเดิม ทุกข์กว่าเดิม

ซ้ำ ๆ แบบนี้ จนสุดท้ายคิดได้ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน และไม่ว่าจะความสุขหรือความทุกข์ เราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ เพราะเราคงเลือกอยู่แต่กับความสุขไม่ได้หรอก ใช่มั้ยคะ

สู้ ๆ นะคะ มีอะไรก็เขียนลงในนี้ ยังมีคนยินดีจะรับฟังมากมายค่ะ

 

โดย: unwell 17 พฤศจิกายน 2549 18:13:05 น.  

 

( เห็นด้วยกับอาอึ้มข้างบนนี้อ่ะค่ะ )

เป็นเหมือนกันเลยค่ะ ตามทุกบรรทัดที่เขียนมา

เพื่อนคนนึง เหมาะสำหรับเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง

เพื่อนอีกคน ก็เหมาะสำหรับที่จะเล่าเรื่องนั้นให้ฟัง

หรือบางเรื่อง เราก็ไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้เลย..ก็ได้สมุดเล่มน้อยนั่นแหละเป็นที่ปลดปล่อย

หรือถ้ามันเจ็บจิงจิง ก็จะดูหนังที่มันเจ็บจิงๆเหมือนเราหรือยิ่งกว่าเรา ตอกย้ำมันเข้าไป แต่พอจบแล้ว ความเจ็บมันก็จะเจือจาง ( ข้อนี้เป็นความสามารถส่วนบุคคล โปรดพิจารณาอีกครั้งถ้าจะทำตาม )


สู้ สู้

 

โดย: renton_renton 17 พฤศจิกายน 2549 19:36:12 น.  

 


จะช่วยเขียนโครงการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน ให้ค่ะ

 

โดย: แซนด์ซี 17 พฤศจิกายน 2549 22:51:28 น.  

 

มาตอบคำถามว่า.. จัดเฉพาะ เสาร์ อาทิตย์ครับ วันธรรมดาผมเป็นลูกจ้างประจำ

 

โดย: aston27 18 พฤศจิกายน 2549 11:29:39 น.  

 

เหมือนนั่งอยู่ด้วย รับรู้ปัญหา และเข้าใจอย่างลึกซึ้งที่ได้สื่อสารออกไป

..
ความรู้สึกของคนเราไม่เท่ากัน
ที่เจ็บปวดแสนสาหัสของเรา
อาจจะเป็นแค่ความเจ็บปวดธรรมดาๆ
ของใครอีกคนก็ได้
..

ชอบจังค่ะ..ใช่เลย..


 

โดย: ดาวทะเล 18 พฤศจิกายน 2549 23:21:17 น.  

 

เราเห็นด้วยความความรู้สึกสำหรับความเจ็บปวดของแต่ละคนไม่เท่ากัน

สำหรับเราประสบการณ์ในการใช้ชีวิตและผ่านชีวิตไม่เหมือนกัน
สังคม การศึกษา การเลี้ยงดู และสถาพแวดล้อมที่ต่างกัน
หล่อหลอมให้คนมีภาวะในการรับรู้ความรู้สึกที่ต่างกัน

เพื่อนเราคนนึงมาจากครอบครัวที่อบอุ่นเป็นพื้นฐาน
จนวันนึงที่เขามีครอบครัวของเขาเอง
แต่เขาไม่สามารถประคับประคองครอบครัวให้ตลอดรอดฝั่งได้
มันพังลง มันกลายเป็นความเจ็บปวดและแผลเป็นที่แสนสาหัส
แต่ถ้าถามเรา ซึ่งผ่านประสบการณ์ที่ต่างกับเขามา
เราว่ามันเรื่องธรรมดา นี่หละระดับความเจ็บปวดที่ต่างกัน

ทางเลือกและทางออกของปัญหาอยู่ที่เราเลือกที่จะดูและฟัง
เพื่อหาทางที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของตัวเอง...



 

โดย: Always 18 พฤศจิกายน 2549 23:44:45 น.  

 

 

โดย: renton_renton 3 ธันวาคม 2549 10:26:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


goldfish memory
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Soon I'll bloom into what was before.
I'll open the door to death and say...
kill me once more. [ M.Pitt ]
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
15 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add goldfish memory's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.