...ห้องทำงานรก ๆ ร้าง ๆ ที่เจ้าของทิ้งขว้างไม่สนใจ...


Group Blog
 
 
เมษายน 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
17 เมษายน 2548
 
All Blogs
 
[1] Dream in a field of wild flowers : ความฝันกลางทุ่งดอกไม้ป่า




...


เขามาหาฉันตอนที่ฉันหลับ


โครงร่างสุกสว่างบนหลังอาชาปราดเปรียวขนสีดำสนิทตัวมหึมา แผงขนคอและพวงหางพลิ้วไหวเป็นระลอกระยับราวประกายไฟสีขาว เขาเคลื่อนกายเข้ามาพร้อมเสียงขับขานแห่งฤดูกาล ฉันรู้สึกได้ถึงสัมผัส แผ่วเบาราวปลายนิ้วเฉียดผ่านจากเกล็ดหิมะกลางฤดูหนาวบนผิวแก้ม เสียงของชายหาดแห้งแล้งในฤดูร้อนสะท้อนก้องอยู่ในช่องหู กลิ่นหอมของพันธุ์ไม้ท่ามกลางแสงแดดกระจ่างใสแห่งต้นฤดูใบไม้ผลิกรุ่นอยู่ปลายจมูก ในขณะที่ใบไม้สีน้ำตาลแดงและสีแสดยามฤดูใบไม้ร่วงส่งเสียงกรอบแกรบอยู่รอบปลายเท้า


ฉันยืนอยู่กลางทุ่งกว้าง ท้องทุ่งแสนสวยที่แม้กระทั่งจิตของฉันก็ยังไม่อาจเข้าถึงความล้ำลึกของอารมณ์ที่กายเนื้อของฉันรับรู้อยู่ ฉันอยากวาดภาพของมันเหลือเกิน อยากจะเก็บความงดงามของทิวทัศน์นี้ไว้ หวังให้มันตรึงติดอยู่กับฉันไปนานเท่านาน ฉันยืนอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้ป่าที่สูงถึงบั้นเอวและกอหญ้าสูงที่ส่งเสียงกระซิบทอดถอนแผ่วเบาไปกับสายลมยามบ่ายที่พัดหยอกล้ออ่อนโยน ยอดเนินเขาเบื้องหน้าเต็มไปด้วยต้นโอ้คโบราณที่เหยียดยื่นกิ่งก้านด้านล่างออกไปด้วยท่าทีเกียจคร้านเพื่อเป็นร่มเงาป้องกันแดดฝนให้กับต้นหญ้าเตี้ยบนพื้นดิน ฉันคิดว่าฉันเห็นเงาร่างมากมายที่มองดูคล้ายมนุษย์กำลังเต้นรำอยู่ระหว่างบริเวณที่มีแสงส่องสว่างสลับกับเงาสลัว โค้งฟ้าเบื้องบนทอดตัวต่ำลงมาอย่าไม่น่าเชื่อ สีของท้องทะเลที่ลึกสุดหยั่งนั้นเหมือนกับสีของต้นไม้ป่าเตี้ย ๆ ข้างเนินเขา และปุยเมฆขนาดใหญ่สีน้ำตาลไหม้ที่เปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุดกำลังเคลื่อนกายผ่านไปช้า ๆ อย่างไร้จุดหมาย


ฉันอยู่ในชุดผ้าเนื้อบางสีขาวที่ด้านหน้าผ่าลึกลงไปอย่างน่าใจหายและชายเสื้อที่สั้นเสียจนแทบจะปิดขาอ่อนได้ไม่มิด เท้าของฉันเปล่าเปลือย วางนาบอยู่บนพื้นหญ้า เนื้อดินด้านล่างอ่อนนุ่มราวกับผืนพรมของต้นตะไคร่น้ำ


ฉันได้ยินเสียงกีบเท้าของม้าตะกุยดินอันอุดมของเนินเขาสะท้อนก้อง คละเคล้าไปกับเสียงกลองระรัวจากดินแดนแสนไกลที่กระเพื่อมไหววูบอยู่ปลายโสตสัมผัส หรือบางทีมันอาจจะเป็นเพียงเสียงสะท้อนของจังหวะการเต้นของหัวใจที่รุนแรงไม่เป็นส่ำของตัวฉันเอง แต่เจ้าม้าตัวนั้นมันกำลังเริงระบำอยู่บนทุ่งดอกไม้โดยที่ปลายกีบของมันแทบจะไม่สัมผัสกับกลีบอ่อนบางของเหล่าพฤกษา สายเครื่องประดับบนร่างของมันพลิ้วไหวราวกับเกลียวไหมสีสดโบกสะบัดไปตามกระแสลมที่หมุนวน


ผู้ขี่ชะลอฝีเท้าม้าลง ส่งผลให้พ่อม้าสง่างามถอนลมหายใจพร้อมสะบัดหัวไปมาอย่างขัดเคืองที่ถูกสั่งให้หยุด ไม่มีอาน ไม่มีบังเหียน และนั่นทำให้ฉันสงสัยว่าบุรุษผู้นั้นสามารถทรงตัวอยู่บนหลังม้าด้วยท่าทีสงบงดงามเช่นนั้นได้อย่างไร ความหวาดกลัวคืบคลานแผ่วเบาราวกับก้าวย่างของแมวขึ้นมาตามสันหลัง ความพรั่นพรึงที่ผสมผสานไปกับอารมณ์รัญจวนแปลกประหลาดราวกับว่าฉันกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับความสง่างามของบุรุษตรงหน้า ภาพที่ประกอบขึ้นจากร่างของม้าสีดำสนิทราวเนื้อไม้มะเกลือกับร่างผู้ขี่สีแดงเพลิงท่ามกลางฉากหลังที่เป็นขุนเขาและท้องฟ้าสีอ่อนหวานคล้ายถูกวาดขึ้นจากดินสอสีนั้นเหมือนภาพในฝัน ฉันได้แต่ยืนนิ่งงัน เสียงลมหายใจกระแทกดังลั่นในช่องหู สายตาจับจ้องอยู่แต่กับร่างของผู้ไล่ล่าในขณะที่แขนสองข้างตกห้อยอยู่ข้างลำตัว


ร่างนั้นสูงสง่า บางทีอาจจะสูงถึงเจ็ดฟุตหรือมากกว่านั้น แผงเสื้อเกราะสีแดงเลือดนกที่ดูชุ่มน้ำและเกาะติดสนิทแนบไปกับกายของเขาเหมือนเป็นผิวหนังชั้นที่สองนั้นได้รับการออกแบบให้สอดรับกับร่างอันทรงพลังที่ซ่อนอยู่ด้านในได้อย่างลงตัว ตัวเกราะนั้นมองดูเหมือนทำจากโลหะ แต่ในขณะเดียวกันก็ดูแปลกประหลาดด้วยลักษณะการห่อหุ้มที่คล้ายกับกระดองสัตว์ แต่ฉันค่อนข้างแน่ใจกว่าร่างที่อยู่ภายในนั้นคือบุรุษเพศ สายตาของฉันอยู่ในแนวเดียวกับเท้าของเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยแผ่นกลมแบนเล็ก ๆ ที่สะท้อนแสงอาทิตย์ยามบ่ายจัดเป็นประกายแวววาม


สายตาของฉันไล่ขึ้นไปตามร่างของเขา ในขณะที่จิตและหัวใจของฉันคอยเก็บรายละเอียดทุกอย่างที่ตามองเห็น เครื่องแต่งกายใต้แผงเกราะก็เป็นสีแดงสดเช่นกัน แดงจัดราวกับว่าเพิ่งถูกจุ่มลงในน้ำสีหรือน้ำเลือด แผงกระจับอาจจะมองดูน่าขันหากไม่ได้เป็นส่วนประกอบหนึ่งของร่างอันงดงามนี้ นิ้วมือยาวเรียวในถุงมือถักหนายึดพวงเปียที่ถักขึ้นจากขนแผงคอม้าไว้หลวม ๆ คล้ายเป็นการบังคับม้าอย่างกราย ๆ ทั้ง ๆ เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าไม่จำเป็นสักนิด ไม่มีส่วนของผิวหนังแท้จริงเล็ดลอดออกมาให้เห็นเลยแม้แต่สักจุดเดียว ยกเว้นส่วนของดวงตาคู่หนึ่งที่แลมองผ่านกระจังหมวกเหล็กประดับเขากวาง หลุมลึกที่คุกรุ่นไปด้วยเปลวเพลิงสีม่วงสองกองกำลังเผาผลาญวิญญาณของฉันอย่างเร่าร้อนจนฉันตื่นตระหนก เขารู้จักฉัน รู้จักทั้งหมดที่เป็นฉัน ทั้งความฝันอันล้ำลึกและความกลัวสุดขีดของฉัน


ฉันขยับตัวไม่ได้ ฝ่าเท้าของฉันตรึงติดอยู่กับพื้นดินราวกับมันหยั่งรากลึกลงไปแล้ว สายตาของเขาลากขึ้นลงไปตามร่างกายของฉัน รอยสัมผัสทางกายที่แนบชิดยิ่งกว่าการสัมผัสระหว่างคู่รักที่ฉันเคยรับรู้มา ฉันรู้สึกว่าตัวเองเปล่าเปลือยอยู่ต่อหน้าเขา ไม่สิ มันมากกว่านั้น แม้แต่อารมณ์ล้ำลึกของฉันก็ถูกตีแผ่ออกมาแจ่มแจ้ง ตุ่มขนลุกชันขึ้นทั่วผิวกายแม้อากาศยามบ่ายจะกระจ่างใสและสายลมอบอุ่น ฉันรู้สึกถึงความปั่นป่วนที่ก่อตัวขึ้นในกระเพาะที่ไม่ได้เกิดจากภาวะไม่สบาย แต่เป็นอาการของความกังวลใจต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดตามมา


เขาปล่อยเปียขนแผงคอม้าแล้วถอดถุงมือหนาหนักออกราวกับว่ามันเป็นเพียงผ้าไหมเนื้อบาง มือของเขาขาวนวลตัดกับเล็บสีดำ ดูอ่อนช้อยราวกับมือของอิสตรี เขายกมือข้างนั้นขึ้นอย่างช้า ๆ เพื่อถอดหมวกเหล็กออก


ลมหายใจของฉันติดขัดอยู่แค่ลำคอ ฉันได้ยินเสียงหรีดหริ่งไพเราะจากจักจั่น เสียงรำพึงแผ่วบางจากสายลมและเสียงรัวกลองแว่วเบา จมูกของฉันรับรู้ถึงกลิ่นกายของเขา กลิ่นหอมของฤดูกาล ผสานไปด้วยกลิ่นชวนฝันจากน้ำมันหอมที่สกัดจากพืชจำพวกแพทโชลี่ แซนดัลวู้ด และอย่างอื่น อะไรบางอย่างที่ให้กลิ่นหอมรัญจวนใจเฉกเดียวกับการมีเพศสัมพันธ์


ฉันรู้สึกเหมือนมีขดลวดสปริงที่ถูกหมุนวนจนแข็งตึงอยู่ภายในร่าง แทบไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะถูกปลุกเร้าได้ถึงเพียงนี้ เขาถอดหมวกเหล็กออกแล้วสะบัดเรือนผมสีดำสนิทให้สยายยาวออก ผิวหน้าของเขาขาวนวลเช่นเดียวกับผิวมือ ภาพร่างภายนอกที่อ่อนช้อยงดงามราวพญาอินทรีย์ไม่ได้บ่งบอกว่าเขาเป็นบุรุษที่นุ่มนวลเปราะบางเลยแม้สักนิดเดียว เขาอยู่เหนือกาลเวลา ราวกับว่าเขาถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมผืนดินแต่ในขณะเดียวกันก็ยังดูอ่อนเยาว์สดใสเฉกสายลมต้นฤดูใบไม้ผลิ ใบหน้าของเขาถูกวาดไว้หลายพันครั้งตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานหากในรูปแบบที่แตกต่างหลากหลาย


เขาส่งยิ้มให้ฉัน เผยให้เห็นประกายวาววับของแนวฟันสีขาวราวดวงดารา หากแต่มุมปากของเขากลับหยักรั้งขึ้นในรูปเยาะหยันอย่างโหดร้ายน่ารังเกียจราวกับว่าเขาเห็นฉันเป็นเพียงสิ่งของ ดวงตาสีม่วงไวโอเล็ตจับจ้องอยู่กับดวงตาของฉัน รัดรั้งวิญญาณของฉันไว้ราวกับคีมเหล็ก จิตของฉันดิ้นรนต่อต้านเขาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่มีทางหลุดรอด และแม้แต่ตัวเองยังสงสัยว่าทำไมต้องขัดขืนดิ้นรน คิ้วสีไม้มะเกลือเรียวยาวราวแท่งดินสอของเขายกสูงขึ้นคล้ายเจ้าตัวกำลังสงสัย เยาะเย้ยในที ฉันขืนตัวเองเอาไว้ตอนที่เขาก้มตัวลงพร้อมยื่นมือข้างที่ไม่มีถุงมือนั้นมาหา


ฉันอยากปิดเปลือกตาลงแต่ทำไม่ได้ กระแสความคาดหวังถาโถมรุนแรง ฉันไม่เคยรู้สึกกระหายแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกที่คล้ายความต้องการตามสัญชาติญาณดิบของสัตว์ป่า ฉันอยากให้เขากระโจนจากหลังม้าลงมาร่วมรักกับฉันเสียตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ในขณะเดียวกันส่วนเล็ก ๆ ในจิตสำนึกของฉันที่ยังคงมีเหตุมีผลสมบูรณ์กลับกำลังกรีดร้อง


ในยามนี้นิ้วมือของเขาอยู่ห่างจากผิวหน้าของฉันไม่กี่นิ้ว ลมหายใจของฉันตื้นและรัวเร็ว และในขณะที่ทรวงอกของฉันขยับขึ้นลงในจังหวะกระชั้น ฉันก็สัมผัสได้ถึงแรงเสียดสีของยอดถันที่แข็งตึงกับเนื้อผ้าฝ้ายบางเบาราวใยแมงมุมที่ฉันสวมใส่อยู่


เขาชะงัก มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อยราวกับรู้ว่าตัวเขาเองกำลังมีอิทธิพลต่อฉันในรูปแบบไหน


ฉันกลั้นลมหายใจ เพิ่งตระหนักได้ว่าเสียงหอบหายใจของตัวเองดังลั่นมากเพียงไหนก็เมื่อบรรยากาศรอบตัวเงียบงันลงในทันที นกหยุดร้องเพลง หรีดหริ่งเรไรเงียบงัน แม้แต่สายลมยังหยุดพัดเพื่อรอสังเกตความเป็นไป


เขาสัมผัสผิวแก้มของฉันอย่างแผ่วเบาราวขนนกปัดผ่านด้วยปลายนิ้ว แต่นั่นก็เกินพอ


ความกระสันต์ซ่านพุ่งขึ้นถึงขีดสุดแล้วระเบิดออกจากตัวฉันในรูปของเสียงตะโกนและการเคลื่อนไหวอันเกรี้ยวกราดรุนแรง เสียงหวีดร้องจากลำคอของฉันทำลายความเงียบงันรอบด้านให้แตกกระจายออกคล้ายแก้วที่ถูกทุบด้วยค้อน ฉันถลาหงายหลัง เนื้อแก้มร้อนวาบราวกับถูกเผา มือทั้งสองยื่นออกเพื่อไขว่คว้าโดยอัตโนมัติแต่กอดอกไม้ป่าช่วยรองรับร่างของฉันเอาไว้ และในทันทีที่ตั้งตัวได้ ฉันก็ลุกขึ้นแล้วออกวิ่งเช่นเดียวกับสัตว์ป่าที่ถูกปลดปล่อยออกจากกรงขัง


จากทางด้านหลัง ฉันได้ยินเสียงม้าคำราม และได้ยินเขาหัวเราะด้วยน้ำเสียงเช่นเดียวกับเสียงของเกลียวคลื่นที่สาดกระทบโขดหินสีดำ


และการไล่ล่าก็เริ่มต้นอีกครั้ง


...






(จบตอนที่ 1)





******************************



ต้นฉบับ : The Wild Reel โดย Paul Brandon (1st Edition)







Create Date : 17 เมษายน 2548
Last Update : 22 กรกฎาคม 2548 11:04:02 น. 4 comments
Counter : 555 Pageviews.

 


โย่ว์ ! ไปเที่ยวสงกรานต์กลับมาแย้วค่า คิดถึ๊งงง คิดถึง




//cherry.bloggang.com






โดย: ``|ยัย|ตัว|แสบ|`` (yai_tua_sabb ) วันที่: 17 เมษายน 2548 เวลา:8:29:26 น.  

 
โอ๊ะ!!

เปิดห้องใหม่ (0____0)

ฮี่ๆๆๆ สาดน้ำซะเลยยยยย

ซู่!!!!!! ซ่าาาาาา โซกกกกกกกกกก


โดย: ...เกียร์น้อยลอยน้ำ... IP: 58.8.247.147 วันที่: 17 เมษายน 2548 เวลา:17:04:51 น.  

 
ไอหย๋า ซี้เลี้ยวอ่า น้ำท่วมบ้าน!!! Y____Y


(นี่แหล่ะหนอ กรรมติดจรวด)




ปล. ยัยตัวแสบจ๋า เที่ยวเผื่อกันหรือเปล่านี่ ฮิฮิฮิ... ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม ดีนะมาก่อนเจ้าเกียร์น้อยลอยคอตุ๊บป่อง ไม่งั้นเปียกแน่ ๆ เลย


โดย: Poceille ขี้เกียจล็อกอินง่ะ IP: 202.57.158.114 วันที่: 17 เมษายน 2548 เวลา:22:05:32 น.  

 

แล้วตอนต่อไป เมื่อไหร่จะมาละจ๊ะ คุณหนูโพจ๊า


โดย: pakae IP: 58.10.180.76 วันที่: 23 เมษายน 2548 เวลา:12:52:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Poceille
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





.
.
.

Busy Woman
but
Non-productive

.
.
.


Friends' blogs
[Add Poceille's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.