|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เค้าเรียกฉันว่าชินชิลล่า จริงๆแล้วฉันคือตัวอะไร
| | | |
บล็อกนี้อาจจะดูน่าเบื่อสักหน่อย เพราะอาจจะมีสาระเกินไป แต่อาจจะให้ความรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแปลกๆอีกชนิดหนึ่งในโลกนี้ที่มือชื่อว่า "ชินชิลล่า(Chinchilla)"
วันนี้ฉันจะมาเล่าที่มาที่ไปเกี่ยวกับต้นกำเนิดของฉันให้ฟัง ถ้ามองแบบผิวเผิน ใครๆก็คิดว่าฉันเหมือนหนูหรือกระต่าย ฉันอาจจะมีลักษณะภายนอกคลับคล้ายคลับคลาสัตว์เหล่านั้นอยู่บ้าง แต่ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิงนะจ้ะ
ฉันมีต้นกำเนิดมาจากแถบประเทศอเมริกาใต้ ย้อนกลับไปประมาณร้อยปีที่แล้ว พวกฉันอาศัยอยู่บนภูเขาสูง และมักจะหลบอยู่ตามถ้ำที่อากาศเย็นๆ พวกฉันเคยมีชีวิตอยู่กับธรรมชาติ กินแมลงตัวเล็ก ผลไม้ป่า หญ้าป่าตามประสา ศัตรูของพวกฉันตอนนั้นก็มีไม่มาก มีแค่งู กับตัวสกังค์ หมาป่า สุนัขจิ้งจอก เป็นต้น ซึ่งพวกฉันก็สามารถเอาตัวรอดได้เสมอ นึกย้อนไปแล้วบรรพบุรุษของฉันน่าจะมีความสุขมากๆ จนกระทั่ง...
ศัตรูตัวร้ายกาจที่พวกฉันต่อสู้กลับไปไม่ไหวก็คือมนุษย์ เนื่องจากชินชิลล่านับว่าเป็นสัตว์ที่มีขนนุ่มที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง มนุษย์จึงเกิดกิเลส อยากได้ขนของพวกฉันไปทำเสื้อคลุมขนสัตว์เอาไว้ใส่โก้ๆ มนุษย์ก็เลยตามล่าพวกฉัน และเนื่องจากพวกฉันตัวเล็ก เสื้อคลุมแค่หนึ่งตัว ต้องใช้ขนสัตว์ของชินชิลล่าประมาณ 100 ตัว ทำให้บรรพบุรุษของฉันเริ่มสูญพันธุ์
และแล้ววันหนึ่ง มีชาวอเมริกันชื่อ Mathias F Chapman ได้ไปทำงานที่ชิลีและบังเอิญได้พบชินชิลล่าตัวหนึ่ง ซึ่งเริ่มกลายเป็นสัตว์ที่เหลือน้อยเต็มที ณ ตอนนั้น เขาและทีมของเขาอีก 23 คนจึงเริ่มออกตามหาชินชิลล่าเพื่อปกป้องการสูญพันธุ์ตามภูเขาต่างๆ ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาค้นพบชินชิลล่าแค่ 11 ตัว ในระยะเวลาที่ตามหาทั้งหมด 3 ปี
เขาตัดสินใจขนย้ายชินชิลล่าอย่างระมัดระวังที่สุดมุ่งตรงสู่อเมริกา ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้ชินชิลล่าตัวหนึ่งตาย แแต่ก็มีชินชิลล่าอีกตัวหนึ่งคลอดลูกใหม่ออกมาหนึ่งตัว ต่อจากนั้นมิสเตอร์แชปแมนก็เริ่มทำการผสมพันธุ์ชินชิลล่าขึ้นมาใหม่ ทำให้ชินชิลล่ามีเพิ่มขึ้น และเริ่มกระจายไปตามที่ต่างๆ ยังไงก็ตามยังมีมนุษย์ใจร้ายบางส่วนเปิดเป็นฟาร์มเพาะชินชิลล่าโดยเฉพาะ เพื่อตอบสนองมนุษย์ที่ไม่เลิกกระหายเสื้อขนสัตว์ชินชิลล่า
พวกฉันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กว่าจะได้ฉันออกมาเป็นตัวเป็นตน ต้องใช้เวลาตั้งครรภ์ถึงสี่เดือน ดังนั้นปีหนึ่ง บรรดาแม่ๆก็สามารถให้กำเนิดลูกได้แค่สองครั้ง และแต่ละครั้งก็ได้ลูกประมาณหนึ่งถึงหกตัว แต่ส่วนมากจะอยู่ที่หนึ่งถึงสองตัวเท่านั้น นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกฉันสูญพันธุ์ง่ายก็ได้ ถ้าเทียบกับการฆ่าพวกฉันเพื่อเอาขนไปทำเสื้อคลุม
ตอนพวกฉันเป็นทารก พวกฉันต้องดื่มนมแม่ตลอดเวลา อย่างน้อยประมาณ 8 สัปดาห์ ฉันเป็นสัตว์ที่แปลก เพราะจะไม่รู้เพศตัวเอง จนกระทั่งสี่หรือห้าเดือนขึ้นไป ส่วนจะเริ่มผสมพันธุ์ได้ตอนไหนนะเหรอ ก็ต้องประมาณหกถึงแปดเดือนเป็นต้นไป
ฉันเป็นสัตว์ตัวเล็ก สามารถหนักได้เต็มที่ประมาณสองถึงสามกิโลกรัม ส่วนช่วงชีวิตฉันก็ยาวนานไม่แพ้สุนัขและแมว ฉันสามารถมีชีวิตอยู่เป็นเพื่อนเจ้าของได้ 10 ถึง 20 ปีเลย ฉันขี้ร้อน ถ้าเลือกได้ก็ชอบอยู่ในที่เย็นๆ ถ้าให้ดีฉันชอบอยู่ในอุณหภูมิที่ไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส แต่ถ้าจำเป็นต้องอยู่ในที่ร้อน ก็ทนได้พอสมควร แต่อาจจะหงุดหงิด เบื่ออาหารบ้าง คงต้องเปิดพัดลมหรือแอร์ให้ฉันหน่อย
สัตว์แบบฉันไม่เหมาะกับคนทุกคน โดยเฉพาะกับเด็กเล็กๆที่ชอบบีบขยี้ของข้างกายแบบไม่รู้ตัว ตอนนี้ชินชิลล่าไม่ใช่สัตว์ในป่่าอีกต่อไป ฉันกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยง วิถีชีวิตของพวกฉันก็เปลี่ยนไปให้เข้ากับการอยู่ร่วมกับมนุษย์ แต่ก็ยังมีบางอย่างที่เป็นสัญชาตญาณของพวกฉันอยู่
ความแตกต่างของพวกฉันกับสัตว์อื่นๆที่มีลักษณะเหมือนฉันก็คือ ฉันเป็นคนชอบคนยาก ไม่ชอบให้แตะเนื้อต้องตัว หรือมาอุ้มฉันถ้าฉันไม่สนิท ถ้าอยากให้ฉันเข้าใกล้ แรกๆคงต้องใช้เวลาเรียนรู้นิสัยฉันและมาเล่นกับฉันบ่อยๆ ให้ขนมฉันอย่างน้อยวันละเล็กละน้อย ฉันเป็นสัตว์สอนได้ เหมือนสุนัขหรือแมว มีความจำยาว ถ้าใครทำดีกับฉัน ฉันก็จะจำได้และหลงรักทีละนิด แต่ถ้าใครดุว่าหรือรุนแรงกับฉัน อย่าหวังเลยว่าฉันอยากจะเข้าใกล้ แค่เห็นหน้าก็เมินเสียดีกว่า
ฉันไม่ชอบให้ใครมาอุ้มฉันนานๆ เพราะอุณหภูมิในร่างกายของมนุษย์อุ่นมาก ทำให้ฉันรู้สึกร้อนไปด้วย ฉันค่อนข้างรักความเป็นอิสระ แต่ก็ไม่ชอบอยู่คนเดียว แค่อยู่ใกล้ฉัน พูดคุยกับฉัน พาฉันออกมาวิ่งเล่น ออกกำลังกาย แค่นี้ฉันก็มีความสุขแล้ว
ฉันรู้ว่าฉันมีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น ฉันจำเป็นต้องเกลาฟันฉันด้วยการแทะ ไม่อย่างนั้นฟันของฉันจะยาวออกมาและทิ่มปากฉัน จนเจ็บกินอะไรไม่ได้ อาจจะทำให้ฉันป่วย ดังนั้นฉันจึงชอบแทะไปทั่ว โดยเฉพาะไม้หรือกระดาษแข็ง
ข้อเสียอีกอย่างที่ฉันห้ามตัวฉันเองไม่ได้ก็คือฉันอึไปทั่ว ทำไมนั่นเหรอ ก็เพราะว่าก้นของฉันไม่มีหูรูดนะซิ โชคดีที่อย่างน้อยอึของฉันเป็นเม็ดเล็กๆและแข็ง ไม่มีเชื้อโรค ไม่มีกลิ่น เพราะฉันไม่กินเนื้อสัตว์กับแป้ง กินแต่หญ้ากับผลไม้ ส่วนเรื่องฉี่ไม่มีปัญหา ฉันฉี่เป็นมุมและกลิ่นไม่ฉุน
ข้อเสียข้อสุดท้ายที่อาจจะฝึกได้ก็คือ ปกติแล้วฉันเป็นสัตว์กลางคืน นอนกลางวัน ดังนั้นถ้าคนไหนไม่ชอบให้ฉันรบกวนตอนกลางคืนก็คงเลี้ยงฉันยากหน่อย แต่ทั้งนี้ ฉันสามารถฝึกให้ตื่นกลางวันและนอนกลางคืนได้
ฉันเป็นสัตว์รักสะอาด ชอบการอาบน้ำเป็นชีวิตจิตใจ แต่วิธีการอาบน้ำฉันไม่เหมือนใคร เพราะฉันอาบเองได้ แค่มีทรายภูเขาหรือแป้งฝุ่นของเด็ก เอามาโรยไว้ในถังเล็กๆ ฉันก็จัดการตัวฉันเองให้หอมและสะอาดได้ทุกเมื่อ
ทุกวันนี้ฉันกลายเป็นสัตว์เลี้ยงแปลกติดอันดับโลกชนิดหนึ่ง และค่อนข้างมีราคาสูงเมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป ยิ่งถ้าสีสวยๆ หายาก ก็ยิ่งแพง ฉันไม่สนใจว่าใครจะตั้งค่าฉันอย่างไรหรือเท่าไหร่หรอก ที่สนใจก็คือ ถ้าตัดสินใจเอาพวกฉันไปเลี้ยงแล้ว ก็ขอให้เลี้ยงด้วยความรักและเอาใจใส่ เพราะสัตว์ทุกตัวก็มีหัวใจและมีความรู้สึกไม่แพ้มนุษย์ทั้งหลาย
วันนีัฉันเล่ามานาน ขอจบแค่นี้ก่อน และจะมาเล่าชีวิตที่ผกผันของฉันต่อไปในคราวหน้า บ้ายบาย
รปของฉันตอนฉันเพิ่งสองเดือน
| | | | |
Create Date : 08 สิงหาคม 2554 |
|
6 comments |
Last Update : 8 สิงหาคม 2554 22:05:51 น. |
Counter : 2278 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: sapong 13 สิงหาคม 2554 1:15:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: lovelylk 15 สิงหาคม 2554 8:53:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: lovelylk 16 สิงหาคม 2554 1:13:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: เติ้ล IP: 192.99.14.34 24 พฤษภาคม 2557 12:34:35 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เราอัดเสียงไม่ใช้ไมค์ค่ะ เดี๋ยวเพื่อนบ้านรุมยำ 555 แต่จะไปอัดในห้องครัว มันเล็กแล้วก็ปิดประตูหน้าต่างก็ใช้ได้ละ ถ้าไปอัดในห้องน้ำจะยิ่งชัดเข้าไปอีกแต่มันก้องแสบแก้วหูตัวเองไปหน่อย
ที่อัดเสียเราเป็นรุ่นเก่าค่ะมีมานานแล้ว เป็นตัว H2 Handy Recorder ไม่แพง เอามาอัดเล่น ๆ