รถ เจมส์ บอนด์ Aston Martin รถคลาสสิค
1959 Aston Martin DB4GT แอสตันมาร์ติน (ชื่อเต็มของบริษัทคือ Aston Martin Lagonda Limited) เป็นชื่อบริษัทผลิตรถยนต์สปอร์ตหรูของสหราชอาณาจักร มีฐานการผลิตที่เมืองเกย์ดอน (Gaydon) ในอังกฤษ ชื่อยี่ห้อแอสตันมาร์ตินนี้ ตั้งชื่อตามนามสกุลของลีโอเนล มาร์ติน (Lionel Martin) ผู้ก่อตั้งบริษัท และตามชื่อสถานที่ เนินแอสตัน (Aston Hill) ใกล้กับหมู่บ้านแอสตันคลินตัน (Aston Clinton) ในเมืองบักกิงแฮมเชอร์ (Buckinghamshire)
ตั้งแต่ พ.ศ. 2537 จนถึง พ.ศ. 2550 แอสตันมาร์ตินเป็นส่วนหนึ่งของ Premier Automotive Group ซึ่งเป็นกลุ่มกิจการของฟอร์ดมอเตอร์ และเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2550 ฟอร์ดได้ขายหุ้นแอสตันมาร์ตินให้กับกลุ่มนักลงทุน Investment Dar และ Adeem Investment จากคูเวต, เดวิด ริชาร์ดส์ ผู้บริหารของโปรไดรฟ์ และจอห์น ซินเดอร์ส (John Sinders) นักลงทุนชาวอังกฤษ รวมเป็นเงิน 479 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 848 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยฟอร์ดเองจะยังคงถือหุ้นแอสตันมาร์ตินบางส่วน ซึ่งมีมูลค่า 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากราคาหุ้นทั้งหมด 925 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ แอสตันมาร์ตินยังเป็นที่รู้จักในฐานะรถยนต์ของเจมส์ บอนด์ ในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ หลายๆ เรื่อง
แอสตันมาร์ติน ดีบี มาร์คทรี รุ่นปี 1958
1960 Aston Martin DB4 (Series 2)
Aston Martin 1948-1950
Aston Martin 2-Litre Sports ประวัติ การก่อตั้ง แอสตันมาร์ตินก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2456 โดย ลีโอเนล มาร์ติน และโรเบิร์ต แบมฟอร์ด (Robert Bamford) โดยก่อนหน้านั้นหนึ่งปี ได้ตั้งบริษัท Bamford & Martin เพื่อจำหน่ายรถยนต์ที่ผลิตโดย ซิงเกอร์ (Singer) ในกรุงลอนดอน โดยนอกจากรถซิงเกอร์แล้ว ยังมีการให้บริการบำรุงรักษารถจีดับเบิลยูเค และรถคัลธอร์ป (Calthorpe) ด้วย
ลีโอเนล มาร์ติน ร่วมลงแข่งรถที่เนินแอสตัน ใกล้กับหมู่บ้านแอสตันคลินตัน และได้ตัดสินใจที่จะสร้างรถยนต์ขึ้นมาเอง รถยนต์คันแรกใช้ชื่อว่าแอสตันมาร์ติน สร้างโดยมาร์ติน โดยประกอบเครื่องยนต์ Coventry-Simplex แบบสี่สูบเข้ากับโครงรถ Isotta-Fraschini รุ่นปี พ.ศ. 2451 ต่อมาพวกเขาตั้งบริษัทขึ้นที่ Henniker Place ในเมืองเคนซิงตัน และผลิตรถยนต์คันแรกในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2458 แต่สายการผลิตรถแอสตันมาร์ตินนั้นไม่ได้เกิดขึ้น เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 และทั้งคู่เข้าร่วมรบกับกองทัพของอังกฤษ เครื่องจักรทั้งหมดจึงถูกขายให้กับ Sopwith Aviation Company
1962 Aston Martin DB4 Series V Convertible
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสงบลง ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นใหม่ที่ Abingdon Road ในเมืองเดิมคือเมืองเคนซิงตัน และได้มีการออกแบบรถขึ้นมาใหม่ในชื่อแอสตันมาร์ตินเหมือนเดิม แบมฟอร์ดถอนตัวจากบริษัทในปี พ.ศ. 2463 และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Count Louis Zborowski ในปี พ.ศ. 2465 ได้เริ่มมีการผลิตรถเพื่อใช้สำหรับแข่งขัน และได้มีการสร้างสถิติต่างๆ ขึ้นด้วยรถดังกล่าวที่สนามบรูกแลนด์ส
1962 Aston Martin DB4 Series 5 Vantage GT
ต่อมาในปี พ.ศ. 2467 บริษัทเกิดล้มละลาย และเลดีชาร์นวูด (Lady Charnwood) เข้าซื้อกิจการ แต่ก็ล้มละลายอีกครั้งในปีถัดมา โรงงานของแอสตันมาร์ตินปิดตัวไปในปี พ.ศ. 2469 พร้อมกับการที่ลีโอเนล มาร์ติน ถอนตัวออกจากบริษัท
Aston Martin 2-Litre 2/4-Seater Sports 1937
ในปีเดียวกัน บิล เร็นวิค, ออกุสตัส (เบิร์ท) เบอร์เทลลี และนักลงทุนอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเลดีชาร์นวูดด้วย ได้ร่วมกันเป็นหุ้นส่วนในบริษัท และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นแอสตันมาร์ตินมอเตอร์ส และย้ายบริษัทไปยังที่ตั้งเดิมของ Whitehead Aircraft Limited works ในเมืองเฟลแธม (Feltham)
Early Aston Martin marque
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2475 บริษัทมีปัญหาทางด้านการเงินอีกครั้ง และได้ L. Prideaux Brune เข้ามาร่วมลงทุน ก่อนที่บริษัทจะเป็นของเซอร์อาเธอร์ ซัทเธอร์แลนด์ ในปี พ.ศ. 2479
มีการผลิตรถแอสตันมาร์ตินประมาณ 700 คัน ก่อนเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่สอง และในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั้นมีการผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินโดยแอสตันมาร์ติน ยุคของเดวิด บราวน์ บริษัท David Brown Limited ที่มีเดวิด บราวน์ เป็นเจ้าของบริษัท เข้าซื้อกิจการแอสตันมาร์ตินในปี พ.ศ. 2490 และในปีเดียวกันบริษัทของบราวน์ก็ได้ซื้อบริษัทรถยนต์ลากอนดา จึงได้นำทั้งสองบริษัทมาควบรวมกิจการกัน ซึ่งชื่อรถแอสตันมาร์ตินที่ใช้อักษร "DB" นี้ก็มีที่มาจากชื่อของบราวน์นั่นเอง __________________________ ชมภาพและอ่านต่อ....
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2559 |
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2559 9:13:13 น. |
|
14 comments
|
Counter : 2409 Pageviews. |
|
|
ท่านขุชอบหละซิถ้า 555