|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ธรรมะธัมโม...มหาทานที่ให้ยาก
ทานที่ให้ได้ยาก ทานระดับบารมี ให้กำลังสละแรงกายและเวลาของตน ทานระดับอุปบารมี 3อย่าง คือ 1.ให้เลือดเนื้ออวัยวะในร่างกายตน 2.ให้ภรรยาของตน 3.ให้บุตรธิดาของตน ทานระดับปรมัตถบารมี คือให้ชีวิตของตน
......................
ทาน หมายถึง การให้, การแบ่งปัน, การเสียสละ, การเอื้อเฟื้อ หรืออีกความหมายหนึ่งคือ วัตถุที่พึงให้
ทานที่แปลว่า การให้, การแบ่งปัน, การเสียสละ, การเอื้อเฟื้อ หมายถึงการให้ทานด้วยจิตใจที่ดีงาม มุ่งเพื่อบูชาพระคุณ เช่นที่ให้แก่บิดามารดา ถวายแก่พระสงฆ์ เป็นต้นบ้าง มุ่งเพื่อสงเคราะห์ เช่นที่ให้แก่คนตกทุกข์ได้ยาก ให้แก่คนทั่วไปด้วยความกรุณาสงสารบ้าง
ทานที่แปลว่า วัตถุที่พึงให้ ย่อมาจาก "ทานวัตถุ" หมายถึงสิ่งของสำหรับให้สำหรับเสียสละให้ผู้อื่น ได้แก่สิ่งของที่ถวายพระ สิ่งของที่ควรนำไปให้เพื่อตอบแทนบุญคุณแก่ผู้มีพระคุณ เช่นพ่อแม่ ครู อาจารย์ ญาติผู้ใหญ่ เรียกว่าไทยทาน บ้าง ไทยธรรม บ้าง มี 10 อย่างได้แก่ อาหาร, น้ำ, เครื่องนุ่งห่ม, ยานพาหนะ, มาลัยและดอกไม้, ของหอม (ธูปเทียน), เครื่องลูบไล้ (สบู่เป็นต้น), ที่นอน, ที่อยู่อาศัย, และประทีป (ไฟหรือไฟฟ้า) การให้ทานวัตถุ 10 อย่างนี้มีผลอานิสงส์มากเพราะเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์อย่างเดียว ไม่มีโทษ ไม่มีพิษภัยแก่ผู้รับ การเลือกของที่จะให้บัณฑิตสรรเสริญ ด้วยจิตใจที่ดีงาม
ทานเป็นบุญอย่างหนึ่ง เรียกว่า "ทานมัย" คือบุญที่เกิดจากการให้ เป็นสังคหวัตถุ คือเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจกันไว้ได้ และเป็นบ่อเกิดแห่งบารมีที่เรียกว่า ทานบารมี
การให้ทานมีวัตถุประสงค์สำคัญในการคลายความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัว ความโลภในจิตใจมนุษย์ ส่งผลให้เกิดความ ใส สว่าง สะอาดของจิตใจขึ้นมา
....................
ในนิกายเถรวาทมี 10 อย่าง จึงเรียกว่า ทศบารมี หรือ บารมี ๑๐ คือ กำลังใจที่ต้องทำให้เต็ม ไม่พร่อง 10 นี้ได้แก่ 1.ทาน การให้ 2.ศีล การรักษาศีลให้เป็นปกติ 3.เนกขัมมะ การออกจากกาม 4.ปัญญา ความรู้ 5.วิริยะ ความเพียร 6.ขันติ ความอดทนอดกลั้น 7.สัจจะ ความตั้งใจจริง เอาจริง จริงใจ 8.อธิษฐาน ความตั้งใจมั่น ไม่เปลี่ยนแปลง 9.เมตตา ความรักด้วยความปรานี 10.อุเบกขา ความวางเฉย
..............
โพชฌงค์ 7 คือธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ หรือองค์ของผู้ตรัสรู้ มีเจ็ดอย่างคือ 1.สติ (สติสัมโพชฌงค์) ความระลึกได้ สำนึกพร้อมอยู่ ใจอยู่กับกิจ จิตอยู่กับเรื่อง 2.ธัมมวิจยะ (ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์) ความเฟ้นธรรม ความสอดส่องสืบค้นธรรม 3.วิริยะ (วิริยสัมโพชฌงค์) ความเพียร 4.ปีติ (ปีติสัมโพชฌงค์) ความอิ่มใจ 5.ปัสสัทธิ (ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์) ความสงบกายใจ 6.สมาธิ (สมาธิสัมโพชฌงค์) ความมีใจตั้งมั่น จิตแน่วในอารมณ์ 7.อุเบกขา (อุเบกขาสัมโพชฌงค์) ความมีใจเป็นกลาง เพราะเห็นตามเป็นจริง
โพชฌงค์ 7 เป็นหลักธรรมส่วนหนึ่งของ โพธิปักขิยธรรม 37 (ธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ เกื้อหนุนแก่อริยมรรค อันได้แก่ สติปัฏฐาน4 สัมมัปปธาน4 อิทธิบาท4 อินทรีย์5 พละ5 โพชฌงค์7 และมรรคมีองค์ 8)
ธรรมะที่เกี่ยวข้อง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ อันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ภิกษุที่เจริญอานาปานสติแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมบำเพ็ญสติปัฏฐาน 4 ให้บริบูรณ์ได้ ภิกษุที่เจริญสติปัฏฐาน 4 แล้ว ทำให้มากแล้วย่อมบำเพ็ญโพชฌงค์ 7 ให้บริบูรณ์ได้ ภิกษุที่เจริญโพชฌงค์ 7 แล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมบำเพ็ญวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ได้ ฯ
..............
ประเภท 1.อามิสทาน คือการให้วัตถุสิ่งของ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ข้าว(อาหาร)และน้ำเป็นทรัพย์โดยปรมัตถ์ สิ่งอื่นเป็นทรัพย์โดยบัญญัติเพราะเกิดจากการสมมุติของของคนที่ทำให้เกิดความจำเป็น เช่น เสื้อผ้าถ้าใส่กันอาย เงินทองเพชรที่กินไม่ได้และไม่มีประโยชน์ 2.อภัยทาน คือการยกโทษด้วยการไม่พยาบาทจองเวร บัณฑิตกล่าวเป็นทานที่ให้ได้ยากที่สุด โดยเฉพาะการให้อภัยศัตรูหรือผู้ที่ทำร้ายตนอย่างสาหัส 3.วิทยาทาน คือการให้ความรู้ทางโลก 4.ธรรมทาน คือการให้ความรู้ทางธรรม คือการให้ความรู้ โดยเฉพาะความรู้ทางพุทธศาสนา ชื่อว่าให้ทุกอย่าง
ใน 4 อย่างนี้ ธรรมทานเป็นเลิศ ทานอื่นๆช่วยค้ำจุนชีวิตทำให้เขามีที่พึ่งอาศัยในชาตินี้ แต่ธรรมทานช่วยให้เขารู้จักพึ่งตนเองได้ต่อไปทั้งชาตินี้และชาติหน้า
|
|
โดย: คมไผ่ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:49:01 น. |
|
|
|
โดย: เตยจ๋า วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:18:40:54 น. |
|
|
|
โดย: ลั่นทมขาว วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:17:57 น. |
|
|
|
โดย: ประกายพรึก วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:18:40:21 น. |
|
|
|
โดย: คมไผ่ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:0:15:23 น. |
|
|
|
โดย: pantawan วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:1:04:53 น. |
|
|
|
โดย: ลั่นทมขาว วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:8:38:09 น. |
|
|
|
โดย: ประกายพรึก วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:01:36 น. |
|
|
|
โดย: auau_py วันที่: 1 มีนาคม 2556 เวลา:11:04:17 น. |
|
|
|
โดย: คมไผ่ วันที่: 5 มีนาคม 2556 เวลา:22:24:46 น. |
|
|
|
โดย: ลั่นทมขาว วันที่: 7 มีนาคม 2556 เวลา:10:34:26 น. |
|
|
|
โดย: คมไผ่ วันที่: 9 มีนาคม 2556 เวลา:10:10:44 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]
|
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น" ขุ.ธ. 25/15/24 เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557
| | | |