Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ธรรมะ
เจ้าที่
จิตใจ
จิปาถะ
วรรณกรรม
แขกบ้าน
หนังสือ
ความรู้ทั่วไป
ประวัติศาสตร์
การเรียน A
การเรียนA2
การเรียน A3
งานเขียน
ต้นไม้
สัตว์เลียง
ททท1
ททท2
กวี
การเมือง
แวดวงสมาชิก
เพลง
ร้านอาหาร
ร้านอาหาร
อาหารการกิน
อาหารการกิน
สูตรอาหาร
สูตรอาหาร
ข่าวเด่น
ข่าวเด่น
ความรัก
แฟชั่น
ครอบครัว
ซีรีย์ที่ชอบ
สุขภาพ
สุขภาพ
ลดน้ำหนัก
ดนตรี
การจัดดอกไม้
ดวงดีมีบุญ
งานอดิเรก
งานฝีมือ
ภาพถ่าย
การ์ตูน
การ์ตูน
ศิลปะ
ศิลปะ
เอื้องไม้
วิทยาศาสตร์
สังคม
ข่าวทั่วไป
ชวนดูนก
ยานยนต์
ไอที2018
Top News
ครอบครัว
กฏหมายน่ารู้
เทนนิส 2020
อเมริกาฟุตบอล
Diary
ชินจัง
วัชพืช
มีตะพาบ
Science2023
Game
<<
มกราคม 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
10 มกราคม 2555
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (5)...วิษณุ เครืองาม
All Blogs
ประวัติการทำลายต้นไม้ Redwood ต้นไม้ใหญ่ที่สุดในโลก
เล่าเรื่องการรับโทษประหารสมัยก่อน
♦◊"ประกาศของไทย ลงวันที่ 13 เดือนตุลาคม ค.ศ. 1774 (พ.ศ. 2317) รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน
มาชูปิกชู Machu Picchu in Peru เมืองสาบสูญแห่งอินคา
ในหลวงรัชกาลที่9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พุทธมามกะ
ความคล้ายคลึงระหว่าง เกาหลีเหนือกับจักรวรรดิโรมันโบราณคล้ายกันที่ตรงไหน ?
ฝรั่งเศสเปิดคลังเอกสารของรัฐบาลในยุคระบอบวิชีเป็นครั้งแรก
พระเจ้าสายน้ำผึ้งทรงอภิเษกหญิงที่เป็นชนชั้นสามัญมเหสี"บ้านคานหาม
จักรพรรดิคาร์ลที่ 1 แห่งออสเตรีย
สมเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีล
รัฐนิวยอร์ก
กรุงเทพมหานคร เมื่อ50-100ปี ก่อนที่ผ่านมา
26 มีนาคม: วันประกาศเอกราชของบังคลาเทศ (พ.ศ. 2514)
ไหว้กษัตริย์ 9 พระองค์ เสริมสิริมงคลรับปีใหม่
อาวุธ สงครามและสังคม: จิตวิญญาณการต่อสู้ของญี่ปุ่น: อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระบรมรูปยอดนิยมพิษณุโลก (1)
โลหะปราสาทวัดราชนัดดา
รักที่ทนทุกข์ของพระเทพกษัตรี
รอยพระพุทธบาท สระบุรี ที่ถูกค้นพบสมัยพระเจ้าทรงธรรม
เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน....5
เหตุที่พระพุทธรูป"ริมพระ โอษฐ์พระพุทธรูปเป็นสีแดง′
เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน....4
เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน...3 คุณชายน้อย หรือ เจ้าพระยานครศรีธรรมรา
เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน...2
เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน...
มหรสพสมโภช” งดงามตามโบราณราชประเพณี
▷ การทำธุรกิจไทยกับรายงานธนาคารโลก◁◁โดย ดร. วิษณุ เครืองาม
ปราสาทเมืองสิงห์ แบบขอม โผล่ที่เมืองกาญจน์ได้ยังไง?
▷▷ ..พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ..◁◁..ดร.วิษณุ เครืองาม
ความคิดเห็นเรื่อง′ประชาธิปไตย′ ของผู้นำสยามเมื่อ พ.ศ.2455
ใครคือคนไทยพลัดถิ่นเชื้อสายไทยจากเกาะกง..
● ต้องมนต์ 'ฝรั่งเศส' ด้วยตาและหัวใจ ซึมซับประวัติศาสตร์ที่แสนยาวไกล
ชมภาพสีหายาก "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" ใช้ชีวิตหรูหราในคฤหาสน์หลังงาม
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นปนะมุข 1-3 ศ.ดร.บวร อุวรรโณ
สีสันถนนมังกร ถนนสายนี้สร้างรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เผย "จิมทอมป์สัน"ช้ำ "ปรีดี พนมยงค์" ถูกโค่น
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (6).... ดร.วิษณุ เครืองาม
จากวันครูถึงวันยุทธหัตถี ... 18 มกราคม เป็นวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ลายสกอต
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (5)...วิษณุ เครืองาม
อิตาลี เป็นประเทศที่อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานประเทศหนึ่งในทวีปยุโรป
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (4)...โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (3)...วิษณุ เครืองาม
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
ประวัติของหน่วยนักบินกามิกาเซ่ ของญี่ปุ่นในสง ครามโลก
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (2).. โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (1)....โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
สุโขทัย ( 5) ....วิษณุ เครืองาม
สุโขทัย ( 4 ) ....วิษณุ เครืองาม
สงครามฝิ่น (ตอนจบ)
สงครามฝิ่น(Opium Wars) (ตอนแรก)
สุโขทัย ( 3 ) .... โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
เทิดพระพันวัสสา "บุคคลของโลก"
สุโขทัย ( 2 ) ....โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
สุโขทัย (1) ....โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
เจดีย์ทรงลังกา คอลัมน์ คติสัญลักษณ์สถาปัตยกรรมไทย
ศรีอยุธยา (12 ) ... ●۩●※※●۩● ...เขียน ....โดย คุณ วิษณุ เครืองาม
สามพระองค์...คอลัมน์ แสตมป์ที่ฉันรัก
รำลึก 111 ปีวันพระราชสมภพ 'สมเด็จย่า' สู่ภาพประวัติศาสตร์ ''หนึ่งรอยยิ้ม หนึ่งจิ๊กซอว์ถวายพ่อ''
ศรีอยุธยา (11) ... ●۩●※※●۩● ...เขียน ....โดย คุณ วิษณุ เครืองาม
ฆาตกรรมรัฐ 19 กันยายน 2549ประวัติศาสตร์ที่ต้องไม่ถูกลบเลือน (7)
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (5)...วิษณุ เครืองาม
พระอารมณ์แปรปรวนของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจะจริงหรือไม่และหนักเบาเพียงใดยากที่ผู้ใดจะชี้ชัดได้ในบัดนี้
แต่เป็นสิ่งที่ตั้งข้อสังเกตของ
ขุนนางและชาววัง
ในขณะนั้นซึ่งดูจะผิดแผกไปจากพระอัธยาศัยเดิม เพราะปกติแล้วแม้จะห้าวหาญเด็ดขาดตามประสานักรบแต่ก็ทรงอ่อนโยนต่ออาณาประชาราษฎร เช่น ตรัสเรียกพระองค์เองว่า
พ่อ
ตรัสเรียกราษฎรว่า
ลูก
พระทัยเป็นธรรมโอบอ้อมอารีและยึดมั่นในศาสนา
การที่ทรงคร่ำเคร่งกับวิปัสสนากรรมฐาน
ก็เป็นเรื่องพระอัธยาศัยส่วนพระองค์ไม่น่าจะเป็นปัญหาของบ้านเมือง
แต่สภาพของบ้านเมืองที่ขุนนางและข้าราชการบางส่วนฉวยโอกาสข่มเหงย่ำยีรีดไถราษฎรน่าจะมีอยู่จริง
เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นข่าวอยู่แต่ในวังหากล่วงรู้ไปถึงชาวต่างชาติและเป็นปัญหาบ้านเมืองเดือดร้อนไปถึงชาวบ้านทั่วไปซึ่งย่อมย้อนกลับไปโทษผู้ปกครองได้ในที่สุด
คงเหมือนสมัยนี้ที่ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ซี 5 ซี 6 ทำผิด ก็เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้!
เรื่องพระเจ้าแผ่นดินวิกลจริตนี้ดูจะมีอยู่ในหลายประเทศ กษัตริย์พม่ายุคหลัง
พระเจ้าอลองพญา
หลายพระองค์ก็มีพระอาการที่พงศาวดารพม่าระบุว่า
วิกลจริต
จนถูกยึดอำนาจก็มี จะว่าเป็นข้ออ้างหาเหตุยึดอำนาจก็ไม่น่าจำเป็นต้องโทษเอาขนาดนั้น
เพราะลำพังข้อหา
ว่าไม่ทรงดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรมจรรยาสัมมาปฏิบัติก็พอจะใช้ยึดอำนาจได้แล้ว
ในสมัยกรุงธนบุรี
เรื่องที่
สมเด็จพระสังฆราช (สี)
อยู่ในฝ่ายเห็นว่าแม้ฆราวาสบรรลุโสดาปัตติผล
แต่พระภิกษุก็ไม่ต้องเคารพนบไหว้ผู้นั้นเพราะพระภิกษุทรงศีลสูงกว่า
จนสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวกริ้วให้จับสึกไปทำงานที่
วัดหงส์รัตนาราม
เป็นเรื่องกล่าวถึงไว้หลายแห่ง เมื่อ
สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 1
ยังโปรดให้กลับไปครองผ้ากาสาวพัสตร์แล้วทรงสถาปนา
คืนเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์แรกในสมัยกรุงเทพฯ
ด้วยทรงศรัทธาว่ามีความมั่นคงในพระสัทธรรม ไม่ตามกระแส เรื่องนี้ทางพระเองก็กล่าวถึงแสดงว่าน่าจะเป็นจริง
ในคราวที่สมเด็จเจ้าพระยาฯ ไปจัดระเบียบการปกครองที่เวียงจันทน์
ขากลับได้นำพระพุทธรูปสำคัญ 2 องค์กลับจากลาวมาด้วยคือ
พระแก้วมรกตและพระบาง
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงปีติยินดีมากเพราะ
พระแก้วมรกตเคยอยู่ในอาณาเขตที่เป็นของไทยมาก่อนคือกำแพงเพชร เชียงราย ลำปาง เชียงใหม่
ต่อมา
พระไชยเชษฐาธิราช
เชื้อสายผู้ครองอาณาจักรล้านช้างซึ่งลงมาปกครองเชียงใหม่เสด็จกลับไปครองกรุงศรีสตนาคนหุต (หลวงพระบาง) จึงเชิญพระพุทธรูปสำคัญ 2 องค์คือพระแก้วมรกตและพระพุทธสิหิงค์ไปจากเชียงใหม่ด้วย แต่เมื่อชาวเมืองร่ำร้องขอคืนก็
พระราชทานแต่พระพุทธสิหิงค์
คืนมา ส่วนพระแก้วมรกตนั้นเก็บเอาไว้ที่อาณาจักรล้านช้าง (หลวงพระบาง) ภายหลังเมื่อย้ายเมืองหลวงไปอยู่เวียงจันทน์ทางลาวก็เชิญไปไว้ที่หอพระแก้วในเวียงจันทน์จนสมเด็จเจ้าพระยาฯ เชิญกลับมากรุงธนบุรีในคราวนี้
ครั้งอยู่กรุงธนบุรี พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ที่วัดแจ้ง (วัดอรุณฯ) เหลือเชื่อนะครับว่ากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีอยู่ 417 ปี พระแก้วมรกตท่านไม่เคยแวะไปเที่ยวชมพระมหานครแห่งนั้นเลย
การได้ท่านมาอยู่ที่ธนบุรีจึงเป็นการเพิ่มพูนพระบรมราชกฤดาภินิหารของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีอย่างใหญ่ยิ่ง ว่ากันว่าจะทรงปูนบำเหน็จความชอบอันใดแก่สมเด็จเจ้าพระยาฯ ก็เป็นอันถึงที่สุดแล้วจึงทรงถอดพระมหาสังวาล (สร้อย) อันเป็นเครื่องทรงกษัตริย์คล้องคอพระ ราชทาน
พระแก้วมรกตนั้นวันนี้ย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่สุดในแผ่นดิน
ส่วน
พระบาง
นั้นเป็นพระยืนองค์ไม่ใหญ่โตนัก เคยอยู่หลวงพระบางเพราะเหตุนั้นเมืองนั้นจึงได้ชื่อว่า
หลวงพระบาง
ภายหลังเจ้าลาวเข้ามาเฝ้าฯ รัชกาลที่ 1 ขอพระราชทานคืนก็โปรดฯ ให้คืนไป ครั้งสมัยรัชกาลที่ 3 เรายกทัพไปตีเวียงจันทน์ก็ได้นำพระบางกลับมาอีกหน คราวนี้มาไว้ที่
วัดจักรวรรดิราชาวาส
แต่พอถึงสมัยรัชกาลที่ 4 ก็พระราชทานคืนไป บัดนี้อยู่ที่หลวงพระบาง
การคืนพระบางไปถูกต้องเป็นธรรมแล้วโดยเฉพาะถ้าคิดถึงอกเขาอกเรา
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมีพระราชโอรสธิดาหลายพระองค์ ส่วนใหญ่จะทรงตั้งเป็นเจ้าฟ้าไม่ว่าจะประสูติจากพระภรรยาในลำดับชั้นใด พระภรรยาที่เป็นชั้นพระมเหสีนั้นมีอยู่หลายพระองค์ บางพระองค์เป็นภริยาดั้งเดิมมาแต่ยังทรงเป็นหลวงยกกระบัตรเมืองตาก เช่น กรมหลวงบาทบริจา พระราชโอรสจากพระมเหสีพระองค์นี้จึงโตพอจะทรงใช้สอยราชการได้บ้างแต่ก็ยังอ่อนพระประสบ การณ์ เช่น สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอินทรพิทักษ์ ซึ่งดำรงพระยศเสมอพระมหาอุปราช
สมเด็จเจ้าพระยาฯ เองก็ได้ถวายบุตรีคนแรกที่เกิดจากคุณนาคชื่อ ฉิม ซึ่งเป็นพระพี่นางร่วมพระครรภ์กับสมเด็จเจ้าฟ้าชายฉิม (ชื่อซ้ำกัน)
ที่ต่อมาเป็นรัชกาลที่ 2 ให้เป็นบริจาริกาของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีด้วย และมีพระราช โอรส 1 พระองค์ คือ เจ้าฟ้าชายสุพันธุวงศ์ เจ้าฟ้าพระองค์นี้จึงเป็นลูกพระเจ้ากรุงธนบุรี
เป็นหลานตาของสมเด็จพระยาฯ และหลานน้าของรัชกาลที่ 2
การที่เจ้าต่างแดนและขุนนางจะถวายบุตรสาวเป็นบริจาริกา (แปลว่าเมีย) ของพระเจ้าแผ่นดินเป็นเรื่องธรรมดาในสมัยก่อน
รัชกาลที่ 2 เคยทรงแต่งล้อไว้ในเรื่องไกรทองว่า
เหล่าขุนนางต่างถวายบุตรี พวกที่มีบุตรชายถวายหลาน ปะที่เป็นหมันบุตรกันดาร คิดอ่านไกล่เกลี่ยน้องเมียมา
คือถ้าไม่มีลูกสาวก็ยกหลานสาวถวาย ถ้าเป็นหมันไม่มีลูกหลานก็ไปกล่อมน้องเมียมาถวาย!
ขุนนางผู้หนึ่งถวายแม่ปรางเป็นบริจาริกา ครั้นอุปราชพัฒน์เมืองนครศรี ธรรมราชขึ้นมาเฝ้าฯ ก็ทรงสงสารว่าเมียตายจึงพระราชทานเจ้าจอมปรางให้ไป เจ้าจอมปรางมีท้องอ่อน ๆ ติดไปก่อนแล้ว
เจ้านครก็ไม่กล้าแตะต้องจนกระทั่งคลอดบุตรเป็นชายชื่อน้อย คนทั่วไปทราบว่าเป็นพระราชโอรสสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี รัชกาลที่ 1 ก็ทรงทราบภายหลังจึงได้ทรงรับมาชุบเลี้ยงในกรุงเทพฯ
และให้ฝึกราชการ ครั้นโตขึ้นก็ส่งกลับไปเป็นเจ้าเมืองนครฯ จนได้เป็น
เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) ต้นสกุล ณ นคร สกุลนี้ถือเป็นเชื้อสายสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
เจ้าจอมยวนอีกคนที่ได้พระราช ทานเจ้าพระยานครราชสีมา ปรากฏว่าท้องติดไปเหมือนกัน บุตรที่คลอดมานี้ต่อไปได้เป็นเจ้าเมืองโคราช ต้นสกุลอินทรกำแหง ณ ราชสีมา
คราวจะเกิดเหตุใหญ่เป็นปี 2324 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงครองราชย์มาแล้ว 13-14 ปี ทางเขมรซึ่งเคยเป็นของไทยเกิดแตกกันเองเป็น 2 ฝ่ายจนรบกันเอง ทางญวนเข้าหนุนเจ้าเขมรฝ่ายหนึ่ง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเกรงว่าเราอาจเสียเขมรให้ญวนทั้งหมดจึงให้สมเด็จเจ้าพระยาฯ ยกทัพไปปราบ แต่คราวนี้โกลาหลเป็นพิเศษทั้งที่การปราบขบถเมืองเขมรไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือบางทีอาจคิดว่าต้องรบกับญวนด้วยก็ได้ จึงให้สมเด็จเจ้าพระยาฯ เป็นแม่ทัพใหญ่เหมือนคุมทัพหลวง เจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) คุมทัพหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอินทรพิทักษ์คุมอีกทัพหนึ่ง พระยานครสวรรค์คุมอีกทัพ กรมหลวงรามภูเบศร์แยกไปคุมอีกทัพ และทรงสั่งการว่าถ้าจัดการเมืองเขมรเรียบร้อยแล้วก็ให้ตั้งพระมหาอุปราชเจ้าฟ้ากรมหลวงอินทร พิทักษ์เป็นกษัตริย์ครองเมืองเขมรเสียด้วย
ตรงนี้แปลก! แล้วต่อไปจะทรงตั้งผู้ใดครองกรุงธนบุรีต่อจากพระองค์!
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงมีหลานชายองค์หนึ่งดูจะแกล้วกล้าอยู่มากคือกรมขุนอนุรักษ์สงคราม คนทั่วไปเรียกว่าเจ้ารามลักษณ์ จัดว่าเป็นคนมีฝีมือแต่ออกจะมุทะลุห้าวหาญอยู่ ส่วนจะเป็นหลานทางไหนนั้นไม่ทราบ
สมเด็จเจ้าพระยาฯ ขอพระบรมราชานุญาตขึ้นไปตั้งกองบัญชาการอยู่ที่นครราชสีมาเพื่อเกณฑ์ไพร่พลและเตรียมเสบียงอาหาร โคราชในเวลานั้นเป็นหน้าด่านใหญ่ไปสู่เขมร ที่น่าสนใจคือเจ้าเมืองโคราชชื่อพระยาสุริยภักดี (ทองอิน) บุตรชายของคุณสา พี่สาวคนโตของสมเด็จเจ้าพระยาฯ จึงเป็นหลานน้าของสมเด็จเจ้าพระยาฯ การเกณฑ์ไพร่พล การส่งแนวหน้าออกไปสืบข่าวเมืองเขมรและการเตรียมเสบียงใช้เวลาอยู่นานร่วมปีทุกทัพจึงกรีธาทัพเข้าไปตีเมืองเขมรพร้อมกัน
กรุงธนบุรีในขณะนั้นแทบจะว่างเว้นขุนทหารแม่ทัพนายกอง เรียกว่าเกิดสุญญากาศแห่งอำนาจขึ้น จะพอมีเหลืออยู่บ้างคือเจ้ารามลักษณ์และพระราช โอรสรุ่นเยาว์ ตลอดจนขุนนางฝีมือรอง ๆ ท่ามกลางข่าวลือเกี่ยวกับการไม่อยู่ในธรรมของผู้ปกครอง และความไม่พอใจของราษฎรเพราะโจรผู้ร้ายชุกชุมขึ้นทุกวัน ทางกรุงศรีอยุธยาราษฎร เช่น นายบุนนาคบ้านแม่ลา และขุนนางปลายแถวแท้ ๆ ยังเข้ายึดจวนจับเจ้าเมืองฆ่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงทรงเรียกพระยาสรรค์ เจ้าเมืองสรรคบุรีลงมาสั่งให้ไปเกลี้ยกล่อมพี่น้องของตนที่กำลังซ่องสุมและทำซ่าอยู่ในอยุธยา พระยาสรรค์กลับไปถูกพวกนั้นเกลี้ยกล่อมจนคล้อยตามแล้วนำทหารไม่กี่คนบุกย้อนกลับลงมายึดพระราชวังธนบุรี
คนนำทัพยึดกรุงธนบุรีรอบแรกคือพระยาสรรค์ เจ้าเมืองบ้านนอกแถวชัยนาท นครสวรรค์ ใช้ทหารไม่กี่คนก็เข้าคุมพระองค์สมเด็จพระเจ้ากรุง ธนบุรี พระญาติพระวงศ์ และคุมตัวขุนนางในวังได้โดยไม่ยาก ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าสมเด็จพระเจ้ากรุง ธนบุรีไม่ทรงเห็นด้วยกับการจะต่อสู้ทรงเกรงว่าล้มตายเสียเปล่า ๆ
ในที่สุดสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงออกผนวชเป็นพระภิกษุเพื่อแสดงว่าไม่ทรงปรารถนาจะยุ่งเกี่ยวกับราชการบ้านเมืองอีก พงศาวดารที่ว่าทรงขอบวชเองก็มี แต่ที่ว่าพระยาสรรค์ถวายคำแนะนำว่าควรจะเสด็จออกผนวชชำระพระเคราะห์เมืองคือสะเดาะเคราะห์แก้เคล็ดสัก 3 เดือนก็มี ผมว่าอย่างหลังนี้น่าจะถูกต้องเพราะเคยผนวชมาแล้วก่อนเป็นหลวงยกกระบัตร แต่แม้กระนั่นก็ทรงถูกกักบริเวณไว้ในพระอุโบสถวัดแจ้ง บางเล่มว่าทรงถูกจองจำสังขลิกคือโซ่ตรวนกันหลบหนีด้วยซ้ำ
เจ้านายชั้นลูกเธอ หลานเธอที่ถูกกักบริเวณอยู่ในวัดแจ้งมีหลายพระองค์ ระหว่างนั้นเจ้าจอมพระสนมคนหนึ่งประสูติพระราชกุมาร พระยาสรรค์จะให้ประโคมรับขวัญตามธรรมเนียม แต่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห้ามว่าสิ้นบุญวาสนาข้าแล้วไม่ต้องประโคม พระยาสรรค์ปล่อยเจ้ารามลักษณ์หลบออกไปได้ซึ่งดูแปลกอยู่ว่าปล่อยไปทำไม ข้อนี้ไปเจือสมกับข้อความในที่ต่าง ๆ กันว่าเจ้ารามลักษณ์ออกไปก่อเหตุจลาจลขึ้น ครั้งแรกได้กราบทูลชวนสมเด็จพระเจ้ากรุง ธนบุรีให้หนีไปด้วยกันจะชิงราชสมบัติคืน แต่ก็ทรงปฏิเสธ เจ้ารามลักษณ์จึงคุมทหารที่จงรักภักดีออกไปเองเพื่อสู้กับกองทัพพระยาสุริยอภัยเจ้าเมืองโคราชซึ่งทราบข่าวขบถพระยาสรรค์ก็ยกทัพมาตั้งมั่นที่บ้านเดิมของท่านข้างโรงพยาบาลศิริราช (ตอนนั้นยังไม่มีโรงพยาบาล)คอยระวังเหตุการณ์
เจ้ารามลักษณ์ก็แปลก ไม่ยักเข้าต่อสู้ปราบพระยาสรรค์ทั้งที่เป็นคนยึดวังแต่กลับไปสู้กับพระยาสุริยอภัยซึ่งเป็นคนยกทัพมาต่อสู้กับพระยาสรรค์!
ตรงนี้ต้องเล่าว่าก่อนหน้านั้นพอมีข่าวว่าพระยาสรรค์ยึดกรุงธนบุรีได้ พระยาสุริยอภัยก็นำทหารจากโคราชควบม้าไปแจ้งข่าวให้สมเด็จเจ้าพระยาฯ ผู้เป็นน้าชายทราบที่เมืองเขมร สมเด็จเจ้าพระยาฯ ให้พระยาสุริยอภัยกลับไปคุมสถานการณ์ก่อนเพราะท่านคุมทัพใหญ่จะเลิกทัพกลับทันทีก็พะรุงพะรัง
พระยาสุริยอภัยจึงลงมาที่ตั้งทัพที่บ้านปูนข้างวัดระฆังฯ ซึ่งเป็นบ้านเดิมของท่านและเข้าก่อกวนฝ่ายพระยาสรรค์ ซึ่งพระยาสรรค์ก็ไม่ได้สู้เองแต่ทำเหมือนปล่อยเจ้ารามลักษณ์เป็นนอมินีออกไปสู้แทน
ขุนนางและชาววังไม่น้อยโดยเฉพาะผู้ที่เคยถูกพระเจ้ากรุงธนบุรีลงโทษลงทัณฑ์และถูกขุนนางเบียด เบียนพากันหันไปเข้าข้างพระยาสุริยอภัย บัดนี้ก็ทำท่าจะเกิดสงครามกลางเมืองย่อม ๆ ระหว่างเจ้ารามลักษณ์กับพระยาสุริยอภัย เจ้าศิริรจจา น้องสาวเจ้ากาวิละ ท่านเป็นเมียเจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) ซึ่งไปทัพเมืองเขมร สามีไม่อยู่ท่านจึง คุมเรือออกมาช่วยพระยาสุริยอภัยต่อสู้กับฝ่ายเจ้ารามลักษณ์ที่ปากคลองบาง กอกน้อย เอาว่าขณะนั้นเกิดเหตุต่อสู้กันใหญ่โตตั้งแต่ปากคลองบางกอกใหญ่ยันปากคลองบางกอกน้อย
สมเด็จเจ้าพระยาฯ เลิกทัพกลับเข้ามาธนบุรี พระยาสุริยอภัยจับเจ้ารามลักษณ์ได้แถววัดยาง พรานนก เข้าควบคุมพระราชวังธนบุรี จับพระยาสรรค์กับพวกได้โดยละม่อม แล้วรอสมเด็จ เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกลับเข้ามาเพื่อพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป
เวลานั้นเป็นต้นเดือนเมษายน พ.ศ. 2325 กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทรดำรงความเป็นราชธานีมาได้ 15 ปี.
วิษณุ เครืองาม
wis.k@hotmail.com
//www.dailynews.co.th/article/224/6693
Create Date : 10 มกราคม 2555
Last Update : 17 มกราคม 2555 2:54:51 น.
0 comments
Counter : 1840 Pageviews.
Share
Tweet
Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [
?
]
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557