Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ธรรมะ
เจ้าที่
จิตใจ
จิปาถะ
วรรณกรรม
แขกบ้าน
หนังสือ
ความรู้ทั่วไป
ประวัติศาสตร์
การเรียน A
การเรียนA2
การเรียน A3
งานเขียน
ต้นไม้
สัตว์เลียง
ททท1
ททท2
กวี
การเมือง
แวดวงสมาชิก
เพลง
ร้านอาหาร
ร้านอาหาร
อาหารการกิน
อาหารการกิน
สูตรอาหาร
สูตรอาหาร
ข่าวเด่น
ข่าวเด่น
ความรัก
แฟชั่น
ครอบครัว
ซีรีย์ที่ชอบ
สุขภาพ
สุขภาพ
ลดน้ำหนัก
ดนตรี
การจัดดอกไม้
ดวงดีมีบุญ
งานอดิเรก
งานฝีมือ
ภาพถ่าย
การ์ตูน
การ์ตูน
ศิลปะ
ศิลปะ
เอื้องไม้
วิทยาศาสตร์
สังคม
ข่าวทั่วไป
ชวนดูนก
ยานยนต์
ไอที2018
Top News
ครอบครัว
กฏหมายน่ารู้
เทนนิส 2020
อเมริกาฟุตบอล
Diary
ชินจัง
วัชพืช
มีตะพาบ
Science2023
Game
<<
มกราคม 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
3 มกราคม 2555
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (4)...โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
All Blogs
ประวัติการทำลายต้นไม้ Redwood ต้นไม้ใหญ่ที่สุดในโลก
เล่าเรื่องการรับโทษประหารสมัยก่อน
♦◊"ประกาศของไทย ลงวันที่ 13 เดือนตุลาคม ค.ศ. 1774 (พ.ศ. 2317) รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน
มาชูปิกชู Machu Picchu in Peru เมืองสาบสูญแห่งอินคา
ในหลวงรัชกาลที่9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พุทธมามกะ
ความคล้ายคลึงระหว่าง เกาหลีเหนือกับจักรวรรดิโรมันโบราณคล้ายกันที่ตรงไหน ?
ฝรั่งเศสเปิดคลังเอกสารของรัฐบาลในยุคระบอบวิชีเป็นครั้งแรก
พระเจ้าสายน้ำผึ้งทรงอภิเษกหญิงที่เป็นชนชั้นสามัญมเหสี"บ้านคานหาม
จักรพรรดิคาร์ลที่ 1 แห่งออสเตรีย
สมเด็จพระราชินีนาถอีซาเบลที่ 1 แห่งคาสตีล
รัฐนิวยอร์ก
กรุงเทพมหานคร เมื่อ50-100ปี ก่อนที่ผ่านมา
26 มีนาคม: วันประกาศเอกราชของบังคลาเทศ (พ.ศ. 2514)
ไหว้กษัตริย์ 9 พระองค์ เสริมสิริมงคลรับปีใหม่
อาวุธ สงครามและสังคม: จิตวิญญาณการต่อสู้ของญี่ปุ่น: อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระบรมรูปยอดนิยมพิษณุโลก (1)
โลหะปราสาทวัดราชนัดดา
รักที่ทนทุกข์ของพระเทพกษัตรี
รอยพระพุทธบาท สระบุรี ที่ถูกค้นพบสมัยพระเจ้าทรงธรรม
เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน....5
เหตุที่พระพุทธรูป"ริมพระ โอษฐ์พระพุทธรูปเป็นสีแดง′
เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน....4
เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน...3 คุณชายน้อย หรือ เจ้าพระยานครศรีธรรมรา
เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน...2
เรื่องที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน...
มหรสพสมโภช” งดงามตามโบราณราชประเพณี
▷ การทำธุรกิจไทยกับรายงานธนาคารโลก◁◁โดย ดร. วิษณุ เครืองาม
ปราสาทเมืองสิงห์ แบบขอม โผล่ที่เมืองกาญจน์ได้ยังไง?
▷▷ ..พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ..◁◁..ดร.วิษณุ เครืองาม
ความคิดเห็นเรื่อง′ประชาธิปไตย′ ของผู้นำสยามเมื่อ พ.ศ.2455
ใครคือคนไทยพลัดถิ่นเชื้อสายไทยจากเกาะกง..
● ต้องมนต์ 'ฝรั่งเศส' ด้วยตาและหัวใจ ซึมซับประวัติศาสตร์ที่แสนยาวไกล
ชมภาพสีหายาก "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" ใช้ชีวิตหรูหราในคฤหาสน์หลังงาม
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นปนะมุข 1-3 ศ.ดร.บวร อุวรรโณ
สีสันถนนมังกร ถนนสายนี้สร้างรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เผย "จิมทอมป์สัน"ช้ำ "ปรีดี พนมยงค์" ถูกโค่น
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (6).... ดร.วิษณุ เครืองาม
จากวันครูถึงวันยุทธหัตถี ... 18 มกราคม เป็นวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ลายสกอต
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (5)...วิษณุ เครืองาม
อิตาลี เป็นประเทศที่อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานประเทศหนึ่งในทวีปยุโรป
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (4)...โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (3)...วิษณุ เครืองาม
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
ประวัติของหน่วยนักบินกามิกาเซ่ ของญี่ปุ่นในสง ครามโลก
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (2).. โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (1)....โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
สุโขทัย ( 5) ....วิษณุ เครืองาม
สุโขทัย ( 4 ) ....วิษณุ เครืองาม
สงครามฝิ่น (ตอนจบ)
สงครามฝิ่น(Opium Wars) (ตอนแรก)
สุโขทัย ( 3 ) .... โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
เทิดพระพันวัสสา "บุคคลของโลก"
สุโขทัย ( 2 ) ....โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
สุโขทัย (1) ....โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
เจดีย์ทรงลังกา คอลัมน์ คติสัญลักษณ์สถาปัตยกรรมไทย
ศรีอยุธยา (12 ) ... ●۩●※※●۩● ...เขียน ....โดย คุณ วิษณุ เครืองาม
สามพระองค์...คอลัมน์ แสตมป์ที่ฉันรัก
รำลึก 111 ปีวันพระราชสมภพ 'สมเด็จย่า' สู่ภาพประวัติศาสตร์ ''หนึ่งรอยยิ้ม หนึ่งจิ๊กซอว์ถวายพ่อ''
ศรีอยุธยา (11) ... ●۩●※※●۩● ...เขียน ....โดย คุณ วิษณุ เครืองาม
ฆาตกรรมรัฐ 19 กันยายน 2549ประวัติศาสตร์ที่ต้องไม่ถูกลบเลือน (7)
ธนบุรีศรีมหาสมุทร (4)...โดย ดร.วิษณุ เครืองาม
การตั้งเมืองหลวงใหม่ในยุคนี้ขนาดมีเทคโนโลยีพร้อม ไม่มีทุนสร้างก็ยังออกบอนด์หรือพันธบัตรได้ กู้จากต่างประเทศได้แต่ก็ยังนับว่ายากนักหนา
ลองดูข้อเสนอที่ให้ย้ายเมืองหลวงหรือตั้งเมืองบริวารหนีน้ำท่วมสิ แล้วคิดดูว่า
สมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเมื่อ 244 ปี
ก่อนยากเย็นขนาดไหน จะค่อยยังชั่วอยู่บ้างก็ที่ว่าสมัยก่อนผู้คนยังมีน้อย และความเป็น
เมืองหลวง
หรือราชธานียังไม่ต้องมีอะไรพะรุงพะรังเหมือนทุกวันนี้ ไม่ต้องมี
ทำเนียบรัฐบาล
ไม่ต้องมีอาคารกระทรวงทบวงกรม
รัฐสภา ศาล ไม่ต้องมีศูนย์การค้า มหาวิทยาลัย โรงเรียน สนามบิน ท่าเรือ สถานีรถไฟ
อีกประการหนึ่งคือ
อำนาจของพระเจ้าแผ่นดินยัง เด็ดขาด
ขีดแผนที่ให้ตรงไหนเป็นอะไรก็เป็น เกณฑ์แรงงานคนมาสร้างอะไรก็ต้องมา
เรียกว่าไม่ต้องห่วงเรื่องผังเมือง การเวนคืน สิ่งแวดล้อม ไม่ต้องกังวลเรื่องม็อบและไม่ต้องทำประชาพิจารณ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 อย่างกรณีมาบตาพุด
แต่จะว่าคนสมัยก่อนไม่ต้องคิดอะไรมากก็ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าท่านคิดตามแบบของท่าน เช่น ต้องดูชัยภูมิเพื่อประโยชน์ในการทำสงคราม ต้องวางผังให้เป็นไปตามแบบในไตรภูมิ วัดอยู่ตรงไหน วังอยู่ตรงไหน ล้อมรอบด้วยอะไร และต้อง
คำนึงถึงโบราณประเพณี
เรื่องนี้จะเห็นชัดกว่ามากเมื่อครั้งตั้ง
กรุงศรีอยุธยาและตั้งกรุงเทพฯ
เพราะกรุงธนบุรีนั้นจะว่าเป็นเมืองหลวงก็แค่พออยู่ไปพลางก่อนเนื่องจากสงครามยังติดพัน ทุนรอนก็ไม่มี ช่างหลวงมีฝีมือก็หายากมี แม้กระนั้นท่านก็ให้มีวัดในวัง มีที่ทำนาเลี้ยงราษฎร มียุ้งฉางหลวงไว้เก็บข้าวเปลือก
พระราชวังนั้นแม้จะมุงหลังคาจาก
แต่ก็ถือเป็น
ศูนย์ราชการ
ทุกอย่างสั่งออกไปจากที่นี่ พวก
ขุนนางผู้ใหญ่
ก็ให้ไปปลูกเรือนอยู่ริมแม่น้ำข้างวัง ขุนนางผู้น้อยให้หลบเข้าไปอยู่สองข้างคลองบางกอกใหญ่ ที่ตรงนั้นจึงเรียกว่า
คลองบางหลวง
พวกอพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและเชลยญวน มอญ ลาว เขมรก็ให้ข้ามไปอยู่ทางฝั่งบางกอก แต่ฝรั่งให้ไปอยู่แถวกะดีจีนเพราะต้องดูแลรักษาป้อม ตลาดก็ให้อยู่ท้ายวัง วัดตรงนั้นจึงได้ชื่อว่าวัดท้ายตลาด (วัดโมลีฯ)
สิ่งที่พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ต้องเร่งจัดทำและจัดหาในขณะนั้นคือคน และทุน คำว่าคนหมายถึงพวกที่มีฝีมือ มีความรู้เพื่อมาช่วยกันสร้างชาติ ไหนจะต้องช่วยรบ ไหนจะต้องช่วยปกครองดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย จัดระเบียบสังคมใหม่ ไหนจะต้องทำงานธุรการในวังนอกวัง ส่วนทุนหมายถึงเงินทองที่จะต้องใช้จัดหาเสบียง เลี้ยงกองทัพ ซื้อหาข้าวของมาสร้างกรุง และจัดหาอาวุธไว้สู้กับศัตรู ทั้งสองอย่างเป็นวาระแห่งชาติในขณะนั้น
บุญที่พวกข้าราชการเก่าสมัยอยุธยาหลายคนได้กลับเข้ามาสวามิภักดิ์ เช่น หลวงยกกระบัตร (ทองด้วง) พระสหายเก่าได้นำครอบครัวย้ายจากบางช้างเข้ามาทำราชการ โปรดฯ ให้เป็นพระราชวรินทร์ คุมตำรวจ พระราชทานที่ดินริมแม่น้ำข้างวังให้ปลูกเรือน ภายหลังไปรบทัพจับศึกชนะจึงทรงตั้งเป็นพระยาอภัยรณฤทธิ์ (ระดับ ผบ.ตร.) พระยายมราช (เทียบประมาณ มท.1) เจ้าพระยาจักรี (นี่เทียบระดับนายกรัฐมนตรี) และเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก หลังจากนั้นจึงได้ครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 1
พระยาธรรมาธิกรณ์ (บุญรอด ต้นสกุลบุณยรัตพันธุ์) ก็เป็นขุนนางเก่ารู้ธรรมเนียมในวังมาก โปรดฯ ให้เป็นเสนาบดีกรมวังดูแลกิจการทั้งปวงในราชสำนัก ศาล วัดวาอารามและพิธีการต่าง ๆ
นายบุญมาน้องชายหลวงยกกระบัตร (ทองด้วง) เคยเป็นนายสุดจินดามหาดเล็กสมัยอยุธยาได้เข้าร่วมตั้งแต่สงครามกู้ชาติ เมื่อสถาปนากรุงธนบุรีแล้วก็ได้ทำราชการต่อไปจนเป็นพระมหามนตรี พระยาอนุชิตราชา พระยายมราช และเจ้าพระยาสุรสีห์ในที่สุด ในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้เป็นกรมพระราชวังบวรฯ พระมหาอุปราชวังหน้า
นายบุนนาค ลูกเจ้าพระยามหาเสนา รมต.กลาโหมครั้งกรุงเก่าเชื้อสายแขกเปอร์เซียเคยทำราชการในวังก่อนเสียกรุงได้เป็นนายฉลองไนยนาถ มหาดเล็ก เมื่อกรุงแตกก็ได้ไปอาศัยอยู่กับหลวงยกกระบัตร (ทองด้วง) ที่บางช้าง คุณนาคภริยาหลวงยกกระบัตรเห็นว่าเป็นพ่อม่ายเมียตาย มีชาติมีสกุล และซื่อสัตย์สุจริตจึงยกคุณนวล น้องสาวให้ แต่มีเรื่องผิดพ้องหมองใจกับพระเจ้าตากมาแต่เด็กจึงไม่ได้เข้าทำราชการ จนเมื่อสมเด็จเจ้าพระยาฯ ได้ครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 1 ท่านจึงได้เข้าทำราชการด้วยจนได้เป็นเจ้าพระยามหาเสนาเหมือนบิดา ท่านผู้นี้เป็นต้นสกุลบุนนาค
วงศาคณาญาติฝ่ายหลวงยกกระบัตร (ทองด้วง) ได้เข้าทำราชการหลายคน รวมทั้งพ่อทองอิน บุตรชายของคุณสา พี่สาวของหลวงยกกระบัตร ต่อมาพ่อทองอินได้เป็นพระยาสุริยอภัย เจ้าเมืองโคราช เมื่อรัชกาลที่ 1 ผู้เป็นน้าได้ครองราชย์แล้ว ท่านได้เป็นกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข วังหลัง ซึ่งเป็นวังหลังพระองค์เดียวในสมัยกรุงเทพฯ
พระเจ้าตากทรงเริ่มนำทัพไปปราบก๊กต่าง ๆ ที่ตั้งตนเป็นใหญ่ตั้งแต่ปีแรก เริ่มจากก๊กเจ้าพิมายจับได้กรมหมื่นเทพพิพิธ ครั้งแรกจะทรงเว้นชีวิตไว้และให้มาช่วยกันทำราชการ แต่กรมหมื่นเทพพิพิธเห็นว่าตนเป็นลูกพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศจึง จมไม่ลง กลับกระด้างกระเดื่องจึงให้นำไปสำเร็จโทษเสีย พระราชวรินทร์ (ทองด้วง) ทำสงครามได้ชัยชนะในครั้งนี้นี่เองจึงได้เป็นพระยาอภัยรณฤทธิ์ จางวางพระตำรวจ
หลังจากนั้นเสด็จลงเรือไปปราบก๊กเจ้าพระยานครศรีธรรมราชจนจับตัวเจ้าเมืองได้ ขุนนางจะให้ประหารแต่ตรัสว่ายามบ้านแตกเมืองเสียทุกคนก็หมายตั้งตัวเป็นใหญ่ทั้งนั้น เจ้านครกับพระองค์ก็ไม่ได้เป็นเจ้าเป็นข้ากันมาก่อน จะเอาผิดฐานอะไรก็ยาก เมื่อยอมอ่อนน้อมโดยดีก็ให้ไปทำราชการในกรุงธนบุรีแล้วยังเสด็จลงไปจัดการหัวเมือง เช่น สงขลา พัทลุง ปัตตานีจนเรียบร้อย
ศึกต่อมาคือการปราบก๊กเจ้าพระยาพิษณุโลกและก๊กเจ้าพระฝางจนราบคาบ ได้ผู้คนเข้ามาอยู่ใต้พระบารมีหลายหมื่นคน ต่อมายังได้ยกทัพไปปราบเขมร ลาว ทรงตีได้เชียงใหม่จากพม่าจนรวบรวมอาณาจักรล้านนาคือ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน กลับมาอยู่ในพระราชอาณาเขตธนบุรีสำเร็จ
เมื่อวันเวลาผ่านไปพอจะทรงมีเวลาว่างเว้นจากการรบบ้างก็ทรงหันมาทำเรื่องเศรษฐกิจ เช่น การค้าครั่ง การขุดคูคลอง และเรื่องศิลปวัฒนธรรมอันแสดงความรุ่งเรืองของบ้านเมือง เช่น โปรดฯ ให้ซ่อมวัดต่าง ๆ ทรงเสาะหาช่างฝีมือมาทำข้าวของเครื่องใช้และยังมีเวลาทรงพระราชนิพนธ์หนังสือดี ๆ หลายเล่มหรือมิฉะนั้นก็ส่งเสริมกวีหลายคน เข้าใจกันว่าพระองค์เองจะทรงพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ ตอนพระมงกุฎประลองศร ตอนหนุมานเกี้ยวนางวาริน ตอนท้าวมาลีวราชว่าความ และตอนทศกัณฐ์ตั้งพิธีทรายกรด สำนวนนี้ว่ากันว่าเป็นพระราชนิพนธ์
เมื่อนั้น พระทรงจตุศีลยักษา
ครั้นเห็นนวลนางสีดา เสน่หาปราบปลื้มหฤทัย
อั้นอัดกำหนัดในนาง พลางกำเริบราคร้อนพิสมัย
พิศเพ่งเล็งแลทรามวัย มิได้ที่จะขาดวางตา
ชิชะโอ้ว่าสีดาเอ๋ย มางามกระไรเลยเลิศเลขา
ถึงนางสิบสองห้องฟ้า จะเปรียบสีดาได้ก็ไม่มี
และแล้วก็มาถึงเรื่องที่ทรงหันหน้าเข้าวัดเข้าศาสนา คงจะเป็นว่าชีวิตนักรบที่ผกโผนอยู่บนหลังม้าไล่ฆ่าฟันผู้คนมานานต่อให้เป็นศัตรูก็เถิด วันหนึ่งย่อมรู้สึกเกรงในบาปบุญคุณโทษอยู่เหมือนกัน หนทางจะระงับดับความรู้สึกนั้นคือการใช้ศาสนาเข้าช่วย เช่น กรณีของพระเจ้าอโศกมหาราช ผมเองก็เคยพบครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่ที่เป็นขุนศาลตุลาการหลายคน ท่านบอกว่าแม้การตัดสินลงโทษจำคุกหรือประหารชีวิตคนจะถือว่าเป็นหน้าที่ และเราทำไปโดยสุจริตตามกฎหมาย เราไม่ได้ก่อกรรมแต่เป็นผู้ชี้กรรมเขา กระนั้นก็อดตะขิดตะขวงใจบ้างไม่ได้ว่าจะผิดพลาดหนักเบาไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้จึงต้องอาศัยทางพระทางเจ้าเข้าช่วย ใจจะได้สบาย
พระเจ้าตากทรงหันไปเรียนวิปัสสนา ส่วนใหญ่ก็ที่สำนักวัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆัง) วัดนาค วัดกลาง (บัดนี้รวมกันเป็นวัดนาคกลาง) วัดบางยี่เรือใต้ (วัดอินทาราม) วัดหงส์ (วัดหงส์รัตนาราม) ราชการงานเมืองทั่วไปก็โปรดฯ ให้เจ้านายขุนนางดูแลกันเอง ตรงนี้แหละที่พงศาวดารและหนังสือหลายเล่มบรรยายว่าทรงหมกมุ่นเกินไป หรือบางทีครูบาอาจารย์ที่บอกกรรมฐานอาจพาเข้ารกเข้าพงไปด้วยก็ได้ จนทรงคิดว่าได้บรรลุธรรมอันวิเศษ ทำท่าจะศักดิ์สิทธิ์เหาะได้ คงเหมือนหลายสำนักในเวลานี้ที่พาถอดจิตไปเฝ้าพระอินทร์ ไปไหว้พระธาตุจุฬามณี ขึ้นสวรรค์ลงนรก ข้ามภพข้ามชาติอะไรทำนองนั้น
บางเล่มก็กล่าวว่าระยะหลังพระอารมณ์ชักจะแปรปรวนหงุดหงิดง่าย เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ และทรงพระพิโรธลงโทษคนได้ง่าย ๆ ทั้งที่ไม่ใช่พระอารมณ์ดังนี้มาแต่เดิม
ตัวอย่างที่มักยกขึ้นกล่าวในพงศาวดาร จดหมายเหตุและหนังสือต่าง ๆ เช่น ทรงกริ้วว่าเงินทองที่ทรงเก็บไว้สูญหายไป เข้าพระทัยว่าเจ้าจอมคนโปรดจะเม้มไว้จึงให้ประหาร เสร็จแล้วมาพบภายหลังว่าทรงเก็บไว้ในหีบที่ซ้อนกันแล้วทรงลืมเสีย ทรงให้โบยสตรีมีบรรดาศักดิ์หลายคนในวังรวมทั้งคุณสา พี่สาวสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ต่อมารัชกาลที่ 1 สถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอพระองค์ใหญ่) ทรงชุบเลี้ยงหญิงชาวบ้านร้านตลาดเป็นเจ้าจอมทำราชการซึ่งถือว่าผิดธรรมเนียม โปรดฯ ให้เชิญเจ้ามาประทับทรงพระองค์ มีพระราชสาส์นไปขอธิดาพระเจ้ากรุงจีน ที่ถือว่าแหวกแนวไปมาก เช่น โปรดฯ ให้นิมนต์สมเด็จพระสังฆราช และพระราชาคณะผู้ใหญ่มาถามว่าถ้าฆราวาสบรรลุธรรมชั้นโสดาบัน พระภิกษุธรรมดาจะต้องไหว้ไหม คำถามนี้เล่นเอาพระแบ่งกันเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกตอบว่าต้องไหว้เพราะพระเองยังไม่บรรลุ อีกฝ่ายตอบว่าไม่ต้องเพราะถึงอย่างไรพระก็มีศีล 227 ข้อ ทรงกริ้วพวกหลังมากจับสึกหมดแล้วส่งไปทำงานหนัก
เรื่องพวกนี้จะจริงหรือไม่ก็ตาม แต่น่าจะมีมูลอยู่บ้าง เพียงแต่จะสรุปว่าทรงวิกลจริตหรือ บ้า นั้นไม่น่าจะถึงขนาดนั้น คงแค่ แปลก ๆ อยู่ พงศาวดารบางเล่มจึงใช้คำว่า จริตวิกล ซึ่งก็คงเป็นพัก ๆ เพราะพงศาวดารเองก็กล่าวว่าบางครั้งยังทรงออกว่าราชการได้ตามปกติ เช่น คราวจะส่งคณะทูตไปเมืองจีน เป็นต้น
แต่ที่แน่ ๆ คือพระอาการและพระอารมณ์เช่นนี้ย่อมเป็นจุดอ่อนเปิดทางให้พวกฉวยโอกาสซึ่งมีอยู่ทุกสมัยเข้าแสวงหาประโยชน์ กดขี่ข่มเหงราษฎรบ้าง อ้างพระราชดำรัสตรัสสั่งบ้าง ขุนนางหลายคนกอบโกยหาผลประโยชน์ใส่ตน เช่นที่อยุธยามีการเก็บภาษีพวกลูกหลานที่กลับไปขุดหาทรัพย์ที่บรรพบุรุษฝังไว้ เมื่อในวังอ่อนแอก็เท่ากับว่ารัฐบาลอ่อนแอ ข้าราชการเข้าเกียร์ว่าง แล้วพวกนี้เองที่
ไปรีดไถประชาชน แอบอ้าง ข้างบน ขนาดเจ้าหน้าที่เก็บภาษียังไปเอาพระที่เป็นพรรคพวกกันมาทั้งผ้าเหลืองช่วยเก็บค่าต๋งแบ่งกัน
ในที่สุดสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีก็ทรงเป็นจำเลยของสังคมพูดตามภาษาการเมืองสมัยนี้ก็คือเกิดวิกฤติศรัทธา โดยสรุปคือทรงมีจุดอ่อนสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ ในด้านการรบแม้ทรงมีทีมงานที่เก่งกล้าอยู่หลายคน กล้าเป็นกล้าตายทั้งนั้น แต่พอศึกสงบจะหาคนที่ช่วยดูแลการปกครองให้เรียบร้อยยากเต็มที สมเด็จเจ้าพระยาฯ และน้องชายก็ถูกใช้ให้ไปรบที่โน่นที่นี่ไม่หยุดหย่อน พระเจ้าตากเองก็มีพระราชโอรสน้อยพระองค์ ไม่พอจะช่วยราชการ ที่พอมีก็โตไม่ทันใช้ พระญาติพระวงศ์ที่เป็นผู้ใหญ่ก็ไม่มี การมีลูกน้อยน้องน้อยบริวารน้อยมีข้อเสียอย่างนี้เอง
อีกเรื่องคือแม้จะทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่ความรู้สึกของพวกขุนนางเก่า ผู้ดีเก่าที่ว่าทรงเป็นสามัญชนมาก่อน ไม่รู้ขนบธรรมเนียมประเพณี ทั้งยังมีเชื้อสายจีนเสียอีกจึงทำให้ขุนนางบางส่วนไม่ สนิทใจ เท่าไรนักพอมาทรงเข้าวัดคร่ำเคร่งทำวิปัสสนา แล้วมีแต่ภาพลักษณ์ด้านลบออกมาจึงทำให้ขาดความศรัทธาวางใจได้
เรื่องอย่างนี้เรียกว่าเป็น ปัญหาการเมืองภายใน ไม่ได้มาจากข้าศึกศัตรูที่ไหนทั้งนั้น.
วิษณุ เครืองาม
wis.k@hotmail.com
credit :
dailynews
Create Date : 03 มกราคม 2555
Last Update : 17 มกราคม 2555 2:55:57 น.
0 comments
Counter : 2155 Pageviews.
Share
Tweet
Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [
?
]
"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557