เมื่อเช้านี้ ฉันมีความรู้สึกหลายอย่างผสมปนเปกัน ไม่เข้าใจ งงงวย ไม่ชอบ โกรธแทน น้อยใจแทน และแน่นอน...มันง่วง!(ถึงได้ปิดคอมฯ แล้วไปนอนได้ซะที) ในใจก็เฝ้าคิดแต่ว่า ทำไมพวกเขาถึงคิดกันแบบนี้นะ? อึดอัดอย่างแรงเลยละเมื่อเช้า ดีที่มันง่วงมาก เลยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้...
พอตื่นขึ้นมา ความรู้สึกไม่เข้าใจนั้นยังคงอยู่ครบ แต่ความไม่ชอบ ความโกรธ ความน้อยใจ มันค่อยๆหายไปแล้ว ดีหน่อยที่การนอนให้อิ่มมันทำให้มีสติขึ้นมาบ้าง ตอนนี้รู้สึกดีที่ไม่ได้เขียนเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อเช้า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น มวลความรู้สึก ถ้อยคำต่างๆ อาจจะรุนแรง โผงผาง จากอารมณ์ดิบๆที่ไม่ได้ผ่านการคิดกรองในตอนนั้น และอาจสร้างความไม่พอใจให้หลายๆคน(ที่เข้ามาอ่าน)มากมายกว่านี้เป็นแน่
เอนทรีนี้อาจจะเหมือนพูดเข้าข้างศิลปินที่ตัวเองชอบ แต่แค่อยากเขียนในสิ่งที่คนๆหนึ่งอย่างฉัน มองไปเห็นคนอีกคนหนึ่ง(และอีกหลายๆคนในฐานะเช่นเขา) ถูกกระทำอย่างไม่ยุติธรรม ก็เท่านั้น การวิพากษ์วิจารณ์ศิลปิน ไม่ได้มีอยู่แค่เรื่อง ผลงานและความสามารถของศิลปิน อย่างที่ควรจะเป็น แต่กลายเป็นเรื่องทุกเรื่อง ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องธรรมชาติของคนที่เขาก็มีได้ คนธรรมดาอย่างเราก็มีได้ แต่เขาก็ยังถูกคนบางกลุ่มด่า ถูกวิจารณ์ให้เสียหาย ทั้งๆที่คนเหล่านั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนได้เสียอะไรกับเขาในส่วนนี้เลย
เมื่อเช้านี้ ขณะที่ฉันเพิ่งเริ่มจะง่วง เปิดเว็บไซท์ Google เพื่อหาข่าวความเคลื่อนไหวของคอนเสิร์ตศิลปินคนหนึ่งที่มีข่าวแว่วๆว่าจะจัดในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ที่จะถึงนี้
การติดตามผลงานของศิลปินคนนี้ในช่วงนี้ ข่าวใหม่เกี่ยวกับเขาไม่ค่อยมี รู้สึกเหมือนเขาจะเก็บตัวเงียบไม่เป็นข่าวเลย จึงได้แต่อ่านข่าวเก่าๆไปเรื่อยๆ เพื่อดูว่าเขานั้นได้เคยพูดเคยทำอะไรไว้บ้าง น่าแปลกที่ข่าวของเขามักจะมีแต่เรื่องที่เกี่ยวกับงาน คือ...เมื่ออกอัลบั้มใหม่ทีหรือจะมีคอนเสิร์ตทีจึงมีข่าวครึกโครมทีนึง มีการโปรโมตอย่างยิ่งใหญ่ให้กับงานของเขาผู้นี้เสมอ ในเรื่องส่วนตัวนั้น ขณะที่ดาราคนอื่นมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวมากมาย แต่เขาคนนี้กลับเงียบๆ ไม่เป็นข่าวในเรื่องนี้ซักเท่าใดนัก จะมีก็แต่เรื่องที่สื่อพยายามจะถามมาหลายปีตั้งแต่เขายังหนุ่มกว่านี้ว่าทำไมไม่แต่งงาน? อันนี้ไม่ทราบเหตุผลจริงๆหรอก เพราะเขาก็ตอบแต่ว่าไม่มีใคร ไม่มีก็ไม่มีสิ! ไม่แต่งงานก็ไม่ผิดอะไร มันแปลกตรงที่คนทั่วไปมักจะมีคู่ แต่ตัวเขาดูเหมือนไม่มี ก็เท่านั้น
คนบางกลุ่มก็พยายามยัดเยียดว่าเขาเป็นแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งฉันไม่เห็นความผิดปกติอันใดในการที่เขาจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ คุณภาพงานของเขาไม่ได้เกี่ยวข้องถึงสิ่งนั้นเลย จะเป็นหรือไม่เป็นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่คนก็ยังหยิบประเด็นนี้มาพูดมาวิจารณ์ไม่เคยหยุด เป็น...แล้วยังไงละ? ฉันไม่เข้าใจ เขาต่างจากเราๆตรงไหน? ถ้าเป็นจริงๆ...พวกคนที่ชอบด่าเขานักนั้นต้องการอะไร? ต้องการให้เขาออกมาประกาศกันไปเลยว่า ผมเป็น งั้นเหรอ? แล้วมันใช่ธุระของเขาที่ต้องทำแบบนั้นเหรอ? ไม่เข้าใจ
อีกประเด็นที่ชอบเอามาด่าเขาคือ...เรื่องอายุ ที่หลายคนชอบพูดว่าเขาไม่เจียมสังขาร ชอบทำตัวเหมือนเด็กวัยรุ่นแข่งรุ่นน้อง อืม...ฉันไม่รู้ว่าเขาเหล่านั้นต้องการให้ศิลปินคนนี้ทำตัวอย่างไร? เข้าวัดทำบุญเหรอ?(ฉันก็เห็นมีข่าวว่าเขาทำบุญบ่อยๆ เหมือนคนทั่วไป) อยู่บ้านเฉยๆ(เวลาไม่มีงานต้องโปรโมต เขาก็เงียบหาย ไม่มีปรากฎตัวตามที่ต่างๆ ไม่ไปห้างสรรพสินค้า ไม่ไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ ไม่ไปร้านอาหาร แล้วคุณคิดว่าเขาจะไปอยู่ไหน? เขาก็อยู่บ้านตามปกติอีกเหมือนกัน) หรือต้องการให้เขาทำตัวให้แก่ไปเลย แต่งตัวให้รู้ไปเลยว่าอายุมากแล้ว งั้นเหรอ? มันเป็นแพทเทิร์นใช่ไหมที่คนอายุมากขึ้นจะต้องทำตัวอะไร?ยังไง? แพทเทิร์นที่คิดกันไปเองว่าเหมาะว่าควร แต่ฉันก็ยังมองไม่เห็นว่าการที่เขาดูแลตัวเอง แต่งตัวทันสมัย และดูเด็กกว่าอายุจริงนั้น มันจะเป็นความเสียหายถึงขนาดต้องมาด่ากันได้อย่างไร? นอกจากความหมั่นไส้ อยากจะด่าของคนที่ไม่ชอบเขาเท่านั้น หรือต้องการให้เขาวางมือ วางไมค์ ออกไปจากวงการซะเลย บางคนว่า... หาทางลงไม่ได้ ไม่ยอมลงซะที อันนี้ก็ไม่มีเหตุผลอีก ว่าทำไมเขาจึงต้องวางมือ? ทำไมต้องยอมลง ก็นี่เป็นอาชีพเขา ถ้ามีใครไม่ชอบไม่อยากฟังไม่อยากดูเพราะเขาแก่...ก็ไม่ต้องอุดหนุนเขาสิ ก็เท่านั้นเอง แต่ทำไมต้องให้เขาเลิกงานนี้? มีเหตุผลอะไรนอกจากว่าอายุมาก? คนอายุมากจะเป็นนักร้องไม่ได้หรือ? คนอายุมากจะเต้นเพลงสนุกๆ ไม่ได้เหรอ? คนอายุมากจะจัดคอนเสิร์ตที่มีจุดขายที่ความสนุกสนาน ความเอนเตอร์เทน ไม่ได้เหรอ? คนอายุมากจะมีแฟนเพลงมากมาย ไม่ได้เหรอ? คำถามเหล่านี้มักจะไม่มีคำตอบจากคนที่ไม่ชอบศิลปินคนนี้และต้องการให้เขาออกไปจากวงการ
ข้ออ้างหลักๆที่ชอบนำมาใช้เวลาจะด่าเขา มักจะมีแต่ แก่ขนาดนี้แล้วยังไม่เจียม(จะให้เจียมอะไร? เจียมยังไง? แล้วทำไมต้องเจียมตัวแบบนั้น?....ไม่รู้) แก่ขนาดนี้ยังจะมาเต้นแร้งเต้นกา(จะให้ยื่นเฉยๆแล้วร้องแต่เพลงช้าหรืออย่างไร? ถ้าเช่นนั้นคอนเสิร์ตของเขาจะสนุกได้อย่างไร? คนดูจะลุกมาเต้นกับเพลงได้อย่างไรหากเขาไม่เต้นก่อน?) ข้ออ้างนี้...ดูเหมือนเป็นกรอบปิดตายว่าคนอายุมากต้องไม่มีแรง ไม่มีกำลัง ต้องร้องเพลงช้า ต้องยื่นเฉยๆ เท่านั้น ฉันว่าหากวันใดที่ศิลปินคนนี้เต้นไม่ได้แล้ว เขาก็คงจะไม่เต้นหรอกคะ แต่ในวันนี้เขายังมีกำลัง ยังมีแรงพอที่จะทำได้อยู่ และมันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร เพลงเขาสนุก เสียงเขาเพราะ เต้นตามเพลงเท่าที่สังขารเอื้ออำนวย ถึงแม้ว่าแรงจะลดน้อยลงบ้างตามอายุที่มากขึ้น มีการพักเบรกถี่ขึ้น แต่มันก็เป็นเรื่องปกติธรรมชาติ เหนื่อยช้า เหนื่อยน้อยอย่างสมัยก่อนก็พักช้า พักน้อยครั้ง หากอายุมากขึ้นแล้วเหนื่อยมาก เหนื่อยเร็ว ก็พักมาก พักถี่ เป็นเรื่องธรรมดา ใช่ว่าจะต้องเลิกเป็นนักร้องซะเมื่อไหร่ ตราบใดที่ศิลปินคนนั้นยังมีแฟนๆ มีผู้ติดตามผลงาน มีผู้ชื่นชอบเขาอยู่ เหตุใดจึงต้องเลิกเป็นละคะ? แต่หากวันหนึ่งที่เขาทำไม่ไหวอีกแล้ว ฉันมั่นใจว่าเขาก็ต้องเลิกแน่ๆ ไม่เห็นจะต้องเดือดร้อนด่าเขาแบบนั้นเลย
หากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องผลงาน ที่ศิลปินทำออกมาได้ดี หรือไม่ดี อย่างไร? เพราะอะไร? เรื่องความสามารถของศิลปิน จะไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ใครๆก็มีสิทธิจะออกความเห็นได้ แต่....การหยิบยกเรื่องส่วนตัว ปมด้อยในชีวิต มาว่ากล่าวให้คนๆหนึ่งเสียหาย มันควรทำเหรอ?
บางคนก็ว่า แก่จะตายอยู่แล้ว ยังไม่ยอมรับตัวเองอีก เอ้อ....ว่าไปได้ เขาทำอะไรให้คุณเห็นว่าเขาไม่ยอมรับว่าแก่คะ? ฉันเคยอ่านที่เขาให้สัมภาษณ์ว่า อายุมากขึ้น มันก็ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ออกกำลังสม่ำเสมอ เดี๋ยวนี้เช็คเลือดทุก 4 เดือน เพื่อให้รู้เลือดเราขาดอะไรบ้าง แบบนี้แล้วยังคิดว่าเขาไม่ยอมรับอายุตัวเองอีกเหรอคะ? เขารู้ตัวเองดีทั้งนั้นแหละ แต่ไม่รู้จริงๆ ว่าคนพวกนั้นต้องการให้เขาทำยังไง?
หรือจะเพราะเขายังคงเป็นอันดับหนึ่งในใจหลายๆคน ซึ่งต่างก็ยกให้เขาเป็นที่สุด ในขณะที่นักร้อง ศิลปินหน้าใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย ต่างมีแฟนคลับของตัวเอง งานอดิเรกของนักข่าวบันเทิงและคนบางคนคือการเปรียบเทียบศิลปินคนหนึ่งกับอีกคนหนึ่ง ว่าเทียบกันได้ไหม? ว่าเพลงใครเพราะกว่า ใครมีความสามารถมากกว่า? ใครหล่อกว่า? ใครดีกว่า? แนวเพลงคล้ายกันแบบนี้คิดจะมาเทียบชั้นใช่ไหม? จะมาโค่นบัลลังค์เหรอ? อะไรก็ว่าไป ตลกมากที่ตัวศิลปินแทบจะไม่รู้เรื่อง ศิลปินบางคนเห็นศิลปินรุ่นพี่เป็นไอดอล เป็นแรงบันดาลใจ บางคนรู้จักกันสนิทกัน แต่แฟนคลับแต่ละฝ่ายด่ากันซะละ ต่างแย่งชิงความเป็นที่หนึ่งให้ศิลปินที่ตัวเองชอบ ต่างฝ่ายต่างเกลียดศิลปินของฝ่ายตรงข้าม(เป็นแค่แฟนๆบางคนนะ) คิดหาเรื่องไม่ดี จริงบ้างไม่จริงบ้างมาด่า สุดท้าย...ความซวยตกที่ศิลปิน เพราะแฟนคลับที่ว่าเก่งๆ ปากดีๆในอินเตอร์เน็ตนั้นไม่เคยได้เห็นหน้ากันเลย ศิลปินก็เลยซวยไป มีคนเกลียดเพิ่มมากขึ้น โดยไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างศิลปินคนนี้ โดนตลอดว่า หมดยุคแล้ว ไปได้แล้ว(หมดยุคยังไง? เพลงเขาก็ดังอยู่โต่งๆ มีคอนเสิร์ตบัตรก็เต็มทุกรอบ ไปไหนมาไหนคนยังตามไปกรี๊ด ตามไปขอกอด ขอแค่เห็นก็เอา) ไปซะเถอะ ให้โอกาสนักร้องใหม่ๆได้เกิดบ้าง(เออนะ....ใครจะเกิดจะตายจากวงการนี้ มันขึ้นกับเขาซะเมื่อไหร่ คนจะมาเป็นนักร้องมันก็ต้องมีความสามารถเข้ามา ก็ดังๆกันมีเยอะแยะ เกี่ยวอะไรกับเขา?) ไม่มีใครเขาอยากฟังเสียงคร่ำครวญจากชายชราหรอกครับ( ว้าว....คิดคำได้สวยมาก เสียงคร่ำครวญจากชายชรา ถ้ามันเป็นเพียงเสียงคร่ำครวญ เพลงจะมีคนชอบทั่วบ้านทั่วเมืองเหรอคะ? คร่ำครวญอย่างไรก็ไม่บอกมา คนอื่นเขาก็มีหูมีหัว ฟังได้คิดเป็นอย่างคุณเหมือนกันคะ ถึงจะชอบศิลปินแค่ไหน แต่ถ้าเพลงมันห่วยจริง ก็คงไม่ชอบกันขนาดนี้หรอก) ไปๆซะ อย่ามาตอแหลขายซีดีให้ประชาชนเลย (เขาแค่ร้องเพลงเพราะและโดนใจคนซื้อซีดี เขาผิดอะไรเนี่ย? เขาบังคับใครให้มาซื้อของๆเขาได้เหรอ?)
เคยเห็นแฟนเพลงของเอสวิส เพลสลีย์ มารวมตัวกันในวันครบรอบที่เอลวิสตาย จัดเป็นคอนเสิร์ตคนรักเอลวิส มีแต่รุ่น 60-70 ทั้งนั้น ออกมาร้องเพลงเอลวิส เต้นเพลงเอลวิสกันสนุกสนาน ออกสเตปเท่าที่ออกได้ เขาก็มีความสุขกันนะ ไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งฟังเพลงเอลวิสเฉยๆเลย ก็เต้นๆไปเท่าที่เต้นได้ มีแฟนๆไปดูเพียงบางกลุ่มที่รักเอลวิสและชอบพอกันกับผู้แสดง ไม่ยักกะถูกด่า แต่พอเป็นเขาเท่านั้นแหละ ต้องออกมาด่าทันทีว่า ไม่เจียม ทั้งๆที่คนด่าไม่ได้เสียเงินซื้อบัตรคอนเสิร์ตหรือเสียเงินอุดหนุนเขาด้วยซ้ำ หากไม่ชอบก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนดู ไม่เห็นต้องเดือดร้อนด่า แต่ทำไม่ได้...ก็ไม่ชอบ ก็จะด่า จะทำไม? เท่านั้นจริงๆ
คงเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ ที่ทำให้ศิลปินส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะอ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสารดารา หรือใช้อินเตอร์เน็ต มากนัก เพราะดูแล้วมันก็เสียใจ เสียความรู้สึก ไม่สบายใจ ก็โดนด่าอีกแหละว่าไม่ตามข่าวสาร โง่เป็นเต่า
เรื่องเหล่านี้ยังไม่มากเท่าไหร่ เพราะถือเป็นปกติธรรมเนียมที่ศิลปินจะมีคนรัก และมีคนเกลียด แม้ศิลปินคนนั้นจะพูดดีเลิศเท่าใดก็ตาม ประพฤติตัวประเสริฐแค่ไหน มันก็ไม่เคยดีพอในสายตาของคนที่ตั้งแง่ว่าไม่ชอบ มักจะมีข้ออ้างอื่นที่ยกมาได้เสมอไม่มีวันหมด โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว สิ่งเดียวที่ศิลปินและผู้ที่ชื่นชอบเขาจะทำได้ ก็คือ...ทำใจ
ในที่นี้ไม่ได้พูดถึงการวิพากษ์วิจารณ์ผลงานต่างๆ และความสามารถของศิลปิน เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆจะมีสิทธิวิจารณ์งานใดงานหนึ่งได้ ชอบ หรือ ไม่ชอบ ผลงานใด มันก็เรื่องปกติ
แต่....บางครั้งมันก็เกินจะทนไหว กับพฤติกรรมบางอย่างของคนบางกลุ่ม ที่ไม่ใช่เพียง ไม่ชอบ แต่พยายามจะ ทำลาย ศิลปินคนนี้ เขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แต่ต้องรับมือกับพลังความเกลียดที่มาจากไหนบ้างไม่รู้ เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวกับผลงานของเขาแต่อย่างใด แต่มีเหตุผลเพราะความที่เขาเป็น คนโด่งดัง เท่านั้น และบางทีก็ถูกนำไปเกี่ยวโยงกับการเคลื่อนไหวบางอย่าง เพื่อให้ผู้ที่รักศิลปินคนนี้มาเห็นด้วยกับฝ่ายตน โดยการใช้ความนิ่งเฉยของศิลปิน การที่ศิลปินไม่แสดงตนชัดเจนว่าอยู่ข้างคนพวกนั้น มาเป็นข้อเสีย มาเป็นความชั่วอันร้ายแรงของศิลปิน หากใครคล้อยตาม ก็จะกลายเป็น ผู้ฉลาด ผู้เห็นทางสว่าง และหากใครไม่เชื่อ ไม่เห็นด้วยดังนั้น ก็จะเป็น คนโง่ คนงมงายไม่ลืมหูลืมตา แทน ลองคิดในแง่ที่ว่าศิลปินคนนั้นเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้มีคนชื่นชอบ ก็คงจะไม่ถูกกระทำมากมายอย่างนี้ แล้วมันเป็นธรรมกับคนๆหนึ่งแล้วหรือ? ที่จะต้องมาได้รับความเกลียดชัง ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันรู้สึกงง ไม่เข้าใจ โกรธแทน น้อยใจแทนเขาคนนั้นอย่างมาก เมื่อได้อ่านกระทู้หนึ่งจากเว็บบอร์ดของช่องโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์แห่งอุดมการณ์แห่งหนึ่ง
บางคนถึงขนาดโจมตีเขาว่าสร้างภาพเป็นคนดีโกหกประชาชน เป็นเพียงมายาของศิลปินคนนั้น ตอแหลออกสื่อ ให้สัมภาษณ์และพูดในที่สาธารณะตามสคริปที่ค่ายเพลงจัดให้ บอกรักแฟนคลับบ่อยครั้งเพราะเป็นแผนการตลาดที่จงใจทำเพื่อให้คนมาซื้อซีดี ข้อกล่าวหาเหล่านี้ อาจจะจริงที่มีการวางแผนจากทางค่ายเพลงของศิลปิน ว่าศิลปินควรจะวางตัว ควรจะพูด ควรจะทำอย่างไร? มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอคะ...ที่บริษัทเจ้าของค่ายเพลงจะต้องทำแบบนั้นให้ศิลปินทุกคนในสังกัด? คนเรามาจากร้อยพ่อพันแม่ นิสัยใจคอ การใช้ชีวิตต่างกัน อาจดีบ้างเลวบ้างธรรมดา เมื่อมีความสามารถและก้าวเข้ามาเป็นศิลปินของค่ายใด เขาจะต้องมั่นใจได้ว่าศิลปินคนนั้นมีคุณลักษณะที่ดีพอจะออกสื่อและโปรโมตผลงาน สิ่งใดพูดออกมาแล้วจะเป็นการเสียหายต่อตัวศิลปินและสังกัดค่าย...มันก็ต้องป้องกันไม่ให้เกิด ดังนั้นการเขียนสคริปให้ศิลปินในค่ายจึงเป็นเรื่องพื้นฐานที่ใครๆก็ทำกัน พอศิลปินพูดตามสคริปก็กลายเป็น คนโง่เง่า คนไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ดูไม่ฉลาด ฉันสงสัยว่า...คนเรามันฉลาดกว่ากันไปได้มากขนาดไหนเชียวนะ? ความคิด ที่คุณว่าเขาไม่มีนั้น ในเมื่อเขาพูดตามสคริป และคุณไม่ใช่เพื่อน พี่น้อง คนรู้จักกับเขา คุณรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่มี? การเลือกที่จะทำตามสัญญากับค่ายเพลงเป็นเรื่องการทำงานของเขา เป็นอาชีพ เป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำเช่นนั้น
เห็นหลายคนแสดงความเห็นในทำนองว่า...อยากให้ออกมาพูดความจริง อย่ามาตอแหล...พูดความจริงซะ คนขี้ขลาด...ไม่กล้าพูดความจริง แล้วความจริงที่ว่า...ความจริงอะไร?
ไหนว่ามันมายาเหลือเกิน แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่ามันใช่เรื่องจริงที่คุณอยากได้ และรู้เหรอว่าเรื่องใดเรื่องใดเป็นสคริป? เดากันไปเองทั้งนั้น ฉะนั้นถ้าไม่ชอบการพูดของเขา เพราะว่ามาจากสคริป หรือดูเตรียมตัวมาพูด ดูไม่จริงใจ ก็ไม่ต้องไปฟัง สนใจที่ผลงานของศิลปิน จะดีกว่ามาก
สำหรับฉัน ศิลปินคนนั้นจะมีสคริปหรือไม่? สร้างภาพ มายาหรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าสิ่งที่แสดงออกมาเป็นสิ่งที่ดี ตั้งใจทำงาน มีผลงานที่ถูกใจฉัน และแสดงออกต่อผู้ที่รักเขา ชื่นชมเขา อย่างเป็นมิตรและดีเสมอมา แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ฉันรักศิลปินคนนั้น
ตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่วงการมา ฉันก็ไม่เห็นว่าเขาจะได้ทำอะไรที่มันเสียหาย เลวร้าย ภาพที่เห็นคือ
คนกตัญญู รู้คุณคน ทั้งต่อบุพการี ที่เห็นเขามักจะแสดงความรักความผูกพันให้เห็นอยู่บ่อยครั้งเมื่อตอนท่านยังอยู่ และมักจะกล่าวถึงด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมถ้อยคำที่แสดงถึงความรักความคิดถึงเสมอแม้ท่านจะลาโลกไปนานแล้ว ต่อผู้มีพระคุณที่พาเขาเข้าวงการ เขามักจะพูดขอบคุณและระลึกถึงบุญคุญเสมอเช่นกัน ต่อค่ายเพลงที่เป็นสังกัดให้เขาตั้งแต่ตอนออกอัลบั้มแรกๆจนมาดังสุดๆในปัจจุบัน ต่อแฟนเพลงที่สนับสนุนเขา เมื่อมีรายการไปถ่ายทำบ้านที่เขาอยู่ เขายังเอ่ยขอบคุณแฟนๆที่รักและอุดหนุนเขาเสมอมาจะจนกระทั่งเขามีทุกวันนี้ และที่สำคัญ เขามักจะพูดถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงและพระราชวงศ์ที่ทรงเมตตากรุณาเขา ความโชคดีที่ได้เกิดเป็นพสกนิกรของพระองค์
มีความรักทั้งต่อครอบครัว ที่เขาเอาเงินที่มีสร้างบ้านหลังใหญ่ให้พี่น้องลูกหลานอยู่ ต่อคนรอบข้าง ทั้งผู้จัดการคนสนิทที่เขามักจะยกความชอบทุกอย่างให้ ต่อแฟนเพลง ที่แม้จะรบกวนเวลาส่วนตัวของเขามากขนาดไปเดินห้างฯไม่ได้ แต่เมื่อใดที่แฟนเพลงเจอเขาและขอคุย ขอกอด ขอถ่ายรูป ขอลายเซ็น เขาก็ไม่เคยแสดงท่าทีรังเกียจ ไม่เป็นมิตร หรือพูดว่าให้เสียน้ำใจแต่อย่างใด
ความตั้งใจในการทำงาน ที่แม้ว่าหลายคนจะยกเขาเป็นซุปเปอร์สตาร์ แต่ไม่ว่ากี่งานๆก็เห็นเขาตั้งใจทำ ร่วมงานกับใครก็ไม่เคยมีปัญหา(เท่าที่ทราบ) มีแต่ความประทับใจของคนที่เคยทำงานด้วย ความไม่ถือตัว ให้ความสำคัญกับงานทุกงานไม่ว่าจะรับจ้างเขาเล่นหนัง เล่นละคร สมัยก่อน หรืองานที่ค่ายเพลงให้ทำ รางวัลไหนที่เรียกให้ไปรับก็ไป บางรางวัลคนยังหาว่าซื้อเอาทั้งๆที่เขาได้มาจนไม่รู้จะไปเก็บยังไงแล้ว รางวัลของนิตยสารเล็กๆก็ไปรับให้ ซึ่งความจริงไม่ไปก็ไม่มีใครว่า บางทีมันก็ต้องเหนื่อยหน่ายบ้างด้วยสิ่งที่ต้องทำมันมากมายและอายุก็มากขึ้น แต่ภาพที่เห็นกลับเป็นรอยยิ้มของเขา ท่าทางตลกโปกฮาที่หาไม่ค่อยได้จากศิลปินหล่อๆสวยๆทั้งหลาย จนมีคนหาว่าแอ๊บแบ๊ว
เมื่อมีข่าวไม่ดีข่าวลือเสียหายเข้ามาก็คอยรับมือด้วยความสงบ ตอบคำถามนักข่าวง่ายๆ ตลกๆ ทั้งๆที่บางคำถามมันค่อนข้างละเอียดอ่อน กระทบจิตใจได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่เคยเห็นจะมาทำหน้าเบื่อ เหวี่ยง ด่านักข่าวกลับ
สิ่งเหล่านี้ก็เห็นมาโดยตลอดที่เขาคนนี้อยู่ในวงการ
และหากนี่เป็นเพียง สคริป หรือ การสร้างภาพ มาตลอดยี่สิบกว่าปีในวงการของเขา มันก็เป็น สคริปที่ดีเยี่ยม เป็น การสร้างภาพที่ทุกคนควรจะมาสร้างกันบ้าง สร้างให้ภาพมันอยู่กับตัวเองตลอดเหมือนครึ่งชีวิตที่เขาผ่านมา ภาพดีๆที่คนอื่นจับผิดความร้ายกาจ(ถ้ามี)ไม่ได้ และฉันก็ยินดีจะชื่นชมศิลปินมีภาพผู้นี้ต่อไป ตราบเท่าที่ ภาพ ของยังคงดีมากอยู่อย่างนี้
อย่างน้อยมันก็ดีกว่าการแสดงตัวตนจริงๆที่ชั่วช้าเลวทราม หรือออกมา แรง โดยไม่มีเหตุผล ด่าคนนี้ชั่ว คนนั้นเลว คนนี้โง่ที่ไม่คิดแบบตัวเอง แล้วบอกทุกคนว่า ฉันเป็นของฉันแบบนี้ ฉันเป็นตัวของตัวเอง ฉันมีความคิด ฉันเท่านั้นคือความจริง
และสุดท้าย...โยงได้แม้กระทั่ง เรื่อง การเมือง
การที่เขานิ่งเงียบไม่เคยพูดถึงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่กำลังเล่นกีฬาสีกันในขณะนี้ กลับกลายเป็นของเล่นอย่างดีให้คนบางคนเอาไปลือไปเล่าง่ายๆ ในสภาวะที่ต่างฝ่ายต่างพร้อมจะเชื่อฝ่ายตัวเองโดยสนิทใจ แม้ไม่มีหลักฐานใดๆแต่หากเป็นฝ่ายตนแล้ว ก็จะเชื่อ อย่างในปัจจุบัน เมื่อมีข่าวลือว่า ศิลปินขวัญใจคนเกือบทั่วประเทศไปแจกน้ำให้ฝ่ายหนึ่ง ข่าวนี้กลับขยายครึกโครมอย่างรวดเร็ว แม้ศิลปินเองจะออกมาพูดแล้วว่าช่วงเวลานั้นเขาทำอะไรอยู่ที่ไหน แต่ก็มีคนลือต่อไปไม่หยุด แถมยกเอาเรื่องที่เขาสร้างภาพตอแหล ร้องลิปซิงค์ อะไรทั้งหมดทั้งมวลมารวมกันมั่วซั่วกลายเป็นความชั่วร้ายแรงอีกรอบ ดีที่ว่ามันค่อยๆซาไปเพราะไม่หลักฐานใดๆทั้งสิ้นจะมาใส่ความเขาได้
ในภาวะที่สงครามการเมืองบ้านเรากำลังรุนแรง มีคนบางกลุ่มได้กระทำการลามปามถึงพระเจ้าอยู่หัว มีนักแสดงคนหนึ่งขึ้นประกาศความจงรักภักดีต่อในหลวงและกล่าวไล่ผู้ต่อต้านพระองค์ให้ออกไปจากประเทศในงานประกาศรางวัล วันนั้นฉันร้องไห้เหมือนกัน นักแสดงคนนั้นพูดได้อย่างที่ใจฉันคิด เขากล้าหาญที่ขึ้นไปพูดในรายการที่ออกอากาศสดอย่างนั้น ฉันชื่นชมเขา แต่อีกใจกลับอดห่วงไม่ได้ว่านี่จะเป็นการเติมเชื้อไฟในใจฝ่ายตรงข้ามเข้าไปอีกรึเปล่า? เพราะน่าจะมีคนดูอยู่มาก แล้วก็เป็นไปตามคาด กระแสในอินเตอร์เนตคืนนั้นและวันรุ่งขึ้นรุนแรงมาก มีการพุ่งเป้าด่าทอนักแสดงคนนั้น ด่าผู้จัดงานประกาศรางวัล เกินเลยไปถึงพระองค์ท่านอีกจนได้ กลายเป็นดาบสองคมที่บาดทั้งฝ่ายเขาให้เจ็บใจ จนวกกลับมาบาดฝ่ายเราได้อีก นักแสดงคนนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นฮีโร่เพราะคำพูดคืนนั้น จนกลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับคนบางกลุ่มที่ว่า นักร้อง นักแสดง บุคคลสาธารณะ จะต้องออกมาแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงแบบนักแสดงคนนั้น ใครทำจะกลายเป็นผู้กล้า หากไม่ทำ...ก็จะกลายเป็นคนดีแต่ปาก ขี้ขลาด เป้าหมายแรกจึงพุ่งไปหาศิลปินที่ทุกคนมองว่าเขาเป็นซุปเปอร์สตาร์ของประเทศไทยเป็นอันดับแรก
แม้ว่าเขาจะทำงานตัวเองไปตามปกติ คือร้องเพลง แสดงคอนเสิร์ต ให้ความบันเทิง พอเมื่อถึงวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา ศิลปินคนนี้ก็มักได้รับโอกาสให้ร้องบทเพลงต่างๆที่ประพันธ์เพื่อถวายพระพรพระเจ้าอยู่หัว บทเพลงแล้วบทเพลงเล่าที่ถูกแต่งเพื่อในหลวง ส่วนใหญ่เขาผู้นี้จะได้รับเลือกให้ร้อง เมื่อถึงโอกาสสำคัญใดๆ มักจะมีศิลปินคนนี้มาพูดเทิดพระเกียรติเสมอ แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่วายโดนเขียนด่าอีกว่าไม่ลุกขึ้นมาพูดแบบนักแสดงคนนั้น เขาถูกคนบางกลุ่มด่าว่า ขี้ขลาด ไม่รักในหลวงอย่างปากว่า ไม่ปกป้องพระองค์ท่าน ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงมีคนคิดกันได้แบบนี้? สงสัย ไม่เข้าใจมาตั้งแต่เมื่อเช้า คนเรามันมีทางเลือกสำหรับตัวเองเสมอ การกระทำแบบนักแสดงคนนั้นอาจเป็นสิ่งที่กล้าหาญ น่าชื่นชม ซึ่งฉันเห็นด้วยอย่างมาก แต่จะเป็นสิ่งที่น่าเอาเยี่ยงอย่างหรือไม่? ฉันไม่แน่ใจ มันอาจจะเป็นการพูดเพื่อปลุกจิตใจคนที่รักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ฮึกเหิมก็จริงอยู่ แต่มันไม่ใช่การปกป้องพระองค์ท่านที่แท้จริง เพียงคำพูดไม่อาจทำอะไรฝ่ายที่ต่อต้านพระองค์ได้มากไปกว่าเจ็บใจที่ถูกด่าถูกไล่ แถมออกอากาศสดอีกต่างหาก เมื่อฝ่ายนั้นตอบโต้กลับมา ผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่เพียงบุคคลที่รักพระเจ้าอยู่หัว แต่ส่งผลถึงพระองค์ท่าน ไปด้วย แรงแห่งการต่อต้านพระองค์ท่านยิ่งกระพือมากขึ้นไปอีก การตัดสินให้ศิลปินคนนี้เป็นคนขี้ขลาดอย่างนั้นมันยุติธรรมดีแล้วหรือ? รู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่จงรักภักดีต่อพระองค์ จำเป็นด้วยเหรอที่เราจะต้องป่าวประกาศไล่ผู้ต่อต้านในหลวง เพื่อเป็นการแสดงความรักต่อพระองค์ท่าน ทั้งๆที่วาจาที่ลั่นออกไปนั้นมันไม่มีผลให้ผู้ต่อต้านนั้นออกไปจากประเทศไทยได้จริงๆ เชือกที่มันตึงมากเกินไป ถ้าไม่ผ่อนลงบ้าง มันก็อาจจะขาดออกจากกันก็ได้
บางทีคนเราก็น่าจะเปิดใจให้กว้างบ้าง ศิลปิน นักร้อง นักแสดง ก็เป็นคนเช่นเดียวกับพวกคุณ การที่ถูกยกให้เป็นสุดยอด เป็นซุปเปอร์สตาร์ มันมาจากคนอื่นยกให้เขา แท้จริงเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนเราๆท่านๆที่ต้องการให้คนอื่นเข้าใจเหมือนกัน แค่ลองคิดว่าถ้าคุณเป็นเขา คุณเจอเหตุการณ์แบบนี้ คุณจะรู้สึกอย่างไร? แต่มันก็ยากจะเข้าใจอยู่ เพราะคุณไม่ได้อยู่ในฐานะเดียวกันกับเขา ไม่ได้อยู่ในที่แจ้งที่หลายคนจ้องมองเกือบตลอดเวลา ไม่ต้องคอยเอาใจคนหลายๆคนพร้อมกันในทีเดียว เท่าที่เขาพยายามทำงานให้ดีที่สุด ให้ผลงานถูกใจผู้ชมผู้ฟังมากที่สุด เท่าที่มีเวลา มีพลัง มีแรง ตามที่ร่างกายเอื้ออำนวย แม้ผลจะออกมาไม่ได้ดังใจคนดู หรือขัดหูขัดตาในบางสิ่งบางประการ แต่การด่าทอรุนแรง การยกเรื่องส่วนตัวที่ยังไม่มีข้อยุติมาพูดในเชิงเสียหาย การบอกให้ออกจากวงการไป มันเป็นสิ่งที่ควรทำแก่คนๆหนึ่งที่รักจะทำอาชีพนี้แล้วเหรอ? แล้วคนที่ชื่นชอบผลงาน คนที่รักศิลปินละ? ไม่ใช่แต่คนที่เป็น ศิลปิน เท่านั้นหรอกที่ไม่ควรจะถูกตัดสินแบบนั้น คนสายอาชีพอื่นทั่วๆไปอย่างเราๆก็ไม่ควรถูกตัดสินว่า ขี้ขลาด ไม่รักชาติ ไม่รักในหลวง จากการที่เราไม่ได้เข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือการที่เราไม่ได้ออกมาด่า ออกมาไล่ ออกมาแสดงตนเป็นศัตรูอย่างเปิดเผยกับฝ่ายที่ต่อต้านพระองค์ ในบางครั้งก็ต้องยอมรับความจริงว่า การด่าทอกันไปมา การออกไปร่วมเดินขบวนสู้กับฝ่ายตรงข้าม มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นในภาวะแบบนี้เลย พวกนั้นก็ไม่ได้ออกไปจากประเทศจริงๆอย่างที่เราประสงค์กัน
ในส่วนตัวฉันนั้น การแสดงความจงรักภักดีที่ฉันเลือก คือการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พยายามดำเนินตามสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งสอน และออกไปแสดงตัวเท่าที่ทำได้รวมตัวกับประชาชนคนอื่นที่รักในหลวงเมื่อถึงวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อถวายพระพรพระองค์ท่าน ภาพที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ ว่ามีพสกนิกรจำนวนมหาศาล ตามไปเฝ้าทุกครั้งที่พระองค์เสด็จไปที่ใดที่หนึ่ง ร่วมกันร้องเพลงเฉลิมพระเกียรติ ร่วมกันสดุดีมหาราชาของพวกเรา เท่านั้นก็น่าจะทำให้พวกที่ต่อต่าน พ่อ ของเราทุกคนได้รู้ว่า มีคนมากมายแค่ไหนที่รักพ่อ มีคนมากมายแค่ไหนที่จงรักภักดีต่อพ่อ มีคนมากมายแค่ไหนที่จะไม่ยอมให้ใครทำร้ายพ่อ
คนเรามีวิธีแสดงออกถึงความจงรักภักดีแตกต่างกัน หากคุณเหล่านั้นเปิดใจให้กว้าง คุณจะรู้ว่าเรารักพระองค์ไม่ต่างกับคุณเลย อย่าตั้งกรอบว่าความรุนแรง การออกมาป่าวประกาศเป็นศัตรูกันนั้นเป็นสิ่งที่คนไทยผู้รักในหลวงต้องกระทำ เราไม่ได้บอกให้คุณปิดปากเงียบ ไม่ตอบโต้ หากแต่อยากให้คุณคิดให้ดีว่าผลของการกระทำจะเป็นอย่างไร? กระทบถึงใครบ้าง? ถ้าเห็นว่าดี คงไม่มีใครห้ามคุณได้ แม้คนอย่างพวกฉันจะไม่เลือกทำแบบคุณ แต่เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องทำจริงๆ ฉันกับใครอีกหลายคนก็พร้อมยอมตายให้พระองค์ได้เช่นกัน
เอนทรีนี้อาจจะดูเหมือนมาเข้าข้าง มาแก้ตัวแทนศิลปินที่ตัวเองชอบ แต่ฉันเห็นว่า...ไม่ว่าจะเป็นศิลปินคนนี้ หรือใครคนไหนในโลก ก็ไม่ควรถูกกระทำ ถูกตัดสินเช่นนั้น ทั้งๆที่เขาไม่ได้มาทำอะไรไม่ดีแก่คุณเลย และไม่ได้มีความเลวทราม ความไม่เหมาะไม่ควร ปรากฏแก่สาธารณะเลย สิ่งที่ทุกคนควรมองเพื่อพิจารณาความดีเลวนั้นคือ...ตัวเอง ถามตัวเองเถอะว่าตนดีแล้วหรือ? ดีพอจะไปด่าคนอื่นได้เต็มปากแล้วหรือ? ดีพอที่จะมานั่งวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นที่ไม่แม้จะรู้จักคุณให้เขาเสียหายแล้วหรือ? ไม่ใช่เพียงเห็นว่า...เขาเป็น ศิลปิน เขาเป็น คนของประชาชน เขาเป็น บุคคลสาธารณะ ทำให้คุณมีสิทธิมาวางกรอบให้กับเขา มาด่าเขาได้ หากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องผลงาน ความสามารถของศิลปิน ฉันคงจะเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่ในเรื่องวิถีชีวิต เรื่องส่วนตัวที่มนุษย์ทั่วไปก็มีกัน เขาก็เหมือนเรา เห็นใจเขาบ้าง เท่านี้แหละคะ ที่ต้องการจะพูด
หากใครไม่พอใจ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
เจ้าช่อมาลี (PP_Skywalker)
| 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
เมื่อเช้าก็ดูข่าว"ศิลปิน"ในงานประกาศรางวัลสีสรรAward..
ศิลปินก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเหมือนกัน..
มีรักโลภ โกรธ หลง..เช่นกัน