YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~

เรานิสัยไม่ดี หรือแค่รู้สึกไปเองว่าเรามันนิสัยไม่ดี

แต่ก่อนเคยมั่นใจว่าตัวเองเป็นคนดีแน่ๆ ทุกสิ่งที่ทำ เราล้วนทำไปเพราะเรามีเหตุผล ปัญหาที่เรามีกับคนอื่นมันแค่เพราะเขาไม่เข้าใจเรา และเชื่อแน่ว่าสักวันเขาต้องเข้าใจถูกต้องแน่ๆ

โตขึ้นมาอีกหน่อยเริ่มคิดได้อีกอย่างหนึ่งว่า ความถูกต้อง หรือความดีงาม มันไม่ได้มีแค่แบบเดียว เราก็ถูก เขาก็ถูก เราก็ดี เขาก็ดี อยู่ที่ว่ามองจากมุมไหน เวลาไหนความจริงมีได้หลายแบบ เสียเวลานั่งตัดสินกันและกัน หาข้อสรุปไปทำไม หาจุดกึ่งกลางระหว่างกันดีกว่า ถึงจุดนี้ ไอ้คำว่า..ตัวกู..มันก็เล็กลงมาหน่อย แต่ก็ยังไม่เชี่ยวจนถึงกับเสกให้มันหายไปได้

แต่ยิ่งวันเรายิ่งรู้สึกว่า ไอ้ความจริงแบบเรามันไม่มีอะไรใช่สักอย่าง จุดกึ่งกลางมันไม่มี เพราะจุดที่เรายืนมันไม่ valid โลกที่เราเห็นมันกลายเป็นโลกที่มีเราอยู่เพียงคนเดียว และยิ่งเรายืนยันว่ามันมีอยู่จริงเราก็ยิ่งกลายเป็นคนงี่เง่า และก็งี่เง่ามากขึ้นทุกที เลยได้แต่หยุด เงียบ

..อึดอัด..

พอรู้สึกตัวทีว่ากำลังเป็น “จุดบอด” เราก็หนี หนีด้วยการเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกล่อง ปิดตัวสนิทจากคนอื่น ถ้าจะอ้างจากที่เขียนไว้ในบล็อกที่แล้ว ก็คงพอจะอธิบายได้ว่า มันเป็นเพราะเราไม่วางใจ ไม่สนิทใจกับคนกลุ่มนี้ ก็อาจหัวเราะ พูดคุย ทำงานด้วยได้ตามปกติ แต่ตัวเราเองนี่แหละที่รู้ (และก็เหนื่อยเองอยู่คนเดียว) ว่าข้างในใจกำลังป่วย

ถึงตรงนี้ก็ขอนอกเรื่องไปนิดหนึ่ง ที่ทำงานมีพนักงานคนหนึ่ง (ซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่ได้เป็นนักเต้น แต่จัดการเรื่องแอดมินต่างๆ) เป็นผู้หญิงชาวสิงคโปร์ที่หลงรักเมืองไทยอย่างแรง ความลับอย่างหนึ่งของเธอที่เราเพิ่งมารู้หลังจากมาอยู่ที่นี่ได้ราวครึ่งปีแล้วก็คือ เธอเป็นโรคซึมเศร้า ต้องใช้ยารักษา หลายครั้งที่อยู่ๆ เธอก็หายออกจากออฟฟิศไปในเวลางาน แล้วก็เขียนโน้ตบอกไว้ หรือไม่ก็ส่งข้อความมาบอกเจ้านายว่า เธอรู้สึกแย่ ทนไม่ไหวแล้ว ขอกลับก่อน (เธอจัดการเรื่องบัญชี เลยจัดการหักเงินตัวเองตามจำนวนทำงานเอาเอง ซึ่งเจ้านายก็ไว้ใจ) บางครั้งเจอเรื่องอะไรกระทบจิตใจนิดหน่อยเธอก็ขอลาออก เป็นอย่างนี้มาตลอด และหลายต่อหลายครั้งก็ทำงานการเสีย จนพวก senior dancer เขาเอาไปเม้าท์กันด้วยความเซ็ง

ที่พูดถึงพนักงานคนนี้เพราะเรารู้สึกไม่ค่อยดีทุกครั้งเวลาที่พวก senior dancer เอาเธอไปเม้าท์ หลายครั้งที่เรารู้สึกว่าเราเข้าใจความรู้สึกที่เธอต้องเผชิญ แต่แน่นอน เราไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า ไอ้สิ่งที่เธอกำลังรู้สึกมันคงหนักหนามากกว่าเราหลายเท่าตัวเลยทีเดียว เราแค่จะบอกว่า เราเข้าใจความรู้สึกนั้น

แต่คนเราย่อมแสวงหาการยอมรับใช่ไหม ไม่ว่าจะในกลุ่มเพื่อน หรือที่ทำงาน และโดยเฉพาะในที่ทำงานที่มันเป็นทั้งงานเป็นทั้งเพื่อน และคนที่เหมือนจะได้รับการยอมรับ “น้อยที่สุด” ก็ย่อมต้องรู้ตัว ถ้าเป็นตอนเด็กๆ คงตีโพยตีพายว่าไม่มีใครเข้าใจ แต่ตอนนี้ได้แต่งุบงิบอาการฟูมฟายไว้แค่ข้างใน แล้วได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า “นี่กูเลวใช่ไหม” บางทีก็อยากได้สายตาแหลมๆ กับปากคมๆ ของเพื่อนเป็นกระจกบอกเราบ้าง (วันนี้เพื่อนรักเรามีเตือนเราออกมาอย่างหนึ่ง ดีใจมาก แทบน้ำตาไหล คิดเข้าข้างตัวเองว่า อย่างน้อยก็คงจะมีมันคนหนึ่งละวะที่หวังดีกับเรา)

หลายครั้งที่เราสงสัย นี่ตัวเราไม่มีสิ่งไหนชวนให้รักเลยใช่ไหม ทั้งบุคลิก นิสัย ความสามารถ รูปร่างหน้าตา ธรรมดาไปหมด คนเขาถึงไม่ยอมรับ ไม่ชื่นชมในตัวเรา บางทีฟังคนอื่นพูดแล้วก็เออ แต่ละคนก็มีอะไรดีๆ ในตัวเนอะ ความคิด ความสามารถ ทำไมเขาเป็นคนดีกันจัง แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นผักเน่าไปในบัดดล แต่ก็รู้อยู่หรอกนะ ว่าความคิดแบบนี้มันก็ห่วยสิ้นดี คิดไปก็ทำร้ายตัวเองเปล่าๆ เลยพยายามหยุดคิด แต่หลายครั้งเหตุการณ์มันก็บังคับให้เราคิดอีกแล้ว.. คิดอีกแล้ว..

หนักเข้าก็คิดไปถึงขั้นว่า ชีวิตนี้ไม่อยากคบกับใครแล้ว ไม่อยากสนิทกับใคร ขอแค่คบห่างๆ ก็พอ กลัวว่าใครเขาจะมารู้จักเราแล้วก็จะเริ่มไม่ชอบเรา นี่ความรักความเคารพตัวเองมันไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ ขนาดตัวเองยังไม่เชื่อว่าตัวเองเป็นคนดี แล้วใครมันจะมาเชื่อละเนี่ย

พรุ่งนี้จะแต่งตัวสวยๆ อย่างน้อยๆ ให้ตัวเราดูดีน่ามองก็ยังดี (ละมั้ง)


บันทึกท้าย blog

ช่วงก่อนหน้านี้ได้รับข้อความหลายอันถามไถ่เรื่องโยคะ เรื่องอินเดีย แต่ไม่รู้ว่าทำไมไม่กล้าเขียน สารภาพตรงๆ ก็ได้ ว่านอกจากติด facebook แล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราหายไปจากบล็อกนี้ก็คือ บล็อกนี้มันกลายเป็นบล็อกโยคะไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง และคนเรามันก็อดไม่ได้ล่ะเนอะที่จะคาดหวังกับครูโยคะประมาณหนึ่ง จะให้เข้ามาเขียนอะไรเพ้อๆ เพี้ยนๆ เหมือนอย่างแต่ก่อนมันก็ดูไม่ค่อยเข้าที แต่บล็อกมันก็ร้างไปนานแล้วล่ะ กลับมาคราวนี้ถ้ายังมีคนมาติดตามเรื่องโยคะอยู่ก็อยากจะขอโทษถ้าทำให้ใครผิดหวังนะคะ ก็ยอมรับตรงๆ นี่แหละค่ะว่ายังนำสิ่งที่สอนมาสอนใจตัวเองไม่ได้ แต่กำลังพยายาม พยายามจริงๆ ค่ะ สอนคนอื่นก็สอนตัวเองไปด้วยนี่แหละ แต่เอาจริงๆ แล้วยังเพี้ยนเหมือนเดิม อาจจะดีกว่าเดิมก็หน่อยเดียวเอง คงเป็นเพราะโตขึ้น

เอาเป็นว่า ความรู้เรื่องโยคะ เกร็ดต่างๆ มากมาย รวมไปถึงเรื่อง Prana Dance (การร่ายรำของพลังงานในร่างกายที่เราเอาเข้ามารวมกับ contemporary dance) ถ้ามีโอกาสเหมาะๆ ก็จะเอามาบอกเล่าเพิ่มเติมนะคะ ช่วงนี้ติดตามรูปภาพ ข้อความ หรือเรื่องราวจิปาถะเกี่ยวกับโยคะไปก่อนพลางๆ ที่
https://www.facebook.com/yoga.aumsweetaum นะคะ




 

Create Date : 20 กันยายน 2555
2 comments
Last Update : 20 กันยายน 2555 22:43:04 น.
Counter : 3446 Pageviews.

 

"ผักเน่า" เนี่ยบางประเทศเขาเรียกว่า "กิมจิ" นะครับ
: )

...

มีคนบอกว่า

ความชอบ
ทำให้เราอยากอยู่กับคนที่เราเห็นความน่ารักและนิสัยที่ดีๆต่างๆ

แต่ความรัก
ทำให้เราไม่อยากไปจากคนที่เราเห็นความไม่น่ารักและนิสัยไม่ดีต่างๆ

ดังนั้น
จงอย่าได้กังวลกับความไม่น่ารัก และนิสัยต่างๆที่ไม่ดีของตัวเองเลย
แต่จงเตรียมพร้อมที่จะยอมรับความไม่น่ารัก และนิสัยไม่ดีต่างๆของคนที่เรารักกันดีกว่า

...

ผมก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่เหมือนกันครับว่าเอาเข้าจริงๆแล้วจะยอมรับความไม่น่ารักได้มากน้อยแค่ไหน

แต่ผมค่อนข้างจะแน่ใจว่าผมชอบกินกิมจินะครับ
; p

 

โดย: Amygdala IP: 161.200.100.2 25 กันยายน 2555 17:03:09 น.  

 

โรคซึมเศร้ารักษาหายยากมากนะครับ
มันเกิดขึ้นจาก "ใจ" เรา
และถ้าจะแก้ได้
ก็ต้องแก้ที่ "ใจ" เรา

แล้วอะไรทีเ่กี่ยกวับ "ใจ" เนี่ย

พี่ก๋าว่ามันแก้ยากมากๆเลยครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 3 ตุลาคม 2555 20:52:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
20 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.