|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แปรคำปรามาสให้เป็นพลัง
หลังจากอ่านหนังสือ ธรรมะพารวย เขียนโดย ท่านว.วชิรเมธี มีหลายหัวข้อที่น่าสนใจในหนังสือเล่มนี้ แต่มีประวัติของบุคคลท่านหนึ่งที่น่าสนใจคือ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มาให้เพื่อนๆ อ่านกันค่ะ
อ้ายเหลิมสร้างสรรค์ อ้ายหวันสร้างนรก
อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปิน/จิตรกรชื่อก้องของเมืองไทยให้คำนิยามสถาปัตยกรรมที่ตัวเองและอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินรุ่นพี่อีกคนหนึ่งซึ่งมีนิวาสสถานอยู่ไม่ห่างกันนักในอำเภอเมืองเชียงราย กำลังสรรค์สร้างไว้อย่างนั้น
อ้ายเหลิมสร้างสวรรค์ หมายถึง อาจารย์เฉลิมชัยสร้างวัดสีขาวล้วน อ้ายหวันสร้างนรก หมายถึง อาจารย์ถวัลย์สร้างบ้านดำหรือสถาปัตยกรรมทุกอย่างที่เน้นสีดำหรือสถาปัตยกรมทุกอย่างที่เน้นสีดำเป็นองค์ประกอบหลัก
ทั้งสองท่านเป็นศิลปินใหญ่เชื้อสายคนเชียงราย แต่มีความคิดและฝีมือคมคายในระดับที่เป็นคนของโลกได้อย่างสบาย แต่กว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกความสำเร็จล้วนมีตำนานรองรับเสมอ นี่เป็นสัจธรรมที่คนเด่นคนดังทั้งหลายต่างทราบอยู่แก่ใจเป็นอย่างดี
ความสำเร็จของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ก็เช่นกันการที่เด็กน้อยคนหนึ่งซึ่งเคยมีคนปรามาสว่าเป็นกระเหรี่ยงลงดอยจนกลายมาเป็นศิลปินที่มีคนรู้จักมากมายทั้งประเทศ แน่นอนว่าเส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่กลับเป็นเส้นทางที่ขรุขระอย่างยิ่ง ธรรมแห่งความสำเร็จของอาจารย์เฉลิมชัยก็คือ การเป็นคนมองโลกในแง่บวก และการเป็นคนที่ยึดเอา ความเพียร เป็นสรณะมาโดยตลอด
อาจารย์เฉลิมชัยเล่าไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติว่า เมื่อแรกมาสอบเข้าที่โรงเรียนเพาะช่าง ไม่มีความพร้อมแม้แต่อย่างเดียว มีแต่ใจที่รักอยากจะเรียนศิลปะเท่านั้น (ตรงกับ ฉันทะ หลักธรรมข้อแรกในอิทธิบาท 4 ) เป็นทุนไปสู้กับคนอื่นครั้นพอไปสอบสัมภาษณ์ก่อนสอบข้อเขียนและสอบจริงภาคปฏิบัติด้วยการแสดงฝีมือทางศิลปะ อาจารย์เฉลิมชัยก็พบว่าไม่ง่าย ซ้ำยังได้คำปรามาสจากอาจารย์ผู้สอบสัมภาษณ์มาเป็นของแถมเสียอีกด้วย
ตอนนั้นเขามีการสอบสัมภาษณ์ก่อนการสอบจริง พี่ก็เข้าไปถามอาจารย์ท่านชื่อ อาจารย์พจน์สิน ก็มองหน้าเรา มองขึ้น มองลง ดูใบสำคัญแล้วก็ถามว่า มาจากเชียงรายหรือ เราก็ครับ...แกมองหน้าเราแบบเหยียดๆ แล้วก็บอกว่า คนดอยนี่ เราก็คิดในใจว่า ไอ้นี่ยังไงวะ มาหาว่าเราเป็นคนดอย แกมองใหม่แล้วก็บอกว่า กลับไปเหอะ กลับดอยไป เกรดแค่นี้สอบไม่ได้หรอกเสียเวลาเปล่า แต่อาจารย์เฉลิมชัย ไม่กลับ เราก็ฉุดขาด โกรธ มาว่าเราเด็กดอย ยิ่งมาไล่ให้เรากลับนี่ไม่ยอมแน่ ก็เอาไอ้ความโกรธนั้นมาเป็นความพยายามยิ่งต้องสอบให้ได้ ก็บอกไม่ครับอาจารย์ ผมจะสอบ ขอลองสอบดู ผมไม่กลับครับ คะแนน 51 เปอร์เซ็นต์ คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้อาจารย์ผู้สอบสัมภาษณ์ประเมินว่าสติปัญญาอย่างอาจารย์เฉลิมชัยในขณะนั้น ควรจะกลับบ้านมากกว่าสอบเข้าเพาะช่าง การประเมินของอาจารย์ท่านนั้นยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง แต่การไม่ยอมกลับบ้านของอาจารย์เฉลิมชัยก็ยืนอยู่บนพื้นฐานของคนที่มีหัวใจนักสู้
คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์นับว่าเป็นปัญหาใหญ่มากพอแล้ว แต่ยังมีปัญหาที่ใหญ่มากกว่านั้นรออยู่ข้างหน้า นั่นคือ ถึงเวลาสอบภาคปฏิบัตินักเรียนทุกคนจะต้องวาดรูปจากของจริง พร้อมทั้งมีการปั้นหุ่นด้วย แต่นักเรียนบ้านนอกอย่างอาจารย์เฉลิมชัยในขณะนั้น จะเอาความรู้ในวิชาเหล่านี้มาจากไหน เพราะลงจากเชียงรายมาถึงกรุงเทพฯ ก็มีแต่ฝีมือที่เคยฝึกปรือจากการวาดภาพคัทเอ๊าต์หน้าโรงหนังเท่านั้นเป็นพื้นฐาน นับว่าเป็นมวยวัดมาตลอด ครั้นจะขึ้นไปชกบนเวทีมาตรฐานกับนักมวยมืออาชีพจึงต้องอึดอัด กระอักกระอ่วนเป็นธรรมดา แต่คนอย่างนายเฉลิมชัยไม่เหมือนกับเด็กในวัยเดียวกัน คือ เมื่อไม่พร้อมก็ไม่ถอย แต่กลับเดินไปข้างหน้า เดินไปหาความพร้อม ไม่ใช่รอให้ความพร้อมเดินมาหา
ความพยายาม ความตั้งใจจริงของเราเท่านั้น ที่จะทำให้ผ่านอุปสรรคตรงนั้นมาได้ คือ พี่เป็นคนที่เห็นคนอื่นเก่ง พี่ยอมรับ แต่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองด้อย มึงเก่งได้ กูก็เก่งได้ แล้วต้องเก่งกว่ามึงด้วย
ว่าแล้วเด็กที่ถูกปรามาสว่าเป็นแม้วดอยคนนั้นจังรีบไปหาที่เรียนพิเศษแบบเอาเป็นเอาตาย ไม่หลับไม่นอน เรียนอยู่ได้สามวันก็ไปสอบเข้าเพาะช่างอีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่าครั้งนี้สอบผ่านฉลุย ได้เข้าไปเรียนสมใจ ที่น่าขำก็คือ อาจารย์ที่เคยดูถูกเมื่อตอนสอบสัมภาษณ์กลายมาเป็นอาจารย์ประจำชั้นเสียด้วย เห็นหน้าแม้วลงดอยที่เป็นลูกศิษย์แล้วอาจารย์ถึงกับยิ้มด้วยความภูมิใจ เข้ามาตบไหล่แสดงความชื่นชม
เมื่อจบจากเพาะช่าง อาจารย์มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่นี่คำปรามาสที่ทำให้อาจารย์เฉลิมชัยฝังใจยิ่งกว่าที่เพาะช่างเสียอีก เหตุการณ์ที่เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจอันสำคัญในชีวิตของอาจารย์เฉลิมชัย เกิดขึ้นเมื่อมหาวิทยาลัยจะเปิดภาควิชาศิลปะไทยเพิ่มขึ้นอีกภาควิชาหนึ่ง อาจารย์เฉลิมชัยซึ่งเป็นนักศึกษาไฟแรงจึงวาดรูปแบบไทยๆ อย่างสุดฝีมือไปส่งให้อาจารย์ท่านหนึ่งดู เพื่อแสดงให้อาจารย์เห็นว่าตนมีฝีมือทางด้านนี้ จะได้เข้าเรียนในภาควิชาศิลปะไทยกับเขาบ้าง แต่เมื่ออาจารย์ดูรูปแล้วกลับให้คะแนนเพียงเกรด B คะแนนที่ออกมาทำให้อาจารย์เฉลิมชัยยัวะสุดขีด เข้าไปถามอาจารย์ผ่องผู้ให้คะแนนว่า ทำไมถึงให้เกรดแค่ B คำตอบที่ได้รับคือ
มึงมันมีแต่ฝีมือ แต่ไม่มีสมอง ไม่มีความคิด คำปรามาสนี้เจ็บแสบยิ่งกว่าตอนถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กดอยเสียอีก โกรธแสนโกรธ แต่ไม่ถอย ไม่ดูถูกตัวเอง คิดอยู่อย่างเดียวว่า ในเมื่อครูดูถูก ก็จะต้องพิสูจน์ฝีมือให้เหนือกว่าครูให้ถึงที่สุด เพราะคำดูถูกจากเรียวปากของครู ทำให้อาจารย์เฉลิมชัยไม่ย่อท้อ มุเรียน มุฝึกฝีมือ จนกระทั่งในที่สุดก็ส่งงานเข้าประกวดจิตรกรรมบัวหลวงครั้งที่ 3 และผลการตัดสินปรากฏออกมาว่า ผลงานของอาจารย์เฉลิมชัยได้รับรางวัลชนะเลิศ คว้าเหรียญทองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในชีวิต ส่วนผลงานของครูที่เคยดูถูก ซึ่งส่งเข้าประกวดในงานเดียวกันไม่เป็นที่ปรากฏว่าโดดเด่นแต่อย่างใด แต่เมื่อเอาชนะครูได้สำเร็จแล้ว บอกตรงๆ หลังได้รางวัล พี่รักอาจารย์ผ่องมาก แม้อาจารย์จะไม่รักพี่ รักเพราะว่าเขาเป็นแรงผลักดันให้เราเป็นแบบนี้ เพราะความเกลียดชังทำให้เราได้ดี เพราะฉะนั้น คนเราถ้ารู้จักเอาความโกรธความเกลียดมาเป็นแรงขับเคลื่อนแล้ว ชีวิตมันก็จะดีขึ้นมาเอง ที่สำคัญก็คือ อย่าไปท้อกับคำวิจารณ์พวกนั้น
หลังจากเรียนจบไม่นาน อาจารย์เฉลิมชัยซึ่งยังอยู่ในวัยหนุ่ม มีแรงใจและใฝ่ฝันเต็มที่ กำลังคึกคักฮึกเหิมว่าตนเองเริ่มจะเป็นศิลปินใหญ่ ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ซึ่งขณะนี้เป็นศิลปินใหญ่ตัวจริงเสียงจริงไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยความเชื่อมั่นว่าตนเองก็มีดีไม่น้อยไปกว่าศิลปินรุ่นพี่อย่างพี่ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินหนุ่มไฟแรงรุ่นน้องจึงตรงเข้าไปถามอย่างตรงไปตรงมาว่า พี่หวันครับ ผมได้ข่าวมาว่า พี่หวันเป็นคนขยันมาก แต่ผมเองก็เป็นคนขยันเหมือนกัน ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ระหว่างผมกับพี่หวันใครขยันกว่ากัน เป็นคำถามที่เต็มไปด้วยความอหังการเหลือหลาย อาจารย์ถวัลย์ ดัชนีไม่ต่อความยาวสาวความยืด หากแต่จับมือรุ่นน้องตรงเข้าไปดูห้องทำงาน แล้วว่าที่ศิลปินใหญ่ก็ได้รู้ความจริงว่า ตัวเองไม่ต่างอะไรกับมดปลวกที่บังอาจมายืนเทียบกับขุนเขาหิมาลัย เราก็ถามพี่เขาต่อว่า พี่ครับ ถ้าผมจะใช้ชีวิตเป็นศิลปินอาชีพแบบพี่ อีกกี่ปีถึงจะประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง พอมีสตางค์เลี้ยงชีวิตบ้าง พี่หวันมองหน้าเราแล้วก็บอกว่า อย่างเอ็งเนี่ย ทนสัก 20 ปีก็แล้วกัน หนังสืออัตชีวประวัติของอาจารย์เฉลิมชัยกล่าวถึงปฏิกิริยาครั้งนั้นไว้ว่า คำว่า 20 ปี นั้นเองที่เปรียบเสมือนเชื้อประทุที่จุดระเบิดให้ไฟของเฉลิมชัยคุโชนขึ้นอีก เพราะในความรู้สึกของเขา นี่คือคำปรามาสครั้งใหญ่ เฉลิมชัยสาบานกับตัวเองว่า กูต้องยิ่งใหญ่ภายในไม่กี่ปีนี้ ทำให้เขาขยันเขียนรูป (เจ้าตัวใช้คำว่า ไฟแลบ) นับตั้งแต่นั้นอย่างไม่ย่อท้ออีกต่อไป หลังจากฝ่าด่านคำปรามาสครั้งใหญ่ในชีวิตมาได้อย่างน้อยสามครั้ง (ความจริงมากกว่านี้) เด็กบ้านนอกที่ถูกหาว่าเป็นกระเหรี่ยงหรือแม้วลงดอย ศิลปินที่มีแต่ฝีมือ ทว่าขาดสมอง และกว่าจะเก่งอย่างพี่ต้องยี่สิบปีอย่างน้อย ก็บรรลุฝั่งฝันของตัวเองได้อย่างสง่างาม เมื่อมีคนถามเคล็ดลับแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในชีวิต อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ตอบเสียงดังตามสไตล์ว่า
ความดูถูก ดูแคลน เหยียดหยาม กดขี่ กดดัน ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ และการกระทำของคนในอาชีพเดียวกัน ทำให้ผมมีวันนี้
Create Date : 22 มิถุนายน 2552 |
|
22 comments |
Last Update : 22 มิถุนายน 2552 15:22:39 น. |
Counter : 2271 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: nLatte 22 มิถุนายน 2552 16:07:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: บี๋ (Yushi ) 22 มิถุนายน 2552 18:06:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) 22 มิถุนายน 2552 18:16:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนขับช้า IP: 110.49.130.233 22 มิถุนายน 2552 21:10:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลาทอง9 23 มิถุนายน 2552 16:03:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 25 มิถุนายน 2552 14:10:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: nanida 26 มิถุนายน 2552 8:54:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: AB_PAE 26 มิถุนายน 2552 16:43:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: dolores 27 มิถุนายน 2552 8:36:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 28 มิถุนายน 2552 14:50:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 มิถุนายน 2552 14:26:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: nLatte 30 มิถุนายน 2552 9:55:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 30 มิถุนายน 2552 11:25:44 น. |
|
|
|
|
|
|
|