|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Tag จากน้องรักหักเหลี่ยมโหด
ไอ้เราก็ไปเปรย ว่ายังลอยนวล ไม่โดนtag ก็คิดว่าน้องนีลสุดที่รักคงหาบล็อกเราไม่เจอทันแปะtagหรอก ที่ไหนได้ หล่อนหาเจอทันทีที่เราพูดจบ ก็โดนไปตามระเบียบ
ว่าแล้วก็กลุ้มใจส์ เป็นคนเปิดเผย ไม่มีความลับง่า จะเอาอะไรมาเล่าเนี่ย
ความลับๆๆ
1.โดยขโมยจูบครั้งแรกตอน อ.3 พูดแล้วอายวุ้ย คือแบบตอนเรียนอ.3จะมีนอนกลางวัน ทีนี้ชายหญิงก็นอนปนกันหมดล่ะ เด็กตัวเล็กๆทั้งนั้น แล้วแบบ ไอ้เด็กผู้ชายข้างๆมันแกล้งจุ๊บเราตอนหลับง่ะ แต่ว่าจริงๆแล้วเราตื่นอยู่ทำอะไรไม่ถูกเลย นอนตัวแข็งทื่อ แล้วก็แกล้งพลิกตัวหันหลัง วันถัดมาก็ขอย้ายที่นอนทันที ฮ่าๆๆ แต่ถ้ามาขโมยจูบตอนนี้ รับรองว่าไม่จบแค่นั้นแน่ จะปล้ำมันเลย ก๊ากกกส์
จำได้ว่าเด็กผู้ชายคนนั้นน่ารักด้วยสิ
2.เคยต้องหาหมอโรคจิตตอน ม.4 จำได้ว่าตอนตัวเองอยู่ประถม เป็นอะไรก็ไม่รู้ เมื่อไหร่ที่เห็นประตูโรงเรียน หน้าซีด มือสั่น หัวใจเต้นโครมคราม ที่ทรมานที่สุดคือปวดท้อง ปวดมาก ปวดจนน้ำตาแทบร่วง
ทรมานแบบนี้ทุกเช้า แทบทุกวัน จนถึงป.6 ย้ายโรงเรียน อาการเหล่านี้ก็หายไป ทีนี้อยู่ๆมันก็กลับมาอีก จะกลับมาทุกครั้งที่ต้องรายงานหน้าห้อง ต้องทำอะไรที่ตัวเองจะกลายเป็นจุดเด่น
อาการเดียวกันเด๊ะๆ แล้วทนไม่ไหวอีกแล้ว เลยไปหาแม่เลยแล้วบอก พาหนูไปหาจิตแพทย์ทีเถอะ หนูว่าหนูไม่ปกติแล้วล่ะ
วันแรกที่ไปก็เข้าไปในห้องพร้อมแม่ ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าถ้าเล่าอาการไปแล้ว หมอจะหัวเราะหรือเปล่าว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลย ทุกคนก็เป็นกัน ปรากฎว่าพอเล่าไปแล้ว หมอทำหน้าเครียดเลย หมอบอกว่า น่าจะมาหาตั้งแต่เด็กแล้วนะ เพราะเราเป็นโรคที่เรียกว่า วิตกจริต เกินกว่าคนปกติ
เป็นโรค perfectionist พวกที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ อะไรที่ผิดปกติ คาดการณ์ไม่ได้ สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป เราจะเกิดอาการทางร่างกายทันที ซึ่ง 100 คนจะเจอแค่5
และโรคที่เป็นตอนเด็กคือ โรคกลัวโรงเรียน (เป็นโรคจิตซ้ำซ้อน)
หมอบำบัดโดยการให้เราระบายสิ่งที่เครียด ที่กลัว ตอนนั้นสงสารตัวเองโคตร พูดไปร้องไห้ไป หมอเห็นว่าไม่ไหวละอาการนี้ ต้องจับส่งโรงพยาบาลบ้า....ไม่ช่ายยยย ฮ่าๆๆ ล้อเล่นๆ
หมอให้ยามากิน เป็นยากดประสาทอัติโนมัติ กินแล้วต้องระวังตัว เพราะร่างกายจะไม่ตอบสนองต่อความร้อน หรือความเจ็บปวด เช่นเวลาโดนของร้อน เราจะรีบชักมือหนี ถ้ากินยานี้ เราจะไม่หนี เพราะประสาทอัตโนมัติไม่ทำงาน
ที่กดมันไว้ก็เพื่อให้อาการปวดท้อง อาการเครียดลดลง
เราก็กินไป แล้วอาการมันก็ไม่มีจริงๆ อะไรที่เคยกลัวก็กลับมาทำได้ เพราะไม่ตื่นเต้นแล้ว ไม่กลัวแล้ว ทำได้ดี หมอบอกว่าให้จำความรู้สึกตอนที่ทำสำเร็จไว้ แล้วเอาความรุ้สึกนั้นเป็นยา หลังจากนั้นก็หายเลย ไม่พึ่งยาอีก
ทุกวันนี้หมอของเราออกทีวีด้วยยยยย อยากบอกว่าขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะคะ หนูหายดีแล้วนะคะ ถึงจะไม่ได้ไปหาหมออีก
หมอล้อหล่อ คิดแล้วอยากเป็นอีก จะได้ไปหาหมอ คิคิ
3.นอนตื่นสายมาก คิดว่าคงไม่แปลกมั้ง แต่มันเป็นเรื่องน่าอายอ่า เวลามีคนถามว่า พรุ่งนี้เช้าจะโทรไปหา จะตื่นเมื่อไหร่
เราจะกล้อมแกล้มตอบว่า เอ่อ 10 โมง ราวๆนั้น จะโทรเมื่อไหร่ก็โทรมา แต่จริงๆ เราตื่นบ่ายสาม!
รู้สึกไร้ซึ่งความเป็นกุลสตรี นอนตื่นบ่ายสามเนี่ยนะ แต่เรานอนดึกมากๆอ่า เพราะต้องเขียนนิยายถึงดึกๆ มันก็เลยตื่นสาย ตื่นบ่ายสี่ยังเคย ตื่นมาเสร็จ กินข้าว อาบน้ำ หลับต่อตื่นอีกทีสองทุ่ม (นอนกินบ้านกินทวีป)
เวลาบอกเขาไปว่าตื่นสิบโมง โทรมาได้ๆ เอาเข้าจริงๆ เราจะปิดมือถือหนี แล้วเปิดเมื่อไหร่ค่อยโทรกลับไปหาเขา แล้วก็บอกว่า อ้อ...แบตหมด
ใครเคยเจอเราแก้ตัวว่าแบตหมดก็จงรู้ไว้เลยว่า เรายังไม่ตื่นต่างหาก เพราะคนอย่างเรา ไม่เคยปล่อยให้แบตหมดค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
4.ตอนเด็กชอบใส่กระโปรงบานนนนน มากๆ ต้องฟูต้องฟ่อง ไม่งั้นไม่ใส่ อารมณ์ว่าฉันเป็นเจ้าหญิงในนิทาน กลับไปดูภาพตอนเด็กๆแล้วแอบอายอะ ฮ่าๆๆ อายมากก ใส่เข้าไปได้ยังไงวะ ไม่คันหรือไงนั่น บ้าสุดๆ
5. ข้อสุดท้ายแล้ว แทบคิดไม่ออก เราเป็นพวกรักเด็กค่า พยายามหาแฟนเด็กกว่า แต่ไม่เคยสำเร็จ เด็กไม่เล่นด้วย ก็เลยหยุดไป ผู้ชายคนแรกที่ไปแอบชอบก็เป็นรุ่นน้อง เหอๆ....ตอนหลังได้ข่าวว่าเขามีแฟนแก่กว่า สงสัยจะติดใจแบบพี่อะดิน้อง กร๊ากกกกส์
พอแล้ว คนที่โดนTag ต่ออยู่ในเด็กดีจ้า
Create Date : 13 มกราคม 2550 |
|
4 comments |
Last Update : 13 มกราคม 2550 23:22:06 น. |
Counter : 1947 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: นารา(ShiNe) IP: 125.25.190.216 14 มกราคม 2550 21:09:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: mira IP: 125.26.64.70 27 มีนาคม 2550 16:41:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฟาง IP: 222.123.231.50 26 ตุลาคม 2550 12:25:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cho IP: 125.24.47.76 16 ตุลาคม 2551 8:05:43 น. |
|
|
|
|
|
|
|