ดูลมหายใจ ^_______^ ให้เข้าใจ
29 ม.ค. 53 อายุ 10,254 วัน
ผมมักถูกสอนเสมอจากพ่อและแม่ว่า ให้ดูลมหายใจของตัวเอง ผมเข้าใจคำศัพท์ แต่ ไม่เข้าใจว่าจะดูไปทำไม ลมหายใจ เข้าออกก็เหมือนกัน ไม่เคยเข้าใจและก็ไม่ได้พยายามจะเข้าใจ .. .. .. แต่ไม่ว่าจะนานแค่ใหนก็มักมีคำนี้วนเวียนอยู่ใกล้ตัวเสมอ ผมพึ่งเข้าใจวันนี้ ตอนเช้ามืด ตีสามกว่าๆ ผมตื่นมาเพราะปวดท้อง ปกติถ้าปวดท้องตอนกลางคืน ผมมักจะต้องถูกบังคับให้ไปโรงพยาบาล ไปเจอหมอที่เข้าเวรมาต้อนรับด้วยอารมณ์หงุดหงิด ราวกับจะบอกว่า " ปวดท้องก็หัดอดทนหน่อย หมอก็หลับเป็นเหมือนกัน " หมอเข้าเวร ไม่เคยพูดจาดีเลยสักครั้งเวลาผมไปโรงพยาบาล จะตีสี่แล้ว อีกสองชั่วโมงก็เช้า... กินยาก็คงหาย... ผมคิดแล้วค่อยๆ ลุกจากเตียงกึ่งคลานไปตู้ยา ทั้งพารา ยาแก้ไมเกรน ยาปวดท้อง หามาจนสำเร็จ ยาไม่ได้ช่วยผมหรอก เพราะผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก็ยังต้องนอนคุดคู้อยู่บนเตียง คิ้วผูกโบเพราะความเจ็บปวด ต้องฉีดยา เท่านั้น เหมือนดังเคย ถึงจะหาย แต่.. ไม่อยากไปโรงพยาบาล เพราะหมอกำลังนอนหลับอยู่ ตอนนั้น ผมได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง เสียงถี่ๆ แปลกๆ กว่าปกติ และหายใจแรงไม่ได้เพราะจะปวดท้องมากขึ้น ผมพยายามหายใจให้ช้าลง หายใจลึกๆ ช้าๆ แม้ความปวดไม่ได้หายไป แต่รู้สึกว่าใจสงบมากขึ้น ก่อนหน้านี้ เมื่อชั่วโมงก่อน ใจบอกว่าเจ็บ ทนไม่ไหว ตอนนี้ ใจบอกว่าเจ็บ แต่ก็แค่เจ็บ ไม่เป็นไร เป็นธรรมดา ที่จะเจ็บ จะปวด ก็เป็นธรรมดาของสังขาร มันไม่จีรังเลย เกิด แก่ เจ็บ ตาย ตอนนี้ได้เกือบครบแล้ว
เมื่อดูลมหายใจก็จะรู้ว่า มันไม่ได้อยู่คงทน หายใจเข้าได้ไม่กี่นาทีก็ต้องหายใจออกแล้ว เมื่อดูลมหายใจก็จะรู้ว่า สติมาปัญญาเกิด ปัญญาที่ทำให้รู้เข้าใจสิ่งต่างๆรอบกาย
วันนี้ผมลองมองดอกไม้ นอกจากความสวยงาม
เราควรพิจารณาดอก ใบ อย่าดูเพียงผ่านไปเท่านั้น เห็นแล้ว ดอกไม้สวย แต่ไม่นานมันก็เหี่ยวเฉา ร่วงโรยตามการเวลา ใบไม้ วันนี้สวย พรุ่งนี้มันก็จะเริ่มไม่เหมือนเดิม
ก็เหมือนกับอารมณ์คน วันนี้ดี พรุ่งนี้ก็อาจเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา บางวันก็ทุกวินาที เราจะไปยึดติดกับสิ่งเหล่านี้เห็นทีจะเป็นการทำร้ายตัวเองในที่สุด โลกนี้จะมีอะไรยั่งยื่นได้เล่า กระทั้งชีวิตของเราเอง สักวันก็เหี่ยวเฉา ร่วงโรยตามวัย ทำความดีให้มากที่สุด เห็นทีจะเป็นสิ่งควรไขว่คว้า ยิ่งนัก
วันนี้รู้สึกว่าตัวเองแก่ครับ อยู่ๆ ผมก็คิดว่า อายุเท่าไหร่ถึงจะไปบวช 555++ เห็นทีพ่อแม่คงจะรีบจัดเครื่องเตรียมบวชให้ด้วยใจเปรมปรีด์ นั่นสิครับ อายุเท่าไหร่ถึงจะไปบวช ไม่ใช่ตัดทางโลกไม่ได้ แต่ผมไม่รู้จะบวชเพื่ออะไรกันแน่ ระหว่าง เพื่อให้พบนิพาน หรือ เพื่อหนีหัวใจตัวเอง.. แต่หัวใจตัวเอง หนีเท่าไหร่ก็คงหนีไม่พ้น ไม่ว่าจะทุกข์ สุข เศร้า ก็ปะปนอยู่ในใจทั้งนั้น ดังนั้นใจตัวเองก็ต้องเรียนรู้ก่อน รู้จนเข้าใจว่าจะควบคุมใจตัวเองได้อย่างไรไม่ให้ผกผันไปตามสภาพแวดล้อม และคลื่นรบกวนจิตใจ
วันนี้อ่านเรื่องหมา (อยู่) วัดครับ (รางวัลแว่นแก้ว ปี 2551) ชอบประโยคที่เขียนไว้ด้านปกหลังมาก เลยขออนุญาติเอามาแบ่งปัน
ผมเคยได้ยินคนคุยกันว่า ถ้าเลือกเกิดได้ จะเลือกเกิดเป็นอย่างนั้นอย่างนี้... แต่ผมไม่เคยได้ยินใครพูดว่าอยากเกิดเป็นคนดี หรือเกิดมาเพื่อทำความดี ให้ดีเลิศประเสริฐสุด เท่ามนุษย์จะทำได้เลยสักครั้ง ผมเคยทำใจกล้าๆ ถามลูกพี่ใญ่ของผม คือคุณแรมโบ้ว่า "เคยคิดอยากเกิดเป็นคนบ้างไหม" คุณแรมโบ้หันมามองหน้าผมนิ่ง เหมือนจะพูดว่า "ถามอะไรโง่ๆ" แต่ไม่พูดแล้วหันหน้ากลับไป ผมจึงตั้งคำถามใหม่ที่คิดว่าน่าจะดีกว่าคำถามแรก "สมมติว่า ถ้าลูกพี่เกิดเป็นคนได้ พี่อยากเกิดเป็นอะไร"
คุณหละครับ อยากเกิดเป็นอะไร? สำหรับผม หลังจากดูลมหายใจตัวเองแล้ว ถ้าเลือกได้ ไม่ขอเกิดมาอีกดีกว่าครับ แต่ในเมื่อเลือกเกิดไม่ได้เพราะมีพระผู้สร้างเราขึ้นมา ดังนั้นผมเกิดเป็นตัวเองก็ดีแล้วครับ แต่ขอมีโอกาสเพิ่มอีกนิดนึง ขอให้มีโอกาสทำความดี ให้น้ำใจกับผู้อื่นให้มากๆ เพราะนั่นทำให้ผมรู้สึกว่ามีคุณค่ามากเลยครับผม
ฝันดีครับ ส่วนผมไม่เคยฝันเลย หลับสนิทตลอดแปลกดีครับ ^________^ กลิ่นดอย
Create Date : 30 มกราคม 2553 |
|
26 comments |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 17:52:33 น. |
Counter : 1708 Pageviews. |
|
|
|
ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับ