Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

เมื่อครั้งหนึ่ง ที่ได้ลงหนังสือ

ครั้งหนึ่งที่คุณแม่และคุณยายได้ลงตีพิมพ์ในหน้าหนังสือ “พลอยแกมเพชร” ปีที่๑๘ ฉบับที่ ๔๑๙  วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒





มิ้นสค์เป็นลูกสาว และเป็นลูกเพียงคนเดียวของคุณแม่อินทิรา ดำสัมฤทธิ์ กับ คุณพ่อณรงค์ฤทธิ์ นพรัก และแน่นอนเป็นหลานโทนของคุณยาย เสริมสิน ชูโต และคุณตา สวัสดิ์ ดำสัมฤทธิ์


ตอนเด็กๆเมื่อโรงเรียนหยุดเสาร์ และอาทิตย์


ตั้งแต่จำความได้ คุณแม่และคุณยายของมิ้นสค์ชอบเล่นไพ่ตองเป็นชีวิตจิตใจ หากจะเรียกได้เลยว่ามิ้นสค์เองก็โตมากับวงไพ่ตอง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเล่นเป็น หรือหลงไหลในเสน่ห์ของไพ่ตองเลยสักนิดเดียว เมื่อเทียบกันแล้วกับคุณแม่ และคุณยาย


ย้อนหลังกลับไปเมื่อประมาณปีพศ. ๒๕๒๑ ตั้งแต่ที่มิ้นสค์เกิด ครอบครัวของเราอยู่ที่ฝั่งธนบุรี เชิงสะพานเจริญพาศน์ ห่างจากเชิงสะพานไปไม่ถึง๓๐๐เมตร ก็จะเป็นบ้านบุณนาค ที่เป็นเหมือนครอบครัวที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คุณแม่และคุณยายจะไปเล่นไพ่ที่บ้านบุณนาคเป็นประจำ ต่อมาเมื่อย้ายบ้านมาอยู่บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ คุณแม่และคุณยายก็ยังไปมาหาสู่เพื่อนพ้องเก่าแก่ ที่อยู่ที่ฝั่งธนบุรีอย่างไม่ขาดสาย โดยเป็นที่ทราบกันดีว่าที่นัดหมายก็ไม่ได้แคล้วไปจากวงไพ่ตองที่บ้านบุณนาคแต่อย่างใด





เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นบทความของคุณดุษย์  “มณีรัตน์ บัณฑุกัมพล” ที่ได้ลงตีพิมพ์ในหน้าหนังสือ “พลอยแกมเพชร” ปีที่๑๘ ฉบับที่ ๔๑๙  วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒


สำหรับขาไพ่ของดิฉันในตอนนี้ มาเป็นแพคเกจคู่ เพราะเวลาท่านทั้งสองมาเล่นไพ่ตอง ก็จะมาด้วยกันเป็นคู่ เพราะท่านทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน


เวลาดิฉันไปเล่นไพ่ ไม่ว่าจะเป็นที่วังละโว้ ศรีนครินทร์หรือที่บ้านป้าปริม ถ้าดิฉันเห็นรถโตโยต้า โซลูน่า สีน้ำเงินสดจอดอยู่ ดิฉันก็จะทราบทันทีว่า วันนี้ป้าสินและคุณมุ่ย มาเล่นไพ่ด้วย





ป้าสินเป็นผู้หญิงผิวค่อนข้างคล้ำ ผมสีดอกเลา หยักศก เป็นลอน


ป้าสินเป็นป้าที่เขาเรียกกันว่า “เสือ้ยิ้มยาก” เพราะป้าสินมีสีหน้าที่เรียบเฉย จนถึงดูดุ นานๆดิฉันจะเห็นป้าสินยิ้ม แต่ก็เป็นยิ้มมุมปาก ไม่เคยเห็นป้าสินหัวเราะ


ป้าจะดูหน้าเคร่งเครียดเวลาเล่นไพ่ตอง และไม่ค่อยพูดคุย เป็นประเภท “พูดน้อย ต่อยหนัก”


เวลาป้าพูดออกมาทีหนึ่งก็จะเป็นประโยคเด็ดๆที่ทุกคนจะอึ้ง เช่นครั้งหนึ่งมีขาไพ่คนหนึ่งพูดจาสองแง่สองง่ามแหย่ป้าสิน ป้าสินก็ยิ้มมุมปากนิดๆ แล้วพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า “เกิดมาชีวิตชั้นยังไม่เคยพูดคำหยาบเลยซักคำ” ขาไพ่คนที่แหย่แกก็เลยหน้าม้านไป


สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของป้าสินอีกอย่างก็คือ ป้าจะพกยาพ่นสำหรับโรคหอบหืด ซึ่งนานๆก็จะพ่นซักทีหนึ่ง ดูรวมๆแล้วป้าสินก็จัดว่าเป็นคนแก่ที่ดูแข็งแรงมาก สำหรับคนอายุเกือบเก้าสิบปี


ดิฉันก็เลยแอบดูว่าป้ามีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้ยังดูแข็งแรง พูดคุยไม่หลงลืม แถมยังความจำดี เวลาเล่นไพ่ตองมักจะรวยทุกครั้ง


จนพอแดดร่มลมตก ช่วงเย็นๆ ป้าก็จะสั่งให้เด็กที่บ้านป้าปริมเอาเบียร์กระป๋องแช่เย็นมาให้ดื่ม ๑ กระป๋องทุกครั้งที่มาเล่นไพ่ตอง


ดิฉันยังบอกแม่ดิฉันว่า เราควรจะดื่มเบียร์ทุกวันบ้างจะได้แข็งแรง พอคุยกันเล่นๆได้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง ป้าสินก็ป่วยเข้าโรงพยาบาล


อยู่โรงพยาบาลได้ประมาณหนึ่งเดือน ป้าก็เสียด้วยโรคมะเร็งปอด


ดิฉันกับแม่ต่างก็ช๊อคกับการจากไปกะทันหันของป้าสิน เพราะตลอดเวลาที่นั่งเล่นไพ่ด้วยกัน ป้าสินไม่เคยมีอาการอะไรทั้งสิ้น ดูแข็งแรงมาก


ดิฉันก็เลยปลงอนิจจังว่าไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆในโลกใบนี้ แต่จริงๆแล้วป้าสินก็ได้แก่วาระตามอายุขัยของท่านแล้ว ถือว่าเป็นคนที่อายุยืนมากคนหนึ่งเสียด้วยซ้ำ


ป้าสินมีชื่อจริงว่า เสริมสิน นามสกุล ชูโต เริ่มอาชีพด้วยการเป็นช่างตัดเสื้อ แล้วจึงมาแต่งงานกับนายทหาร จนมีลูกโทน ๑ คนได้แก่ คุณมุ่ย ลูกสาวคนเดียวของป้า


ป้าสินเริ่มรู้จักและเล่นไพ่ตองกับคนรู้จักกันแถวสี่แยกบ้านแขก จนตอนหลังก็มาเล่นแถวเจริญพาสน์ ที่เป็นโรงพักบุปผารามปัจจุบัน


พูดถึงโรงพัก ป้าสินก็เคยมีประสบการณ์โดนตำรวจจับเรื่องเล่นไพ่ตองตอนสมัยสาวๆ ซึ่งเวลาตำรวจบุกไปจับเหตุการณ์ก็จะเหมือนในหนังไทย ที่จับเอามุกตำรวจจับไพ่มาไม่มีผิดเพี้ยน เพราะขาไพ่ก็จะแตกกระเจิงเวลาตำรวจเข้ามา


คุณแม่ป้าสินหรือก็คือคุณยายของคุณมุ่ย ด้วยความตกใจ ก็เอาไพ่ไปซ่อนในห้องน้ำ เอาขันน้ำครอบไพ่ไว้ แล้วก็ทำเป็นไปนั่งฉี่ที่โถส้วม


ปรากฏว่าตำรวจก็เปิดประตูห้องน้ำเข้าไป อารามตกใจ คุณยายคุณมุ่ยก็หยิบขันทำเป็นว่าจะล้างก้น ไพ่เลยกระจายทั้งห้องน้ำ เลยโดนจับไปโรงพัก ป้าสินก็โดนจับไปด้วย


ช่วงนั้น ป้าสินเปลี่ยนนามสกุลมาใช้ตามสามี เป็น “กล้ารอญ” พอถึงโรงพัก ตำรวจก็ถามชื่อป้าสิน  ซึ่งจริงๆป้าสินต้องชื่อว่า “เสริมสิน กล้ารอญ”


แต่ด้วยความกลัวบวกกับความตกใจ ก็เลยตะโกนบอกชื่อว่า “ชั้นชื่อนางสินห้าหลอด” ก็เป็นเรื่องตลกที่ป้าสินเล่าให้คุณมุ่ย ลูกสาวฟัง จนยังขำอยู่ทุกวันนี้


ช่วงต่อมาป้าสินได้ย้ายมาเล่นไพ่ที่บ้านคุณหญิงยืน บุณนาค โดยมีคุณมุ่ย ลูกสาวติดตามไปด้วย จนเล่นไพ่เป็นเพราะช่วยป้าสินถือไพ่แทนเวลาป้าสินเข้าห้องน้ำ


แต่จริงๆแล้ว ป้าสินก็ไม่อยากให้คุณมุ่ยเล่น แต่ก็เหมือนดิฉัน คือถ้าคนลองมีหัวที่จะเล่นไพ่ แล้วก็ชอบด้วยห้ามยังไงก็เล่นเป็นอยู่ดี


จากนั้นทั้งสองคนแม่ลูกก็ได้รู้จักขาไพ่ท่านหนึ่งคือ คุณป้าทวี บุณนาค ซึ่งเป็นญาติกับป้าปริม ป้าปริมก็เลยชวนทั้งคู่ให้ไปเล่นไพ่ตองที่วังละโว้ ซึ่งก็เป็นที่มาของการที่ดิฉันได้พบกับขาไพ่ตองทั้งสองท่านนี้


คุณมุ่ย มีชื่อจริงว่า อินทิรา เรียนด้านการตลาดที่โรงเรียนพาณิชย์สีลม พอจบแล้วก็ได้มาทำงานอยู่ ปตท.


คุณมุ่ยเป็นสาววัยเกษียณผิวแทน รูปร่างอวบ ชอบใส่เสื้อสีสด ดูแล้วสดใส และด้วยอัธยาศัยที่มีอารมณ์ดีตลอดเวลาจึงแหย่ขาไพ่ที่บ้าจี้อย่างสนุกสนานทั้งวัน


โดยจะเอาไม้เขี่ยไพ่ยื่นไปใต้โต๊ะให้โดนเอวของขาไพ่บ้าจี้ แล้วพอขาไพ่ตกอุทานออกมาเป็นคำตลกๆ คุณมุ่ยก็จะหัวเราะเสียงดังชอบใจ


โดยเฉพาะกับคุณตุ้มที่ดิฉันจะเล่าเรื่องของแกให้ฟังในตอนต่อๆไป จะเป็นคู่แหย่กันให้ทุกคนได้หัวเราะกับคำอุทานของคุณตุ้ม


คุณมุ่ยก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หลงไหลในเสน่ห์ของไพ่ตอง คุณมุ่ยบอกว่า “ชอบไพ่ตอง เพราะได้คิดหลายๆอย่างในการเล่นและการกินไพ่ตอง ว่าจะเล่นแบบไหน กินแบบไหน แล้วก็ได้พบปะขาไพ่ ดีกว่าอยู่บ้านเหงาๆ”


เวลาเล่นไพ่ตองที่วังละโว้ ก็จะมีขาไพ่ดูโอ้แม่ลูกถึง ๓ คู่ได้แก่


ป้ามารศรีกับพี่เต่าอรสา


แล้วก็มีดิฉันกับแม่ดิฉัน


และอีกคู่ก็คือป้าสินกับคุณมุ่ย


ซึ่งสามคู่นี้ต้องนั่งสลับฟันปลา ไม่ให้มานั่งติดกันเพราะกันการครหานินทาว่าแม่ลูกทิ้งไพ่ให้กัน


แล้วแต่ละคู่แม่ลูกก็จะผลัดกันดูแล พอเวลาแม่ใครไอแค้กหนึ่ง ก็จะมีเสียงลูกของแม่ที่ไอบอกให้แม่ดื่มน้ำ ซึ่งก็ดูเป็นไทยๆดี ที่แม่ลูกก็จะห่วงใยกัน


แต่บางอารมณ์ก็จะมีที่แม่ลูกแขวะกัน แต่ก็เป็นที่ขำขันกันในหมู่ขาไพ่ มากกว่าจะเป็นเรื่องเครียด


คุณมุ่ยจะมีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในการเล่นไพ่ตอง คือจะมีวลีติดปาก เมื่อคุณมุ่ยได้กินไพ่ นั่นคือ “ขอบพระทัยฮองเฮา” คุณมุ่ยบอกว่า พอจั่วตัวกินขึ้นมา แกจะพูดออกมาเองโดยอัตโนมัติ ไม่ได้เสแสร้งพูด ซึ่งจริงๆแล้วคุณมุ่ยเป็นคนไม่ชอบดูหนังจีน


แต่เมื่อวันหนึ่งได้ดูหนังเรื่อง “ซูซีไทเฮา” ก็เกิดชอบอกชอบใจหนังเรื่องนี้อย่างชนิดคลั่งไคล้ จนในที่สุดประโยคตัวแสดงในหนังชอบกล่าว ก็เลยฝังอยู่ในหัวคุณมุ่ยจนกล่าวออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า “ขอบพระทัยฮองเฮา” แต่มีเรื่องขำที่ดิฉันเคยได้ยินป้าปริมแซวคุณมุ่ยเวลาวันไหนที่ไพ่คุณมุ่ยไม่ค่อยได้กิน ป้าปริมก็จะแหย่ว่า “มุ่ย สงสัยวันนี้ฮองเฮา ท่าจะไม่เสด็จละมั้ง”


คุณมุ่ยก็จะนั่งหน้างอ เพราะหงุดหงิดที่ไพ่ไม่กินอยู่แล้ว ยังโดนแซวอีก


คุณมุ่ยกับป้าสินมีบ้านพักอยู่ที่บางพลี ซึ่งคุณมุ่ยจะปลูกต้นไม้ไว้หลายชนิด เพราะคุณมุ่ยเป็นคนรักต้นไม้ คุณมุ่ยจะปลูกต้นไม้โบราณของไทยๆที่มีกลิ่นหอม เช่น ต้นบุหงารำไป ที่มีดอกสีขาวอมเขียว มีกลิ่นฉุน ต้นรสสุคนธ์ที่มีกลีบดอกละเอียด มีกลิ่นหอมอ่อนๆตอนเช้า ต้นชมนาด นมแมว คัดเค้า ช่อมาลี เทียนหอม ฯลฯ


บางวันที่มีการเล่นไพ่ตอง คุณมุ่ยก็จะหอบต้นไม้จากที่บ้านมาฝากดิฉัน คุณมุ่ยบอกว่าคนค้าขายควรจะมีต้นปีบไว้ในบ้าน แล้วกิจการจะเจริญรุ่งเรือง แกก็เลยเอาต้นปีบทองมาให้ดิฉันปลูก


ดิฉันก็จะชื่นชมกับความมีน้ำใจ ที่นึกถึงดิฉันและแม่ของคุณมุ่ยและป้าสิน เพราะตลอดเวลาที่รู้จักกัน คุณมุ่ยกับป้าสินจะมีของกำนัลติดมือมาฝากแม่กับดิฉันตลอดเวลา


พอหน้าร้อน ก็จะเก็บมะม่วงอกร่องที่หวานอร่อยที่สุดในจักรวาลมาให้ดิฉันกับแม่กิน


หรือบางทีก็เอาขนมกล้วยห่อใบตองแบบโบราณมาให้เราทั้งคู่ ได้กินขนมกล้วยที่อร่อยที่สุดในจักรวาลเช่นกัน


ดิฉันชอบนิสัยคนไทยโบราณที่มีน้ำจิตน้ำใจนึกถึงกันแม้จะเป็นของเล็กๆน้อยๆ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเรานึกถึงกัน ซึ่งปัจจุบันหาอะไรแบบนี้ได้ยากเต็มทน


มีแต่นึกถึงตัวเอง นึกถึงผลประโยชน์ของตัวเอง จนบ้านเมืองของเรามันขาดเสน่ห์ความเป็นไทยดั้งเดิมจนแทบไม่เหลือหลอ


ดิฉันถึงได้หลงเสน่ห์ของวงไพ่ตอง เพราะเหมือนกับดิฉันได้ย้อนยุคไปในเมืองไทยสมัยก่อนเก่าได้ฟังเรื่องโบราณๆเพลงโบราณๆ ที่มีพี่เต่า อรสาร้องเล่นในวงไพ่


ได้เห็นความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ของคนไทยโบราณที่ยังมีให้เห็นในวงไพ่ตอง ซึ่งแม้จะเป็นกลุ่มคนเล็กๆ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของใจคนไทยสมัยก่อน ที่ในสมัยนี้หายากยิ่งกว่างมเข็มในอวกาศเสียอีก


ปัจจุบันดิฉันก็ยังเล่นตองกับคุณมุ่ยอยู่ แม้จะไม่มีป้าสิน แต่ “เดอะ เกมส์ มัสต์ โก ออน” ค่ะ


มณีรัตน์ บัณฑุกัมพล




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2553
0 comments
Last Update : 8 กรกฎาคม 2553 12:08:47 น.
Counter : 1836 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Girandola
Location :
Sydney Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ลูกอยากได้ อะไร แม่ให้หมด
แต่ให้จด จำไว้ อย่าได้ดื้อ
ตั้งใจเรียน วิชา และฝึกปรือ
พร้อมทั้งถือ มานะ พยายาม

แม่สอนสั่ง อะไร ขอให้จด
จำให้หมด กิริยา ใจอ่อนหวาน
เป็นคนดี มีศีลธรรม ประจำกาล
อย่ากล่าวขาน ว่าผู้ใหญ่ ให้ได้อาย

"อินทิรา ดำสัมฤทธิ์" คุณแม่ของมิ้นสค์เองค่ะ
Friends' blogs
[Add Girandola's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.