Bloggang.com : Avalanche : ทริปตามใจ (แม่) ฉันที่ซิดนีย์ ออสเตรเลียค่ะ

ทริปตามใจ (แม่) ฉันที่ซิดนีย์ ออสเตรเลียค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ไม่ได้รีวิวไว้นาน ยังมีใครจำเราได้บ้างป่าวคะ?
วันนี้กลับมาอีกแล้ว คราวนี้ไปไกลถึง Sydney ประเทศ Australia
เดินทางไปกะคุณแม่นะคะ สนุก + งงๆ กันตลอดเวลา

คุณแม่อายุ 60 เศษๆ แล้วค่ะ ฟังภาษาอังกฤษก็ไม่เข้าใจ
เวลาเที่ยว เอาคุณแม่เป็นหลักไว้ก่อน แม่เบื่อก็นั่งพัก แม่เหนื่อยก็นั่งพัก

ของเริ่มรีวิวทริปเลยนะคะ วันที่ 24 ธ.ค. เรานั่งเครื่องบินไปเกือบ 9 ชม.
ก็ถึงสนามบิน kingford smith ที่ซิดนีย์ เวลา 20.35 น. ท้องฟ้ามืดแล้ว
เราแวะเอา free brochure จากในสนามบินก่อนโล้ด

คนที่สนามบินก็เยอะนะคะ เข้าแถวรอผ่านด่านศุลกากรนานเลย
เพราะเราแจ้งในใบเข้าเมือง ว่ามีขนม และของกินติดตัวมาด้วย
แต่เอาถึงเวลาเข้าจริงๆ เจ้าหน้าที่ขอเปิดตรวจแค่กระเป๋าแม่ใบเดียว
แถมตรวจแป๊บเดียวเองค่ะ จริงๆ กระเป๋าเราก็มีพวกของกินเยอะนะคะ
ที่เราเอาของกินมาเยอะ เพราะพี่สาวเราจะบินมาจากเมลเบิร์น
มาเจอกันที่ซิดนีย์ค่ะ ตั้งใจว่าจะทำอาหารทานด้วยกัน

ใครไปเที่ยวไม่ได้พกของกินเข้าไป เข้าแถวอีกช่องเขียว
แถวจะไวมากๆค่ะ ไม่เสียเวลาด้วย

ผ่านด่านตม.ออสเตรเลียเสร็จเราก็เตรียมตัวเข้าห้องพักโรงแรม
ตั้งใจไปขึ้นรถ shuttle bus แต่ว่ารถหมดแล้วค่ะ กำลังคิดว่าจะเดินไปขึ้นแท็กซี่
เจอคุณลุงคนนึงเค้าถามว่าจะเข้าในเมืองไหม คิดคนละ 12 เหรียญ
เอาวะ ลุงมีเค้าเตอร์ส่วนตัวในสนามบิน ข้างหน้าเห็นมีฝรั่งผมทองเป็นเหยื่อแล้วสองคน
จะเพิ่มกระเหรี่ยงอย่างเราไปอีกสัก 2 คนก็คงไม่เป็นไร
ถ้ามีอะไร จะเอาน้ำจิ้มสุกี้ราดใส่หน้าคนขับละกัน คิดไปนู่นนน
เค้าก็ไม่ได้พาไปไหนหรอก ก็ไปส่งที่โรงแรมที่เราพักนั่นละ
แถมตอนลงโรงแรมลุงคนขับเค้ายังใจดีบอกว่า พรุ่งนี้คริสมาสพวกร้านค้าจะปิดหมดนะ
แต่ที่ china town จะยังเปิด เดินจากโรงแรมไปได้สบายๆ
ขอบคุณคุณลุงมากๆเลยค่ะ ขอโทษด้วยที่แอบคิดไม่ดีกะลุงไว้ก่อนหน้านี้ แฮะๆ

โรงแรมที่เราพักคือ four points by sheraton , Darling harbour จากการแลกไมล์ของการบินไทยค่ะ

ไอ้ตอนเราแลกมันใช้ไมล์แค่ 22,000 ไมล์ (พัก 2 คืน) แต่พอวันก่อนจะบินเข้าไปเช็คในเวปการบินไทย
ปรากฏว่าโรงแรมมันเพิ่มเรทเข้าไป 48,000 ไมล์ (พัก 2 คืน)

แต่พอมาอ่าน condition แล้ว เค้าบอกว่า bookings for stays up to 31 December 2009 only are accepted at this time
(ขอบคุณข้อมูลจากคุณ parad มากๆเลยค่ะ)

แต่อย่างไรก็ตามตอนไป check in ก็มีปัญหาค่ะ เพราะเครื่องคอมของโรงแรมมันปรับเป็นเรทใหม่แล้วค่ะ

เราก็ต้องไปอธิบายให้เจ้าหน้าที่โรงแรมให้ฟังอีก สุดท้าย supervisor ของโรงแรมยอมให้เข้าเช็คอินค่ะ
กว่าจะได้เข้าห้องพักก็เกือบๆ 5 ทุ่มแล้ว คุณแม่สะโหลสะเล๋เต็มที

รูปที่เอามาลงอาจจะไม่ค่อยสัมพันธ์กะเวลาเท่าไรนะคะ พยายามเลือกรูปที่ (คิด) ว่าสวย และชัดมาลง แฮะๆ

วันที่ 25 ธันวาคม คริสมาสค่ะ ซิดนีย์เงียบอย่างกะป่าช้า ประชาชนหายไปไหนกันหมดนิ่

ห้องพักโรงแรมจะไม่มีอาหารเช้านะคะ เราเลยบอกแม่ว่ากินกาแฟในห้องเสร็จแล้ว
ไปเดิน china town กัน ระหว่างทางนานๆ รถจะผ่านมาสักคัน

ในรูปวิวจากห้องพักค่ะ มองไปมองเห็นถนน Sussex st.
จากเส้นนี้เดินตรงไปอย่างเดียว ก็เจอไชน่าทาวน์แล้วค่ะ

นรูปด้านอันซ้าย เพ่งดีๆ จะเห็น Sydney tower ค่ะ อากาศไม่ดีเลย ท้องฟ้าเมฆหนา อากาศอึมครึมสุดๆ

เข้าไปถึงไชน่าทาวน์ พยายามมองหาต้นไม้สีทองสัญลักษณ์ของ china town
เดินผ่านไปผ่านมาสะหลายรอบกว่าจะเจอ

คนอื่นเค้ามาเที่ยวเมืองนอกกัน ซื้อของฝาก ของที่ระทึกกันวันจะกลับ
แต่เรากะแม่ซื้อมันตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ ครีมรกกงรกแกะ หูยยย แม่ชอบมากมาย
ซื้อจากร้านสีชมพูที่เค้าฮิตๆ กันนั่นละ น้องคนขายขายเก่งจริงๆ แม่ดิฉันเคลิ้มเชียว

ตอนเดินในไชน่าทาวน์บอกมามี๊ว่ามองหาร้านสีชมพูๆ นะ
แม่บอกว่าร้านมีตั้งเป็นร้อยๆ ร้านจะหาเจอไม๊นั่น พูดไม่ทันขาดคำ
โอ้ววว ~~เจอจนได้ มันช่างชมพู๊ ชมพูมาแต่ไกล

วันคริสมาสหลายๆ ตึกหยุดไม่ขายของค่ะ เราได้เดินบริเวณ china town
กับตึก market city เท่านั้นเอง ส่วน paddy market ปิดค่ะ

ขากลับจาก china town เราลองเดินเข้าไปในบริเวณส่วน Tumbalong park
ลานตรงกลางใหญ่ๆ มีชิงช้าสวรรค์ มีรถไฟวนรอบ park ด้วย
ติดๆ กันมี Chinese garden ถ้าจะเข้าก็ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ
แต่เราไม่ได้เข้าเพราะว่ามันปิดวันคริสมาส แฮะๆ

ก่อนจะเข้าโรงแรมก็แวะดูแถว darling harbour สักหน่อย
ลืมบอกไปว่าโรงแรมเราอยู่ใกล้กับ Sydney aquarium กะ sydney wildlife world มากๆ เลยค่ะ
เดินไปข้ามสะพานลอยประมาณ 5 นาทีเอง
ฝั่งตรงข้ามจะเป็น maritime museum ค่ะ ไม่ได้แวะเข้าไปเหมือนกัน
เพราะกลัวแม่ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ เดินกันจนเมื่อยแล้วก็กลับห้องพัก

วันที่ 26 ธ.ค. อากาศยังอึมครึมเช่นเคย แล้วก็หนาวขึ้นด้วยเพราะเมื่อคืนฝนตก
เราไม่ได้เอากางเกงขายาวมาเลย เพราะโดนขู่ว่าหน้าร้อนที่ซิดนีย์ร้อนมากๆ
เดินสั่นกึ่กๆลงมาจากห้องพัก รีบ check out ตั้งแต่ไก่โห่
เอากระเป๋าฝากไว้ที่โรงแรม แล้วเดินไปที่ห้าง david jones เพราะนัดพี่สาวไว้ที่นั่น

ในรูปทำเอาแม่ตกใจ เมื่อวานไม่มีคนเลย พอผ่านไปวันเดียว
ผู้คนมาจากไหนเนี่ยะ คนเยอะแยะไปหมดเลย....

ก่อนมาพี่สาวโม้บอกว่า ที่นิ่นะ ลดกระหน่ำ...พอเข้าไปจริงๆ ก็ยังแพงง่ะ
หยิบไม่ลง ที่พอๆ จะหยิบลงก็พวกครีม david jones
พวกเครื่องสำอางที่จัดเป็น Christmas set บางอย่างก็พอซื้อได้ค่ะ
ประเทศนี้เสื้อผ้าแพงมากมาย dress ลด 50% แล้ว
ราคายัง start ที่ 149 aud เลย

เดินจนแม่บ่นว่าเหนื่อยแล้ว เลยชวนพี่สาวไปกินข้าวที่ china town กันต่อ
พี่สาวเพิ่งมาถึงวันแรก เลยดี๊ด๊าเป็นพิเศษ แถมเล่าให้ฟังว่าขับรถมาถึงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
แต่ว่าหาบ้านที่เช่าไว้ไม่เจอ จะแวะถามคน ก็ไม่มีคนให้ถามเลย
สุดท้ายเจอรถสวนมาคัน ถามทางเค้า เค้าบอกว่า เด๋วเค้าขับนำไปให้เลย
กว่าจะหาบ้านเจอแทบแย่ ตอนเช้ารีบเอารถไปคืนที่บริษัทรถเช่าอีก

เราสามคนมาถึงไชน่าทาวน์ พากันกินอาหารจีนค่ะ เลือกร้านที่ไม่ต้องต่อคิว
เพราะแม่บ่นว่าหิวแล้ว สั่งอาหารมา 3 อย่าง กินกัน 3 คนกำลังดี

ในรูปแม่บอกว่าถ่ายรูปฉันมั่งสิ๊ กิจกรรมวันนี้ก็แทบจะ repeat วันเมื่อวานทั้งหมด เพราะว่าพี่สาวเพิ่งเคยมาซิดนีย์ครั้งแรกเหมือนกัน

พี่สาวบอกว่าขอเดินไชน่า ทาวน์หน่อยนะ เราก็พากันเดินซ้ำกะทีเ่ดินเมื่อวานนั่นละ
เดินเล่นกันจนพอใจ ก็มารับกระเป๋าจากทางโรงแรม เรียกแท๊กซี่
ขึ้นแท็กซี่ ใช้เวลาประมาณ 6 นาทีเศษๆ เสียไป 15 aud ก็ถึงที่พักใหม่แล้ว
จริงๆ ค่าแท็กซี่มันไม่น่าแพงขนาดนี้นะ แต่เราไปเจอ silver taxi ค่ะ
เห็นว่ากันว่ามันจะแพงกว่าปกติ

ที่พักอันนี้พี่สาวกับเพื่อนๆเค้ามาเช่าไว้ช่วง Christmas break
เจ้าของเป็นฝรั่งออสซี่แท้ๆ ไป holiday ที่ภูเก็ต บ้าน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ค่าเช่าบ้านเฉลี่ยกันแล้วเหลือคนละ 25 aud / วัน
ต่อจากนี้เราจะค้างกันที่บ้านสีชมพูหลังนี้ค่ะ

27 ธ.ค. อากาศยังหนาวอยู่ค่ะ หลังจากทนหนาวมาสองวันเต็มๆ
ในที่สุดวันนี้มีกางเกงขายาวใส่สักที ยืมของพี่สาวมา

วันนี้เดินทางทางเรือเป็นครั้งแรกค่ะ จากบ้านพักสะดวกทั้งทางรถเมล์ และเรือเลย
วันนี้เราเลือกเรือค่ะ เราซื้อตั๋วแบบ day tripper ราคา 17 aud ซื้อจากพนง.บนเรือได้เลยค่ะ

ส่วนพี่สาวเรายังอยู่ที่ซิดนีย์อีกนานเลยเลือกซื้อตั๋วแบบ 10 เที่ยว
ท่าเรือที่ใกล้บ้านสีชมพูชื่อท่า balmain east
ท่าเรืออันนี้จะเก่าๆ เล็กๆ อารมณ์ประมาณท่าเรือข้ามฝากในบ้านเรา

วันนี้จะไปสำรวจซิดนีย์จริงๆ แล้ว

เราเริ่มจาก circular quay ตอนนั่งอยู่บนเรือก็ผ่าน opera house และ harbour bridge นะคะ
จริงๆ harbour bridge นิ่มองเห็นจากแถวบ้านเลยค่ะ เลยไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไร

สังเกตในรูปนะคะ อากาศยังอึมครึมอยู่ ตั้งแต่มายังไม่เจอแดดเลยค่ะ

ลงเรือที่สถานี circular quay เรามองหาร้านที่ขายทัวร์ไป blue mountain ค่ะ
ก่อนหน้านี้ไปถามของร้านไทยมา ทั้งร้านรวงผึ้ง และร้านชาติไทย
ปรากฏว่าปีนี้เค้าไม่ออกทัวร์แล้ว ออกอีกทีหลังปีใหม่เลย
เลยต้องมาหาทัวร์ของฝรั่งเอา เรามาเจอของบริษัท AATKings ราคาเริ่มต้นที่ 99 aud
มี แวะ featherdale ด้วย แอบจดราคาไว้ก่อน กะว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องมาแถวนี้อีกอยู่แล้ว ค่อยมาซื้อดีกว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันตร์!!

ใครจะซื้อทัวร์ของบริษัทนี้ จะอยู่ที่ท่าเรือ circular quay หน้า waft 6 นะคะ
ราคามีขึ้นๆ ลงๆ ทุกวันค่ะ มี special price ไม่แน่นอน

ใกล้ๆ circular quay จะมีบริเวณที่เป็นตึกเก่าๆ สวยๆ เค้าเรียกว่า the rock
วันนี้มีตลาดนัดด้วย คนเยอะเลยทีเดียว

วันนี้ตั้งใจว่าจะมาหาซื้อบัตร see Sydney pass สักหน่อย เราเข้าไปที่ส่วนของ
visitor centre จนท.บอกว่า บัตร see Sydney pass แบบ 1 day ไม่มีแล้ว
และแบบใหม่ taronga zoo is no more included กรี๊ดดดดดด ...เคืองมั่กๆๆ
จะขึ้นราคาไม่ว่า จะลดสถานที่เที่ยวอันอื่นไม่ว่า ทำไมต้องเป็น taronga ด้วยเนี่ยะ เลยตัดสินใจไม่ซื้อสะเลย

ใครจะไปเช็คราคาบัตรและสถานที่สามารถใช้ได้กับบัตร see Sydney pass จากเวป //www.seesydneycard.com/ ก่อนนะคะ

พอหายเคืองก็เริ่มหิว วันนี้รีเควสพี่สาวว่า ขอไปทานที่ร้านดังที่ชื่อว่า pancake on the rock
ร้านจะอยู่ที่ตึก Metcalf arcade เราหาตึกไม่เจอหรอก ถามเอาจากคุณลุงที่ขาย
ป๊อปคอร์นในตลาดนัดนั่นละ ลุงใจดีมากๆบอกทางสะละเอียดเลย

ใครไปเที่ยวแล้วหาร้านนี้ไม่เจอนะ ตอนถามทางบอกคนที่ถามไปเลยว่าจะไป
pancake on the rock มันดังมาก ประมาณว่ารู้จักกันทุกคน

จริงๆสั่งมาอาหารมาเยอะกว่านี้นะคะ เพราะว่ามีเพื่อนพี่สาวไปด้วย ไปกันตั้ง 8 คนนะคะ
อร่อยทุกอย่างเลยยยยย ใครสั่งแพนเค้กโปรดระลึกไว้ว่าไซด์มันมโหราฬมาก

กินเสร็จไปเที่ยว taronga zoo ดีกว่า เพราะไหนๆ วันนี้ก็ซื้อตั๋วแบบ day tripper มาแล้ว
ส่วนพี่สาวเราซื้อแบบตั๋ว 10 เที่ยวมา บอกว่าเดี๋ยวจะไปซื้อตั๋วเข้า taronga + ตั๋วเรือ ที่pier 6 ท่าที่มี captain hook นั่นละ

ตอนจะขึ้นเรือนั่นละ ทำให้รู้ว่า ไอ้ตั๋วday tripperที่เรามีอยู่ มันขึ้นที่pier 2 เคี๊ยกกกกก~~
ซื่อบื่อทั้งพี่และน้องจริงๆ สรุปต้องแยกกันไป แล้วไปนัดเจอกันที่กรงหมีโคอาล่า

เรือเราไปถึงก่อน ไปถึงก็ขึ้นรถเมล์แล้วเข้าไปซื้อตั๋วเข้าสวนสัตว์ข้างในนั่นละ
ได้ลด 15% เอาบัตรลดจากหนังสือที่มีแจกฟรีใน visitor centre
ค่าเข้าลดแล้วเหลือ 69.70 aud (2 adults)

นั่งรอพี่สาวที่กรงโคอาล่าอยู่นาน กว่าพี่จะมา
พี่สาวบอกว่าไอ้เรือกัปตันฮุคมันจะพาล่องเรือไปเที่ยวชมเมืองที่อื่นก่อน
แล้วค่อยมาจอดที่ taronga zoo

น้องลูกชายบ้านหลังใหญ่อลังการดี มีโซนให้สามารถจับสัตว์ได้จริงๆด้วย
ขากลับแยกกันกลับอีกแล้ว เรานัดเจอพี่สาว กันที่ darling harbour
เพื่อไปทานอาหารเย็นที่ china town ค่ะ

28 ธ.ค. เป็นวันที่เราไม่ได้วางแผนว่าจะไปไหนค่ะ พี่สาวชวนไปถ่ายรูปตึก QVB กัน

วันนี้ลองนั่งรถเมล์เข้าเมืองค่ะ ขึ้นรถเมล์จากแถวบ้านมาลงที่ตึก QVB ค่ะ
ราคารถเมล์ถูกกว่าขึ้นเรือ แถมจากบ้านเดินไปป้ายรถเมล์ก็ใกล้กว่าด้วย
ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีเลย

ไปถึงตึก QVB ไม่ทันได้ถ่ายรูปอ้ะ โดนดูดเข้าร้านนั้น ร้านนี้ เจอร้านขายยาเลยแวะซื้อวิตามินมานิดหน่อย

ป้ายนี้รักมากก เป็นแม่เหล็กดึงดูด ไม่ว่ามันจะอยู่ส่วนไหนของโลกก้อตาม 555
ตอนถ่ายรูปนี้อายนะ แต่พอมานั่งดูรูปแล้วตอนนี้ขำมากกว่า

เดินเล่นในตึกเสร็จแล้ว ก็ขึ้นรถเมล์สาย 555 เป็น free bus นะคะ
ไปลงที่ circular quay เพื่อไปซื้อทัวร์ blue mountain ค่ะ
ปรากฏว่า วันนี้ราคาที่ดูเอาไว้ขึ้นจาก 99 aud เป็น 110 aud
แง๊....แค่วันเดียวเอง ไม่น่าเลย รู้งี้ซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อวานสะก็ดีหรอก~~

สุดท้ายตัดใจซื้อแบบ all inclusive ราคา 140 aud เพราะรวมค่าอาหารกลางวัน และค่ารถรางใน scenic world ไว้ด้วย

จาก circular quay เราขึ้นรถ free bus สาย 555 มาลงที่สถานี st.james
แล้วเข้าไปเดินใน hype park

วันนี้ถ่ายรูปกะ sydney tower ได้ด้วยแฮะ

เดินเล่นจนแม่บ่นว่าเหนื่อย ก็พากันขึ้นรถสาย 555 เช่นเคย ไปลงที่ china town
แวะซื้อผักนิดหน่อย แล้วขึ้นรถเมล์กลับบ้านสีชมพู

วันนี้กลับบ้านเร็วเลยไปเดินเล่นที่ Woolworth แถวๆ บ้าน
และซื้อช็อคโกแล๊ตกับเชอรี่มากินเล่นค่ะ
ตกเย็นทำสุกี้กินกัน ประหยัดค่าอาหารไป 1 มื้อ

ในรูปยังคงเป็นที่ Hype park ค่ะ เดินเล่นได้สบายๆ

ฝากไว้นิดนึง สำหรับรถเมล์สาย 555 จะวิ่งวนๆ เป็นสี่เหลี่ยมนะคะ
ดูเส้นทางที่วิ่งจากเวป //www.babs.com.au/images/au_maps/nsw/sydney_cbd_free_shuttle.pdf ไว้เลยค่ะ

ใครจะไปปริ๊นเก็บไว้เลยนะคะ ดีมากๆ เพราะวิ่งผ่านส่วนสำคัญๆ ของเมืองมากมาย
ประหยัดไปได้เยอะค่ะ

รถนี้จะวิ่งตั้งแต่เวลา 9.30am to 3.30pm นะคะ เว้นวันพฤหัสจะวิ่งถึง 9pm. ค่ะ

29 ธ.ค. นัดกับทางทัวร์ไว้ที่หน้าโรงแรม four points darling harbour
อันที่เราพักเมื่อวันแรกที่มาถึง รถจะมารับ 7.45 am.
เราขึ้นรถเมล์จากบ้านมาถึงที่โรงแรมใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที มาถึงก่อนเวลานัดประมาณ 15 นาที
รู้สึกหน้าโรงแรมนี้จะเป็นจุดนัดพบคนเยอะเหมือนกัน มีรถมาจอด 3 คัน
ของ AATKings มาคันสุดท้าย แต่ตรงเวลานะคะ

รถพาเรามาลงที่โรงแรม star city ค่ะ จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถขึ้นที่จะไป
blue mountain ก่อนขึ้นรถ เค้าจะแจกตั๋วเข้า scenic world รวมทั้งมีเมนูอาหารให้เลือก
บางคนก็ได้ บางคนก็ไม่ได้แล้วแต่แพ็คเกจที่เลือกซื้อมานะคะ

ในรูปมาถ่ายรูปกะป้ายหน้าโรงแรมสักหน่อย อยู่มาตั้ง 2 คืน ยังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยเลย

จุดแรกที่ทัวร์ลงคือ featherdale wildlife park ค่ะ
สวนสัตว์เล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยสัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลีย
หน้าตาสัตว์จะงงๆ หน่อย เพราะเค้าปล่อยให้มันอยู่รวมๆ
ประมาณว่าตกดึก ตัวไหนอยู่ใกล้กรงไหน ก้อโยนใส่กรงนั้นแน่ๆ

ในรูปโคอาล่า กะ วอมแบทค่ะ

รูป 3 แม่รูป รูปเดียวในทริป เพราะฝรั่งใจดีถ่ายรูปให้

ที่สวนสัตว์แห่งนี้เราจะไม่ลืมไปตลอดชีวิตเลย เพราะ.....................
เราโดนหมีโคอาล่าอึใส่ หึ! จริง ๆ มีรูปด้วยล่ะ แต่ขอไม่เอาลงละกัน

ในรูปหมา dingo หน้าตาเหมือนหมาที่บ้านเลย ที่บ้านชื่อชิโร่ กะ จูเนียร์
ถ้าชิโร่กะจูเนียร์ไปออสเตรเลีย จะโดนจับเข้าสวนสัตว์ไม๊เนี่ยะ

ตอนไป taronga zoo เค้าจะให้จับพวกจิ้งโจ้กะวอลลาบี้เฉพาะตัวที่เดินออกมานอกเส้นทางเท่านั้น มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด

อยู่ที่นิ มันโดดดึ๋งๆ กันเกลื่อนกลาด เลือกจับตามใจชอบได้เลย

ชาวบ้านเค้าอยู่นอกกรงหมด ไอ้ตัวนี้ทำผิดอะไรแน่ๆ เลยโดนจับไปอยู่ในกรง

พี่สาวบอกว่า ตอนไปฟิลลิป ไอร์แลนด์ที่เมลเบิร์นเค้าไม่ให้ถ่ายรูปเพนกวิน
มาที่นิ่ พี่สาวเลยกดรูปรัวเลย

ตัวสุดท้ายสำหรับ featherdale
แม้แต่นกก็โดนโยนออกมานอกกรง

นกตัวนี้ชื่อ tawny frogmouth เค้าว่าหน้าตามันเหมือนปากกบ

จุดที่สองที่แวะคือเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า luera เราลงทานอาหารกลางวันที่จุดนี้
เมือง luera จะเป็นเมืองเล็กๆ บ้านแบบตึกแถวน่ารักๆ เปิดเป็นร้านขายของ
เราเดินเข้าไปแค่ร้านเดียว ของน่ารักมากกกก

ทัวร์ให้เวลาจุดนี้น้อยเพราะว่าระหว่างทางรถติดมาก เลยต้องตัดเวลาในการแวะ
สถานที่ลงด้วย ฮืออ เสียดายจัง

ในรูปทันถ่ายอาหารที่ทัวร์จัดให้ แต่ว่าไม่ได้ถ่ายรูปในเมือง luera ไว้เลย
แค่เดินดูของแป๊บเดียวก็หมดเวลาแล้ว

จุดที่สามที่ลงคือ scenic world กิจกรรมที่ไปทำได้คือ
1. วิ่งเข้าห้องน้ำ 2. วิ่งไปต่อคิวรถรางrailway เพื่อลง valley
3. รีบเดินไปถ่ายรูป 3 sisters 4. ต่อคิวขึ้นcableway ก็หมดเวลาแล้ว
ไม่ได้มีการดื่มด่ำหรือชื่นชมธรรมชาติใดๆทั้งสิ้นเพราะคนล้านแปดมากๆ
ทำแค่นี้แทบวิ่งกลับมาขึ้นรถไม่ทันแล้ววว

railway ลง valley ดูเหมือนจะเสียว แต่จริงๆ มันวิ่งช้ามากกกกถึงมากกกที่สุด
วัยรุ่นเซ็ง แต่ทั่นแม่ดีใจ

ทั่นแม่ และ ทั่นลูก ลมแรง หัวเหอ ผมเผิมกระเจิงกันได้ใจ

จากนั้นก้อนั่งรถหลับๆ ตื่นๆ จุดต่อไปคือ Olympic stadium ที่จัดซิดนีย์ 2000
รถเค้าจะขับวนๆ ไปให้ดูสนามนู่น สนามนี้ แล้วก็จอดให้ลงหน้าสนาม ANZ stadium ค่ะ ลงไปถ่ายรูปที่จุดนี้

เสาที่เห็นในรูปเค้าบอกว่าเค้าสลักชื่อ volunteer ที่มาทำงานให้งานซิดนีย์
โอลิมปิค 2000 ไว้ทั้งหมดค่ะ

จุดสุดท้ายที่ลงคือท่าเรือใน Olympic park ค่ะ หลายๆ ทัวร์จบทัวร์ที่ท่าเรือนี้ค่ะ
คนเพี๊ยบเช่นเคย

ระหว่างทางผ่าน opera house อีกรอบ เราก้อถ่ายรูปอีกรอบ ไม่เสียค่าถ่ายรูป ถ่ายไปให้คุ้ม

มาถึง circular quay ก็แวะหาอะไรกินรองท้องนิดหน่อยค่ะ
วันนี้ตั้งใจกลับไปทำอาหารเย็นทานกันที่บ้าน
ขากลับแวะ Woolworth อีกรอบ แม่ไปซื้อเชอรี่ไปฝากน้องสาว

ไม่วายจะถ่ายรูป landmark ของที่นิ่

ในรูปเห็นเด็กน้อยวิ่งไล่นกแถวท่าเรือ น่ารักดีเลยแอบถ่ายมา 1 แชะ

น้องหมาบ้านตรงข้าม เจ้าของเค้าเอาออกมาโชว์ตัว เพราะเค้าเห็นเราไปแอบดูมัน

30 ธ.ค. วันนี้ต้องกลับเมืองไทยแล้วค่ะ ทีแรกว่าจะออกไป star city ค่ะ
แต่คุณแม่บอกว่าเมื่อยมากๆแล้ว เลยตัดสินใจเดินเล่นแถวบ้านแทน
แถวบ้านที่พักมีร้านอาหารไทยเยอะมากกกกกกกก
ร้านค้าเล็กๆ เยอะเหมือนกัน แต่ของก็แพง แต่เดินเข้าเดินออกดูของก็สนุกดีค่ะ

ไปเจอร้านขนมร้านนึง ชื่อร้าน adriano zumbo ซื้อมาคารูนมาทานเล่น
อร่อยค่ะ กลับบ้านไปอ่านเจอในหนังสือเป็นร้านแนะนำในหนังสือด้วย
มิน่าตอนไปซื้อคนเข้าแถวรอซื้อกันเต็มเลย

เวปของร้าน //adrianozumbo.com/patisserie/
รูปผู้ชายที่ลงในหน้าเวป เค้าใจดีมากๆ เลยค่ะ
เค้าเอามาคารูนให้เราฟรีชิ้นนึงด้วย แอบประทับใจ หน้าตาดี แล้วยังใจดีอีก

ขากลับเราใช้บริการรถจากนักเรียนไทยค่ะ น้องเค้าคิด 30 เหรียญ
มารับถึงบ้านแล้วก็ไปส่งสนามบินเลย (น้องเค้าบอกว่าถ้าเป็นในเมืองคิดแค่ 25 เหรียญค่ะ)
ค่อนข้างสะดวกดี เบอร์น้องเค้าเราได้มาจากการเสิร์ซๆเหาข้อมูลเที่ยวซิดนีย์ค่ะ
เวปชื่อประมาณว่าน้าตุ้ยดอทคอมอะไรประมาณนี้
จำได้ว่าจะมีนร.ไทยในซิดนีย์มาโพสเบอร์ทิ้งไว้เยอะเหมือนกัน

ก่อนจะขึ้นรถแอบเห็นพี่สาวตาแดงๆ จะร้องไห้ โถๆๆๆๆ น่าสงสาร
อีก 4 เดือนมาเจอกันที่เมืองไทยนะพี่สาววววว ตอนนี้นั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งไปก่อนนะเจ้

จบทริปแล้วค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามกระทู้นะคะ

Create Date : 09 เมษายน 2553

Last Update : 5 เมษายน 2554 21:20:54 น.

0 comments

Counter : 3313 Pageviews.