Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
2 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Greece : Nature-History-Romance # 2






<b>เที่ยว กรีซ ตอนหนึ่ง (Meteora)</b>














มาต่อกัน ตื่นเช้ามาวันที่ 2/1/07 นัดกันไว้ว่าเจอกันหน้าโรงแรมตอนเจ็ดโมงเช้า แล้วค่อยไปหาอะไรกินกันที่ร้านกาแฟ หัวมุมถนนใกล้ๆ plaka ก็จะมีร้านกาเแฟเก๋ๆอยู่ 2 ร้านให้เลือก สามารถอิ่มได้ในราคา3 ยูโร (ขนมหนึ่งชิ้น กะกาแฟธรรมดาหนึ่งแก้ว)
หลังจากนั้นเราก็เริ่มเดินกัน ผ่านหน้าสถานี Monastriraki เดินขึ้นไปตามถนนที่ชันขึ้นเรื่อยๆ ผ่านโบราณสถานย่าน Plaka เป็นโบสถ์เก่าแก่ แล้วก็ Hadeian Library ที่เหลือแต่เสา (แต่ตอนนี้เรายังไม่ถึงคิวของ Ancient Agora ค่ค่ะ) เช้านี้เราจะไป ACROPOLIS ก่อน ทางเดินต้องผ่านร้านค้า และบ้านชาวบ้านบางตรอกดูแล้ว งงๆ ว่าเดินต่อไปได้มั้ย เดินขึ้นไปเรื่อยๆ จนเจอถนนที่รถวิ่งค่ะ (พวกกรุ๊ปทัวร์เค้ามาถนนไหน อันนี้ตอนไม่ได้ค่ะ) เลี้ยวไปตามทาง มองลงมาข้างล่างจะเห็น Ancient Agora ซึ่งเป็นเมืองโบราณอีกที่นึงซึ่งเราจะมาอีกที ไม่ใช่ตอนนี้
เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอทางเข้า แต่ก่อนเข้าต้องไปซื้อตั๋วก่อนค่ะ คนละ 12 ยูโร เป็นตั๋วชุด สามารถเข้าชมได้สำหรับ Acropolis site & museum, Ancient Agora, Roman Agora, South slop (Theater f Dionysos) , Olympieion และ Kerameikos ตั๋วมีอายุ 4 วัน คือภายใน 4 วันนี้จะไปที่ไหนก่อนก็ได้ พอเข้าหนึ่งที่เค้าก็จะฉีกออกทีละท่อน

ACROPOLIS เป็นที่แรกสำหรับวันนี้ คนทีมากรีซ เชื่อว่าทุกคนต้องได้มาที่นี่ พอผ่านประตูให้เจ้าหน้าที่ฉีกตั๋วเสร็จก็เดินขึ้นตามพื้นที่ชัน เพราะว่า Acropolis สร้างอยู่บนยอดเขา เป็นเหมือนป้อมปราการ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารที่โด่งดัง Parthenon จริงๆแล้วบนนั้นมีอยู่ 3 วิหารด้วยกัน ได้แก่ Parthenon, Erechtheion, Athena Nike สำหรับAcorpolis สร้างขึ้นเมื่อ 5th Century BC (500 ปีก่อนคริสตกาล) เมื่อเดินขึ้นมาถึงยอดเขาแล้วจุดแรกที่ทุกคนจะได้เห็นเมื่อมองลงไปข้างล่างคือ Theater of Herodes Atticus หรือ อีกชื่อนึงก็คือ the Odeion of Herodes Atticus เป็นโรงละครที่สร้างขึ้นเมื่อ AD 161 (ค.ศ161 ) นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหม่ที่สุดในบริเวณ Acropolis ปัจจุบันยังใช้สำหรับจัดคอนเสริต์กลางแจ้ง เราเลยเข้าไปดูไม่ได้ (ประตูมันปิด)




รูปนี้ประตูทางเข้า Theater of Herodes Atticus (ถ่ายตอนเดินลงมาข้างล่างแล้ว)




พอผ่านโรงละครของHerodes มาก็จามาถึงทางเข้า Acropolis ที่มีชื่อเรียกว่า The Propylaia (ไม่ได้ถ่ายเพราะคนเยอะ มีแต่หัวคนเต็มไปหมด และที่ขวามือของทางเข้า แต่เดิมจะมี Temple of Athena Nike อยู่แต่ตอนนี้เค้ารื้อออกหมด เพื่อไปทำการซ่อมแซม เหลือให้เห็นแค่ป้าย ???



หลังจากผ่าน The Propylaia หรือ entrance of the Acropolis แล้วจะเห็น วิหาร Parthenon เด่นมาเลย วิหาร Parthnon นี้สร้างเพื่อถวายแด่เทพเจ้า Athena








เวลาถ่ายรูป เราก็พยายามที่จะหลบเครน กะค้ำยันเหล็ก แต่หลบยากมาก เพราะมันมีอยู่เกือบรอบตัววิหาร จากป้ายที่เห็นเค้าบอกถึงเรื่องการบูรณะครั้งใหญ่ของวิหารพาเธนอน ว่าเมื่อปี 1923-1930 ได้มีการบูรณะมาครั้งนึงแล้วแต่ทำได้ไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรเนื่องจากปํญหาเรื่องทุนที่ใช้ในการซ่อมแซม สูงมาก จนเมื่อสภาพของวิหารถูกทำลายมากขึ้นจากการ oxidization การบูรณะซ่อมแซมเริ่มอีกทีเมื่อปี 1975 อ่านเจอมาว่า ถ้าเราเห็นรูปวิหารพาเธนอนที่ไม่มีเหล็กค้ำอยู่ แสดงว่าเป็นรูปที่ถ่ายมาไม่ต่ำกว่า 30 ปีมาแล้ว ) รัฐบาลกรีซเค้าจะซ่อมให้มันกลับไปมีสภาพเดิมเหมือนกับเมื่อปี 1687 ก่อนถูกทำลายในยุคจักรวรรดิ์ Ottoman

ส่วนบนของวิหารประดับด้วยหินแกะสลัก ซึ่งตอนนี้ส่วนใหญ่ถูกเอาไปเก็บในพิพิธภัณฑ์เกือบหมดแล้ว มีอันนี้ที่เหลือเป็นชิ้นใหญ่หน่อย



ถ้าเราเดินเข้ามาจาก The Propylaia วิหาร Parthenon อยู่ทางขวา ส่วนทางซ้ายมือคือ The Erectheion (ในรูปเราถ่ายมาจากมุมด้านหลังของ Parthenon เลยเห็น Erectheion อยู่ทางขวา)



The Erectheion สร้างขึ้นเมื่อ 421 BC (421 ปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นเกียรติแก่ เทพกรีกที่มีชื่อว่า Erechtheus จุดเด่นของวิหาร Erectheion อยู่ที่เสาหกต้น ที่เป็นรูปหญิงสาว มาดูรูปใกล้ๆดีกว่า





เสาที่เห็นอยู่ทั้งหกต้นไม่มีของจริงเลย เพราะของจริง 4 ตัวอยู่ใน Acropolis museum ถูกผนึกอยู่ในตู้กระจกที่บรรจุก๊าซฮีเลียม เพื่อเก็บรักษาสภาพหินไม่ให้ถูกทำลาย อีกตัวอยู่ในระหว่างซ่อม (สีเขียวอ่อน) ส่วนอีกตัว (ในผังสีแดง) อยู่ใน British Museum




สองข้างทางเดินเราจะเห็นกองชิ้นส่วนของวิหารที่ตกกระจัดกระจายยังไม่ได้เอามาประกอบอยู่เต็มเลย




ถ่ายรูปให้เห็นกำแพงของ Acropolis ที่สร้างขึ้นบนเขาปูน



เดินชมรอบๆเสร็จแล้วก็เข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์ เพราะว่าชิ้นส่วนหินแกะสลักส่วนมากจะอยู่ในนั้น เค้าจะเอามาเรียงต่อกัน เราไม่ได้เรียนโบราณคดีมา ก้คิดแบบคนไม่รู้อ่ะนะว่าเค้ารู้ได้ไงว่ารูปเต็มๆเป็นยังไง เพราะเราเห็นเค้าแสดงชิ้นหินแกะสลักอยู่หนึ่งชิ้น แล้วข้างล่างชิ้นงานก็มีภาพสเก็ต ชิ้นเต็มให้ดูด้วย





ในพิพิธภัณฑ์ให้ถ่ายรูปได้แต่ห้ามใช้แฟลช แล้วก็ห้ามถ่ายรูปคนยืนคู่กับชิ้นงานด้วย



ต่อจาก Acropolis เราจะเดินลงไปดู Theater of Dionysos ซึ่งอยู่ทาง South Slope of Acropolis ซึ่งเป็นทางเดินโบราณก่อนที่จะขึ้นไปสู่ Acropolis



ตรงนี้เป็นที่ตั้งของ Theater of Dionysos โรงละครที่สร้างขึ้นใน 4th Century BC (400 ปี ก่อนคริสตกาล)
จุดเด่นของโรงละครนี้อยู่ที่รูปแกะสลักของ Silenus (Comic satyr-เรียกว่าตัวตลก ได้มั้ย) ซึ่งยังคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์อยู่ รูปปั้นของ Selenus อยู่ตรงกลางกำลังนั่งชันเข่าอยู่



ภาพจากด้านบน ถ่ายตอนยืนอยู่บน Acropolis



อัฒจรรย์ จุได้กี่ที่นั่งเนี่ยะ



อันนี้แถวของ VIP นั่งติดกะเวทีเลย



เราเดินจาก South Slop of Acropolis ไปดู Hadrian’s Arch เป็นประตูชัย สร้างให้แด่จักรพรรดิ Hadrian ที่ไปรบชนะมา



ข้ามถนนเล็กจากประตูชัยมาก็จะมองเห็นโบราณสถานที่มีแต่เสาอยู่ 15 ต้น ก็คือ Temple of Olympus Zeus เสาแต่ละต้นสูง 17 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.6 เมตร ตอนสร้างมันเคยมีอยู่เป็นร้อยต้นเต่กาลเวลาผ่านไปเลยเหลือเท่านี้ ที่เห็นนี่คือได้รับการบูรณะแล้วนะเพราะหลายสิบปีก่อนมันล้มลงมาเกือบหมด



หลังจากเดินเหนื่อยๆ ก็ไปหาที่นั่งพักกัน ก็เดินกันมั่วๆผ่านเข้าไปตรงสวนที่ไม่ไกลจาก Temple of Olympus Zeus เท่าไหร่ก็เห็นมีคนเยอะแยะเหมือนมี Fun Fair เลยแวะเข้าไปดู เนื่องจากตอนที่ไปเป็นช่วงปีใหม่เลยยังมีบรรยากาศวันหยุด พ่อแม่พาเด็กๆออกมาเล่นเครื่องเล่น ส่วนพวกเราก็หาของกินกัน ไปเจออยู่อย่างนึงเรียกอะไรไม่รู้แต่ว่ามันเหมือนปาท่องโก๋มากเลย เค้าให้เลือกว่าจะราดน้ำผึ้ง หรือว่าช๊อกโกแลต เราเอาราด ช๊อกโกแลต ราคา 3 ยูโรแน่ะมีไม่กี่ชิ้นเอง




ระหว่างนั่งกินก็เห็นเด็กขี่ม้าแคระ ม้ามันตัวเล็กมากเลยตลกดี เวลาเดินมันจะมีเสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งด้วยแหละ



ของเล่นในงาน (เค้าให้เฉพาะเด็กเล่นหน่ะ)





มีดอกไม้หน้าตาเหมือนกะหล่าปลีเลย เรียกว่าอะไรไม่รู้ น่ารักดีเลยถ่ายรูปมาไว้ เแอบเห็นมีรูเหมือนกับมีคนมาแอบขุดไปด้วย ไม่รู้เอาไปปลูกหรือเอาไปกิน



ร้านขายของริมถนนมีให้เห็นอยู่บ้างอย่างร้านนี้ก็ขายพวกเชือกผูกข้อมืออันละ 2 ยูโร



คืนนั้นขึ้นไปบนดาดฟ้าโรงแรมที่พักกัน เพื่อไปถ่ายรูป Acropolis (ต่างจากตอนกลางวันมั้ย?)






วันรุ่งขึ้นเรามีเวลากันครึ่งวัน ก่อนที่จะขึ้นเครื่องไป Santorini เลยวางแผนว่าจะไปเดินดู Ancient Agrora กะ Roman Agora หลังจากกินกาแฟกะขนมกันอิ่มแล้วก็ไปเริ่มกันที่ Roman Agrora ซึ่งอยู่ตรงPlakaใกล้ๆกับโรงแรมที่พัก

Roman Agora ก็เป็นเหมือนตลาดโบราณในยุคของ Caesar ของเด่นของดังใน Roman Agora ก็คือ Tower of the Wind สร้างขึ้นเมื่อ 1st century BC โดยนักดาราศาตร์ เป็นอาคารทรงแปดเหลี่ยม แต่ละด้านจะมีภาพแกะสลักของเทพฯแห่งลมแปดทิศ แล้วบนยอดของหอจะมีแท่งทองแดงชี้แนว NW-NE เมื่อเวลาลมหมุนนักดาราศาตร์จะพยากรณ์ได้ แต่ตอนนี้เหลือแต่ตัว หอคอย แท่งทองแดงไม่อยู่แล้วเห็นแต่ในรูปประกอบ





อีกอันที่อยู่ใน Roman Agora ใครดูรูปแล้วทายออกมั่ง ตอนแรกเราหาป้ายไม่เจอก็เดาไม่ออกเลยว่ามันคืออะไร เอารูปให้ดูก่อนดีกว่า



มันคือส้วมสาธารณะโบราณ ค๊าบ ในป้ายเค้าบรรยายว่าเป็นที่ซุบซิบของคนในสมัยก่อนระหว่างปลดทุกข์ เอารูปที่นั่งส้วมให้เห็นชัดๆ



ข้างล่างที่นั่งเป็นท่อระบายน้ำโบราณที่สร้างเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนคริสตกาล (ตอนนี้มันแห้งหมดแล้วไม่มีเหม็น)



ออกจาก Roman Agora เดินไปต่อที่ Ancient Agora ผ่านบ้านคนแถวนั้น (ดีเนอะได้อยู่ใกล้ชิดโบราณสถานที่อายุเก่าแก่สองพันกว่าปี )



เดินมาทางเดียวกับที่เมื่อวานจะขึ้นไป Acropolis เลย แต่วันนี้เลี้ยวขวาเดินลงข้างล่าง Ancient Agora เป็นชุมชนเก่ายุคเดียวกับ Acropolis ดูจากในภาพที่เค้าแสดงไว้ก็เห็นชัดเจนดีว่าชาวเมืองโบราณต้องผ่าน Ancient Agora ก่อนถึงจะเดินขึ้นไปสู่ Acropolis ได้



ในนั้นมีสนามมวยปล้ำด้วย (อันนี้ก้ไม่รู้ว่านักโบราณคดีเค้ารู้ได้งัย แต่ป้ายบอกว่ามันเรียกว่า Giant Palaceตอนนี้เหลือแต่รูปปั้นพวกนี้



สถานที่สำคัญใน Ancient Agora ก็คือ Temple of Hephaestus ใน Guide book –lonely planet เขียนไว้ว่าที่มุมหนึ่ง (ด้านไหนจำไม่ได้แล้ว) Socrates เคยมานั่งคิดปรัชญา Ohh…Wow.. ดูรูปแล้วกัน (ก็คล้ายๆกะ Parthenon นะเราว่า)





หลังจากดู Ancient Agora เสร็จก็รีบเดินกลับโรงแรม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นเพื่อเก็บกระเป๋า (จิงๆแล้วก็เก็บเรียบร้อยแต่เช้าแล้วแหละ) ตอนเช็คเอ้าท์ก็บอกเค้าว่าอีกสามวันจะกลับมาพักอีกคืนนึง จองไว้ให้ด้วยนะ ขอราคาเดิม...เค้าก็โอเค้

ลากกระเป๋ากันไปที่สถานี Monastriraki เจ้าเก่านั่ง metro ไปสนามบินเลย (มันมีอยู่สองขบวน ขบวนนึงไม่ต้องต่อ (ดูจากสภาพรถได้ ถ้าเป็นรถที่มีที่วางกระเป๋าเดินทาง อันนั้นไม่ต้องต่อ แต่ถ้าเป็นขบวนแบบธรรมดาต้องไปต่อ ที่สถานีอะไรจำชื่อไม่ได้แล้ว (ไม่ต้องกลัวหลงเพราะพอถึงที่นั้นเค้าก็จะปิดไฟในรถไล่เราลงไปเอง แล้วยืนรออีกขบวนที่เขียนว่าไปสนามบิน

ไว้มาต่อ Santorini อีกทีแล้วกัน วันนี้เมื่อยแล๊ะ










Create Date : 02 มิถุนายน 2550
Last Update : 2 มิถุนายน 2550 22:39:34 น. 5 comments
Counter : 1629 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมอีกแล้ว ขออนุญาติแอ่ดเป็นเพื่อนบล๊อกได้ไหมคะ? ชอบเรื่องกิน-เรื่องเที่ยวเหมือนกันเลยค่ะ


โดย: แม่เจ้าเมฯ วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:23:39:45 น.  

 
แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ ฮิฮิ แปลกดีค่ะ ขนมอะไรเหรอค่ะ


โดย: hawaii_havaii IP: 72.146.84.92 วันที่: 4 มิถุนายน 2550 เวลา:4:49:25 น.  

 
AMAZING มาก ๆ สถาปัตยกรรมน่าทึ่งจริง ๆ ดูยิ่งใหญ่จัง


โดย: LibbyAndPortia วันที่: 6 มิถุนายน 2550 เวลา:3:25:02 น.  

 
มาเที่ยวชมสถานที่สวยๆค่ะ

สวยงามมากๆ



โดย: เยี่ยมรุ้ง วันที่: 9 มิถุนายน 2550 เวลา:20:26:11 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ สวยงามทั้งนั้นเลยเนอะ


โดย: 2fast2farious วันที่: 11 มิถุนายน 2550 เวลา:19:33:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

princess gig
Location :
Doha Qatar

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add princess gig's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.