หลังจากจัดการอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปท่าเรือเพื่อนั่งเรือไป Seal Island (ครั้งนี้เป็นการนั่งเรือที่ทรมานมากตั้งแต่เคยนั่งเรือมาเพราะว่าเราไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวหนาๆไป ถุงมือก็ไม่มี พอเรือแล่นยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่) นั่งเรือไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะไปถึงโขดหินกลางทะเลซึ่งเป็นที่อาศัยของแมวน้ำฝูงใหญ่ ส่วนใหญ่จะนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนหินมีบ้างที่ลงไปว่ายหาปลากินทุกคนก็ถ่ายรูปกันใหญ่ มีอยู่ตัวสงสัยรู้งานเลยโพสท่ารอไว้เลย
หลังจากกลับมาที่ท่าเรือเราก็ขับรถต่อมุ่งลงไปทางใต้เพื่อไป Cape Point เป็นแหลมใต้สุดของทวีป เราผ่านเส้นทางที่สวยมากเส้นหนึ่งก็คือ Chapmans peak ซึ่งอยู่ทางฝั่ง Hout Bay เจอตรงไหนสวยก็หยุดรถลงไปถ่ายรูปกัน
เมื่อขับมาถึงปากทางของ Cape of Good Hope natural reserve ก็ต้องหยุดจ่ายเงินค่าผ่านทางก่อน เพราะ Cape Point ที่เราจะไปกันอยู่ใน natural reserved area
อ่านแล้วอย่าเพิ่งงงนะคะชื่อมันคล้ายๆกันแต่มันเป็นคนละจุดกัน Cape Point เป็นประมาณจุดชมวิว ที่เราสามารถเดินไปเห็นประภาคารที่อยู่ใต้สุดของแหลม (Beacons of Good Hope)
ส่วน Cape of Good Hope ก็คือ แหลมกู๊ดโฮปที่เราเคยเรียนกันสมัยประถม ว่า Vasco da gama เป็นคนแรกที่เดินทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮปสำเร็จ ก่อนหน้านั้นไม่มีนักเดินเรือสามารถพาเรือจากยุโรปเพื่อไปยังอินเดียได้เเพราะว่าเมื่อมาถึงแหลมกู้ดโฮปเรือมักจะอัปปางเสียก่อน แหลมนี้จึงได้ชื่อว่า Cape of Good Hope หรือมีชื่อเรียกอื่นๆว่า Storm Point หรือ Cape of Storm ที่เป็นเช่นนี้เพราะแหลมนี้เป็นจุดบรรจบกันของสองมหาสมุทรก็คือมหาสมุทรแอตแลนติก กับมหาสมุทรอินเดีย พอกระแสน้ำเย็นจากแอตแลนติก มาเจอกับกระแสน้ำอุ่นจากมหาสมุทรอินเดีย คลื่นลมแถวนั้นเลยแปรปรวนและรุนแรง
กลับออกจาก Cape of Good Hope natural reserve ก่อนไปกินข้าวเย็นกันเราไปแวะที่ Simons town ดูแหล่งอาศัยของ African penguin เป็นหาดที่เค้ากันไว้ให้เป็นที่อยู่อาศัยของนกเพนกวิน (ไม่ใช่สวนสัตว์นะคะมันอยู่กันที่นี่มานานแล้ว) ป้องกันไม่ให้คนเข้าไปรบกวน พอเดินเข้าไปทางสะพานไม้มองไปตามใต้พุ่มไม้ พวกแม่นกกำลังฟักไข่อยู่ พอมองไปตรงพื้นทรายเต็มไปด้วยแม่ลูกอ่อน ลูกนกเพนกวินจะมีขนปุยเต็มตัวเลย มีบางตัวที่ไปว่ายน้ำเล่น ตอนมันเดินกลับขึ้นมาจากน้ำน่ารักมากเลย
วันที่สาม ก็ยังอยู่ใน Cape Town
เราเริ่มวันแต่เช้าตรู่เช่นเคย เพื่อที่จะได้ไปได้หลายๆที่ วันนี้เราไปกันที่ Robben Island ท่าเรือที่จะไป Robben Island ก็อยู่แถวๆ Waterfront วันนี้เราเตรียมพร้อมในการนั่งเรือ มีเสื้อที่พอกันหนาวได้กี่ตัวก็ใส่มันลงไปให้หมด จะได้ไม่ทรมาน เราซื้อตั๋วเที่ยวแรก ช่วงที่รอเวลาขึ้นเรือ พวกเราก็ไปเดินดู พิพิธภัณฑ์ Apartheid
สวัสดีค่ะ ขอรบกวนสอบถามการกรอกข้อมูลวีซ่าเข้าประเทศนี้ได้มั้ยค้า ว่า หัวข้อ 6.particular of spouse (who must complete a separate application if traveling) ถ้าเราไม่มีคู่สมรสก้ไม่ต้องกรอกอยู่แล้วใช่มั้ยค้า พอดีมีคนบอกมาว่าช่องนี้ต้องกรอกไม่กรอกไม่ได้ เลยงงค่ะ แล้วขอถามอีกขอน้าค้า 13.intended place of entry into Zimbabwe อันนี้คือใส่ชื่อเมืองของสนามบินที่เครื่องไปลงจอดใช่มั้ยค้า ขอบคุณค่ะ