ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
31
 
 
เมื่อ gift1801 อยากรีวิวลิปสติก 33 แท่งที่มีในกรุ เชิญชมกันเลยค่ะ +++

สืบเนื่องจากกระทู้นี้

 

//www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q12828590/Q12828590.html

 

เราได้สมาชิกเข้าบ้านเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างเยอะ เลยต้องหาที่เก็บใหม่ก็เลยต้องจัดของให้เป็นที่เป็นทางมากขึ้นโจทย์ของเราคือ....ต้องเก็บไว้ในชั้นวางของชั้นเดียวให้หมด!! จะได้ไม่ถูกคนที่บ้านบ่นว่าที่เก็บไม่พอ ฮิ ฮิ....ได้เวลาจัดชั้นวางของซะใหม่เลยเอาของที่เรามีอยู่มารีวิวให้เพื่อนๆชมกันนะคะ

 

ลิปสติกที่เรามีทั้งหมด เราใช้ทุกวันนะคะ สลับสีกันไปมาแล้วแต่การแต่งตัว และอารมณ์ (อันนี้สำคัญ) ในแต่ละวัน สภาพของลิปแต่ละอันจะเหมือนผ่านสมรภูมิรบมานะคะอายจังเลย

 

เชิญชมภาพหมู่กันเลย แถ่แด๊......

 


--

 

เดี๋ยวเราป้ายสีลงบนกระดาษให้ดูนะคะ สองแถวแรก โชว์ตัวเลยค่ะ

 


โดยปกติ เวลาสาวๆ ซื้อลิปสติก เราแอบสงสัยนิดนึงค่ะว่าทำไมต้องป้ายที่แขน??? ด้วยสีผิวที่ท้องแขนแล้วค่อนข้างต่างจากสีผิวของริมฝีปาก แต่ยังไงเราก็ทาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างเลยละกันเนอะ

 

โดยปกติ เราจะขอลองที่ปากเลยค่ะ วิธีคือ ใช้ทิชชูเช็ดที่ลิปสติกก่อนหลังจากนั้น ใช้คัตตอนบัด ป้ายลิปสติกออกมา แล้วค่อยๆละเลงที่ปากค่ะ ค่อยๆใจเย็นๆลองดู

 

ปล. ถ้า BA คนไหนไม่ยอมให้ลองวิธีนี้ สะบัดบ๊อบออกมาเลยค่ะ เคาท์เตอร์เครื่องสำอางยังมีอีกหลายแบรนด์รอคุณอยู่ เพื่อนๆอาจจะได้สีลิปสติกที่ถูกใจเรามากกว่าเคาท์เตอร์นั้นก็ได้ยังไงความสะอาดของเราต้องมาก่อน

 

อ้อ...ถ้า BA คนไหนบอกว่าทาที่แขนก็เหมือนกัน ให้คิดไว้เลยว่า นางตาบอดสีค่ะ เพราะดูผิวริมฝีปากด้วยตาเปล่าแล้ว คนละสีอย่างเห็นได้ชัดใช่ป่าว.....โฮะ โฮะ (ขอหัวเราะแบบนางร้าย นิดนึง)

 

โชว์ริมฝีปาก ก่อนเคาะ ปะ ผุ พ่นสี ค่ะ ริมฝีปากเราค่อนข้างคล้ำเพราะตอนเด็ก เราชอบเลียริมฝีปาก กัดบ้าง ขบบ้าง เวลางอแงน่ะค่ะหนูๆอย่าเอาเป็นตัวอย่างนะคะ

 


บรรยายสรรพคุณ พร้อมพรรณนาความรู้สึกที่เราใช้เลยละกันนะคะเอ่อ..แต่เราคงบอกไม่ได้ ว่าจะซื้อต่อหรือเปล่า เพราะที่มีอยู่ก็ไม่รู้จะหมดเมื่อไหร่น่ะค่ะแหะ แหะ

รูปเอามาจากเว็บ Lip Smacker นะคะ

 

Lip Smacker m&m 3g. ของเราเป็นฝาสีน้ำเงินได้เป็นของฝากจากที่ทำงานค่ะ เลยไม่รู้ราคาขายไม่แน่ใจว่าที่เมืองไทยมีขายทั่วไปหรือเปล่า แต่เห็นของหิ้วในเว็บอยู่นะคะ

 

ความรู้สึกที่ใช้ : ตัวเนื้อค่อนข้างนิ่มนะคะ ความชุ่มชื้นใช้ได้เลย กลิ่นช็อกโกแลตแรงแต่ไม่มีรสนะจ๊ะลองชิมแล้ว เราเอาตัวนี้วางไว้บนโต๊ะทำงานค่ะ เวลาปากแห้งก็หยิบมาปาดเลย แต่ว่าเราไม่ค่อยชอบกลิ่นช็อคโกแลตเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่

 

ถ้าบ้านใครมีเจ้าหมาน้อย แนะนำว่าให้วางที่สูงๆนะคะ เค้าจะได้หยิบไม่ถึงลูกสาวที่บ้านเราเคยขโมยไปแทะเล่นอันนึง กลับมาบ้านกลิ่นปากนี่หอมหวลช็อกโกแลตเต็มที่เลย ( T _ T )

 


ตัวถัดไป Oralabs ChapIce mini 3g รูปจากเว็บนะคะ สรรพคุณอยู่ด้านข้างเลย

ตัวนี้เราได้จากร้าน Sasa ที่ฮ่องกง ราคา 5HKD ช่วงเซลล์จากราคาเต็มอยู่ที่10 HKD คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 20 บาท เราซื้อมาประมาณยี่สิบแท่งเป็นของฝากให้พี่ๆที่ทำงานค่ะ สุดท้ายเหลือมาอันนึง

 

หลังจากที่ใช้ เราชอบนะคะ เนื้อไม่หนักเกินไป แถมเย็นๆที่ริมปากอีกอันเล็กๆ พกง่าย (หายง่าย) กลิ่นแนวผลไม้ แถมไม่มีสี ปลื้มค่ะ

 


ต่อมาเป็น Avon Simply Pretty Flavor Savers Lip Balm 4g. กลิ่น พีช รูปแคปมาจากรูปรวมนะคะในเว็ปเค้าเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่อีกแล้ว ( - -! )

 

เราใช้ Avon ตั้งแต่อยู่ม.ต้นค่ะตั้งแต่ยังมีศูนย์ความงามเอวอนอยู่เลย สมัยเด็กๆเราหารายได้เสริมจากการขายเครื่องสำอางให้ญาติกับเพื่อนๆบ้าง สอนพิเศษบ้าง ได้เงินมาก็เอาไปซื้อพวกนี้ใช้หมด โดนคุณแม่ดุอยู่บ่อยๆเลยค่ะ

 

นอกเรื่องเกินไปแล้ว เค้าให้รีวิวย่ะ ไม่ได้ใช้ให้เล่าเรื่องสมัยเด็กย่ะยัยบร้า!!

 

อ่ะ ต่อเรื่องรีวิวเลย... ลิปบาล์มตัวนี้มีรสปะแล่มๆนะคะรู้สึกว่าแพ็คเกจที่ขายกันอยู่ตอนนี้จะเปลี่ยนไปอีกแล้ว ราคาที่เราซื้ออยู่ที่ 30บาทเป็นราคาสมาชิกค่ะ ตัวนี้ เราไว้ใช้ทาก่อนนอน ถ้าวันไหนไม่ทาลิปบาล์ม ตื่นมาตอนเช้าปากจะแห้งลอก ขึ้นมาทันทีเลย

 


อันต่อไปนะคะ เรียงสามตัวเลย

 

ลองปาดสีที่ท้องแขนนะคะ ในรูปนี้ เราเรียงชื่อจากซ้ายไปขวาพร้อมบรรยายเลยนะคะ

 

Avon Mineral Lip Gloss สี S201 rumberry è สีค่อนข้างชัดกลิ่นไม่แรง มีกลิตเตอร์ (แถวบ้านเรียก กากเพชร - -! )ทาเดี่ยวๆก็ดูดี ทาทับสีอื่นแล้วเจิดค่ะ เราชอบทาทับเวลาทาลิปสีแดง แล้วเข้าไปคุยงานกับผู้ใหญ่ค่ะให้มันแดงระยิบระยับไปเลย

 

Etude Juicy Pop Tube #4 è สีออกส้มค่ะตัวนี้ได้เป็นของฝากจากพี่ที่ทำงานเช่นกัน ไม่ทราบราคาค่ะ (ใครๆก็ให้ลิปสงสัยเค้ารู้ว่าเราชอบมั้งคะ อิอิ) ตัวเนื้อเป็นแบบเหลว ทาแล้วเคลือบหนาพอสมควร ให้ความชุ่มชื่นดีค่ะสีธรรมชาติมันวาว กลบปากเราไม่ค่อยมิด ถ้าใครชอบสีอ่อนๆ น่าจะชอบแนวนี้ค่ะส่วนใหญ่เราใช้ทาตอนไปเซเว่นค่ะ

 

Etude Miss Tangerine #4 è เป็นสีส้มที่เห็นตอนอยู่ในแท่งแล้วอยากได้มากค่ะส่วนใหญ่ลิปสติกที่ขายในเมืองไทยไม่ค่อยมีเฉดส้มนีออนแบบนี้ตัวนี้เราซื้อมาจากเกาหลีค่ะ ราคา 8,500 วอน เป็นเงินไทย เรท 0.0279 ก็เท่ากับ 237.15บาทเห็นปุ๊บหยิบปั๊บ ไม่ลองเลย

 

พอลองทาแล้ว กลิ่นส้มออกมาชัดนะคะใครแพ้น้ำหอมอาจต้องเทสต์ที่ท้องแขนก่อน ตัวนี้ เราไม่ค่อยปลื้มค่ะเพราะกลบสีปากเราไม่มิด เนื้อนิ่ม ทาหนาๆ เป็นคราบค่ะ

 


ต่อมา ลิป eos อันโด่งดังค่ะ ตัวนี้ได้มาจากร้าน Sasa ที่ฮ่องกง ตอนนั้นเค้าลดราคาเหลือ20 HKD ประมาณ 100 ไทยบาทตอนแรกเราไม่คิดจะซื้อนะคะ พอดีเราถ่ายรูปส่งให้น้องสาวดู เห็นน้องสาวอยากได้เลยจัดให้เค้ามาชุดนึงครบทุกสี เราลองดมเจ้าตัวสีเขียว หอมดี เลยซื้อเผื่อมาหนึ่งอันพอลองทาแล้วเนื้อโอเคค่ะ กลิ่นหอม ชอบที่ไม่มีสี ใช้ทาตอนเวลานอน แต่ไม่ชอมตรงที่มันก้อนใหญ่ค่ะใส่กระเป๋าจะเปลืองเนื้อที่นิดนึง สรุปเลยเก็บไว้ทาตอนอยู่บ้านเฉยๆกับก่อนนอน

 

เราเป็นคนที่ติดลิปสติกมากค่ะ ไม่ปล่อยให้ปากแห้ง อาจเป็นเพราะเราทาบ่อยปากเลยบาง แล้วอยู่ในห้องแอร์ตลอด ถ้าปล่อยให้แห้ง เราจะแสบปากค่ะ

 


ตัวต่อไป อันนี้ ลืมทาที่แขนให้ดู

 

Oriental Princess Liftstick Luxurious Matte Lipstick SPF 10 สี 15 BurgundyOrchid

 

ในเว็บไม่มีสีนี้ค่ะ ไม่แน่ใจว่ายังมีขายอยู่มั้ยชิ้นี้ไม่ทราบราคาเพราะสามีเราซื้อให้ค่ะ สีแดงดีทีเดียว แต่ไม่ค่อยทนนะคะ ดื่มชานิดนึงลิปก็หลุดออกแล้ว

 


แถวถัดมา อันนี้เริ่มมีสีสันแล้วนะคะ

 

รูปบน เป็นสีจากแท่งที่ทาลงบนกระดาษ ส่วนรูปด้านล่าง เราทาที่ท้องแขน

 


แท่งแรก Etude Dear Darling Tint Neon หิ้วมาจากเกาหลีราคา 6,000 วอน คิดเป็นเงินไทยก็ 192 บาท ซื้อเพราะชอบสีในแท่งค่ะนึกว่าทาแล้วจะออกมาเหมือนในหลอด

 

กลิ่นของทิ้นท์เหมือนยาน้ำเด็กเลยค่ะ พอลองชิมดู รสก็เหมือน พอทาไปสีกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เฮ้อ....ลิปส้มนี่หายากจริงๆ

 



แท่งนี้เป็น Tintลูกรักค่ะ TheBalm Stainiac Tinted Gel Blush สี Prom Queen

 

เนื้อข้างในเป็นเจลสีไม่ฉุดฉาดแย่งซีนเกินไป กลิ่นจางๆ เราใช้ทาทั้งแก้มละปากนะคะ วิธีใช้ให้ปาดเนื้อเจลจากพู่กัน แล้วค่อยๆตบเบาๆบริเวณที่ทาค่ะ สีจะออกธรรมชาติ ดูดีเชียว

 

ตัวนี้เราซื้อจากเคาท์เตอร์ที่เดอะมอลล์ ท่าพระ BA น่ารักคะไม่กดดัน แล้วแต่งหน้าเก่งด้วย ไม่แน่ใจราคา น่าจะอยู่ราวๆ 600-800 บาท ลองเช็คดูอีกทีนะคะ

 

ปล.จุดๆบนปากเรา ไม่ใช่ไฝนะ เราเผลอไปเซฟ drawing ทับเพิ่ม...เซ็งเลย

 


ตัวต่อไปSkin FoodTomato Cool Jelly Tint สี No.3เราหิ้วมาจากเกาหลีราคา 4,900 วอน คิดเป็นไทยบาท ตกราวๆ 152 บาท

BA ที่เกาหลีเลือกให้ค่ะ เราบอกว่าอยากได้สีออกส้มเราพลาดที่ไม่ได้ลองสีที่ร้าน เอากลับมาเปิดใช้ที่ไทย ปรากฏว่าไม่ชอบสีเลย

 

คิดไปคิดมา สงสัยเราคงไม่ชอบเนื้อ Tint ด้วยแหละ ทาทีไร ไม่มั่นใจยังไงไม่รู้

 



ต่อมาSkin food VitaTok Lipstick สีOR02 ราคา 8,000 วอน ซื้อมาจากเกาหลีค่ะ คูฯเป็นเงินไทยก็ 256 บาท

 

เราพยามยามเลือกลิปสีส้มแจ๋ค่ะเห็นปุ๊บเลยซื้อมาหลายแท่ง ซึ่งแท่งนี้ ก็ทำให้ผิดหวังเช่นเคย สีในแท่งสวยแต่ทาออกมาเม็ดสีน้อยมา รู้สึกเหมือนทาลิปมันอยู่เลยค่ะ ได้แต่วาวๆเหมือนเพิ่งซ่งน้ำมันมะพร้าวมา แต่กลิ่นหอมนะคะ ใครแพ้น้ำหอมต้องระวังหน่อย

 

เฮ้อ...อิลิปเกาหลีเนี่ยหลอกตาชาวบ้านจริงๆ ดูป้ายโฆษณาหน้าร้าน นางแบบทาซะสีทะลวงทรวงเลย

 


แท่งต่อไปอ้าว..สาวๆ เข้าคิวรอเลยจ้า

Dior Addict Ultra Gloss สี Glow 236 แท่งนี้พี่ที่ทำงานซื้อมาฝากจากฝรั่งเศส เลยไม่รู้ราคาค่ะ เป็นสีนู้ด กลิ่นบางๆกลิตเตอร์ละเอียด ส่วนใหญ่เราจะใช้ทาทับลิปสีค่ะ แต่แอบเปลืองนะ ลิปแบบนี้ทาแล้วหลุดบ่อย

 


ต่อไป ก็เป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน เพิ่งได้รับมาเมื่อวันก่อนเองเราสั่งมาจาก e-bay ค่ะ รวมค่าส่งแล้วอยู่ที่23.21 USD ราวๆ 720 ไทยบาทค่ะ

อ่ะ ...เรียงสีจากซ้ายไปขวา

 

Amsterdam / Monte Carto / Addis Ababa

 

ไม่แน่ใจว่าสั่งกับทางเว็บจะถูกกว่ามั้ยต้องลองเช็คดูค่ะ ปกติถ้าราคาไม่ต่างกันมาก เราชอบสั่งของทาง e-bay มากกว่า เพราะว่า หลังจากซื้อขายแล้วทั้งสองฝ่ายจะมีการให้คะแนนกัน ซึ่ง Rating ที่ได้นี้มีผลต่อการทำธุรกิจนะคะ เพราะบางครั้งเราก็ลงสินค้าขายใน e-bay เหมือนกันค่ะ

 

จากที่ลองใช้แล้ว เราชอบตัวนี้นะคะ เพราะกลิ่นหอม(เกี่ยวกันมั้ยยะหล่อน!!)กลิ่นเหมือนวานิลาค่ะ สีสันสดชัดมาก....กกก เราทาชั้นแรกให้แห้งก่อนแล้วค่อยตามด้วยชั้นที่สอง สีนี่เด่นมาแต่ไกล กลบสีปากเรามิดค่ะ เวลาจิบชาไม่ค่อยมีรอยปากทิ้งไว้ที่แก้ว ช่วงระหว่างวัน ถ้ารู้สึกว่าปากแห้ง ใช้ลิปกรอสแต้มบางๆนะคะด้วยราคาเท่านี้ เราถือว่าเจ๋งค่ะ

 

เวลาทา เพื่อนๆอย่าลืมเขียนขอบปากด้วยนะคะ จะช่วยให้รูปริมฝีปากชัดยิ่งขึ้น

 

ปล.ตัวอย่างเราไม่ได้เขียนขอบค่ะ เริ่มแสบปากแล้ว ( Y _ Y )

 


แท่งต่อไป Revlon Lip ColorBurstLip Butter สี Tutti Frutti อันลือลั่น(ได้ข่าวว่า หายากซะด้วย)

เราซื้อรุ่นนี้เพราะพรีเซ็นเตอร์ค่ะ ( @_@ ) แม่นางเอ็มมา สโตน นี่เอง ตอนนั้นไปเดินเล่นที่ห้างเคาท์เตอร์เรฟลอนลด BA บอกว่าของเพิ่งวางขายเป็นวันแรกพอดีเลยซื้อมา 2 แท่งอีกแท่งหนึ่งใช้หมดไปแล้ว จำสีไม่ได้ด้วยทิ้งปลอกอีก แถมจำราคาไม่ได้อีกด้วย เฮ้อ...

 

เช่นเคยค่ะ ก่อนทาลิปทุกครั้งเราจะชอบเอามาดมก่อน(โรคจิตเนอะ) กลิ่นของลิปหอมค่ะ พอหลังจากทาลงไป เนื้อเป็นครีมมีเลย สีสดใช้ได้ถ้าทาหนา อาจต้องระวังคราบนิดนึง

 


แรงเริ่มหมดแล้ว เพิ่งจะหมดแถวที่สองเฮ้อ....สู้ต่อไป

ในรูปนี้ เป็นลิปสติกที่เราใช้บ่อยๆค่ะช่วงพีคเนี่ยเรามีครบทุกสี แต่ว่าบางสีคุณแม่เรา น้องสาวเราทาแล้วดูดีกว่าเลยยกให้เค้าไป มาดูกันเลยค่ะ

 

Revlon Super Lustrous Lipstick Cream ราคาจำไม่ได้ค่ะสีที่เรามี คือ Mauve It Over/Berry Huate/Love ThatRed/Chocolate Valvet

 

ลิปสติกรุ่นนี้ทาง่ายค่ะเนี่ยนเรียบไปกับริมฝีปากเลย แต่ไม่ทนนะคะ มาตรฐานเท่าลิปสติกอื่นๆทั่วไปราคาไม่แรง มีให้เลือกเยอะ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ

 

Revlon Super Lustrous Lipstick Matte ตัวนี้เป็นเนื้อแมทจะทายากกว่ารุ่งครีมนิดนึง ก่อนจะทา ลงลิปบาล์มแล้วเช็ดออกครั้งนึงก่อนเวลาทาให้ทาไปในทิศทางเดียวกันนะคะ สีจะเนียนเรียบเลยแต่ว่าเติมระหว่างวันต้องระวังเป็นคราบนะคะ ถ้าอยากเติมแนะนำให้ลบของเก่าออกไปให้หมดก่อนค่ะ ไม่งั้นเป็นขุยแย่เลย

 

สีที่เรามีนะคะ MauveIt Over/Stormy Pink/Strawberry Suede

 

แถวที่สองนะคะ

 

Revlon Colorburst lipstick เรามีสีMauve/Carnation/Fuchsia/Reach ตัวนี้เหมือนจัดราคาบ่อยเราซื้อตอนที่วัตสันลดราคาชิ้นที่สอง 1 บาทค่ะรู้สึกว่าสี Peach จะหายากนิดนึงค่ะเวลาที่ทา รู้สึกว่า สีจะทนน้อยกว่าตัว Super Lustrous นะคะแต่ตอนเติมระหว่างใช้ได้เลยทีเดียวค่ะ

 

ตัวสุดท้าย Nars Velvet MatteLip สี Dragon Girl ค่ะ

 

ลักษณะของเค้าจะเหมือนดินสอแท่งใหญ่ เวลาใช้หมดต้องเหลาเอานะคะ

 

ครั้งแรกที่ทา รู้สึกว่าเนื้อเนียน เรียบสีสม่ำเสมอ แถมติดทนนานด้วย

 

เป็นลิปสติกแท่งแรกที่เรายอมเสียเงินจ่ายขนาดนี้นะคะเพราะปกติ เราจะไม่ให้ลิปสติกราคาเกินสามร้อยบาทต่อแท่งค่ะ แต่แท่งนี้เรารู้สึกคุ้มกับเงินที่จ่ายไปค่ะ

 



 

เฮ้อ...รีวิวจบแล้ว ดีใจจังเป็นรีวิวที่ทำนานข้ามวันกันเลยทีเดียว ดีใจนะคะ ที่เพื่อนๆมาร่วมชมไปด้วยกัน ใครมีเทคนิคในการใช้ลิปสติกมาร่วมแชร์กันได้นะคะ

 

Enjoy your lips !!

 




Create Date : 27 ตุลาคม 2555
Last Update : 13 มกราคม 2556 2:02:36 น.
Counter : 3067 Pageviews.

2 comments
  
ว้าว ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ
เข้าใจเลยว่าเวลามีอารมณ์ทำเนี่ย มันทำข้ามวัน ข้ามคืน เหนื่อยยังไงก็อยากทำออกมาให้เสร็จ

โล๊ะเมื่อไหร่ ตามหนูด้วยนะค้า
อิอิ
โดย: หนูลีลี วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:15:27:56 น.
  
คุณ หนูลีลี เหนื่อยเหมือนกันค่ะ ปากเนี่ย แสบมากมาย แต่เห็นเพื่อนๆเข้ามาชมก็หายเหนื่อยค่ะ
โดย: gift1801 วันที่: 29 ตุลาคม 2555 เวลา:22:21:23 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gift1801
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ดิฉันเป็นเป็ด ก้าบ..ก้าบ..ก้าบ ขยันบ้าง ขี้เกียจบ้าง เป็นบางช่วง แล้วแต่แรงบันดาลใจ อุ๊ปส์!! สนใจเรื่องรอบตัวทั่วๆไปเข้าข่าย ความรู้ท่วมหัว พยายามเอาตัวรอดค่ะ หวังใจลึกๆว่าสิ่งที่เราอ่าน ดู ฟัง สัมผัสมา จะเป็นประสบการณ์ที่แบ่งปันกันค่ะ รักนะ จุ๊บ จุ๊บ

ขอสงวนสิทธิ์ในข้อความหรือรูปภาพใดๆในบล็อกนี้ ไม่อนุญาตให้คัดลอกหรือนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ