มกราคม 2556

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
เมื่อ gift1801 เข้าครัว..อาหารง่ายๆ...ซุปกระดูกหมูหัวไชเท้า และผัดผักหวานบ้าน ...

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆห้องก้นครัว กระทู้นี้เป็นกระทู้ข้ามห้องครั้งแรกของเราค่ะ ปกติจะอยู่โต๊ะเครื่องแป้ง ไม่ค่อยออกนอกบ้าน ฮ่ะ ฮ่ะ

 

วันดีคืนดี สามีเห็นเรารีวิวเครื่องสำอาง สามีเลยทักว่า หล่อนไม่ทำอาหารแล้วทำขั้นตอนด้วยล่ะ เห็นวิธีง่ายๆ สาวๆที่ไม่ค่อยถนัดทำกับข้าวจะได้ลองทำ   เราก็เลยปิ๊งไอเดียขึ้นมาค่ะ

 

เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของเรา เรากับสามีก็ไปกินฉลองกินกันแบบเต็มคราบ (ปล.เราชอบใช้คำว่ากิน เนื่องจากอาจารย์(แกเป็นคุณหญิง)ที่สอบคหกรรมบอกว่า มีแต่รับประทาน กับ กิน คำว่าทานน่ะ คนยุคใหม่คิดกันขึ้นมาเอง ความหมายจริงๆคือ การให้ทาน เราเลยเลิกใช้คำว่าทานมาตั้งแต่นั้นเลยค่ะ ใครขัดอกขัดใจ ต้องขออภัยจริงๆนะคะ

 

อ่ะ เล่าต่อ... สองคนตายายกินกันจนพุงกางเลยค่ะ วันนี้เราตื่นเช้ามา เลยเกิดอาการ อยากกินของง่ายๆ ใสๆ (แม่สามีเรียกว่า เช็ง เช็ง ใครรู้ช่วยแปลให้หน่อยนะคะ) ก็เลยเป็นเมนูนี้ค่ะ

 

ซุปกระดูกหมูหัวไชเท้า และผัดผักหวานบ้าน....

 

เริ่มที่ซุปหัวไชเท้าก่อน เรามีวัตถุดิบ 4 อย่างค่ะ คือ หัวไชเท้า กระดูกหมู เกลือ รสดี (น้ำเปล่าไม่นับนะคะ)

 

งวดนี้เราใช้หัวไชเท้าญี่ปุ่น หัวนี้ราคา 38 บาท พอรับได้ เลยซื้อมาลองชิม ปกติเราใช้แต่หัวไชเท้าของไทยค่ะ ส่วนกระดูกหมู  เราใช้แบบท่อนแข็งๆ

 

ปล.เราซื้อในวิลล่ามาร์เก็ต ราคาสูงหน่อย แต่ของเค้าค่อนข้างสวย ดูจากกระดูกเนี่ย ตัดได้ขนาดใกล้เคียงกันเลย

ลวกกระดูกหมูในน้ำเดือด 2 ครั้ง (เคล็ดลับนี้ เพื่อนสิงคโปร์สอนมา ตอนต้มบักกุดเต๋ นางบอกว่า ปกติกระดูกหมูจะมีกลิ่นคาวและสาบ การลวกน้ำจะช่วยได้ค่ะ)

 

ตั้งน้ำให้เดือด ใส่กระดูกหมูและไชเท้าลงไปค่ะ ซักพักจะมีฟองอากาศขึ้นมา ต้องช้อนออกไปนะคะ ซุปจะได้ เช็ง เช็ง

 

ช้อนฟองออกไปแล้ว ก็เติมรสดี  หลายคนยี้ พอบอกว่าใส่รสดี เพราะในผงเนี่ย มีผงชูรสอยู่ครึ่งหนึ่งได้ แต่เราติดรสดีค่ะ แม่เราทำอาหารต้องใส่ พอไม่ใส่แล้วกินไม่ค่อยลง ถ้าใครไม่ชอบจะข้ามขั้นตอนนี้ก็ได้ค่ะ

อ่อ เราใส่ประมาณหนึ่งช้อนชา แต่งกลิ่นค่ะ จากนั้นก็ต้มไฟอ่อนประมาณครึ่งชั่วโมง เป็นอันเสร็จค่ะ

 

ต่อมา ผัดผักหวานบ้านดีกว่า

 

วัตถุดิบมี ผักหวานบ้านเด็ดเอาเฉพาะอ่อนๆ แก่ไม่เอา เคี้ยวเหนื่อย , กระเทียมสับ , น้ำตาลทราย, รสดี (บอกแล้วว่าติด ต้องใส่), ซอสปรุงรส และซอสหอยนางรม (ใช้แต่ตราแม่ครัว กินมาตั้งแต่เด็ก ใครว่ายี่ห้อไหนอร่อย ก็ไม่ถูกปากจริงๆค่ะ อาการเดียวกับรสดีเลย)

ขั้นตอนแรก ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ประมาณ 2 ช้อนชาพอ

ใส่กระเทียม ลงไปผัดให้หอม ฉุย.....

จากนั้น ก็ใสผักหวานลงไปค่ะ คลุกสอง สามที ผักก็เริ่มสุกแล้ว

จากนั้น รสดี ¼ ช้อนชา

 

น้ำตาลปรุงให้กลมกล่อม คนสมัยใหม่ ติดรสหวาน ½ ช้อนชา

ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา

น้ำมันหอย อันนี้ แล้วแต่ความนัวของแต่ละบุคคล นัวมากใส่มาก นัวน้อยใส่น้อยค่ะ

ตอนใส่เครื่องปรุง มือควรจะไว เพราะผักหวานบ้านสุกง่ายค่ะ ผัดนานไปความหวานจากผักจะหายไป ก่อนผัดลองซ้อมมือดูก่อนก็ได้ค่ะ

 

ใส่น้ำมันหอยแล้ว ปิดเตาเลยค่ะ คลุกให้เข้ากันแล้วตักใส่จาน เป็นอันเสร็จพิธี

อ่า.....จัดเซ็ตกินข้าวก่อน เราตื่นตั้งแต่เช้ามาทำงานบ้านแล้ว หิวค่ะ กินคนเดียวไม่รอสามีแล้ว

ผ่านไป ครึ่งชั่วโมง แม้แต่กระดูก ยังไม่มีให้เห็น (แอบทิ้งไปก่อน ฮ่ะ ฮ่ะ)

ตบท้ายด้วยชาเขียวมัทฉะ ของไทยแท้ ยี่ห้อนี้อร่อยเด็ด มีเจ้านายของสามีเราให้มาค่ะ

อิ่มแล้ว เราขอตัวไปเดินเล่นที่ตลาดนัดจตุจักรก่อนคะ อยากได้ถ้วยเล็กๆไว้ใสน้ำจิ้ม อิอิ ลาล่ะค่ะ บ๊าย บาย

 




Create Date : 19 มกราคม 2556
Last Update : 19 มกราคม 2556 20:39:08 น.
Counter : 2063 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

gift1801
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ดิฉันเป็นเป็ด ก้าบ..ก้าบ..ก้าบ ขยันบ้าง ขี้เกียจบ้าง เป็นบางช่วง แล้วแต่แรงบันดาลใจ อุ๊ปส์!! สนใจเรื่องรอบตัวทั่วๆไปเข้าข่าย ความรู้ท่วมหัว พยายามเอาตัวรอดค่ะ หวังใจลึกๆว่าสิ่งที่เราอ่าน ดู ฟัง สัมผัสมา จะเป็นประสบการณ์ที่แบ่งปันกันค่ะ รักนะ จุ๊บ จุ๊บ

ขอสงวนสิทธิ์ในข้อความหรือรูปภาพใดๆในบล็อกนี้ ไม่อนุญาตให้คัดลอกหรือนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ