<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
5 พฤศจิกายน 2552

... เมื่อเขาว่าฉันเป็นคน "เฟค" ...








หัวข้อฟังดูแล้วค่อนข้างรุนแรงเหมือนกัน ว่ า ไ ม๊ ค่ ะ ??? .. แต่สำหรับฉันกลับมองว่าไม่เท่าไหร่ เพราะคนที่พูดนั้นก็ว่าเกินไป เรื่องเฟค ถ้าหากว่ามันจะเป็นจริงมันก็คงจริง .. และมันคงจะเป็นการเฟคถ้าหากว่าเป็นเรื่องเฟคจริงๆ พูดยากเหมือนกันถ้าหากว่าคนที่พูดนั้นเค้ารู้จักฉันดี และมันก็พูดง่ายอีกเหมือนกัน ถ้าหากว่าสิ่งที่เค้ารู้มันมาจากเรื่องจริงและแหล่งข่าวที่ถูกต้อง



เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้เลยแวะมาอัพบล็อกเลยดีกว่า ไม่อยากให้เดากันไปเองว่ายังไง ... เพราะว่าหลังๆ มานี้ฉันค่อนข้างจะมีปัญหาส่วนตัวเยอะ เขียนบล็อกไปก็คงกรุ่นๆ กันอยู่กับสาเหตุ แต่มันไม่ได้เป็นเรื่องลับอะไรหรอกค่ะเพราะว่าชีวิตมันก็คงเป็นชีวิตวันยังค่ำ และจริงแท้อาจจะไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องเล่าของตัวเองมาบอกกล่าวเท่าไหร่ แต่นั่นเป็นเพราะว่าแต่ละคนก็ต่างเดากันไปเอง มีถูกมั่ง ผิดมั่ง ซึ่งเป็นของธรรมดา บางคนอ่านไปก็รับรู้ได้ว่าช่วงนี้ฉันค่อนข้างไม่ปกติ ... แต่เข้าทำนองว่าอยากรู้แต่ไม่อยากถาม ... แต่สำหรับบางคนอยากรู้ก็ถามกันไป ... แต่แปลกนะว่าทำไมถึงไม่ถามฉันโดยตรงเพราะว่ามันคงเข้าท่ามากกว่าถ้ามาถามฉันเพราะมันคงได้เรื่องจริงมากกว่า แต่ก็แปลกเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องถาม .. และถามเพราะอยากรู้อยากเห็นแค่นั้นหรอกเหรอ?? และคนเอาไปเล่า ... ก็เล่าไปเพราะอะไร ???



ฉันวนเวียนมาอยู่ในบล็อกกว่า 4 ปี .. มีเพื่อนในบล็อกมากมายที่เราได้คุยกัน รู้จักกันแล้วก็ทำให้เจอกัน รู้จักกันแต่ว่าก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอ รู้จักกันแต่ว่าก็คุยกันได้ทางบล็อกแต่ก็ไม่ได้เน้นการเจอ ... ซึ่งไม่แปลกเลยเพราะว่าคนเราคงมี space ส่วนตัวกัน อยากเจอก็เจอ ไม่อยากเจอก็จบ ..คุยกันไปเรื่อยๆ ไม่แปลกค่ะ ฉันเองก็ง่ายๆ ไม่ได้ยึดตัวเองเป็นหลักว่า เอ่อ ทำบล็อกนานคนรู้จักเยอะจะเจอใครเลยเล่นตัว แต่นั่นเพราะฉันก็เป็นแค่คนๆ หนึ่งที่แบบว่าทำบล็อกก็ทำกันสนุกๆ แต่ว่าทำไมก็ไม่รู้ได้ที่คนบางคนคิดว่าฉันเป็น "ดารา" เรื่องราวต่างๆ ก็เลยต้องเอามาบอกเล่าเก้าสิบซะจนคิดว่าฉันเป็นดาราที่กำลังเหมือนถูกติดตามข่าวทางรายการช่อง 9 เอนเตอน์เทนแน่ะ 555+



ถ้าเพื่อนบล็อกที่คุ้นเคยกันดี ... จะรู้จักฉันในระดับหนึ่งที่ว่าฉันเขียนเล่าเรื่องราวต่างๆ ค่อนข้างจะเป็นเรื่องกลางๆ ไม่ได้เอาความทุกข์ส่วนตัวมาาปลดปล่อยในบล็อกมานัก (เพราะว่าไม่เห็นความจำเป็น) อย่างดีก็เป็นเรื่องเล่าบ่นๆ ซึ่งมันก็เป็นธรรมดา เพราะฉันคิดว่าตัวเองทำบล็อกก็อยากจะเขียนอะไรที่มันเป็นเรื่องดีหน่อย แต่แน่นอนค่ะว่ามันไม่เรียกว่าเฟคหรอกเพราะว่า .... เอาเรื่องความสุขมากเขียนไม่ได้เอาความทุกข์มาเล่า ... นั่นเป็นเรื่องเฟค ... เพราะฉันเองไม่เห็นความจำเป็นเลยที่ว่าทำไมคนเราจะต้องเอาเรื่องทุกข์ของตัวเองออกมาเล่าแจ้งแถลงไข ... แต่มันเลยทำให้เป็นประเด็นเลยว่า "การไม่เอาเรื่องทุกข์ของตัวเองมาเล่านั้น ... กลายเป็นเรื่องเฟคซะได้"... เอ๊า ... เอาอะไรคิดกันล่ะค่ะนั่น .... และไอ้เรื่องที่ไม่เล่ามันก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว ซึ่งฉันเองก็เป็น "คนอื่น" สำหรับครอบครัวเขา แต่เขาก็ดันเอาเรื่องเล่าของฉันไปยุ่งโดยการเดาส่งต่อหรือว่าบอกเล่ากันไปต่างๆ นานาว่าฉันไม่เล่าเรื่องนี้ เรื่องนั้น หรือว่าเรื่องในครอบครัวตัวเองออกมาประจาน อือม์ ... แปลกดีค่ะว่าอยากรู้อยากเห็นกันขนาดนั้นเลยเหรอ ??




เอาค่ะ ... ถ้าหากว่าอยากรู้ ก็จะบอกเล่ากันให้ฟังเลยจะได้ไม่ต้องไปไล่ถามหรือว่าเล่ากันส่งเดชว่าฉันเป็นอะไรที่ช่วงหลังๆ ค่อนข้างหายไป ... สาเหตุนั่นก็เป็นเพราะปัญหาครอบครัวนั่นล่ะคะ ที่ฉันกับสามีอาจจะมีอะไรเข้ากันไม่ค่อยได้ "ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง" มันก็เลยเกิดขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องธรรมดามากๆ ที่มันจะต้องเกิดและรับมือกันไป ....



เป็นเรื่องธรรมดาค่ะเพราะคนเราไม่เหมือนกันหนิ ไม่ว่าพ่อแม่ พี่น้อง สามี-ภรรยา จะเข้ากันไมได้หรือว่ามีความแตกต่างจากกัน และก็เรื่องปัญหาเหล่านี้มันก็เป็นเรื่องครอบครัวที่ฉันเองก็ไม่เห็นจำเป็นต้องออกมาเล่าให้ฟังกันเลย.... แต่พอคนอื่นมาอ่านบล็อก เค้าหาว่าฉันเฟคตรงที่ว่า ... เขียนบล็อกแล้วฟังดูฉันกับแฟนรักกันจี๋จ๋า ... อือ ... ตรงไหนหนอที่บอกว่ารักกันจี๋จ๋า ... ไปอ่านมาหลายบล็อกแล้วฉันก็ไม่ได้พรีเซ้นท์ความรักออกมาตรงๆ โต้งๆ ...เพราะฉันกับแฟนก็ไม่ได้เป็นคู่รักดาราที่ต้องมาถ่อเปิดข่าวเล่าแจ้งให้ฟังเรื่องความรักระหว่างกัน แต่มันกลับกลายเป็นประเด็นซะได้ที่ว่า คนบางคนบอกว่าฉันกับคนข้างๆ เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ วิจารณ์ซะเหมือนคนรู้ดี เราสนิทกันเหรอค่ะถึงได้แบบว่าออกข่าวเล่าเรื่องกันขนาดนี้ ขนาดที่ว่าจะต้องเอาเรื่องเล่าเหล่านั้นออกมาบอกหรือว่าพูดต่อๆ กันไป ???? ... เพราะรู้เรื่องเล่าฉันดีเหลือเกิน .... และมันจะเป็นอะไรล่ะถ้าหากว่าเรื่องราวนั้นจริงหรือว่าไม่จริง เพราะฉันเชื่อว่าเรื่องราวของฉันมันคงไม่ได้ไปกระทบกระเทือน "ฐานะการเงิน" ของคนบอกเล่าเก้าสิบคนนั้นเท่าไหร่หรอกนะค่ะ



ว่าแล้วก็เลยทำให้ปลงกับเรื่องของ "ออนไลน์" ... ที่ฉันเคยเตือนๆ คนอื่นเสมอๆ ว่า จงระวัง ... เพราะคนบางคนต่อหน้าดี ลับหลังก็อีกอย่าง ตอนนี้ฉันก็มาเจอกับเรื่องราวเหล่านี้แล้วเหมือนกัน แต่ว่าไม่ซีเรียสค่ะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องปกติ คนเรามีคนรัก ก็มีคนชัง และคนหมั่นไส้ ขนาดไม่ได้ทำอะไรต่อกันยังโดนซะขนาดนี้แล้ว เรียกว่าก็ดีเหมือนกันนะคะ เพราะว่าเรื่องเล่าเหล่านี้รู้แล้วก็ทำให้เราระวังตัวมากขึ้น กำแพงที่มันเคยเป็นสิ่งกั้นป้องกันตัวเองของฉันมันก็คงจะเริ่มต้องสร้างหนาเป็นสองชั้นขึ้นมา ..แต่บอกก่อนนะคะว่าฉันก็ยังเป็นฉัน เรื่องราวที่บล็อกก็ยังเป็นเรื่องที่เขียนออกมาจริงๆ บางทีแค่ไม่ได้บอกเล่าเก้าสิบในสิ่งเต็มๆ ที่เจอแต่มันก็ใช่ว่าเป็นการมดเท็จ เพราะไม่เห็นความจำเป็นต้องเอามาบอกเล่าเก้าสิบกันแม้แต่น้อย แต่ไหนๆ มันเกิดกรณีที่เป็นประเด็นและคนถามกันไป เลยต้องออกมาเขียนบอกเล่ากันเอาไว้หน่อย และอยากบอกว่าเรื่องอะไรที่ใครอยากรู้ก็มาถามได้ ... แต่บอกก่อนว่าจะบอกไม่บอกก็อีกเรื่อง เพราะเรื่องบางเรื่องฉันรู้สึกสนิทใจก็จะเล่าได้แต่ว่าไม่สนิทก็คงไม่บอก เพราะไม่เห็นความจำเป็นเลยแม้แต่น้อย ... แต่ว่าถ้าไอ้เรื่องที่เล่าให้คนสนิทใจฟังแล้วมันผ่านต่อๆ กันไป ก็จงคิดซะว่า ... มันก็เป็นอย่างนี้ล่ะ วิถี ชีวิต โลกแห่งความเป็นจริง ...




ปล. แต่กรี๊ดในใจเลยค่ะว่า มีคนพูดถึง อารมณ์เหมือนเป็นดารา ... ทาทาเลิกกับเปรมหรือยัง ... ฮี่ๆ ข่าวเก่าหน่อยนะคะ ... แต่ว่ายกตัวอย่างเฉยๆ ค๊า 55+





Create Date : 05 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2552 6:14:04 น. 72 comments
Counter : 817 Pageviews.  


 


ดาวจ๋า
ดาวจ๋าดาวจ๋า
ดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋า
ดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋า
ดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋าดาวจ๋า



ดาวจ๋าคนซนๆ ขอเจิมบล็อก JewNid ค่ะ


โดย: satineesh วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:6:52:31 น.  

 
อ่ะนะ ...........

ดาวจ๋าอ่านเรื่องคุณพู่งึมงำๆ ยามเช้ามาซะยาว
ต่างคน ..ต่างจิต ต่างใจค่ะ ..

ม่ายต้องสนใจใครเล้ยยยยยย...
ใครอยากเมาท์ อยากเล่า อยากโม้อะไรก็ปล่อยไป
เพราะความจริงก็คือความจริง .. นี่นา ..

มันเป็นสัจธรรมอยู่แล้ว
ที่ข่าว"ไม่ดี" มักจะเป็นหัวข้อสนทนา"ได้ดี"ในหมู่คน"ไม่ดี" เสมอๆ

ชีวิตดาวจ๋าก็โดนเรื่องทำนองนี้ทั้งในโลกออนไลน์และโลกความจริงมาไม่น้อย
ห้ามอะไรก็ไม่ได้..
ตอนนั้นต้องห้ามตัวเอง"ห้ามวีน" กับคนเหล่านั้นค่ะ เองค่ะ 55

ชีวิตคู่ของใครต่อใคร ที่มีแววการครองคู่ไปในทางลบ..
ก็เป็นหัวข้อ สนทนา ที่เมามันส์มาทุกยุคทุกสมัย ..

ชีวิตคู่ของดาวจ๋าที่คอนเวิร์สก็โดนเช่นกัน..55

ปล่อยให้เขาเมาท์ไปเลย...
เมาท์แล้วเราไม่ตอบโต้...
เด๋วเขาก็เบื่อเมาท์ค่ะ



..........

มีความสุขมากๆนะคะ คุณพู่


โดย: ดาวจ๋า (satineesh ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:05:41 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณพู่



อ่านจบเข้าใจความรู้สึกเลยครับ
ผมคิดว่าบล็อกเหมือนสมุดไดอารี่นะครับ
บางคนก็เขียนทุกสิ่งลงไป
บางคนก็ไม่

ผมคนนึงก็เลือกที่จะไม่เขียนอารมณ์ส่วนตัวมากๆ
อยากเก็บไว้ในใจน่ะครับ

บางเรื่องที่งดงามหรือเจ็บปวด
มันเป็นสิ่งที่เราอยากเก็บไว้เป็นความลับในใจ
ไม่อยากแบ่งปันความรู้สึกนี้กับใคร

แหมๆๆๆ ถ้าต้องเขียนทุกเรื่อง ทุกความรู้สึก
ผมว่ามันโป๊มากเลยนะครับ
เหมือนเดินเปลือยเปล่ายังไงยังงั้นเลยครับ 5555


ดาราเค้าก็คงไม่อยากแคะขี้มูกหรือทำอะไรประเจิดประเจ้อ
ต่อหน้าธารกำนัลนะครับ 5555

ประเด็นนี้ก็น่าจะพอเข้าใจกันได้มิใช่หรือ ?









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:07:55 น.  

 



สวัสดียามเช้าค่ะพี่พู่
ไม่ได้เข้ามาแป๊บบบเดียว
พี่พู่เป็นดาราไปซะแร้ววว
อ่ะม่ายยช่ายยยย
ล้อเล่นค่ะ
อย่าเครียดนะคะ


ดี.คิดเหมือนพี่ก๋าค่ะ
บล็อกก็เหมือนไดอารี่
อยู่ที่ว่าเราอยากจะใส่อะไรลงไป
อย่างดี.
ดี.ก็เลือกที่จะใส่เรื่องทั่วไป
อ่านเบาๆสบายๆ
มีเรื่องส่วนตัวเล่าทุกวัน
แต่ไม่โป๊ค่ะ
(ชอบที่พี่ก๋าเขียน)


ดี.เลือกที่จะมีชีวิตมีความสุข
ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนที่ไม่ใช่เพื่อน
ไม่ว่าโลกออนไลด์
หรือโลกแห่งความเป็นจริง
เพราะถือว่าชีวิตเป็นของเราเสมอ
ทุกวันนี้
ชีวิตเลยลั๊ลลาอย่างมีความสุข
ความเป็นส่วนตัวจริงจริง
ไม่เคยถูกแร้งการุมทึ้ง อิอิ



มีความสุขกับชีวิตทุกวันนะคะพี่พู่









โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:30:51 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณพู่

เพื่อนที่เห็นตัวกันเป็นๆ กับเพื่อนออนไลน์
ต่างกันนะคะ
ซึ่งบางคนอาจแยกไม่ออก

การทำบล๊อกเป็นเรื่องอิสระตามใจฉัน
เป็นสิทธิส่วนบุคคลในการแสดงความคิด

แต่ก็อย่างว่าแหละนะคะ
ปาก(กา)คนนี่..ร้ายที่สุด

ปอลอ..เราไม่ได้ไปเดินงานหนังสือวันสุดท้ายค่ะ ติดงานพอดี แต่ไปเดินวันศุกร์ 3-4 ชม. เอง เดินไปได้แค่ครึ่งงาน
ครั้งหน้างานใหญ่เจอกันใหม่ อิอิ

มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพนะคะ



โดย: อิ่ม_Aim วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:57:29 น.  

 
อดไมได้ที่ต้องบอกว่า

ช่างหัวมานเถอะ

..

นะคุณ

เก็บมาไว้ ใจเราทุกข์



โดย: U can call me anytime IP: 202.57.129.65 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:15:41 น.  

 
วันนี้ขออนุญาตเรียกคุณพู่ด้วยแล้วกันนะคะ

อืมม์..เป็นเพราะคนบางคน การได้เหยียบย่ำใครจมดิน ได้เห็นคนอื่นล้มมันเป็นความสุขกระมังคะ ไม่เกี่ยวว่าสนิทหรือไม่ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเองแค่ไหน

คิดซะว่า..เค้าคงมีความสุขในชีวิตน้อยเหลือเกิน จนต้องมาหาความสุขจากเรื่องราวย่ำแย่ของคนอื่นเถอะค่ะ ถือว่าทำบุญนะคะ



เราเองสำหรับบล็อกแกงค์ ตอนแรกๆ เราเขียนค่อนข้างเป็นส่วนตัวค่ะ เป็นไดอารี่จริงๆ เลย แต่โอเค..เราเองก็ไม่ได้ลงเรื่องราว "ทั้งหมด" ของชีวิตหรอกค่ะ เพราะรู้อยู่ว่ามันออนไลน์ เราไม่คิดว่าจะมีใครเล่าเรื่องของตัวเองเสียหมด กับคนที่ไม่รู้จัก ไม่เคยแม้กระทั่งเห็นหน้าค่าตาหรอกนะ แล้วแค่นั้นถ้าเรียกว่า "เฟค" สำหรับเราเราก็คงได้แต่หัวเราะหึๆ ค่ะ (อยากใช้คำแรงกว่านี้แต่..อย่าเลย)

แต่หลังๆ ก็ทำเป็นลักษณะบอกเล่าเรื่องราวข้อมูลท่องเที่ยว รีวิวหนังสือ ที่พัก ร้านอาหารอะไรอย่างนี้มากกว่า เพราะงั้น..ก็คงมีความเป็นส่วนตัวน้อยลง

คุณพู่มีภาพลักษณ์ที่เป็นคนดีไงคะ คนดี..ในสายตาคนเลวๆ บางคน เป็นคนที่น่าจะทำร้ายน่ะค่ะ ต้องลองเป็นคนเลว (อย่างเรา) บ้างนะคะ เผื่อคนพวกนี้จะได้ออกไปจากชีวิตบ้าง




เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่ว่าคุณพู่เจออะไร อยากบอกว่า..อย่างน้อย..เพื่อนทางบล็อกคนนี้ก็เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:22:33 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณพู่

ฟี่อ่านแล้วเข้าใจนะคะ ไม่ว่าจะโลกไซเบอร์ หรือโลกจริง
เราต่างก็รุ้ว่า เรื่องดี ๆ ของคนอื่นนั้น พูดต่อกันสั้นนิดเดียว
แต่ไอ้เรื่องที่จะ"เป็นเรื่อง"ของคนอื่นกลับยิ่งพูดยิ่งยาว

เราได้แต่เรียนรู้คนไปค่ะ ว่าคนนั้นเป็นอย่างนี้ คนนี้เป็นอย่างนั้น
รู้แล้วจะได้รู้ว่าควรยืนอยู่ห่างกันประมาณไหน

ฟี่เองแม้แต่ในโลกจริง การจะเล่าเรื่องอะไรซักเรื่อง
อาจเล่ากับคนนี้ แต่ไม่เล่ากับอีกคน ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทเหมือนกันก็ตาม
บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แค่รู้สึก เท่านั้นเองค่ะ

เป็นกำลังใจให้คุณพู่นะคะ


โดย: Paulo วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:31:59 น.  

 
Let it be ค่ะคุณพู่... อย่าไปใส่ใจ
ยิ่งไปใส่ใจ คนพวกนี้จะยิ่งได้ใจ...
คิดถึงเสมอค่ะ ทุกเช้าก่อนปั่นงานต้องเข้าบล็อกแกงค์มาเยี่ยมเพื่อนๆ ไม่เคยสนใจเรื่องลีลา เบื้องหน้าเบื้องหลังการเขียนของใครเลยค่ะ...มาด้วยใจล้วนๆ...


โดย: Devonshire วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:01:05 น.  

 
อภัยทานและแผ่เมตตาเลยพู่

ไม่มีใครรู้จักเราเท่าตัวเองหรอก

เรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร

เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครจะเข้าใจไปยังไง

เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่

ก็พอแล้ว..

สำหรับคนบางคน ..

ถ้าเราทุกข์ เค้าสะใจ

ถ้าเราสุข เค้าอิจฉา

ถ้าเราเฉย เค้าเต้น

ถ้าเราโต้ เค้าตอ...

..

ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจน่ะ

ใจเราสร้างทุกข์ สร้างสุขได้

เราเลือกเอาว่าอยากจะทุกข์หรือสุข

อย่าให้คนอื่นมามีอิทธพลเหนือใจเราน่ะพู่

สู้ๆจ้า



โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:25:31 น.  

 
เราอาจมีภาพให้เขามอง แต่เราอาจไม่ได้สร้างภาพให้มอง

เรามีคนรู้จักได้มากมาย แต่คนรู้ใจจริงๆ อาจไม่มี

เราคบใครแล้วสถานะก็เปลี่ยนไปได้ แต่ใครคบเราแล้วเขาคงเปลี่ยนเรายาก

สังคมทำให้คนใกล้กันขึ้น รู้จักกันง่ายขึ้น แต่ความจริงใจใคร ก็วัดกันไม่ได้ง่ายๆ เหมือนเดิม..



โดย: Untrue วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:25:58 น.  

 
งงแฮะ เอที่อ่านบล็อกมาก็ไม่มีอะไรนี่ครับ หมูยังชอบเรื่องที่แต่งสวนแล้วโดนลวดตาข่ายเกี่ยวเลย คุณพู่เขียวได้ดีจนเห็นภาพเลย แล้วทำไมต้องเจออะไรแบบนี้

"เฟค"นี่ มันคืออะไร แปลว่าไร คำใหม่ๆแบบนี้ หมูไม่ค่อยรู้เลย รบกวนช่วยบอกด้วยครับ

รำคาญเนอะเจอแบบนี้ เซ็งเป็ดเลย ตัดใจแล้งช่างมาน มาเป็นแบบตัวตนเราดีกว่า ใช้ชีวิตตามใจเรา อย่าไปสน เพราะเราสน ก็เข้าทางเค้าเลย

ช่างมานนนนนนนนนนนนนน



โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:40:58 น.  

 
เคยเจอครั้งนึ่ง ตอนนั้นเปิดร้านขายสินค้าที่เป็นที่รู้จักในกรุงเทพฯ ที่โคราชเป็นเจ้าแรก มีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นโทรมาสัมภาษณ์ ทางโทรศัพท์ นะคะ ( สุกเอาเผากินกันจริง ) เราก็บอกว่าไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์ เขาก็เอาเรื่องว่ามาสัมภาษณ์เราแล้วเราเล่าอย่างโน้นอย่างนี้ลงหนังสือพิมพ์เฉยเลย แต่งเองทั้งเพช่างไม่มีจรรยาบรรณเลย ไร้ยางอายจริง ๆ


ก็

การนินทากาเลเหมือนเทน้ำ

ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน

แม่องค์ปฏิมายังราคิน

มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา


อย่าไปสนเลยค่ะ และอย่าไปรับรู้เลย ตัดดัง แชะ ๆๆ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:45:54 น.  

 
อ่านแล้วก็โมโหแทนค่ะ!

เห็นด้วยกับคอมเม้นต์ของพี่สาวไกด์เลยว่าคนดีมักจะโดนจ้องทำร้าย คงมีคนบางประเภทที่คิดว่าคนดีอ่อนแอมั๊งค่ะ หุๆ แต่คิดผิดซะแล้ว

เฮ้อ...สูดหายใจลึกๆ อย่าโมโหดีกว่า (บอกตัวอป.ที่กำลังโมโหแทนด้วย) ก็แค่คำพูดของคนบางคนเองเนอะ



โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:00:57 น.  

 
มาขอลายเซ็นต์ดาราจ้า
แหมๆๆมองโลกแง่ดี
คนเรากว่าจะดังได้นี่เหนื่อยนะ
ดูสิอยู่ดีๆๆก็ดังขึ้นมาเอง
ขำๆๆไว้ค่ะจะได้สดชื่น
นึกถึงแต่สิ่งดีที่ได้จากที่นี่ค่ะ
มิตรภาพที่คุณพู่ได้รับจากเพื่อนๆๆๆ
มุมมองใหม่ในชีวิต
หนังสือที่ชอบอ่าน
รูปที่มักจะได้รับเสมอจากเพื่อนชาวบล็อก

อารมณ์ที่มันเิกิด
พอเห็นแล้วก็ดับไปค่ะ
คนดีอยู่ที่ไหนก็ดี
ไม่ต้องให้ใครมาบอกว่าเราดี

บอกตรงๆๆนะสำหรับปูแล้ว
คิดถึงคุณพู่มากๆๆ
ชอบมาอ่านเรื่องราวที่คุณพู่ถ่ายทอดไว้
เห็นหายไปก็ห่วงอยู่ กลับมาก็ดีใจ
เิกิดอะไรขึ้นกับคุณพูก็เป็นกำลังใจ
พอแล้วค่ะ อยากบอกก็บอกเอง
อยากเล่าก็เล่าเอง
คนเราก็ต้องเว้นระยะไว้ซึ่งกันบ้าง
แม้กระทั่งสามีภรรยายังต้องเว้นวรรคกันเลย

อีกอย่างเห็นด้วยกับคุณมาเรีย ณ ไกลบ้าน
เธอให้ข้อคิดเห็นได้สั้นและตรงดี

ขอคุณพู่สดชื่นในเร็ววันค่ะ


โดย: แม่ปู (myroom_pu ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:16:38 น.  

 
สวัสดีครับพี่พู่

ผมคิดว่า การเขียนบล๊อก เป็นแค่กิจกรรม เป็นงานอดิเรกหนึ่ง ของคนชอบขีดๆ เขียนๆ เล่าเรื่อง แลกเปลี่ยน...ซึ่งผลดีที่ตามมาคือ การก่อเกิดมิตรภาพ ในกลุ่มเพื่อนบล๊อกแก๊งค์ คนที่เข้ามาอ่าน และเข้ามาทำความรู้จักเราผ่านทางตัวหนังสือที่เราขีดเขียน...

แต่พวกเค้า ก็ไม่ได้จะรู้จักเราในทุกๆแง่มุมครับ...

เพราะฉะนั้น พี่พู่ อย่าได้ใส่ใจกับคำพูด หรือ คำวิจารณ์ของใครเลย... เค้าไม่ได้รู้จักเราดีพอ.. เรามีจุดยืนของเราก็น่าจะพอแล้วนะครับ

ผมว่ามันน่าตลกเนอะว่าการแค่รู้จักกันผ่านทางตัวหนังสือ ทางหน้าบล๊อก ก็ทำให้เค้าสามารถวิจารณ์ในตัวเราได้... เอ๊ะ แล้วเค้าลืมมองตัวเค้าเองหรือเปล่า....

อกุศลจิตที่มันก่อเกิดในตัวตน ในใจของคนที่เค้าวิจารณ์เราเสียหาย...ถ้าเราเก็บมันมา มันก็ทุกข์กับเราครับพี่ ทั้งๆที่เราไม่จำเป็นต้องไปหยิบ ไปเก็บสิ่งอกุศลนั้นมาเลย..พี่ทิ้งมันไปเถอะครับ...

ให้กำลังใจครับพี่...

และก็ขอให้พี่เข้มแข็ง ผ่านช่วงที่ยากลำบากช่วงหนึ่งของชีวิตไปได้นะครับ...ให้กำลังใจครับพี่


โดย: อ๊อด (สิงห์นครพิงค์ ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:24:39 น.  

 
คนที่เค้าคิดว่าคุณ JewNid เฟคนี่ก็แปลกดีนะคะ คิดอะไรแปลกๆ แบบเข้าข้างตัวเอง ตัวเองอยากรู้เรื่องคนอื่น แต่เจ้าตัวเค้าไม่เล่า ก็ไปหาว่าเค้าเฟค

เรื่องส่วนตัวนี่คะ บล็อกมีเอาไว้ให้เจ้าของบล็อกเขียนเรื่องที่อยากเขียน ไม่ใช่เขียนทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิต

อย่างนี้แหละค่ะ คนบางคนชอบรอเวลาที่คนอื่นล้มเพื่อตัวเองจะได้เหยียบข้าม คนแบบนี้ไม่มีค่าคู่ควรที่เราจะไปสนใจด้วยซ้ำ

เราคนนึงที่ไม่เคยคิดว่าคุณ JewNid เฟคเลย กลับชอบเรื่องราวและภาษาที่คุณถ่ายทอดด้วยซ้ำ ขอให้คุณ JewNid ผ่านปัญหาเรื่องของครอบครัวให้ได้นะคะ ลองจูนกันดูอีกที เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: เบบูญ่า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:46:53 น.  

 
คุณพู่ เป็นดาราไปแล้วหรือนี่ (นางฟ้าแอบแซวด้วยคน...)

ที่จริงนางฟ้าว่าเราจะเขียนจะเล่าเรื่องอะไรในบล้อก ก็เป็นสิทธิส่วนตัว เสรีภาพส่วนตัว ซึ่งก็ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร
ไม่เข้าใจจริง ๆว่าทำไม คนอื่นต้องมาว่า เฟค หรือไม่เฟคอะไรอย่างนี้ด้วย

นางฟ้าคิดต่อไปอีกว่า คนที่ว่าคุณพู่ คงจะมีความริษยาเข้าครอบงำเป็นแน่แท้

คุณพู่อย่าใส่ใจหรือเอาเก็บมาเป็นอารมณ์เลยนะคะ คิดซะว่าเป็นเรื่องขำ ๆจากคนขี้ริษยา นะ นะ


โดย: นางฟ้าของชาลี วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:16:17 น.  

 
ต่างคนก็ต่างใจ เราจะไปทำให้ถูกใจทุกคนคงไม่ได้เนาะ ดังนั้นอย่าไปสนใจเลยค่ะ เป็นในแบบของเรานี่ล่ะดีแล้ว


โดย: ณ มน วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:24:14 น.  

 
วิสกี้ขอลอกเมนท์ของคุณ ณ มนเลยค่ะ คิดแบบนั้นจริงๆ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:32:02 น.  

 
สวัสดีครับคุณพู่

ใครจะพูดยังไง..เราก็แก้ไขไม่ได้ครับ..
ส่วนตัวผมว่าต้องบอกว่าช่างมันเถอะครับคุณพู่


เราเป็นเราไม่มีใครรู้จักเราจริงๆ..

คิดเชิงบวกเนอะ..เค้าพูดถึงเรา..เค้าต้องคิดถึงเราแน่ๆ
อิอิ..มีความสุขเยอะๆนะครับ





โดย: Little Knight วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:13:10 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันในวันอากาศเย็นจ้า
ใครกันนะบังอาจมาทำให้คุณพู่ของเราเคืองใจ



โดย: หอมกร วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:28:54 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ..พี่พู่

เรื่องอะไรต้องมายุ่งเรื่องของ "เรา" ด้วยเนอะ

รับฟังแต่อย่าจำใส่ใจเลยค่ะ

เปลืองพื้นที่สำหรับเรื่องดีดีที่เกิดขึ้น

สู้..สู้..ค่ะ


โดย: chenyuye วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:37:27 น.  

 
พู่จ๊ะ

ทุกๆ คนมีโลกส่วนตัวเล็กๆ
แต่บางคนจะเป็นคนช่างสงสัย
บางทีเราก็ต้องเก็บโลกเล็กๆ ของเราไว้

อิอิ ส่วนดารา ข่าวแบบนี้หล่ะทำรายได้ดีนัก
ประเภทฉวยวิกฤติให้เป็นโอกาส
แต่เราคนทำบล็อค มีเพื่อนคนสนิทๆ จริงๆ อยู่แค่ไหน
มีคนไหนน่าคบ ไม่น่าคบ เราเลือกได้เสมอ

อย่าไปใส่ใจเลยเนอะ

.
.
.

ทำใจฟูๆ สู้ๆ อย่าได้แคร์



โดย: Jiji&Kaka IP: 58.8.190.29 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:30:58 น.  

 
โปรแกรมนี้เห็นเค้ามีกันเยอะเลยค่ะแต่ว่า
ตัวเองไม่ได้ทำเลยแม่โสม ไม่แน่ว่าเอาจจะต้อง
ลองทำดูเหมือนกันค่ะ จะได้อัพเดท
กันได้ทันตลอดเวลานะค่ะ



โดย: JewNid


ลองดูๆๆๆ คุณพู่

ตอนนี้กำลังจับมือกับพี่ ยอดสน ช่วยกันว่าเราจะยกทีมไป twitt เม้าท์แตกกันที่นั่น

มันส์ดีนะ

จริงจริ๊งงงงงงง

ยิ่งแซวกันในกลุ่มนะ ฮาแตกเลย

เพราะมันมีการจัดเป็นกลุ่มด้วย เช่นกลุมเลิฟ กลุ่มฟาดแข้ง เวลาปเดเข้ามาในกลุ่มจะได้ไม่มีคนอื่นปะปน เราจะได้ไม่งง

แต่หากไม่ส่งแบบ หลังไมค์ มันก็โชว์หน้าไมค์

แต่ก็ไม่เป็นไร เราสามารถมาเปิดดูในกลุ่มได้ จะได้ไม่งงกับคนอื่น

ลองดู จะเข้าใจมากขึ้นค่ะ

รอนะ


โดย: โสมรัศมี วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:40:44 น.  

 
อา... อ่านแล้วไม่รู้จะพูดว่ายังไง เอาเป็นว่าขอเป็นกำลังใจให้ก็แล้วกันนะครับ บางครั้งเรื่องความอยากรู้อยากเห็นของคนนี่มันก็ทั้งน่ากลัวและน่ารำคาญพอๆกัน คงต้องปลงอย่างเดียวล่ะครับ ธรรมชาติมนุษย์มันเป็นแบบนี้นี่นา

แต่เพื่อนบล็อคดีๆน่าจะมีเยอะกว่านะ


โดย: แฟนผมฯ IP: 142.103.23.32, 202.134.119.218 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:16:37 น.  

 
คุณพู่อย่าหายไปนะ

คนเก่า คนแก่ หายไป เพราะด้วยเหตุโดนนินทาว่าร้าย หลายคนแล้ว

ใครคิดอย่างไร ช่างมันดิ

อย่างแม่โสม แม่โสมว่า มีคนนินทาแม่โสมบานเลย ทั้งในบ๊อก และในที่ห้องต่างๆ

แต่เชื่อไหม แม่ดสมไม่เคยได้ยินเลย

เพราะแม่โสมเห็นบ้าๆบอๆ แท้จริง แม่โสมไม่ยุ่งกับใคร

และไม่สนใจคุยกับใครหากไม่ถูกใจหรือจำเป็น

การคุย ก็คุยกันด้วยมีเหตุ (คุณพู่ย่อมรู้ดี)



เพราะฉะนั้น ช่างแม่มดิ

อย่าเอาใจเราไปห้อยกับปาก หรือใจสกปรกของคนอื่น

ไม่เกี่ยวกัน เราต่างมีชีวิตที่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน

ทำตัวแบบแม่โสมอะ สบาย

ใครว่าอย่างไร ก็ช่าง เพราะไม่มีใครคีบมาบอก

แต่รู้ได้ด้วยสัญชาติญาณ



หากคนเราปล่อยให้คนอื่น "คนอื่น" จริงๆ มาทำให้เราหม่นใจ นี่ถือว่า แกว่งใจหาไฟเองนะ



ไม่มีใครทำให้เรา move ได้ นอกจากตัวเราและคนที่เรารัก

จำไว้คุณพู่

ต้องสู้และซ่า อย่างแม่โสม


คนบ้าเท่านั้นที่ครองโลก วะ ฮ่าๆๆๆๆ




โดย: โสมรัศมี วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:19:43 น.  

 
แวะเข้ามาหาคุณพู่เมื่อสองสามวันก่อน
เห็นปิดเม้นท์ก้อเลยไม่ได้ทักทายกันน่ะค่ะ

มาวันนี้อ้าว..ตลาดเกือบวายซะแล้ว
เห็นด้วยค่ะว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอาปัญหาต่างๆมาเล่าให้ฟังเลย
มันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆๆๆ

อย่างยุ้ยเนี่ยเขียนบล๊อกตลกติงต๊องไปวันๆ
ก้อใช่ว่าจะไม่มีปัญหา...

คนหมู่เยอะปัญหาก้อเยอะตามน่ะค่ะ
อย่าไปใส่ใจเลยน๊า

ทำใจให้สบายดีกว่าเน๊าะ อิอิ


โดย: nLatte วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:48:53 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณพู่

ป้ากุ๊กอ่านแล้วก็งง – งงนะ เพราะไม่คิดว่าจะมีเรื่องทำนองนี้ …ในสังคมนี้


คนเราว่างมากก็พูดมาก
พูดเรื่องตัวเองหมดก็เลยต้องคว้าเรื่องคนอื่นมาพูดต่อ


เรื่องพูดนี่มันมันส์ ยิ่งพูดเรื่องคนอื่นยิ่งมันส์
ก็เติมสี ใส่ไข่ ใส่เปรี้ยว เค็ม หวาน กันตามชอบ


แต่นี่แหละคือสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ
โลกธรรมแปด ข้อที่ว่า มีสรรเสริญ …มีนินทา
ไม่มีใครหนีพ้น ขึ้นอยู่ที่ว่าจะเจอเมื่อไหร่ และเจอหนักแค่ไหน


การตั้งรับด้วยสติจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาค่ะ
เพราะสติจะช่วยให้เรามองหาทางออกได้ง่ายขึ้น


ป้าเป็นกำลังใจค่ะคุณพู่




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:29:54 น.  

 
คนเราเป็นที่รู้จักในหมู่คนมาก เราว่าก็มีทั้งคนชอบคนชังแหละ

อย่างที่พู่บอก ไม่ซีเรียส ก็ไม่ต้องเก็บมาคิดมาก


โดย: ostojska วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:10:43 น.  

 
คนรู้หน้ายังไม่รู้ใจเลย...
ดังนั้นอย่าไปใส่ใจเลย
...อย่าซีเรียสนะคะ



โดย: narellan วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:33:38 น.  

 
อ่านแล้วก็ต้องอุทานว่า "ป๊าดโท๊ะ" มันขะหนาดนี้เลยก๊า 55555

ได้เขียนระบายออกมาบ้างแล้วก็อยากให้คุณพู่อย่าได้ใส่ใจ

เราจำได้ไม่ลืมว่าสามปีก่อนตอนเราเล่นบล็อกใหม่ ๆ น่ะ คนในบล็อกทะเลาะกัน หุหุหุ เรายังร้อน ๆ หนาว ๆ เลย

คิดในทางที่ดีนะคุณพู่ แบบว่าฉันดัง ๆ เลยมีคนสนใจ อิอิอิ แบบนี้สบายใจกว่ากันเยอะ แต่เราว่าคนที่ชอบเอาเรื่องชาวบ้านไปเม้าท์เรื่อยเปื่อยเนี่ย ออกจิต ๆ นะ ยิ่งเป็นเรื่องของคนอื่นที่อยู่บนโลกไซเบ้อเร่อแบบนี้แล้วล่ะก็แสดงว่าเป็นคนว่างจัดมาก ๆ น่าจะจับไปบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมให้รู้แล้วรู้รอด 555

ช่างเขาเหอะคุณพู่ดาหวัน ตัวเราเองคงบอกได้แค่นี้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อเนอะ


โดย: prunelle la belle femme วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:34:30 น.  

 
สวัสดีขอรับ คุณพู่

นินทากาเล เหมือนตังเมติดก้นครับ

ติดแล้วน่ารำคาญ ทั้งที่เราไม่ต้องการ

แต่แกะออกยากสุดๆ

มันเป็นธรรมชาติของมันน่ะครับ



อย่าไปซีเรียส ถือสาหาความ

ว่างๆก็ด่าเอามันให้สำนึก ก็พอหอมปากหอมคอ..

ฮ่ะๆๆ..


-------------

จากบ้าน

ขอบพระคุณที่จะติดตามครับ..



โดย: ชายผู้หล่อเหลา..กว่าแย้นิดนึง.. (อสัญแดหวา ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:57:14 น.  

 
สวัสดีค่ะ ดุ่ม ๆ สุ่ม ๆ เข้ามาคิดว่าคุณ Jewnid ยังไม่อัพบล็อกหรอกค่ะ เผื่อฟลุ้ก
เลยเพิ่งรู้เรื่องราว ดูลักษณะการเขียนค่อนข้างอัดอั้นทีเดียว

เข้าใจค่ะ เข้าใจ สำหรับเรื่องเขียนบล็อก ตัวรัชชี่เองนะ เลือกเองที่จะไม่เขียนเรื่องทุกข์ เพราะมีเหตุผลของตัวเอง คือถ้าวันหนึ่งข้างหน้าเรากลับมาอ่าน เราอาจจะกลับมาทุกข์รอบสอง ก็เลยต้อง forget it (แม้ว่าจริง ๆ จะไม่ forget)

รัชชี่ถูกชะตากับตัวหนังสือ + สไตล์เรียบเก๋จากบล็อกคุณ Jewnid ตั้งแต่เริ่มมาเขียนบล็อก และหลงเข้ามาอ่านบล็อกนี้ ประกอบกับ comment ของคุณ Jewnid มันไม่ได้เป็นเพียงแค่ comment ค่ะ ไม่ใช่เป็นเพียงว่าฉัน comment ให้เธอ แล้วเธอก็ต้องมา comment ให้ฉันด้วยนะ แต่เหมือนการตั้งใจอ่านเรื่องราวของเราด้วย และเหมือนเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยน

อ้อ! อีกอย่างรู้สึกเราจะชอบนักเขียนคล้าย ๆ กัน อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งมั้ง

รัชชี่เคยถูกคน (จริง ๆ ไม่ใช่บล็อกเกอร์) ค่ะว่าเราเฟคเหมือนกัน จากการอ่านบล็อกของเรา และตามไปดูว่าเรา comment บล็อกคนอื่นอย่างไร เขาบอกว่าเขียนบล็อกแล้วดูเป็นคนดีจัง ดูเฟคจัง ประโยคนี้ทำเอาซวนเซไปพักหนึ่งและร้างลาบล็อกไปพักหนึ่งเหมือนกัน เพราะตอนนั้นตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราเฟคหรือ???

ชีวิตจริงถ้าไม่ชอบใคร ต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งและไม่ยุ่งเลยค่ะ ไม่สามารถเฟคทำตัวยิ้มแย้มคุยได้แน่ ๆ ได้เพียงแค่ถ้ามันยังต้องติดต่อ ก็ต้องติดต่อกันไป หมดเรื่องราวแล้วที่ต้องติดต่อแล้วก็ต่างคนต่างอยู่

ดังนั้น “เอาวะ ช่างแม่ง” ประโยคเดิมนี่แหละค่ะ คุณ Jewnid

กับมีประโยคมาฝากค่ะ

“ไม่ต้องสาธยายเกี่ยวกับตัวคุณให้ใครฟังหรอก
เพราะคนที่ชอบคุณ ยังไงเขาก็ชอบ และไม่ต้องการฟังมัน
แต่คนที่เกลียดคุณ ยังไงเขาก็ไม่เชื่อคุณหรอก”


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:42:01 น.  

 
วันนี้อ่านบล๊อคพี่นิดแล้วก็เห็นด้วยนะคะ ว่าบางคนก็นะ..เหลือเกิน


ปกติอ่านบล๊อคพี่นิดมานานตั้งแต่กิ๊ฟเล่นแรกๆ ก็สามปีกว่าๆเข้าไปแล้ว..พี่นิดเหมือนกิ๊ฟตรงที่ เรื่องในบล๊อคเป็นแค่เรื่องส่วนหนึ่งในชีวิตเท่านั้นไม่ใช่ทั้งหมด คนที่เป็นเพื่อนจริงๆถึงรู้ด้านอื่นๆ ที่เป็นเรื่องส่วนตัว

กิ๊ฟมาอ่านบล๊อคพี่ก็ชอบแนวที่พี่เขียนและรูปถ่ายสวยๆ เข้ากับบรรยากาศ แค่นี้พอแล้วค่ะ


โดย: grippini วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:57:07 น.  

 
ผมค่อยๆนั่งอ่านเม้นท์
คุณพู่ได้รับกำลังใจเพียบเลยนะครับ

เพื่อนๆเหล่านี้มากกว่าครับ
ที่คุณพู่ควรจะใส่ใจครับ
เพราะทุกคนก็รับรู้ได้ถึงสิ่งดีดีที่คุณพู่มอบให้เพื่อนๆ
ผ่านบล้อกและเม้นท์ของคุณพู่มาโดยตลอดน่ะครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:04:37 น.  

 
สวัสดีค่ะแวะมาอ่านและให้กำลังใจค่ะ เข้าใจเลยว่าคามรู้สึกเป็นไงค่ะแม้จะไม่ได้เขียนบล็อกมานานแต่ก็อ่านมานานแล้ว ไม่จำเป็นที่เราต้องป่าวประกาศบอกใครไปหมดทุกข์เรื่องชีวิตเราเป็นของเรา คำว่าเฟคเนี่ยบางทีคนที่พุดให้เราแบบนี้จริงๆ แล้วเค้าอาจกำลังเฟคอยู่ก็เป็นได้ เป็นกำลังใจให้นะคะ


โดย: Thairabian วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:12:18 น.  

 
ไม่คิดเลยว่าจะมีคนอยากรู้เรื่องส่วนตัวพี่พู่ขนาดนั้นเลย ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องตัวเองซักกะหน่อย รู้ไปก็ช่วยอะไรพี่พู่ไม่ได้ด้วยซ้ำไปนะคะ

ปกติส้มก็ไม่เน้นเขียนเรื่องส่วนตัวในบล็อกเท่าไหร่ ค่ะ ไม่รู้จะเล่าอะไร เล่าไปก็อายเค้า อีกอย่างมันเป็นเรื่องของเราคนอื่นจะรู้ไปทำไมกัน ถ้ามาป่าวประกาศให้รู้กันไปทั่วแล้วจะเรียกว่าเรื่องส่วนตัวหรอ

เชื่อว่าทุกคนต้องมีมุมส่วนตัวบ้าง ถ้าต้องออกมาเล่าให้ฟังทุกซอกทุกมุมมันคงเหมือนที่พี่ก๋าว่าไว้ "เปลือย" ค่ะ

พี่พู่อยากเขียนอะไร บอกอะไร ก็ตามใจพี่พู่คิดเลยค่ะ ไม่ต้องไปสนใจปาปารัสซี่พวกนั้นนะคะ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:22:50 น.  

 

แวะมาให้กำลังใจน้องพู่จ๊ะ
ไม่ต้องไปใส่ใจเน๊าะ
ขนาดพี่อุ้ม
ยังมีเม้นท์มาอยากรู้ว่าเมื่อไหร่จะแต่งงานเลยล่ะ
อะไรที่น้องพู่ทำแล้วมีความสุข
ก็ทำต่อเขียนต่อไปเห๊อะ
อยู่ข้างน้องพู่เสมอจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:41:46 น.  

 
แวะมาให้กำลังใจน้องพู่ด้วยอีกคน
อ่านแล้วตอนแรกงง ตอนกลางๆเซ็ง
และตอนจบ..สะใจ

น้องพู่สรุปได้ถูกใจพี่เป็ดมากค่ะ
เรื่องใครเรื่องมันจริงๆ
ไม่เล่าก็ไม่ได้แปลว่าเฟคนี่หว่า
เหมือนบ้านเรามีสามห้อง เป็นห้องส้วมเน่ากำลังคุเลยห้องนึง

ถามจริงๆ แขกมาต้องพาไปเปิดดูด้วยฤา

โอ้ แม่เจ้า ฮ่วย

น้องพู่ พี่เห้นด้วยกับป้ากุ๊กได่ ขอบอกว่าถูกใจมากๆ
ไม่รู้คนเราจะพูดไปทำไม เรื่องตัวเองเอาให้รอดก็เก่งแระ

เฮ้อ เสียดายไม่ได้เจอกันนิ

คิดถึง


โดย: be-oct4 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:14:45 น.  

 
อ่านที่พู่ระบายจบแล้วก็อ่านเม้นท์ของเพื่อนๆ ต่อเลย (อ่านมึนไปเลยดิ) .. แต่ไม่เห็นมีใครพูดถึงสิ่งที่พี่โตสอยากพูด
เพราะงั้นพี่โตสก็เลยขอใช้พื้นที่ของบล๊อกพู่ตรงนี้ พูดถึงคนที่เค้าว่าพู่ "เฟค" เพราะว่าพู่ "ไม่เปิดเผยออกมาให้หมดเปลือก" หน่อยนึงละกันนะพู่นะ

พี่โตสบอกตรงๆ ว่าอ่านแล้วพี่ "งง" มากๆ เลยล่ะว่า คนที่เค้าว่าพู่ว่า "เฟค" นั่นน่ะ เค้าแปลความหมายของคำว่า "เฟค" ว่ามันหมายถึง "การไม่เปิดเผย" หรอกหรือ???

เพราะสำหรับพี่โตส .. พี่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์เลยนะว่าพี่เข้าใจถูกนะว่าคำว่า "เฟค" มันหมายถึง "อะไรที่ไม่จริง ตอหลา หลอกลวง" ซึ่งพี่ว่ามันคนละเรื่องกันเลยนะกับการไม่เปิดเผยเนี่ย.... หรือว่ามีแต่พี่โตสคนเดียวที่ตีความหมายของคำว่า "เฟค" ไปแบบนี้ .. หรือว่าจริงๆ แล้วคำว่า "เฟค" มันหมายถึง "การไม่เปิดเผย" อย่างนั้นเหรอ....

ซึ่งถ้า "เฟค" คือ "การไม่เปิดเผย" .. อย่างนี้พี่โตสว่าเราชาวบล๊อกเกอร์ "ทุกคน" ก็คงจะ "เฟค" กันหมดล่ะมั้ง (รวมทั้งพี่โตสเองด้วย ) พู่ว่ามะ .. เพราะว่าอย่าว่าแต่คนที่มีความคิดอย่างเราๆ เลยนะ (ที่ไม่ชอบเล่าเรื่องส่วนตัว"เกินไป"บนหน้าบล๊อก) แต่พี่โตสเชื่อว่า แม้แต่คนที่ชอบออกมาเล่าเรื่องส่วนตัว(เกินไป)ของตัวเองให้ชาวโลกได้ฟังได้อ่าน เค้ายังมีเรื่องที่แต้บๆ เก็บๆ ไม่เล่าอยู่เหมือนกันนะ .. หมายความว่า .. "พี่โตสเชื่อว่า" แม้แต่คนที่เปิดเผย..........ซ๊า..............(เกินไป) บนหน้าบล๊อก เค้ายังมีเรื่องที่เค้าอยากจะปิดอยู่บ้างเลยนะ .. เพราะฉนั้นพี่ถึงว่า "บล๊อกเกอร์ทุกคน เฟค" ถ้า คำว่า "เฟค" ที่เราพูดๆ กันมันหมายถึง "การไม่เปิดเผย"

พจนานุกรม Chini
เฟค = อะไรที่ไม่จริง การหลอกลวง หรือ ต อ แ ห ล

พจนานุกรม Chini
เฟค กับ การไม่เปิดเผย .. มันคนละเรื่องคนละความหมายกันเลยนะค๊า......

พจนานุกรม Chini
คนที่ไม่เปิดเผยในเรื่องที่ไม่ควรเปิดเผย = คนฉลาด

เพราะงั้น .. พี่โตสเดาว่าคนที่เค้าว่าพู่ "เฟค" เพราะว่าพู่ "ไม่เปิดเผย" ออกมาให้หมดเปลือกนั่นน่ะ .. เค้าคงจะเป็นคนที่ชอบเล่าเรื่องราวส่วนตัวของตัวเองในทุกแง่ ทุกมุมบ้าน ทุกรูขุมขน ให้ชาวโลกได้รับรู้ชีวิตและความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเค้าแน่ๆ เลยใช่ไม๊พู่....

เฟค เพราะว่า ไม่เปิดเผยเนี่ยนะ .. คิดได้ไงเนี่ยคุณ


โดย: Chini วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:58:25 น.  

 
+ อ้าว! พอคุณพู่กลับมาอัพบล็อก ก็เจอเรื่องแรงๆ เยี่ยงนี้เลยรึครับเนี่ย

+ สำหรับพี่ จากการที่เคยผ่านมาแล้ว 3 โลก(ไซเบอร์) บล็อกคือใบที่ 4 ... บอกได้เลยว่าเจอคนประเภทที่คุณพู่ว่าไว้นี่เยอะพอสมควร (ปากก็พูดดีกับเรา แต่ใจและการกระทำไปอีกอย่าง) และตัวพี่เองปกติค่อนข้างเซ้นสิทีฟอยู่แล้ว กับเวลาคบใครจะเปิดใจให้คนนั้นหมดไว้ก่อน (แล้วถ้าเค้าร้ายมา จะค่อยๆ เริ่มปิด) ดังนั้นพี่จึงมีโอกาสถูกทำร้าย (ความรู้สึก) ได้ค่อนข้างมากอ่ะครับ

+ พอถึงไซเบอร์ใบนี้ พี่เลยพยายามเลือกคนที่จะคุยด้วย (เฟรนด์บล็อก) ให้มากขึ้น ระมัดระวังมากขึ้น คือไม่อยากให้ตัวเองต้องเจ็บซ้ำไปเรื่อยๆ แต่อย่างว่าบางทีมันก็ดูยากอ่ะครับ

+ ทุกวันนี้ก็เลยได้แต่ปลง เป็นตัวของเราเองดีที่สุด มีแต่ตัวเราเท่านั้นที่รู้จักเราจริงๆ ว่าเราเป็นยังไง แล้วก็อย่าไปพยายามเข้าใจคนอื่น เพราะบางทีมันก็อาจยากเกินไป เค้าเปิดมาแค่ไหนก็คบแค่นั้น ถ้าดีมาก็ดีตอบ ถ้าร้ายมาก็อาจร้ายตอบ แต่ถ้าถึงที่สุดแล้ว ก็คือกรวดน้ำคว่ำขัน ถือซะว่าอยู่คนละโลก ไม่รู้จักกันอีกต่อไป จะได้ไม่ต้องปวดใจอีกอ่ะครับผม


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:12:00 น.  

 
จะไปสนใจใยกับคำคน...ไม่มีใครรู้จักเราดีพอเท่าตัวเราเอง บางทีตัวเราเองยังไม่รู้จักตัวเองดีพอเลยค่ะ แล้วจะไปเอานิยายคนช่างต่อเติมเสริมแต่งและสนุกกับเรื่องของคนอื่นทำไมคะคุณพู่...คนไม่เข้าใจย่อมมีและคนที่เข้าใจก็ยอ่มมีเหมือนกัน...ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในโลกมักมีคนสองประเภทอยู่เสมอ เมื่อโลกเป็นแบบนี้อย่าไปยึดติดกับคำว่า "คน" เลยค่ะเป็นกำลังใจให้คุณพู่ อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกค่ะ...ไม่คิดมากนะคะ...คืนนี้นอนหลับฝันดีด้วยค่ะ...อย่าลืมห่มผ้าก่อนนอนนะคะอากาศเย็นแล้วค่ะ..


โดย: deeplove วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:14:49 น.  

 
เอ่อ เรื่องราวในบลอกวันนี้ดูเครียดๆ ชอบกลนะคะ พี่พู่

หนูว่ามันก็นานาจิตตัง โดยธรรมชาติของคนมักจะอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่น โดยเฉพาะเรื่องไม่ดี เรื่องทุกข์ ไม่รู้ว่าทำไมนะคะ ยิ่งถ้าคนคนนั้นเป็นคนที่เป็นที่รู้จักของคนหมู่มาก เรื่องราวของคนนั้นก็ยิ่งเป็นที่น่าสนใจ


อย่างดาราหรือนักร้องบางทีเค้าจะวัดว่าดังหรือไม่ ยังวัดเลยว่ามีข่าวคาวกับเค้าบ้างหรือเปล่า ถ้าคนไหนไม่มีก็ทำใจได้เลยค่ะว่าไม่อยู่ในสายตาของประชาชน หรือพูดง่ายๆ ว่าไม่ดัง


ถ้ามองในแง่ดี แสดงว่าตอนนี้พี่พู่ก็เป็นคนดังไปเรียบร้อย 55555 แล้วถ้าไม่คิดมาก เอาหูไปนา เอาตาไปไร่กับข่าวที่เม้าท์ๆ กันอยู่ ก็คงทำให้เราไม่ทุกข์ใจอ่ะนะคะ


สรุปง่ายๆ เป็นกำลังใจให้พี่พู่เหมือนทุกครั้งค่ะ


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:15:11 น.  

 
พี่ถามตรงๆ หน่อย

สาเหตุ... เมื่อเขาว่าฉันเป็นคน "เฟค" ...

สืบเนื่องมาจากกระทู้ที่พู่เคยแปะถามถึงเรื่องคนรู้จักหรือเปล่า?

พี่ยังได้อ่านเลยนะ มีคนส่งต่อๆมา ตกลงเรื่องใครก็ไม่รู้นะ

จะเฟคหรือไม่ เจ้าตัวรู้ดีที่สุด ไม่มีใครรู้ดีกว่าตัวเรา
เพราะคนเราจะเฟคในใจตัวเองก่อน
มันถึงเฟคต่อไปสู่คนอื่นๆ ให้สัมผัสได้
นั่งตรวจสอบใจนิ่งๆดู เฟค-ไม่เฟค ตั้งสติดีๆ

ตัวตนคนเรามันมี 3 ด้านนะ น้องเอ๋ย

you are what you think you are
you are what people think you are
and you are what you really are

Willie Nelson (ศิลปินเพลงคันทรี่) เคยเขียนไว้
ต้องยอมรับความเป็นตัวเราก่อน
เพราะมันสำคัญกว่าการที่จะรอให้ใครมายอมรับเรา

ว่าแต่แฮปปี้กับการถูกพูดถึงแบบดาราจริงเหรอ
สุขกับมายาน่ะนะ --- คิดดีๆ



โดย: เสมอกลาง IP: 85.149.148.125 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:37:13 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณพู่

แวะมาเยี่ยมจ้าหลังจากที่หายไปนาน
ด้วยโรคภัยและภาระกิจ

ต่างคน ต่างจิต ต่างใจ
ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกค่ะ
อะไรที่คุณพู่ทำแล้วมีความสุข
ก็ทำต่อเขียนต่อไปเถอะค่ะ
ถ้าเราทำแล้วมีความสุข ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนให้ใคร
เป็นกำลังใจให้คุณพู่ค่ะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:20:23 น.  

 
ปกติพี่จะไม่ได้เข้าหน้าหลักของบล็อกแก้งค์ ก็เลยพลาดทำให้ไม่ได้อ่านบล็อคของเพื่อนๆ ที่รู้จักกัน จะตกข่าวไม่รู้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน ส่วนใหญ่พี่คลิ้กอ่านบล็อคแก้งค์ผ่านทางช่องของเวป
พันทิป ถ้าพู่ไม่ได้แวะไปคุยกับพี่ที่บล็อคพี่อาจจะพลาดไม่ได้อ่านเรื่องราวความไม่สบายใจของพู่

อยากบอกว่าเท่าที่รู้จักและพูดคุยกับพู่มา 4 ปีกว่าๆ
พี่ว่าพู่ไม่ใช่คนเฟคน่ะ เป็นคนที่จริงใจ ใช้ได้เลย
ทุกตัวอักษรที่พู่เขียนขึ้นมาในบล็อค พี่ว่าพู่เป็นผู้หญิงที่จิตใจดี เป็นคนละเอียดอ่อน ถ้าพู่เป็นคนเฟคสไตล์การเขียนตลอด 4 ปีกว่าที่ผ่านมา
มันอาจจะเพี้ยนเปลี่ยนไปแล้วล่ะ ก่อนพู่จะให้คอมเม้นท์เพื่อนๆ พู่จะอ่านและใส่ใจในทุกตัวอักษร ที่เพื่อนๆ เขียนก่อนที่พู่จะให้คอมเม้นท์เพื่อนๆ ยาวๆ แบบที่กลั่นกรองออกมาจากใจของพู่



พู่ไม่ต้องไปสนใจว่าใครวิจารณ์เราว่าอย่างไร เพราะคนที่เค้าวิจารณ์เรา เค้าไม่รู้จักเราดีพอ โดยเฉพาะในสังคมไซเบอร์ บอกได้คำเดียวว่า..ไม่ต้องไปสนใจ.. ยิ่งไปสนใจก็ยิ่งทำให้เราไม่สบายใจเป็นทุกข์ไปเป่ล่าๆ สุขอยู่ที่ใจ.. ขอให้เรามีจุดยืนเป็นตัวของตัวเราให้มากที่สุด ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตามก็ไม่สามารถทำให้ใจเราสั่นคลอนไปได้หรอก


ปล. พู่บอกว่าใครอยากถามอะไรก็ถามมาได้เลย ตอบได้จะตอบให้ ตอบไม่ได้ก็ไม่ตอบ พี่ก็ไม่อ้อมค้อมแหล่ะ ถามกันตรงๆ คืออยากรู้ว่าใครวิจารณ์พู่เหรอค่ะ


โดย: พ ริ ก ขี้ ห นู @ UK วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:53:09 น.  

 
ต้องขอยอมรับแบบคุณพริกข้างบนว่าอ่านแล้วงง ไม่ได้ติดตามข่าวคราวเท่าไหร่ ว่าใครเค้าไปว่าใคร หรือว่ามีใครเค้ามาว่าเรา อะไรพวกนี้ ไม่ค่อยได้ใส่ใจอ่ะพู่

พี่ว่าเล่นบล็อคมันก็เหมือนการจดบันทึก เล่าเรื่องราว แล้วถ้าเรื่องราวของเราน่าสนใจ มีคนติดตาม สิ่งที่ตามมาก็คือเพื่อน และมิตรภาพที่ดี ๆ แต่ถ้าสิ่งที่ตามมามันตรงกันข้ามไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวัง หมายถึงว่ามันไม่ใช่มิตรภาพที่ดีที่มีให้แก่กัน คนคนนั้นก็ไม่ใช่เพื่อน เพราะฉะนั้นก็ตัดคน ๆ นั้นออกไป แล้วก็ไม่ต้องไปใจว่าเค้าจะว่าอะไร คิดว่ามันเป็นเสียงนกเสียงกาก็แล้วกัน (แม้แต่พระพุทธเจ้ายังมีมารผจญเล๊ย)

ฉะนั้นทำใจให้สบาย เล่าในสิ่งที่เราอยากเล่า เล่าแล้วสบายใจก็พอ เค้าไม่ได้มาจ่ายเงินเดือนให้เราซะหน่อย แล้วจะมาบังคับให้เราเขียนโน่นเขียนนี่ได้ยังไง คิดแบบนี้ได้จิตใจคงสบายขึ้น


โดย: edelweiss วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:4:31:42 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณพู่

ชอบความเห็นของพี่โตสกับพี่เสมอกลางครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:5:58:55 น.  

 
บล็อกเป็นที่ส่วนตัวที่เป็นที่สาธารณะคนทั่วไปมาเยือนได้
บางคนก็ไม่ได้รู้จักกันเลย ไม่ว่าจะโลกเสมือนหรือโลกจริง
หลายสิ่งหลายอย่างบนเนต บางครั้งจริงบ้างไม่จริงบ้าง
บางคน บางเรื่องก็จริงแค่บางด้านบางมุม

สุดท้ายไม่ว่าโลกเสมือนหรือโลกจริง
ทุกคนต่างมีสเปซ มีพื้นที่ส่วนตัวกันทั้งสิ้น
สำหรับการเปิดให้คนอื่นเข้ามารับรู้ มากน้อย หรือมุมใด

เราเองเป็นหนึ่งคนที่โลกส่วนตัวสูง
ไม่อัพเรื่องราวส่วนตัวลงเนตนัก

การที่ใครสักคนจะเลือกถ่ายทอดแต่มุมมองที่ดี แง่มุมดีๆบนโลก
คงไม่ได้หมายความว่า เฟค
ไม่เช่นนั้นพวกนักเขียนแนว feel good คงเฟคกันถ้วนทั่ว

การเฟคน่าจะหมายถึง การที่เราจงใจแสดงตัวตนเป็นในสิ่งที่เราไม่ได้เป็นเช่นนั้นให้ผู้อื่นเข้าใจ
การที่เราเลือกเปิดโลกแค่บางมุมกับคนอื่น จึงไม่น่าใช่การเฟค




โดย: p_tham วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:6:46:40 น.  

 


ดีจ้าพี่เสมอกลาง ...



ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ดีๆ ค่ะพี่ อ่านแล้วทำให้ระลึกได้ถึงเรื่องของกระทู้ พู่ลืมไปจริงๆ ว่าเคยเอาไปโพสไว้ และไม่คิดว่ามันจะเป็นประเด็นเลย แต่จะว่าไปแล้วพู่ไม่ได้คิดมากน่ะค่ะเพราะไม่อย่างนั้นแล้วถ้าหากว่ากลัว หรือว่าอาย หรือว่าอะไรก็คงจะไม่เอาล็อกอินสอดเข้าไปถามหรอก และที่บอกว่าเป็นเรื่องของคนรู้จักก็เพราะเป็นแนวกลายๆ ที่ประมาณจะบอกว่า "อ่านแล้วคิดเองและอย่าถามเลย" เพราะจะว่าไปแล้วคนก็ต้องเดาล่ะว่าเป็นเรื่องของพู่เอง .. ซึ่งโอเคจะว่ายังไงก็ตามก็คิดกันไปต่างๆ นานาได้ค่ะไม่ว่ากัน ....


แต่เรื่อง "เฟค" ที่ว่ารู้สึกขำๆ คือ โอเคถ้าอ่านกระทู้ไปก็แล้วไง เพราะว่าพู่เองก็ไม่ได้อัพบล็อกเรื่องราวของความรักของพู่ เพราะเรื่องรัก เรื่องครอบครัว มันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเราที่เราอาจจะเอามาบอกเล่าหรือว่าไม่บอกเล่าก็ได้ และเพราะการไม่พูดถึงนี่เองมั้งค่ะ ก็เลยเอากระทู้และก็เรื่องเขียนบล็อก (แบบไม่เล่า) กลายเป็นเรื่องที่เค้าบอกว่า "เฟค" มันเลยเป็นที่มาของเรื่องที่ได้ยิน เพราะคำว่า "เฟค" นั้นมันหมายถึงเรื่องแต่งเติม ไม่จริง ซึ่งมันก็ไม่ใช่ พุ่มองแต่ประเด็นนี้อย่างเดียว สวนเรื่องอื่นก็โอเคถ้าจะว่าเป็นเรื่องของพู่ก็คงเป็นของพู่อยู่ดีค่ะไม่เถียง เพราะคนมีปัญหาก็ย่อมมีเป็นธรรมดาไม่มีอะไร


ส่วนที่พี่แก้วถามว่าพู่สุขกับการเฟคแบบมายา/ดาราไม๊ ... ก็บอกได้ว่า เพราะเลือกจะไม่สนใจ เพราะว่าเฟคมันก็คงไม่ใช่ประเด็นอยู่ดีค่ะ เพราะว่าปัญหามันก็มีจริง แต่บล็อกก็ต้องเขียนแต่ก้ไปเขียนเรื่องอื่นที่เราพบเจอ เพราะฉะนั้นที่ว่าจะแกล้งทำตัวให้มีความสุขคงแกล้งไม่ได้หรอกค่ะหรือว่าแกล้งก็คงได้ไม่นาน เพราะลึกๆ ปัญหามันมีก็ต้องเศร้าเป็นธรรมดาแต่เลือกจะไม่เศร้าต่อเพราะมันมีหนทางเสมอค่ะสำหรับการแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นการเขียนบล็อก การได้คุยกับเพื่อนๆ ด้วยเรื่องต่างๆ ได้อ่านอะไรเยอะแยะในบล็อกก็เป็นทางออกไป ... ความทุกข์ที่มีมันก็คงหายไป จางไป คงต้องให้เวลามันช่วยด้วยน่ะคะพี่แก้ว .... อีกอย่างหนึ่งเรื่องของการยอมรับ พู่ว่าการเขียนบล็อกก็เป็นอะไรที่เป็นพู่น่ะคะ อยากเขียนอะไร คิดอะไรก็ออกมาตามนั้นเลย ไม่ได้อยากเขียนเพื่อการยอมรับอะไร เพราะว่าไปแล้วคนอ่านจะรับได้หรือว่าไม่ได้ก็ต้องอยู่ที่เค้าเลือกอยู่ดี เหมือนเราเสนอไปแต่เค้าไม่เห็นด้วย ไม่ชอบก็โอเคไม่ว่ากัน เพราะฉะนั้นพู่คงไม่เขียนอะไรที่ไม่ได้เป็นตัวเองหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นเหมือนพี่แก้วว่าถ้าเรารู้จักตัวเราดีแล้วก็คงไม่มีอะไรน่าห่วงเน๊าะ



ขอบคุณนะค่ะที่แวะมาคอมเม้นท์อะไรดีๆ ให้คิดกัน และเหมือนว่า ทำให้พู่เปิดหัวใจและมองเห็นว่า ตัวเองที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นที่สนใจก็ดันเป็นที่สนใจได้ เพราะฉะนั้นเรื่องราวที่เกิดก็คงทำให้พู่ต้องคิดใหม่แล้วว่า "สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราเห็น มันอาจจะไม่จริง" ก็ได้ เพราะฉะนั้นทุกอย่างเป็นครูให้พู่ค่ะพี่แก้ว ขอบคุณนะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:15:21 น.  

 
มาทักทายสวัสดีกันยามเช้าครับ และขอบคุณที่แวะไปชมภาพถ่ายที่ blog มาด้วยนะครับ
ชมภาพเปิดดอกกล้วยไม้ แล้วมีเรื่องเล่าตามเนื้อหา blog นี้
วันก่อนไปนั่งถ่ายภาพรวมๆ กับโปรฯ กล้อง ก็ทักทายสวัสดีกันเป็นตามปกติ หนึ่งในโปรฯ ก็รีบทักทายว่า "โปรฯ ดอกกล้วยไม้มาแล้ว" ว่าจะหันหลังกลับไปดู เผื่อว่าเค้าทักทายคนข้างหลังที่เดินตามมา แต่ก็ไม่ได้ทำ เออ ออ ห่อหมกตามเค้าไปก่อน แล้วก็มานั่งนึก เราถ่ายดอกกล้วยไม้ไปกี่ภาพกัน แทบจะนับภาพได้ ไหง มาทักเราเป็นโปรฯดอกกล้วยไม้....สรุปตอนท้าย คงประมาณนี้ เราไปเฟคให้เค้าเห็นตอนไหนนี่ 5555


โดย: ถปรร วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:29:25 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามเช้าครับ..

เอาสาวน้อยมาเป็นเทพี แห่งความสุขให้ป้าพู่จ้าาา



โดย: Little Knight วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:39:20 น.  

 
ดีใจที่เห็นเม็นท์ใจบล็อก
อย่าหายไปเรื่อย อยู่นี่แหละ
คิดถึงน้า

เมื่อเช้าไปแอบอ่าน ความจริงในชาตินี้
ใช่เรื่องนี้หรือปล่าวค่ะ
ที่เคยนะนำ
แอบอ่าน เพราะหมดงบจ้า
ซื้อหนังสือพิมพ์แล้ว เนียนๆๆเอา
ขายหน้าจัง แต่ตังส์หมด
ต้องเจียมตน
อ่านไปมาพอจะรับรู้ได้ว่า
เวรกรรม กรรมดรกรรมชั่ว
ผลบุญ ผลชั่ว ตามตนทุกชาติไป
จะอึ๋ยๆๆๆๆๆ

ไว้มีเงินค่อยหนับหนุนเจ้าของหนังสือนะ
ตอนนี้ขอแอบชื่นชมเงียบๆๆไปก่อน

ปล.กำลังใจดีมาฝากค่ะ


โดย: แม่ปู (myroom_pu ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:27:40 น.  

 
เรารู้ตัวเราดีที่สุด อย่าไปสนใจเลยพู่
เพื่อนดีๆ ที่เข้าใจเรามีอยู่ถมไป
ปล่อยให้อื่นๆ เป็นเพียงลมพัดมา แล้วก็ผ่านไปเนอะ

ปล. ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมหลานที่บล็อกบ่อยๆ นะ


โดย: มิสซิสอาร์โนลด์ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:36:34 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณพู่

เจออะไรแบบนี้ทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกันนะคะ

ขอให้คุณพู่เข็มแข็ง และอย่าเลิกเขียนนะคะ ยังไงเราก็ติดตามอ่านนะคะ


โดย: BeachBum วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:37:19 น.  

 
อ่านแล้วก็งงเหมือนกันค่ะ ว่ามีคนที่คาดหวังกับการอ่านบล็อกของคนอื่นด้วยหรือ

ก็เห็นๆอยู่นะคะ ว่ามันเป็นบล็อกของเขา เขาอยากจะเขียนอะไร แค่ไหน มันก็เรื่องของเขา เขาไม่อยากให้ใครอ่านตรงไหน เขาก็ทำได้

ส่วนคนอ่านก็มีเสรีที่จะอ่านหรือไม่อ่านบล็อกไหนก็ได้ ถ้าอ่านแล้วไม่พอใจก็ไม่ต้องเข้าไป ไม่เห็นต้องตำหนิคนอื่นที่ไม่เขียนสิ่งที่ตนอยากให้เขียนเลย







โดย: อ้อ (sandseasun ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:05:45 น.  

 
คุณนิดเจ้า...
อ่านบล็อกคุณนิดวันนี้แอบเครียด ...
แต่เข้าใจ๊-เข้าใจ๋เจ้า

ส่งก๋ำลังใจ๋มาหื้อสองกระบุงใหญ่ ๆ เจ้า

คนบ่าเก่าบ้านเฮาเปิ้นว่าไว้ว่า...
."อู้หื้อเปิ้นฮักยากนักจักหวัง
อู้หื้อเปิ้นจังก๊ำเดียวก่ะได้"

กับ...หนีฝนบ่ป๊นฟ้า...เกิดเป๋นคนบ่ามีวันป๊นคนนินทาไปได้หรอกเจ้า

สู้ ๆ เจ้า :)


โดย: แม่ไก่ IP: 118.174.1.136 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:13:54 น.  

 
สวัสดีอีกรอบนะคะคุณพู่

ก็หวังว่า..คงจะดีขึ้นนะคะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้เน้อ ^^



ส่วนเรื่องรีวิวที่พัก เราเชื่อว่า ถ้าคุณพู่ลองทำ น่าจะทำได้ดีกว่าเราเยอะเลย ทั้งในเรื่องการเก็บรายละเอียดและภาพถ่ายค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:14:53 น.  

 
- หวัดดียามเย็นครับ "เพื่อนกันฉันคือเธอ"...อิอิ

- ลำปาง ตอนที่ 2/8 มาแล้วเน้อออออออ

- "ทะเลยังมีคลื่น ชีวิตราบรื่นต้องมีอุปสรรคบ้างจริงม่ะครับ"


โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:22:50 น.  

 
พี่ไม่รู้หรอกว่า กระทู้มันจะเป็นประเด็นจุดชนวนหรือเปล่า? แต่อยากเตือนว่า อย่าหลงลืมการกระทำของตัวเราง่ายๆ

การกระทำ เป็น กรรม (ตามหลักพุทธศาสนา) เป็นสสาร (ตามหลักวิทยาศาสตร์) ไม่ว่าจะเรียกกรรมหรือสสาร มันคือสัจธรรมแห่งอดีตที่จะไม่สูญหายไปจากโลก จะวนเวียนส่งผลสืบต่อไปในชีวิตเราอีกยาวนาน

งานเขียนที่บันทึกชัดเจนเป็นตัวหนังสือในที่แจ้งสาธารณะนั้นมันคงอยู่นานยิ่งกว่า อย่าเผลอเรอไป ระมัดระวังรับผิดชอบในสิ่งที่เราเขียนเสมอ ความคิดในใจคนเราเมื่อมันออกไหลออกมาสู่สาธารณะ บางทีมันเป็นดาบสองคม

คมหนึ่ง คือ ความมีพลัง มีอำนาจ มีอิทธิพล
คมหนึ่ง คือ ความเปลือยเปล่า

คนเราต่างมีมุมส่วนตัวที่ซ่อนเร้นนะ แม้กระทั่งตัวเราเองก็อาจจะค้นพบความลึกลับซับซ้อนทางความคิดและอารมณ์ตัวเองได้ไม่แน่ชัดนัก ในบางขณะเราพบความเอื้ออารีมีน้ำใจแบบนางฟ้าในตัวเอง บางขณะเราได้ค้นพบอารมณ์ร้ายอำมหิตราวนางมาร ลองนั่งจับทางอารมณ์และความคิดตัวเองดู อาจจะตกใจตัวเอง ในบางขณะเราอาจไม่เคยรู้สึกความเป็นตัวเราเลย--จริงๆ

มนุษย์ทุกคนยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกด้วยกันทั้งนั้นนะ (พี่ก็เป็น) เพราะเรา คือ ปุถุชน มีกิเลส มีความหลง หากว่ายังพอโชคดีมีสติเหลือให้ยึดไว้ได้ พยายามมองโลกในมุมกว้าง แล้วมองกลับมาที่ข้างในใจตัวเราเอง พี่ไม่ใช่คนเคร่งปฏิบัติธรรมอะไรนะ พี่ชอบเฝ้ามองธรรมชาติ เพื่อฝึกให้ตัวเองยอมรับว่าแท้จริงแล้วมนุษย์เป็นเพียงแค่สสารชิ้นจ้อยๆ ของโลก เราไม่ได้ยิ่งใหญ่กว่ามดและปลวก เราไม่ได้เป็น somebody / nobody or whoever ... you are just your own person เท่านั้นเอง

เฟค -- ใครๆ ก็เคยเป็นกันทั้งนั้น การเสแสร้ง แกล้งว่า ติ๊ต่าง

เฟค -- แสร้งว่า...ไม่รัก ไม่แคร์ ไม่หิว ไม่รู้ ไม่สนใจ ไม่ใช่ ไม่เป็น

เฟค -- คิดไปว่า...เขารัก เขาแคร์ เขาคิดถึง เขาใช่ เขาเป็น เราเป็น

มันมี เฟคขาว เฟคดำ

เฟคขาว -- บางทีแสร้งเพราะมารยาท เกรงใจ

คนถามหิวไหม ตอบ - ไม่หิว ทั้งๆที่จริง หิวแทบตาย กินวัวได้ทั้งตัว แต่ต้องแสร้งตอบไปเพื่อมารยาทสังคม

เพื่อนใส่เสื้อตัวใหม่ มันไม่เข้ากับหน้าตาและสีผิวเพื่อนเลย เพื่อนถาม สวยไหม ตอบไปกลางๆ ก็สวยดี (เรารู้รัก รักษาน้ำใจกันและกัน)

เฟคดำ -- หลงเพลินคิดไป ภาพหลอน ลืมตัว

นาธาน - อุ้ม เมืองคานส์ - แอร์กี่ - คุกกี้ (กรณีดังๆ ในพันทิปมีให้อ่านศึกษามากมาย)

ตัวเราของเรานะ พู่ เราจัดการชีวิตใครไม่ได้ เราจัดการได้แค่ตัวเราเอง

ทุกปัญหาในชีวิต เราต้องผ่านมันเอง ใครผ่านแทนเราไม่ได้ แม้มีคนนับร้อยมายืนอยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา การตัดสินใจสุดท้ายก็ยังต้องมาจากตัวเราอยู่ดี

พี่เชื่อเสมอนะว่าไม่มีใครทำให้ชีวิตเราแย่ลงหรือดีขึ้นได้ หากเรารู้ว่าเราทำอะไร เป็นใคร และรับผิดชอบในทุกการกระทำของตัวเอง

ปัญหามา ปัญญามี -- เชื่อพี่ ใช้สติเยอะๆ นั่งนิ่งๆ คิดนานๆ คิดให้ตกตะกอนภายในตัวเอง ทุกคนมีช่วงเวลาที่ต้องทุกข์ยากลำบากด้วยกันทั้งนั้น เพราะ life is suffer บทพิสูจน์การมีชีวิตมันจะมีเข้ามาเรื่อยๆ แต่อย่าลืม -- ไม่มีความทุกข์อะไรที่คนเราทนไม่ได้ -- หากเราใช้สติตั้งรับ

ถ้ารักตัวเอง มองโลกแบบที่เป็นจริง ผ่านความทุกข์ให้ได้ แล้วจะได้ค้นพบความสุข ความรัก และมิตรภาพอันยั่งยืนที่มีอยู่ในตัวเราเอง (ไม่ใช่มาจากใครที่ไหนทั้งนั้น) สิ่งที่เป็นของเราจะยังคงเป็นของเรา หากสิ่งไหนไม่ใช่ อย่าฝืน อย่ายื้อแย่ง พยายามทำใจ ค่อยๆปล่อยว่าง วางใจร้อนๆ ผ่อนรับลมเย็นให้พัดผ่านเข้ามาในชีวิต

พี่เอาใจช่วย ...


โดย: เสมอกลาง IP: 85.149.148.125 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:24:01 น.  

 
พี่เสมอกลาง ...


มาได้จังหวะพอดี นั่งกินข้าวเย็นเสร็จแล้วก็เลยแวะมาเปิดดู ก็เจอเม้นท์ของพี่พอดี ...


จริงค่ะพี่ ... คนเรามันคงไม่มีอะไรสุดๆ อีกแล้วเท่าความเศร้าแต่ใครเลยจะเจอแต่ความเศร้าเพียงอย่างเดียวแค่ในหนึ่งชีวิต เพราะเชื่อแน่ว่าเศร้า ทุกข์มันคงมีอีกเรื่อยๆ ค่ะพี่ ... เพราะฉะนั้นตอนนี้เจอที่มันแบบซ้ำซ้อนมากมี แต่ว่าไม่คิดอะไรแล้วคะ เพราะว่าคิดลึกๆ แล้วมันเจอแต่เรืองหนักๆ เพราะฉะนั้นก็เอาแค่ว่า "ปล่อยวาง" .. เพราะตอนนี้สติมันมาแล้วคะ อะไรที่มันแย่มันก็คงผ่านไป ไม่ดิ้นรน ไม่เดือดร้อน ... และตอนนี้พู่ก็สุขในแบบที่ควรจะเป็นแล้วค่ะพี่แก้ว ...

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคอมเม้นท์ค่ะ .. ได้กำลังใจและคำแนะนำอย่างนี้แน่นอนเลยว่าอะไรที่มันคิดแบบรวดเดียวจบแบบง่ายๆ พู่ว่าก็คงจะต้องมีสะดุดกับแง่คิดบางๆ ของพี่แก้วล่ะค่ะ


ตอนนี้ไม่มีอะไรจะสุขเท่ากับการได้นั่งเรื่อยเปื่อยคนเดียว ทำนั่นทำนี่ไป ไม่ยุ่งวุ่นวาย ไม่คิดหาเหตุผลกับสิ่งที่มันเหมือนดูจะไร้สาระ ... เพราะว่ายิ่งไปขวนขวายหามันก็ยิ่งเหมือนไปสร้างอะไรมาพันตัวเองตลอดเวลา พอจะปลดไอ้สิ่งที่มันพันพัวก็ยิ่งหาทางออกไม่เจอ เพราะฉะนั้นตอนนี้สติมาแล้วล่ะค่ะพี่แก้ว บอกตามตรงว่าอะไรผ่านมาก็ปล่อยมันไปไม่ได้คิดหนักอะไร คนอื่นอาจจะคิดตาม ขวนขวายหาคำตอบในเรื่องของพู่ก็ปล่อยมันไปเถิดค่ะ เพราะว่าสุดท้ายเค้าเหล่านั้นก็ลืมไป...และเพราะเราเลือกจะไม่ใส่ใจแล้วเพราะมีหลายสิ่งดีๆ รออยู่ เพราะฉะนั้นตอนนี้ไม่มีอะไรติดใจค่ะ เดี๋ยวกำลังจะหาเรืองราวอื่นๆ มาเขียนต่อดีกว่า สร้างสรรค์กว่าการบ่นเรื่องร้อนๆ แบบนี้แทนค่ะ ...


ไม่เฮฮาเพราะว่าจะมาเฟคเรื่องเศร้าเพื่อกลบเกลื่อนนะคะแต่เพราะว่าไม่อยากเศร้าเพิ่มเติม เลยคิดว่าหาอะไรทำดีกว่าจะได้แบบว่าเบาใจไปบ้าง อย่างน้อยๆ เราจะได้พักผ่อนสมอง หาเรือ่งดีๆ คิดทดแทนเรื่องแย่ๆ ค่ะพี่แก้ว


โดย: JewNid วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:43:37 น.  

 

ยู้ฮู้ ... เมื่อไหร่จะอัพฟ้าสวยๆบ้านมาดาม วัดสุทัศน์ฯ แพร่งนราและโทรศัพท์หายซักทีจ๊ะคุณนาย แช่หน้านี้นานเกินมาดามปวดตับน่ะ ..


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:23:54 น.  

 
ตอนนี้เชียงใหม่หนาวแล้วนะครับคุณพู่
อากาศหนาวเลยในตอนเช้า
ไมไ่ด้แค่เย็นแล้ว


พี่เสมอกลางก็ยังคงคอมเม้นท์ได้ดีนะครับ
ผมนั่งอ่านจนจบเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:06:42 น.  

 

สู้ๆนะคะคุณพู่ เราส่งกำลังใจไปให้เสมอเลย

อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำค่ะ ท่องไว้ๆ เราเองก็ท่องขึ้นใจไว้เหมือนกัน จะได้ไม่ทุกข์เพราะลมปากชาวบ้าน

คนเรามีทั้งหวังดี และหวังไม่ดี

มีทั้งพูดเอามันส์เข้าว่าโดยที่ไม่คิดถึงคนที่กำลังถูกเม้าส์อยู่ว่าทำให้เค้าเสียความรู้สึกแค่ไหน

ยังไงก็ตาม เราขอให้คุณพู่ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆไปได้นะคะ ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอค่ะ

สู้ๆค่ะ


โดย: LiLLa_JoY วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:09:34 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่พู่

ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมหลายวัน เกิดไรขึ้นคะนี่

เออหนอ ... คำคนอ่ะค่ะ ... นานาจิตตัง

หาผิดหาถูกยากกว่าหาเข็มในมหาสมุทร ... (อุอุ สำนวนพอได้ไหมคะ)

ก็น่ะ ... เราทำบล็อกก็อยากให้เพื่อนๆ ได้รับสิ่งดีๆ จากประสบการณ์ที่เราพบเจอมา มันไม่แปลกที่เราอยากเก็บเรื่องบางอย่างไว้ในพื้นที่ส่วนตัว แต่ใครจะคิดว่าเฟคหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในใจเค้าละค่ะ ว่ามัน เ เ ค บ หรือ ก ว้ า ง แค่ไหน

ขอให้พี่พู่หลับฝันดี (อย่าลืมสวนมนต์ด้วยนะคะ)

ขอตัวไปละเลงบล็อกตัวเองก่อนล่ะค่า (ทิ้งร้างไว้นานแว้วววว)




โดย: ฑาม (ThaMN ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:34:04 น.  

 
^
^
ขำสำนวน"ปวดตับ"ของคุณมาเรียฯจังเลยนะคุณพู่

ป่านนี้คงสบายใจแล้วเนอะ เอาเรื่องแย่ๆลอยทิ้งไปเลย ไม่สน

มาคุยเอาภาพมาโชว์กะเพื่อนดีกว่า

กำแพงอิฐมีหลายร้อยก้อน แน่ละต้องมีบางก้อนที่บิดเบีย้วไม่ได้รูปอย่างที่เราต้องการ แล้วทำไมต้องไปเจาะจงมาอิฐก้อนนั้นละ ก้อนสวยๆมีให้ดูเป็นร้อยเลยน้า ฮ่า ฮ่า เรื่องนี้ไปฟังจากบ้าน"ย่าชอบล่า"พี่หลินเอ๋อคนงามนะ



โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:39:23 น.  

 
หวัดดียามดึกค่ะคุณพู่..นอนยังน้า...พี่ท่องบล็อกซะให้คุ้มก่อนเข้าป่าค่ะ...
พี่เคยอยู่ในวงการอภิมหา "เฝค" เพราะทุกๆ วันคือการสร้างภาพ สร้างวิมานในอากาศ ทำสิ่งไม่จริง สิ่งสมมุติต่างๆ นานา ..อึดอัดน่าดูเลยค่ะคุณพู่ เพราะมันฝืนความเป็นตัวเราไงคะ...เราเป็นคนชอบอะไรดิบๆ ตรงๆ เรียบง่าย แต่จำเป็นต้องแกล้งชอบ แกล้งชื่นชมการสร้างภาพเหล่านั้น ด้วยสปิริตของทีม...ต้องทำใจไปเลยค่ะว่า โลกเรา (ในยามนั้น) มีแต่คนใส่หน้ากาก
..สุขสันต์วันศุกร์นะคะ..


โดย: Devonshire วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:50:55 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณพู่


มาชวนไปดูงานของคุณพู่และพี่เปิ้น
ที่บล้อกของผมครับ อิิอิอิ










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2552 เวลา:5:43:09 น.  

 
ตามคุณกะว่าก๋ามาค่ะ
เขาแนะนำหนังสือและแนะนำคนทำภาพประกอบ สนใจตามมาอ่านค่ะ

เป็นเรื่องปกติที่เวลามีความสุขก็อยากแบ่งปันเล่าให้คนอื่นได้ฟังแต่เมื่อทุกข์ใครเลยอยากจะเล่า

แต่ในโลกมนุษย์ต้องยอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างแตกต่างค่ะ คนฟังเรื่องของเราก็แตกต่างบางคนก็ชื่นชมด้วยแต่บางคนฟังก็เกิดอาการริษยา

สิ่งดีๆที่เราเล่าไป เราไม่ได้หวังผลกลับมา เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปสนใจ ค่ะ

รู้แต่ว่าเวลานี้เราทำดีที่สุดแล้วทุกคนต่างมัปัญหาของตัวเอง และเราเท่านั้นที่เป็นคนแก้ปัญหาค่ะ

ขอให้สุขสวัสดีค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:49:15 น.  

 
คนเค้าบอกเค้าสอนกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า

ความในอย่านำออกความนอกอย่านำเข้า

เรื่องเฟค อย่าเอามาใส่ใจเลยค่ะ

บล็อกของคุณพู่สร้างความสุขให้ใครๆตั้งแยอะแยะ

สู้ๆนะคะ


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:10:02 น.  

 
มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย อ้อเป็นคนนึงค่ะที่ไม่ได้เขียนเรื่องปัญหาครอบครัวระบายลงในบล็อกเพราะบางเรื่องมันส่วนตัวเกินไป แต่ก็มีที่บ่นๆบ้างระบายบ้างตามประสา เรื่องที่อัพส่วนใหญ่เลยเป็นเรื่องขำๆ สนุกๆ มากกว่า ส่วนใครจะคิดว่า Fake รึเปล่าอ้อไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่ถึงจะมีก็ไม่ใส่ใจค่ะ แต่อย่าให้รูู้นะคงมีเคลียร์ เห็นตรงกันค่ะว่าเรื่องบางเรื่องก็ขอเก็บไว้เป็นส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องระบายออกมาหมด แต่คนที่เค้าระบายความทุกข์ในบล็อกก็น่าเห็นใจนะคะ คิดได้แต่ว่าระบายเสร็จแล้วจะหาทางออกได้กับชีวิต เพราะไม่รู้จะระบายความทุกข์กับใครก็ระบายในบล็อกอ้อก็ว่ามันเป็นประโยชน์นะคะ แต่คนที่มากล่าวหาว่าคนที่อัพแต่แง่มุมดีๆ เรื่องราวเชิงบวกในชีวิตไว้เป็นคน Fake นี่อ้อว่าไม่ยุติธรรม

เคยมีเพื่อนในบล็อกแกงค์ถามเล่นๆเหมือนกันว่าคู่เรากะแฟนหวานจังเลยทะเลาะกันบ้างเปล่าเนี่ย เค้าถามเล่นๆแซวๆนะคะ อ้อก็ตอบไปว่ามีบ่อยเลย เสียน้ำตามาก็มาก แต่เลือกที่จะเคลียร์กันก่อนมาอัพบล็อกมากกว่าการระบาย ด่าทอแฟนตัวเองในบล็อกแต่สุดท้ายก็หนีกันไม่พ้น เลยไม่รู้จะด่าว่ากันทำไมว่ามั้ยคะ ส่วนใครจะหาว่า Fake ก็ปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ

ปล.ชอบบล็อกการทำอาหาร ภาพถ่ายบล็อกนี้ค่ะ


โดย: loveTRAVEL1977 วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:40:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

JewNid
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 48 คน [?]




[Add JewNid's blog to your web]