ช่วงนี้ชีวิตฉันยึดติดกับกิจกรรมไม่กี่อย่าง ... แต่คำว่าไม่กี่อย่างนี่แหละก็ทำให้ฉันยุ่งเหยิงกับชีวิต ไปวันๆ ได้ดีนักเชียว รวมถึงเกมส์ทาง Facebook ที่แม้ว่า จะพยายามหักดิบก็ตาม แต่ก็ยังมีหลงเหลือเยื่อใย เหมือนแฟนเก่า ที่พยายามกลับไปง้อคืนดี –มีปฏิสัมพันธ์ แม้ว่าจะไม่มากแต่ก็แอบปันใจบ้างเป็นบางเวลา หุ หุ กิจกรรมหรือว่าสิ่งที่ทำประจำทุกวัน ที่รักและชอบอยากทำอย่างไม่ต้องสงสัยช่วงนี้ และได้ทำบ่อยๆ เลยก็คือ การปลีกวิเวกนั่งอ่าหนังสือ ที่ชอบ ที่ชอบ กับมุมส่วนตัวที่โต๊ะหนังสือเล็กๆ ของตัวเองนี่ล่ะ เกือบทุกบ่ายแม้ว่าจะไปทำอะไรก็ตาม แต่ก็ต้องแว๊บ มาหาเวลานั่งอ่านหนังสือกันที่นี่ ... พร้อมกับกาแฟเย็นตามร้าน ที่จะไปซื้อหามานั่งกินควบคู่กันไป อะไรจะสบายเช่นนี้หนอ โต๊ะเล็กๆ ตัวนี้ เป็นโต๊ะธรรมดา แม้ไม่ไฮโซหรูหราราคาแพง แต่มันก็อนุญาตให้ฉันทำมันรกได้เสมอ และอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกต่างหาก. หนังสือแอย ซองจดหมายเอย สมุด ปากกา เกลื่อน หรือว่าไม่เก็บผ้า เก็บผ่อนมาก็เอาวางไว้บนโต๊ะได้ ก่อนจะเอาไปจัดการรีด พับ อย่างสง่าในตู้เสื้อผ้าบนห้องนอน แม้ว่าของบนโต๊ะจะมั่วแบบเนียนๆ แต่ฉันก็ไม่ได้ยินคำบ่นแต่อย่างใด จากโต๊ะถูกๆ ตัวนี้ แหม่ มันน่าปลื้มไหมล่ะ หนังสือที่ช่วงนี้ฉันมักจะได้อ่าน ก็มาจากหลายๆ ที่ บางเล่มติดใจมากก็จะซื้อเก็บเอาไว้ หรือว่าไม่ถ้าไม่อยากซื้อมาก ก็บึ่งรถไปยืมได้ที่ ห้องสมุดประชาชน/เทศบาลประจำจังหวัด แม้ว่าหนังสือมันจะมีไม่เยอะก็ตาม แต่ว่าถ้าเราตั้งใจว่า หยิบอะไรมาอ่านก็ได้เพื่อความบันเทิง นั่นก็เรียกว่ามีพอจะให้ เลือกอ่านได้เป็นปีๆ ซึ่งมันดีตรงที่ว่า เสียเงินค่าสมาชิก ไม่แพงมากเป็นรายปี ยืมหนังสือได้ 7 วัน ครั้งละ 3 เล่ม เท่านี้โลกของนักอ่านแบบไม่ต้องเสียเงินมากก็อยู่ ในมือแค่เอื้อม หรือว่าไม่ถ้าคิดว่าหนังสือมันน้อย อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ก็ไปหาเช่าเอาตามร้านหนังสือทั่วไปได้ เรียกว่าที่ลำปางเองก็ มีทั่วทุกถนนเหมือนกัน แล้วแต่ร้านเลือกเอาได้ตาสะดวก และร้าน แบบนี้ค่อนข้างดีหน่อยเพราะว่าหนังสือทันสมัยจะเยอะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือแปลฝั่งตะวันออก ฝรั่ง – อังกฤษ- อเมริกา ... ก็มีให้อ่านได้ หวานๆ โรแมนติกก็มีค่อนข้างเยอะเหมือนกัน .. หรือว่าไม่เป็นหนังสือแปล ของทางนักเขียนญี่ปุ่น ก็มีเยอะเอาการอยู่เหมือนกัน และนี่ล่ะ ช่วงนี้ฉันติดใจกับการอ่านหนังสือแปลของฝั่งญี่ปุ่นเค้าล่ะ แน่นอนว่าก็คงหนีไม่พ้นแนว ลึกลับ สืบสวน เหมือนเคย และหนึ่งในเรื่องที่อ่านช่วงนี้ ก็เป็นหนังสือแปลก ญป. ที่หนีไม่พ้นเรื่องนี้ค่ะ คินดะอิจิ ซึ่งเรื่องนี้นอกจากจะไปหาซื้อ มาเก็บเป็นคอลเล็คชั่นส่วนตัวแล้ว ก็ยังแว๊บไปยืมอ่าน เอาที่ร้านก่อนบ้างเหมือนกัน ซึ่งผ่านมา 3 อาทิตย์แล้ว ก็ได้อ่านเรื่องนี้ มา 3 เล่ม แล้ว ... เรียกว่าแต่ละเล่มก็เล่นเอามึนตึ๊บไปกับความหนา และเรื่องราวสลับซับซ้อนพอควรเหมือนกัน แต่ไม่มีทางบ่นค่ะ เพราะว่าแนวนี้ล่ะของชอบเลย แล้วก็มันทำให้ตัวเอง Keep busy กับการอ่านได้พอควรทีเดียว แต่สิ่งที่ทำเอาตัวเองตกใจ ... และคิดว่าการไปยืมหนังสือร้าน มันไม่ใช่เรื่องถูกเงินอีกต่อไป เพราะว่าเห็นราคาแต่ละเล่มที่ยืม หามาอ่านมันไม่ใช่ 3-5 บาทอีกต่อไป แต่มันเป็นเล่มละ 10 บาทแล้ว โอ้วววว เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองอยู่หลังเขาก็ครานี้ล่ะค่ะ เพราะว่า ไม่ค่อยบ่อยนักที่จะเข้าไปยืมหนังสืออ่านจากร้านเช่าทั่วไป พอมาเจอว่าราคาหนังสือแต่ละเล่มมันเล่มละ 10 บาท ก็เลยกลาย เป็นเรื่องตกใจพอๆ กับค่าน้ำมันพุ่งทะยานไม่ผิดเพี้ยนค่ะ แต่ว่าก็พอทำใจได้ ตรงที่ว่า เอาน่านานทีปีหน มายืมอ่านก็อ่านไป ดีซะอีกถ้ามันยิ่งแพงก็ยิ่งทำให้เราต้องรีบๆ อ่าน กลายเป็นว่า เราก็ใช้วิกฤตของค่าเงินตรงนี้ มาเป็นตัวผลักดันให้เราอ่านให้มันจบ เร็วๆ ก็พอใช้ได้เหมือนกัน (แอบถูๆ ไถ เนียนๆ เป็นสบู่ก่อนนะ) **** คุย อีกนิดหน่อยเกี่ยวกับหนังสือแปลฝั่งญี่ปุ่น **** ไอ้คำว่าชอบอ่าน มันก็ชอบจริงๆ นะ แต่ว่าดันอ่านแล้ว มีปัญหาที่หลายๆ คนก็มักจะเป็นเหมือนกันเลยคือ ทำไม ทำไม ชื่อคน ญี่ปุ่นนี่มันทำให้เรางงได้ตลอด ... คือ ด้วยเพราะ ชื่อก็ยากปกติแต่ดันมีคำพ้องเสียงของชื่ออีกต่างหาก บางทีอ่านไป อ่านมาก็ต้องจดชื่อนี่เอาไว้ว่า คนนี้ ชื่อนี้ มีความสัมพันธ์อะไรกับใคร เรียกว่าปกติอ่านช้าเป็นสินส่วนตัว อยู่แล้ว มาเจอกับชื่อจำยากและสับสน ก็ยิ่งเป็นหนี้สินทบต้น ทบดอกให้การอ่านช้าลงกว่าเดิมอีกเท่าตัว ... แก้ยากค่ะ ... . . . แต่นอกจาก ... การอ่านหนังสือที่ยืมมาจากร้านที่เสียเงินเศร้ากระซิก ไปเล่มละ 10 บาท/วันแล้ว ฉันก็ยังหาเรื่องเสียเงินรายเดือน ซื้อหนังสือรายปักษ์มาอ่านกันอีกให้ชุ่มปอด ... ที่ตอนนี้อ่านและ ต้องซื้อประจำเลยก็มี A Day : ที่ซื้อมาอ่านเพราะติดใจในความทันสมัย และไอเดีย ของคนสมัยนี้ ที่บางทีก็คิดว่า เอ่อ พวกนี้มันตีลังกากลับหัว เขย่าไอเดียออกมาหรือไง ทำไมมันถึงได้พิสดารล้ำลึกได้ (ฟร่ะ) อีกอย่าง ก็เป็นพวกไม่อยากตกเทรนด์อะไรมาก เพราะบางที อ่านเรื่องราวในแต่ละคอลัมภ์ของ A day มันก็เพลินมาก ที่ทำให้เราได้รู้จักวิถีชีวิตวัยรุ่นสมัยนี้ได้กระจึ๋งหนึ่งอีกต่างหาก และเมื่ออัญเฃิญหนังสือมาจากร้านเข้าบ้านเมื่อไหร่ ก็ต้องเปิดอ่านคอลัมภ์ ... เมดอินไทยแลนด์ ซึ่งสร้างสรรค์ งานเขียนโดยคุณนวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ :: คลิกอ่านบล็อกเค้าได้ที่นี่ :: ซึ่งงานเขียนของเค้าต้องยอมรับว่า กระตุกต่อมฮา ของตัวเองได้เยอะมาก เรียกว่าเครียดๆ มาก็อ่านคอลัมภ์ และสำนวนนี้ได้เลยแล้วเรื่องเครียดๆ ก็พลันลดดีกรีลง ซึ่งแน่นอนว่าอ่านแล้วก็ทำให้นึกถึงเพื่อนบล็อกอีก 1 คนที่ มีความสามารถในการเขียน ที่ส่วนตัวฉันแล้วต้องยกให้ว่าเป็นคนที่ เขียนแล้วอ่านสนุก เพลิน และชอบมาก แนะนำค่ะ แฟนผมตัวดำ Bioscope : จริงๆ ตัวเองคนดูหนังเยอะพอควรแต่ว่าเป็นพวก ดูผาดๆ ไม่ได้ดูแล้ววิเคราะห์หรือว่ารีวิวออกมาได้ดีเหมือนคนอื่นๆ แต่คือดูเพื่อความบันเทิงเริงใจเพียงอย่างเดียว แต่ว่าพอได้เริ่มอ่าน หนังสือเล่มนี้ที่ตัวเองเปลี่ยนจากหนังสือแนวเดียวกันจาก เอนเตอร์เทน มาเป็นเล่มนี้ ส่วนตัวก็เรียกว่าคุ้มค่าดี เพราะว่ามีปลีกย่อย รายละเอียดมากมาย แถมมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหนังไทยแทรกบ้าง อีกด้วย เลยชอบเป็นพิเศษ Casaviva/My Home : สองเล่มนี้เรียกว่าซื้อมาสลับกันบ้าง แล้วแต่ว่าเล่มไหนโดนใจตัวเองได้บ้าง จะว่าซื้อมาเพราะว่าอยากแต่งบ้าน ให้สวยๆ ก็ว่าได้แต่ว่าคงได้แต่อ่านเพื่อเก็ตไอเดียและเป็นแรงกระตุ้น ให้มีความสามารถทางการแต่งบ้านได้บ้าง เพราะว่าสองเล่มนี้ บางทีก็มี DIY ง่ายๆ กับการนำของเก่ามาประยุกต์ ซึ่งก็เรียกว่า เป็นการสะสมไอเดียในการทำบ้างทีละนิด ทีละหน่อยไปก็แล้วกัน แต่เน้นๆ ก่อนจะแต่งบ้านให้สวยงามได้ ก็ต้องเก็บกวาดบ้าน ง่ายๆ ให้ได้แบบสมบูรณ์พูนผลก่อนแล้วกัน ... แหม่ ว่าแล้วอ่ะน๊า มานั่งอัพบล็อก / เล่มเกมส์สลับบ้าง จะทำให้บ้านสะอาด ได้อย่างไรล่ะ หุ หุ Food-Gourmet Magazine : อย่าง Helth&Cuisine หรือ Gourmet&Cuisine สองเล่มนี้ก็ซื้อสลับกันไปมาแล้วแตว่า ปกไหนคุยเรื่องไหนแล้วเราชอบก็ซื้อ สองเล่มนี้ไม่ได้ยึดติดมาก เพราะว่าเห็นก็ซื้อ ถ้าไม่เห็นก็ไม่เป็นไร เพราะว่าไปแล้ว บล็อกอาหารของเราก็มีอยู่เยอะ นอกจากไม่ต้องเสียเงินซื้อ แล้วก็ยังสามารถเข้าไปอ่านได้อีกหลากหลายเมนู ไทย ฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น บล็อกแก็งค์มันดีก็ตรงนี้ล่ะค่ะ มีอะไรให้เลือกอ่านหลากหลายดีแท้ๆ จริงๆ ว่าจะเขียนนิดๆ หน่อยๆ ให้เหมาะกับวันหยุด แต่พอเวลาได้เริ่มเขียนแล้วมันไหลลื่นก็เหมือนว่าจะหยุดยาก มาคิดได้ก็ล่อเข้าไปซะยาว ก็ถือว่าแวะมาคุยกันเล่นๆ วันหยุดแล้วกันนะค่ะ เดี๋ยวบล็อกต่อไปจะพาไปชิมอาหาร ดัตช์กัน เรียกว่านานๆ ทีฉันกับคนข้างๆ เข้าครัว พอเข้าแล้วก็วุ่นวะวุ่นวายกันพอตัว แต่ดีหน่อยว่าเข้าครัว กันแล้วผลอาหารที่ทำมันอรอ่ยเหนือความคาดหมาย เลยคิดว่าวุ่นหน่อยก็ยุ่งดีแต่มีผล ก็พอใจแล้วค่ะ หนหน้า เรามาเข้าครัวด้วยกันนะค่ะ กับผลงาน โครเก็ตดัตช์ครั้งแรก ที่ได้ลองทำค่ะ ....

Create Date : 14 สิงหาคม 2553
Last Update : 14 สิงหาคม 2553 11:31:12 น.		76 comments
Counter : 1500 Pageviews.
Share Tweet