<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
9 พฤศจิกายน 2558

:: แรกแสงรัก - มาภา ::



 

 










เรื่อง แรกแสงรัก Love At First Sight
เขียน มาภา
สนพ.
#พิมพ์คำ
จำนวนหน้า 600 หน้า
390 บาท

**********************

ไม่ว่าชีวิตจะต้องเจอความมืดสักกี่ค่ำคืน

 

ดวงอาทิตย์ก็ยังคงขึ้นเสมอในเช้าวันใหม่


“ถ้าอดีตของผมเป็นเหมือนกลางคืนที่ยาวนานนาน...จนไม่รู้ว่ามันจะจบลงได้อีกไหม เอ๋ยคือแสงแรกที่ส่องมาเป็นแสงสว่างที่ทำให้ผมอยากมีชีวิตต่อไป”สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดพาสองชีวิตมาพบกันท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมและหม่นเหงาของมหานครลอนดอน


‘เธอ’ จากบ้านเกิดมาแสนไกลหวังที่จะมีชีวิตใหม่ทิ้งเรื่องราวในอดีตไว้เป็นเพียงความทรงจำอันซีดจาง‘เขา’ ผิดหวังจากชีวิตจนเลือกหันหลังให้ทุกสิ่งทุกอย่างอุบัติเหตุครั้งนั้นพลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือณที่นี่...‘คฤหาสน์เอเวอร์ดีน’ คือจุดเริ่มต้นคฤหาสน์ที่เยียบเย็นไร้ชีวิตเริ่มมีไออุ่น เมื่อเธอก้าวเข้ามาในฐานะคนดูแลชายพิการอย่างเขา

สำหรับเขา...เธอคือแสงตะวันแรกของชีวิต
สำหรับเธอ...เขาคือคนที่ทำให้หัวใจแห้งผากกลับเป็นสดใส

“ความสุขไม่เกี่ยวกับเวลา ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่แต่อยู่ที่ว่าได้ใช้วันเวลาและสถานที่นั้น...กับใคร”

 

สำหรับสองชีวิตที่โหยหาความอบอุ่นนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า‘ครอบครัว’ ที่ทั้งคู่ไขว่คว้าตามหามาตลอดชีวิต...ก็เป็นได้


หลังอ่าน

 


ที่อังกฤษ เมืองคิงสตัน  ....  อาภากรจำเป็นต้องมาทำงานกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ไม่ได้เจอกันนานมากๆ เพราะเรียนจบกันมาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยแต่บังเอิญได้มาเจอกันที่อังกฤษ   เพื่อนคนนี้เสนอให้อาภากรทำงานเป็นคนดูแล ธีรัญญ์  ซึ่งเป็นพี่ชาย ซึ่งงานเหมือนจะไม่ยากแต่ว่าแท้จริงแล้วยากเย็นเอาเรื่อง เพราะเขาเจ้าอารมณ์ เขาเอาแต่ใจ เขาหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต  และ “เขาพิการ”  เพราะอุบัติเหตุรถยนต์ที่เขาเจอมาทำให้หนุ่มหล่อ วัยไม่มาก เคยมีหน้าที่การงานที่ดีต้องเจอกับภาวะกดดันหลากหลายเขาเหมือนคนสิ้นหวังปฏิเสธการผ่าตัดและรับการช่วยเหลือ    แต่เมื่อเขาได้เจอกับสาวน้อยคนนี้อาภากรที่เหมือนว่าแรกเริ่มเห็นหน้ากันนั้นจะเหมือนเข้ากันไม่ได้  แต่หลายสิ่งหลายอย่างที่ต่างคนต่างก็ปฏิเสธกันก็ต้องมาถูกทำลาย ด้วยความเข้าใจและการมองถึงความเห็นใจซึ่งกันและกัน  เพราะจะว่าไปแล้วชีวิตของทั้งคู่ต่างก็มีปมหลังที่เป็นปัญหายิ่งใหญ่ของใครของมันพ่วงติดมาอย่างแกะไม่ออก 


อาภากร ... สาวน้อยที่ความอดทนมีมากเป็นที่ตั้งต้องจากเมืองไทยมาทั้งๆที่ไม่ได้วางแผนเพราะปัญหาของครอบครัวพ่อตายแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงเธอเลยต้องรีบยืนด้วยลำแข้งของตัวเองปากกัดตีนถีบทำมันทุกอย่าง แต่ชีวิตก็ดันเจอกับสิ่งกดดันหลากหลาย 

ธีรัญญ์ .. ชายหนุ่มที่แบกรับงานหนักทำงานเพื่อได้รับการยอมรับจากคนหลายๆคน แต่แล้วกลับต้องถูกขอร้องให้วางมือเพราะว่าอุบัติเหตุที่เขาเองได้พบเจอความหวังสูญสิ้น ความมั่นคงในใจกับการทำงานเหมือนถูกสั่นครอน   เขาไม่ยอมรับการช่วยเหลือของใครเลยและใช้ชีวิตเหมือนคนหมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง 


คนสองคนเมื่อต่างพบเจอกับปัญหาหนักหน่วง ต่างมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แรกเริ่มอาจจะไม่ดีแต่ว่าเมื่อทุกอย่างเวลามันได้ผ่านไปความเห็นใจถูกทำให้แทนที่ทั้งสองคนก็เลยรู้สึกดีต่อกัน และเมื่อมีโอกาสทำให้ได้ใกล้ชิดกันความสัมพันธ์ก็ก้าวไปอีกขั้น แต่แล้วความสุขที่คิดว่าจะมีกลับเริ่มถูกบั่นทอนเมื่อคนที่คิดว่าจะไม่ได้เจอก็เจอแถมยังสร้างเรื่องทำให้การแยกจากต้องเริ่ม เมื่อนั้นความรักของทั้งคู่ถึงต้องเดินมาสู่ทางแยกที่สร้างความเจ็บปวดให้กันและกันได้มากพอดู แต่เชื่อว่า “ความรัก” เมื่อมันมีขึ้นจากความเจ็บปวดและเห็นใจมันคงไม่ยากเกินไปจะแก้ไขแค่เพียงให้เวลา

 



ตัวหนังสือของมาภายังคงทำงานได้ดีสำหรับคนอ่านอย่างฉันเชียวค่ะ  แม้ว่าพล็อตและความแปลกใหม่สำหรับคนที่ต้องการเสพอะไรที่นอกเหนือจากที่อ่านกันทั่วไปอาจจะบอกว่าไม่มีนักแต่สำหรับฉันแล้วมันไม่ได้มองตรงนั้นเลยเพราะจะว่าไปงานของมาภาสำหรับตัวเองอาจจะชอบเสพในตัวหนังสือที่ค่อยๆ พาเราไปดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัว ความเป็นมาของตัวละครที่เรียกว่าค่อนข้างจะมีมิติ มีปมชวนให้คิดนั่นคิดนี่ตามเข้าไป  มันเลยไม่ได้ไปคาดหวังอะไรกับเรื่องอื่นนักนอกจากการที่เราค่อยๆได้อ่านแล้วมองความเป็นไปแล้วได้รับรู้เรื่องราวของแต่ละคนตั้งแต่ต้นจนจบ   อย่างเรื่องนี้บอกเลยว่าชอบและชูป้ายไฟให้กับอาภากร  หรือว่าสาวเอ๋ยนางเอกของเราที่ฉันอยากจะคาราวะนางหลายครั้งมาก  เพราะว่ามาภาใส่เรื่องราวให้เธอได้หนักหน่วงจริงค่ะ  เหมือนเด็กหญิงน่ารักขี้อ้อน ชีวิตเคยถูกดูแลมาดี ใครๆต่างก็รัก แต่ก็ดันมาเจอกับอุปสรรคจากความอิจฉาริษยาแล้วก็ต้องทำให้พรากจากสิ่งรักสิ่งหวงและต้องไปเผชิญกับการอยู่ตัวคนเดียวและเจอกับปัญหารายล้อมรอบตัวกลางเมืองใหญ่   เอาแค่บรรยากาศทึมหม่นของอังกฤษฝนตก อากาศซึมๆอึนๆ คิดดูเล่นๆว่าถ้าเราต้องอยู่กับบรรยากาศแบบนี้และเจอกับสิ่งที่ต้องคิดต้องเจอกับปัญหาต่างๆทั้งเรื่องตกงาน เรื่องของที่พักไม่มี ห้องโดนงัด ของโดนขโมย  คือบอกได้ว่าอ่านถึงตอนนี้คนอ่านอย่างฉันสะอื้นฮักอยู่ในใจแล้วล่ะค่ะ  บรรยากาศของเรื่องเลยมีส่วนทำให้สีรอบตัวในการอ่านของฉันอมเทาไปบ้าง   มันเลยยิ่งทำให้รู้สึก “อิน”กับเรื่องราวของตัวละครไม่รู้จบ    อ่านไปแล้วหน่วงหนักความรู้สึกในปัญหาที่ต้องเจอ   แม้ว่าอาจจะมีบางอยางที่ดูเหมือนไม่ค่อยสมเหตุผลสำหรับการแยกจาก และการ “ไม่บอก”  บางอย่างเพราะทิฐิ  นั่นเป็นสิ่งที่คนอ่านบอกได้ว่า “อยากจะหยิกให้เนื้อเขียวแล้วกัดจิกว่า --- บอกเสียทีสิจ้ะ”ให้เขาเหล่านั้นได้ฟัง  ด้วยเพราะอันกับเรื่องราวนั่นล่ะค่ะเลยทำให้คนอ่าน “เยอะ”อย่างที่ไม่คิดว่าจะเป็น    อ้อ  แล้วถ้าเรื่องนี้มาภาเขียนโดยการ เล่นถึงความบังเอิญกับความสัมพันธ์ และสถานการณ์  ของเรื่องราวอาจจะต้องบอกว่ามากมายค่ะซึ่งถามตัวเองว่ามันเยอะไปหรือเปล่าต้องบอกว่าไม่มากจนทำให้รู้สึกขัดเพราะค่อนข้างเปิดใจกับความบังเอิญที่ใส่เข้ามาแต่เรารู้สึกดีเพราะว่าเราคิดอยู่ว่าบางทีชีวิตเราก็ต้องการความบังเอิญแบบดีๆเหมือนแบบนี้มั่งเหมือนกันนะ  


เรื่องนี้ใครที่ชอบความงามความเรียบเรื่อยทางภาษาที่ชวนชักให้พาอารมณ์ของคนอ่านร่วมไปกับเรื่องราวอาจจะต้องบอกว่าแนะนำให้อ่านกันแบบลองของค่ะ อ่านแล้วแม้ว่าอุณหภูมินอกบ้านอาจจะร้อนฉ่าแต่เมื่อหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดอ่านอาจจะรู้สึกเย็นยะเยือกกับความหนาว หิมะและฝนของอังกฤษได้พอควรค่ะ

 

 

 


 





 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2558
7 comments
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2558 16:29:04 น.
Counter : 6459 Pageviews.

 

แวะมาทักทายคุณพู่บ้างครับ
นิยายผมแทบไม่ได้อ่านเลย

และที่น่าพอจะดีใจอยุ่บ้าง
คือตลาดหนังสือนิยายนั้น
ยอดขายไม่ค่อยตกเหมือนแนวอื่นๆเลยครับ




 

โดย: กะว่าก๋า 9 พฤศจิกายน 2558 18:49:36 น.  

 

สวัสดีค่า คุณพู่ ^^
งานคุณมาภาน่าอ่านทุกเรื่องเลย
แต่ก็ยังไม่ได้ฤกษ์อ่านสักที
มีหนาวหวานแล้วแต่เล่มนี้ยังไม่มีค่ะ
อ่านรีวิวแล้วน่าสนใจค่ะ ต้องลองๆอ่านมั่ง

ขอบคุณมากๆนะคะ

 

โดย: lovereason 9 พฤศจิกายน 2558 23:22:35 น.  

 

คงหามาอ่านเร็ว ๆนี้แน่นอนค่ะ

 

โดย: Serverlus 11 พฤศจิกายน 2558 11:51:10 น.  

 

มีดองแล้ววว

 

โดย: อุ้มสม 14 พฤศจิกายน 2558 18:11:30 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณพู่..

เพิ่งกลับจากลอยกระทงที่เชียงใหม่

ยังรำลึกถึงคุณพู่อยู่เสมอมา

ยิ่งไปทานติ่มซำร้านเต้ยติ่มซำ ของคุณจินนี่

ก็คิดถึงค่ะ..สบายดีนะค่ะ

ยังเห็นหน้าค่าตาที่เฟสบุ๊คบ่อยๆ

แอบเห็นอุ้มสี มีบอกว่า มีดองแล้ว..555

มีความสุขมากๆนะค่ะ



 

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 1 ธันวาคม 2558 0:00:06 น.  

 



แวะมาอ่านรีวิวนิยายของคุณนิดค่ะ
แต่ละเรื่องที่คุณนิดเลือกมารีวิวสนุก ๆ ทั้งนั้นเลย
เรื่องนี้ก็เหมือนกัน สำนวนเขียนอ่านได้เพลินมาก ๆ
สุขสันต์วันพ่อค่ะ

 

โดย: haiku 5 ธันวาคม 2558 22:21:38 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณพู่
เราห่างหายจากบล็อกไปนานหลายปีเลยค่ะ
คุณพู่สบายดีนะคะ คิดถึงค่ะ
ดีใจที่คุณพู่ยังเขียนบล็อกอยู่ เพราะเพื่อนๆหลายคนหายหน้าหายตา คิดแล้วก็เหงานิดๆค่ะ

 

โดย: LiLLa_JoY 11 ธันวาคม 2558 3:01:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


JewNid
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 48 คน [?]




[Add JewNid's blog to your web]