สำนักพิมพ์อมรินทร์
จำนวนหน้า 212
ราคา 175 บาท
จากปกหลัง
พุทธศักราช2486 ท่ามกลางไฟมหาสงครามเอเชียบูรพาที่กำลังปะทุ พ.ต.ท.เวทางค์ ภิรมย์รุจสารวัตรหนุ่มแห่งกองตำรวจสอบสวนกลางได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญเด็กหญิงในบ้านพักย่านวัดระฆังโฆษิตารามสภาพศพถูกทุบกะโหลกแตก แม่ของผู้ตายให้การว่าน่าจะเป็นฝีมือโจร แต่การสืบสวนเบื้องต้นกลับพบว่าเต็มไปด้วยเรื่องน่าคลางแคลงโดยเฉพาะบนหน้าผาก ข้อมือ และข้อเท้าทั้งสองข้างของผู้ตายปรากฏรอยสักปริศนาของคำห้าคำ
เหย้า เจ้าแพะ ทิ้ง พงส์
เงื่อนงำอันเชื่อมโยงสู่คดีฆาตกรรมต่อเนื่องพิลึกพิลั่นและคำสักประหลาดทั่วพระนครและจังหวัดธนบุรีรอยแผลเป็นจากประวัติศาสตร์และความลับทางวรรณศิลป์แห่งสยามประเทศ!
*****
การเปิดตัวด้วยเรื่องของการฆาตกรรมของเด็กหญิงวาดที่ถือว่าสะเทือนใจเป็นการเปิดตัวที่ทำให้คนอ่านได้รู้ว่ามันต้องมีอะไรแน่นอนเพราะนอกจากจะสะเทือนใจกับการที่เด็กหญิงที่ฉลาดเฉลียวเป็นที่รักของใครๆหลายคนต้องมาถูกฆาตกรรมคาบ้านแต่ก็ ยังมีเรื่องที่ทำให้ประหลาดใจอย่างที่สุดกับการพบว่า เมื่อเจอศพยังเจอรอยสักทั้งๆที่ไม่น่าจะพบเจอบตัวเด็กหญิงวาดเลยและที่ทำเอาประหลาดใจเพิ่มเข้าไปอีกมันดันเป็นรอยสักที่เป็นคำ5 คำ ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย ไม่มีที่มาที่ไป เป็นแค่ 5 คำ ที่สักไว้บน หน้าผากข้อมือและข้อเท้าทั้งสองข้าง
เรื่องราวมันคงไม่น่าสนใจถ้าหากว่ามีเพียงแค่การฆาตกรรมเดียวที่แปลกประหลาดเพราะหลังจากที่ เหตุเกิดกับเด็กหญิงวาดแล้วยังมีอีกหลายๆ คดีที่เกิดขึ้น และก็มีคำ 5 คำ มีรอยสักเป็นตัวเชื่อมโยงของเหตุฆาตกรรม แต่ละคนเรื่องราวปูมหลังของเหยื่อแต่ราย สถานที่แต่ละแห่ง มีความเชื่อมโยงกันอย่างคาดไม่ถึง และนั่นล่ะทำให้เราคนอ่านจะต้องติดตามว่า อะไรใคร เพราะอะไร และความสนุกของการทำงานของตำรวจที่รับผิดชอบในแต่ละคดี และเราจะรู้แน่นอนเลยเมื่อเราอ่านจบกับหนังสือเล่มไม่หนาเพียงแค่ 212 หน้า
ส่วนตัว
ปกติไม่ค่อยได้อ่านหนังสือได้รางวัลเลยค่ะเพราะเชื่ออยู่ว่าน่าจะอ่านยาก ความสามารถในการเข้าถึงอาจจะไม่มากพอ อ่านแล้วอาจจะไม่อินร่วม บลาๆ แต่พอดีคนแนะนำเค้าบอกมาว่า ต้องอ่านเลยถ้าชอบแนวสืบสวน และ เป็นผลงานของคนไทยวัยไม่มาก เพราะฉะนั้นมันเหมือนเป็นการท้าทายกลายๆเลยว่า ไม่น่าพลาดล่ะต้องอ่าน หนังสือเล่มนี้เลยได้มาอยู่ในมือใน 1วันถัดมาด้วยการดั้นด้นเข้าร้านหนังสือแล้วก็จัดการเอามาบ้านด้วย เสียเลย อ้อที่จะว่าไปสิ่งที่ท้าทายเลยก็คือ ชื่อเรื่องนี่ล่ะค่ะ อ่านไปแล้วแปลกดีฉงนจนต้องหาทางแก้ความสงสัยด้วยการอ่าน นี่ไงล่ะมันน่าสนใจตั้งแต่ชื่อเรื่องเลยทีเดียว
และไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ เพราะว่าในแต่ละหน้าที่อ่าน ในแต่ละวันที่เกิดเหตุและในแต่ละก้าวย่างของการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนมันทำให้เราลุ้นอยู่เหมือนก้าวตามไปกับทุกขั้นตอนในการเสาะหาปริศนาท้าทาย โดยเฉพาะเหตุที่เกิดและรอยคำสักที่มีของเหยื่อแต่ละราย เพราะแต่ละคำที่เราเห็น เช่น เหย้าเจ้า แพะ ทิ้ง พงส์ ที่ปรากฏบนตัวเหยื่อรายแรกที่เปิดเรื่องของเด็กหญิงวาด หรือ คำ 5 คำในชุดสอง ซึ่งเป็นรอยสักที่เกิดบนตัวเหยื่อคือ สงค์ ผาก มา โจน รา อ่านไปอ่านมาคนอ่านอย่างฉันก็ต้องอุทานมาด้วยตลอดว่า อะไรว่ะ มันเป็นคำอะไรของมัน คือ อะไร แต่เราก็ไม่ได้สงสัยตลอดเวลาเพราะในเนื้อหาของการสืบสวนมันมีอะไรให้เราคิดตามจนเราลืมไอ้คำปริศนาเหล่านั้นโดยการผลักมันวางไว้ข้างทางก่อนแล้วก็มาร่วมอินกับการตามรอยเหตุที่เกิดไปแล้วและรับทราบเหตุเกิดใหม่ ตรงนี้ล่ะที่ฉันว่าคนเขียนใส่มาดีมาก เพราะทำให้เราตามเหตุการณ์เข้าไปด้วยเนื้อเรื่องโดยแท้
นอกจากการได้ติดตามและลุ้นกับการฆาตกรรมการสืบสวน ปริศนาคำ เรายังได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของ สถานที่ สภาพแวดล้อมที่เกิดเป็นการอธิบายที่ใส่มาให้เราได้มองเห็นภาพรวมของสิ่งต่างๆได้มากขึ้น เช่น ความเป็นมาของการก่อตั้ง รพ.ศิริราช ความเป็นมาของสถานที่อย่างชุมชนชาวจีนเก่าแก่ หรือที่สนุกก็คือการอธิบายในเรื่องของการวิเคราะห์เหตุสาเหตุการตาย พูดง่ายๆ ก็คือ แนวทาง CSI นี่ล่ะ หรือ มีเรื่องราวเกี่ยวเนื่องในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงแนวคิดชาตินิยมในสมัยจอมพลป.พิบูลสงคราม สมัย 24 มิย. 2482 และที่สำคัญในเรื่องของการอธิบายในเรื่องของฉันทลักษณ์ของกาพย์ กลอน ที่เราอ่านแล้วทึ่งและอึ้งจริงๆ
ขอชื่นชมมากเลยนะค่ะสำหรับข้อมูลที่คนเขียนไม่ทิ้งขว้างแต่ได้เสาะหาเพื่อนำมาสอดแทรกในเรื่องและสอดคล้องทั้งเรื่องได้งดงาม เรียกว่าจังหวะจะโคนที่ได้เขียนมาทั้งเรื่องของสำนวนและโครงเรื่องต้องบอกว่า โดนใจของคนอ่านอย่างฉันจริงๆ และใครที่คิดว่ามันมากเกินไปหรือเปล่ากับข้อมูลเหล่านี้ฉันก็ขอตอบได้ตามความรู้สึกว่าไม่มากไม่น้อยเพราะถือว่ายิ่งเราอ่านเราก็ยิ่งได้เห็นภาพมากขึ้น และยิ่งข้อมูลมากขึ้นเรายิ่งอ่านได้ด้วยความสนุกเพราะเนื้อเรื่องคนเขียนเว้นจังหวะได้งามสำหรับการสร้างปริศนาอย่างต่อเนื่องและมันแยบยลมาก เรียกว่ามีลุ้นทุกขณะจิตจนแบบว่าวางหนังสือกันไม่ลงเลยทีเดียวเพราะอยากรู้ว่า แล้วยังไงล่ะ เพราะอะไรล่ะ มันคืออะไรล่ะ ซึ่งขอบอกว่าแม้จะอ่านไปจนเกือบจบมันก็น่าจะจบแต่คนเขียนก็ยังไม่ทิ้งเรื่องทำให้คนอ่านอึ้งไปอีกจบ เรียกว่า อะไรกันนักหนานะเนี่ย
แนะนำเลยค่ะว่า ใครที่ชอบอ่านงานเขียนแนวสืบสวนซ่อนเงื่อน แยบยล มีลุ้นกระตุ้นใจได้ตลอดกับการเปิดอ่านแต่ละหน้าต้องขอบอกว่าเล่มนี้น่าอ่านค่ะ รับรองได้ว่า หนังสือราคาเท่านี้ ไม่หนาไม่หนักแต่มันคุ้มค่านะคะ สำหรับการอ่านหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนอายุไม่มากแต่มุมมองในการเขียนเล่นทำอึ้งและทึ่ง ฉันเองปิดหนังสือลงหน้าสุดท้ายแต่ความคิดกลับเปิดกว้างมากขึ้นกับหนังสือรางวัลแนวนี้เล่มนี้ และคิดว่าน่าจะต้องหยิบจับหนังสือที่เข้ารอบเล่มอื่นมาอ่านอีกเพราะเชื่อว่า มันน่าจะมีอะไร ด้วยเช่นกันค่ะ
อ่านคำนิยมของผู้ทรงคุณวุฒิหลายคนตอนเริ่มเปิดอ่านหนังสือ ฉันเห็นว่าเหมือนคำโฆษณาชักชวน อ่านแล้วก็ไม่คิดอะไรเยอะนักจนกว่าจะได้ลอง พออ่านจบแล้วปิดหนังสือแล้วยังต้องเปิดมาอ่านคำนิยมอีกรอบเลย และบอกว่า " ก็เหมาะแล้วกับคำนิยมที่ท่านทั้งหลายเขียนไว้" เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ไม่ต้องเชื่อฉันจนกว่าจะได้ลองพิสูจน์ค่ะ