เกลียวคลื่นกระแซะทราย นักเขียน อัยย์
เล่มนี้ถือว่าได้มาตั้งแต่หนังสือออกเลยล่ะค่ะ แต่ว่ายังไม่ได้เอาออกมาอ่าน อาจจะเพราะว่ายังมีหนังสือในกองดองอีกแล้วเข้าคิวตามกันไป ก็เลยยังไม่ได้เอาออกมาอ่านตอนที่ได้มาใหม่ๆ แต่ว่าตอนนี้เหรอไม่ได้การล่ะ เอามาอ่านเสียทีเพราะว่าใครๆ อ่านแล้วก็บอกว่าชอบ นั่นสิ อย่ารอเลยจัดการอ่านเลยดีกว่า ว่าแล้วเราก็งัดแงะเอาออกมาอ่านเลยล่ะค่ะเล่มนี้
หนูตุ่ม หรือ วิรงรอง บก.นิตยสารแฟชั่นชื่อดัง ต้องตกงานเพราะเหตุเขียนบทความวิจารณ์การเมือง แถมช่วงตกงานแฟนหนุ่ม สุดหล่อ ฐานะดีก็ดันมาเลิกกันไปเสียอีก แบบนี้เรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนหรือเปล่าหนอเพราะอะไรแย่ๆ บทจะมามันก็ดันมาพร้อมกันเลยเชียว แถมตกงานนานทุกอย่างเริ่มเป็นกังวล อยู่ๆ แม่ก็แอบมากระซิบบอกกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้บอกพ่อเอาไว้แต่บอกหนูตุ่มเลยว่า แม่ของ นายก้าง หรือ นิติชาญ เพื่อนซี้วัยเซี้ยวของหนูตุ่มนั้นมาขอยืมเงินเพื่อไปช่วยนายก้างตั้งตัวกับกิจการรีสอร์ทเพราะเห็นว่าลูกชายที่เฝ้าหาอิสรภาพแบบฉบับโลกสวยของเธอนั้นงานนี้ " จริงจัง "
ไม่ได้การล่ะถ้าหนูตุ่มจะปล่อยให้อะไรๆ มันผ่านเลย เพราะเงินกว่าครึ่งล้านของแม่เธอจะต้องทวงคืนให้ได้ แม้ว่าคนที่ยืมจะเป็นคนคุ้นเคยสมัยเด็ก ความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันมันก็ใช่แต่เรื่องเงินนั้นยืมแล้วก็ต้องคืนสิ โดยสัญญายืมเงินนั้นเลยผ่านกำหนดมาแล้ว แม่เธอก็ใจดีไม่คิดอยากทำสัญญาแต่แม่นายก้างก็เกรงใจและดีเหลือหลายก็เลยให้ทำสัญญาเสียว่า เงินจะคืนทีเดียวเมื่อครบกำหนด 3 ปี แต่เมื่อครบกำหนดแล้วก็ยังไม่มีวี่แววของลูกหนี้เลย สงสัยจะต้องทวงกันเสียแล้ว คิดได้ดังนั้นหนูตุ่มก็พยายามติดต่อหาลูกหนี้อย่างนายก้าง ซึ่งก็นานแล้วนะที่ไม่ได้ติดต่อกัน แต่จังหวะนั้นเองนายก้างก็ได้ติดต่อกลับมาพอดี งานนี้ล่ะ นายก้างและหนูตุ่มก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
เพื่อนซี้สมัยก่อนเป็นยังไง ความสัมพันธ์แม้จะห่างไกลแต่ไม่ห่างเหินมันก็ยังเป็นแบบนั้นล่ะ แต่รูปร่าง รูปลักษณ์สิ มันเปลี่ยนไป หนูตุ่มจากเด็กอวบอ้วนกลายเป็นสาวสวยสังคมจ๋า นายก้างก็กลายเป็นหนุ่มคล้ำแดดสมกับไปอยู่ทะเลมา หน้าตาดีแต่ไม่เกลี้ยงเกลา ผมยาวออกแนวหนุ่มติสต์โลกสวย หนูตุ่มนิยามเมื่อเห็นนายก้างเอาไว้ว่า " หล่อดี เท่ดี แต่ไม่มีสไตล์" อ้าว จบกัน
เมื่อสองคนมาเจอกันก็ถึงเวลาล่ะหนูตุ่มของนายก้างก็ต้องทวงหนี้ที่เลยกำหนดเวลา แต่ด้วยนายก้างเองก็ตั้งใจทำงานนะแต่ว่ามันยังไม่มีเงินคืนเพราะหลากหลายของการบริหารงานยังทำไม่ดีพอผลกำไรเลยไม่บังเกิด ถ้าหากว่าหนูตุ่มอยากได้เงินคืนก็ต้องมาช่วยงานเขาเพื่อเขาจะได้มีเงินคืนให้แก่เจ้าหนี้ เป็นไงล่ะ งงป่ะ!! จังหวะนั้นเองนายก้างก็เลยชวนหนูตุ่มเสียเลยว่า ไหนๆ หนูตุ่มเองตกงานอยู่แล้ว ไปทำงานที่รีสอร์ททางใต้กับเขาเสียเลย งานนี้ลูกหนี้ชำระหนี้ให้ลูกจ้างด้วยเงินเดือน พร้อมกับให้เพื่อนสาวที่ควบตำแหน่งเจ้าหนี้จัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ไปเสียเลย กิจการไปได้สวยก็จัดการคืนหนี้ไปเลย เอาล่ะสิ พล็อตนี้เคยเจอที่ไหนล่ะ
และตามคำโปรยของหนังสือเลยค่ะ จะให้ทำอย่างไร เมื่อหัวใจมันคิดไกลเกินเพื่อน นั่นล่ะค่ะ มันก็ไปตามครรลองของหนังสือ ความเป็นเพื่อนยังไงก็ต่อกันติด แม้ว่าจากความเป็นเพื่อนจะก้าวหน้าไป ขั้นกว่า มันก็ต้องมีอุปสรรคบ้างเป็นธรรมดา แต่จะอย่างไรถ้าหากว่าอยากรู้ก็ติดตามอ่านกันได้ค่ะ รับรองได้ว่าเพลิน
***************
ผลงานการเขียนเรื่องนี้ของคุณอัยย์ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องแรกที่ได้อ่านค่ะ และก็ขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วชอบเลยนะค่ะ เพราะว่าชอบในสำนวนของเรื่องนี้ที่ไหลลื่นอ่านแล้วเป็นธรรมชาติดีโดยเฉพาะบทสนทนาระหว่างหนูตุ่ม กับ ก้าง เวลาพูดคุยกันงี้อยากบอกว่า นี่ล่ะ คือ เพื่อนคุยกันอย่างออกรส เพราะมีทั้ง เรา เธอ ฉัน ว่ะ โว้ย เรียกว่าอ่านแล้วสนุกเพลินมากๆ ค่ะ แถมให้ความรู้สึกอบอุ่นด้วยนะเวลาที่ก้างเรียกชื่อ หนูตุ่ม ไม่รู้สิ มันเป็นชื่อไทยๆ สมัยที่อ่านมานี มานะ อารมณ์เวลาเรียกชื่อกันแล้วมันชวนให้เรารู้สึกอยากรู้จักกันเลยเชียว ไม่ได้
หลังจากที่อ่านงานชิ้นนี้แล้ว คงต้องไปหาอ่านงานอื่นๆ ก่อนหน้านี้แล้วล่ะค่ะ แต่ว่าคงต้องเป็นในรูปแบบหนังสือเก่าหน่อยล่ะ เพราะว่าตัวเองนั้นไม่ชอบอ่านงานทาง ebook เลย คงเหมือนหลายคนที่อ่านได้แต่ให้เลือกคงอยากเลือกหยิบ จับ ได้กลิ่น จากหนังสือเป็นเล่มมากกว่า แต่ว่าไม่แน่ถ้าหากว่าหาไม่ได้ก็คงต้องโหลดมาอ่านกันล่ะค่ะสำหรับ ebook แต่ขอเป็นตัวเลือกสุดท้ายก่อนดีกว่าเพราะยังไงก็อยากอ่านเรื่องราวดีๆ พร้อมกับได้สัมผัสหนังสือในแบบที่เราชอบค่ะ
|
คำโปรยปกเรื่องนี้สวยด้วย ชอบๆ
หลายคนก็ชมว่าเรื่องนี้พล็อตเก๋
แนวเพื่อนรักรักเพื่อน
เจ้าหนี้ลูกหนี้แล้วมาเป็นเจ้าหนี้
น่าอ่านค่ะ
มีหนังสือคุณอัยย์ในครอบครองแล้วสองเรื่อง
กับหวานรักร้านขนม
ดีว่าเล่มไม่หนามาก คงได้รีบอ่านเร็วๆนี้
ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆค่า ^^