หัวเราะกับความเจ็บ และเรื่องเศร้าเคล้าอาหารเย็น
ทำไมเจ็บปวดแล้วหัวเราะ?? ... นั่นก็เพราะว่าความเจ็บปวดไม่ได้เกิดขึ้นกับคนที่หัวเราะล่ะสิ ... ใช่เลย เมื่อคืนนี้นั่งดูรายการพวกเจ็บตัวแล้วสนุก เสี่ยงภัยเพื่อความมันส์
รายการที่ว่านี้ก็คือ " Niet Te Gelove ... Zo Pijnlijk " หรือแปลได้อย่างหยายๆ เลยว่า รายการ " เหลือเชื่อ ... กับความเจ็บปวดแสนสาหัส "
รายการนี้ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจดูหรอก เพราะง่วงอย่างเหลือล้น แต่เมื่อเปิดดู เห็นแต่ละ ช็อตที่เอามาให้ดู มันก็ทำให้เราตาสว่างได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ละช็อตหรือว่าแต่ละเหตุการณ์ที่เค้าอามาให้ดูแบบ Live VDO มันน่ากลัวแล้ว ก็เจ็บตัวสยองเฉียดตายเกือบทั้งนั้น ตย.เช่น มอเตอร์ไซด์ผาดโผน ที่ต้องขี่ขึ้นเนิน ขรุขระ เพื่อให้ไปถึงยอดด้านบน บางทีเจอแบบเครื่องไม่ถึงขั้น เบิ้ลรถไปขึ้นเนิน ตัวก็หลุดออกมาจากมอเตอร์ไซด์แล้วก็ไอ้เจ้ามอเตอร์ไซด์มันก็หล่นลงมาแทบจะฟาด เอาที่หัวเลยแหละ หรือว่าไม่ก็เป็นความประมาทอย่างเหลือล้นในการไปดูการแข่งขัน รถซิ่งแล้วไปยืนติดขอบสนาม แล้วไอ้รถซิ่งก็บังคับไม่ได้หลุดจากในสนามมานอก สนาม ชนเข้าให้ โครม !
นี่แค่เป็นตัวอย่างแค่เพียงสองตัวอย่าง ที่ทำให้เห็นว่า คนเราบางคนก็ชอบความเสี่ยงภัย ในขณะที่บางคนก็รักชีวิตซะเหลือเกิน ดูเมื่อคืนแล้วก็ถามตัวเองว่า แล้วฉันล่ะ อยู่ในประเภทไหน เสี่ยงภัยเป็นเรื่องสนุก หรือว่ารักชีวิตอยากจะอยู่บนโลกใบนี้ไปนานๆ
นั่งคิดไปคิดมา ... ความคิดเอนเอียงไปทางการไม่ชอบเสี่ยงภัยมากนัก ... แต่ก็โดย เฉพาะการเสี่ยงภัยในเรื่องของการเจ็บตัวนะ เพราะเรารู้แน่ว่าเจ็บตัวมาก จะเสี่ยง ไปทำไม อย่างน้อยๆ ไม่อยากเจ็บอ่ะ แค่คิดแค่เรื่องว่าเจ็บตัวเพื่อความสวยงาม อย่างรายการ Make Me Beautiful ที่ยอมผ่าตัดแล้วออกมาสวยงามเลยนั้น ฉันเอง ก็ไม่นิยม ไม่ใช่ว่าจะภูมิใจในความสวยงามในแบบตัวเองนี้หรอก ( เฮ่อ สวยตายเลย ) แต่เพราะกลัวการเจ็บป่วย เจ็บปวดและเจ็บตัวมากกว่า เลยขอว่าไม่สวยเพราะผ่าตัด ดีกว่า
แต่บางครั้งถึงแม้จะไม่ชอบเสี่ยงภัย เราก็แน่ใจไม่ได้เลยว่าเราจะมีชีวิตอยู่ยืนยาว นั่นเพราะคำว่า " อุบัติเหตุ "นี่ล่ะมันมักจะมาถามหาเราอยู่ได้บ่อยๆ ถึงจะไม่ชอบ มัน หรือรักมันจะถึงขั้นส่งสารเทียบเชิญให้มาเยือน เราก็คงเจอมันอยู่ดี ถ้าหากว่า เราประมาท
พูดแล้วนึกถึงเมื่อวานเย็นช่วงกำลังกินข้าวกัน มีหนุ่มหน้าแปลกคนหนึ่งมานิ้งหน่อง หน้าบ้าน ไอ้เราก็สงสัยเพราะเค้าบอกว่ามาเก็บเงินค่ากระจก คนข้างๆ ฉันก็ด้วย ความสงสัยเพราะกลัวว่าจะมาแอบอ้างหรือเปล่าเก็บเงิน ก็เลยถามว่า " แล้วคนเก่าล่ะไปไหน " หนุ่มหน้ามนคนนี้เลยบอกว่า คนเก่า " ตายซะแล้ว "
ตอนได้ยินตอนนั้นก็ยังคิดว่าหูฝาด ฟังผิดหรือเปล่าน่ะ " ตายแล้ว " ไม่แน่ใจเลย ถามอีกทีว่าพูดอะไรนะ หนุ่มหน้ามนเลยเล่าให้ฟังว่า คนเก่าที่เราถามถึงนั้นเค้า เพิ่งตายเมื่อวันที่มาเช็ดกระจกเรานั่นล่ะ แต่บ้านกรณีที่เกิดเหตุคืออีกถนนถัดไป เค้าเล่าให้ฟังว่าวันนั้นน่ะ ลมมันแรง แล้วคนนี้เค้าก็เร่งอยากให้เสร็จไวๆ ทำอีท่า ไหนก็ไม่รู้ล่ะ คงพลาด เลยพลัดตกลงมาจากบันไดสูงราวๆ 2 เมตร ตกมาก็คาที่ เลยเพราะว่าคอหัก โอ้ว ฟังได้อย่างนั้นแล้วก็อึ้งกันล่ะสิ เพราะว่าถึงแม้จะเจอ กับคนที่ตายไปนี้แค่เดือนละครั้ง แต่นับแล้วก็ราวๆ 72 ครั้งแล้วนะที่เจอกัน มาเช็ดทีก็มีชิทแชทกันที เพราะคุยกันค่อนข้างถูกคอ
ยอมรับว่า ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเพื่อนสนิท แค่เป็นคนรู้จัก แต่ด้วยความที่เราเจอกัน เมื่อได้รู้ว่ามีเรื่องแย่แบบนี้เกิดขึ้น ก็รู้สึกแย่ๆ ไปด้วยนะ นี่ล่ะ เรียกว่าฤทธิ์เดช ของ " อุบัติเหตุ " และ " ความประมาท " ล่ะ อาจจะทำงานมานาน บางครั้ง เรื่องของการป้องกันอาจจะหย่อนไปหน่อย พลาดแล้วพลาดเลยไม่มีโอกาสครั้ง ที่สองให้เชยชมอีก ...
จ่ายเงินให้หนุ่มหน้ามน กลับเข้ามานั่งในบ้าน อึ้งกันสักพัก ฉันก็เลยพูดกับคนข้างๆ ว่า ...
" อย่าเป็นอะไรก่อนเวลาอันควรนะ อยู่ด้วยกันไปนานๆ ก่อน "
เค้าหันมาหาแล้วก็บอกว่า
" I will try and do my best " นั่นล่ะ เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนปิดช่วงรายกาย เรื่องเศร้าเคล้าอาหารเย็นของวันวาน
Create Date : 05 ตุลาคม 2549 |
|
64 comments |
Last Update : 5 ตุลาคม 2549 0:19:44 น. |
Counter : 1792 Pageviews. |
|
|