Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
เมื่อลูกจ๋าวตัวน้อยป่วย

*** ลูกจ๋าวตัวน้อย เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว (เดือนมีนา - เม.ย) เค้าเริ่มจากมีอาการน้ำลายไหล พาไปพบคุณหมอ ได้รับยามาทาน 7 วัน หลังจากนั้นพบว่าตาข้างซ้ายโปนออกมาผิดปกติมาก คุณหมอสั่งให้x'ray ดูจากฟิลม์แล้วพบว่ามีก้อนฝีอักเสบ อยู่ที่ใต้ตา ซึ่งตอนนั้นตาข้างซ้ายของเค้า ก็ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว คุณหมอจึงสั่งผ่าตัดด่วน เพราะกลัวว่า สมองอาจจะติดเชื้อได้(ตำแหน่งของฝีอยู่ใกล้สมอง) หรือไม่ก็หนองอาจจะกินไปที่กระดูกได้

*** เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ทั้งๆที่เมื่อเจอสิ่งผิดปกติกับตัวเค้า ก็ได้พาพบคุณหมอทันที (เป็นคุณหมอประจำ ที่รพ.เกษตร) หน่อยคิดว่า หน่อยอุ้มเค้าทุกวัน พาเค้าไปวิ่งที่สวนทุกวัน หน่อยคิดว่าการที่หน่อยอุ้มเค้าสัมผัสเค้าบ่อยๆ เราสามารถรู้ได้เร็วว่า การอะไรที่เปลี่ยนไป หรือแปลกไป หากเค้าป่วย เราได้พาเค้าไปพบคุณหมอได้ทันท่วงที หลังจากที่คุณหมอท่านแรก (คุณหมอประจำ) ดูฟิลม์แล้ว ก็สั่งให้ผ่าตัดเป็นคำตอบสุดท้าย หน่อยไม่ได้ไม่เชื่อคุณหมอนะคะ เพราะ คุณหมอท่านนี้ หน่อยเชื่อใจมาก เพราะ หน่อยเอาเด็กๆ ที่บ้านรักษากับคุณหมอมานานมาก ประมาณสัก 4-5 ปีแล้ว หน่อยพาtyty ไปตรวจอีกทีนึง เพื่อขอปรึกษาเรื่องตาของtyty เพราะคุณหมออีกท่าน เป็นคุณหมอเฉพาะทางเรื่องตา ซึ่งจบมาจากอเมริกา วันนั้นก็ได้x’ray อีกท่า แตกต่างจากการx’ray ที่รพ.เกษตร เพื่อให้เห็นสิ่งที่เป็นปัญหาทำเกิดก้อนฝี ได้ชัดเจนขึ้น เพราะคุณหมอท่านนี้กลัวอาจจะเป็นก้อนเนื้อ หรือเป็นฝีกันแน่ และอะไรทำให้เป็นเช่นนี้

*** หลังจากx’ray เรียบร้อย คุณหมอเอาฟิลม์มาดู ก็พบว่า มีฟันกรามที่แทงยาวขึ้นไปทะลุถึงเบ้าตาข้างซ้าย ทำให้เกิดฝีอักเสบขึ้น เมื่อฝีโตขึ้น ก็ทำให้ฝีนั้นดันตาออกมาส่วนนึงก็ทำให้ตาข้างนั้นเสีย เพราะตามีลักษณะโปนออกมามาก และเนื้อตาแข็งมาก สุดท้ายแล้ว คุณหมอก็สั่งผ่าตัดเอาตาข้างซ้ายออกเช่นกัน ......................

** * หน่อยโทรไป comfirm กับคุณหมอประจำของลูกจ๋าวตัวน้อย ว่าO.K หน่อยจะพาเค้าไปผ่าตัดตามวัน และเวลา ที่คุณหมอได้นัดไว้ เมื่อได้ผ่าตัดเอาตาออก หน่อย + ลูกจ๋าวตัวน้อย ไปพบคุณหมอทุกวันที่คลีนิค เพื่อทำการล้างแผล และดูแผลว่า มีการติดเชื้ออีกหรือไม่ 2 วันแรกสภาพแผลก็ปกติ แค่มีการบวม แต่ต้องดูว่ามีการติดเชื้อรึมั้ย พอวันที่ 3 ก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ แผลมีการติดเชื้อถึงกระดูกแน่ (ก่อนหน้านี้แค่สันณิฐาน) แต่ตอนนี้สิ่งไม่อยากให้เป็นมันก็เกิดขึ้นจนได้ เบ้าตาข้างซ้ายมีการบวมแดง มีหนองเพิ่มขึ้น หนองไม่ลดลงเลย
คุณหมอเลยขอฉีดยาเพิ่ม จากก่อนหน้านี้ กินแค่ยาคุมการติดเชื้อเพียวตัวเดียว และยาฉีดตัวนี้ก็มีอันตรายต่อไต ของเจ้าลูกจ๋าวตัวน้อยของหน่อยตัว ต้องพยายามป้อนน้ำ หรือให้เค้าทานน้ำให้มากที่สุด

*** จาการก่อนหน้านี้ คิดแค่แผล การทำแผล + ล้างแผล + ดูแลแผล อาจจะไม่ยาวนานนัก หน่อยต้องพาเค้าไปพบคุณหมอเพื่อทำแผล + ฉีดยา ยาวนานถึง 2 อาทิตย์ติดกันทุกวัน หลังจาก 2 อาทิตย์ ก็พาเค้าไปพบคุณหมอวันเว้นวัน หลังจากฉีดยาตัวนั้นไป แผลดีขึ้นมาก สมานเร็วขึ้น จนเราต้องซื้อคัตเติ้ลบัต ขนาดเล็กมาก มาแคะหนองออกจากเบ้าตา เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว 1 เดือน ซึ่งเป็น 1 เดือน ที่หน่อยเครียดมาก ไม่ได้มีความสุขเลย กลัวไปทุกอย่าง กลัวว่าเค้าจะจากไป เพราะท้ายที่สุดแล้ว

*** การที่ลูกจ๋าวตัวน้อยของหน่อย เป็นแบบนี้ หน่อยต้องทำใจไว้อย่างนึง “ การที่เค้าเป็นฝีบริเวณตา ซึ่งใกล้สมองนี้ เค้าจะไม่มีวันหาย การที่เรารักษากันนี้ คือการประคองอาการไม่ให้เกิดฝีเพิ่มขึ้น เพราะหากเกิดฝีเพิ่มขึ้นอีก การรักษาก็วนไปสู่วงวนเดิม ....................นั้นก็คือ คำพูดของคุณหมอประจำ ที่พูดให้หน่อยฟัง “

*** หลังจาก 1 เดือน แห่งความทุกข์ หน่อย + tyty น้อยได้ผ่นช่วงเวลานั้นมา ก้าวสู่เดือนที่ 2 แห่งความสุข คือแผลของtyty หายดี เหลือแค่การทานตามโปรแกรมคุณหมอได้วางไว้ให้ คือ อาทิตย์แรกของเดือน ฉีดยา วันเว้นวัน เว้น 1 อาทิตย์ อาทิตย์ที่ 3 ทานยาอย่างเดียว พัก 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นก็รอดูอาการว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงมั้ย แต่ระหว่าง กินยา, พักการทานยา และฉีดยา หน่อยจะพาเค้าไปให้คุณหมอตรวจสุขภาพ ดูแผล และเช็คต่างๆบ่อยๆ เช่น 2 วันครั้ง/ 3 วันครั้ง


*** ผ่านไป 2 เดือน เมื่อวันที่ ศุก์ 5-5-06 จู่ๆ tyty ก็มีอาการน้ำลายไหล อีกครั้ง (อาการเหมือนครั้งแรก เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว) หน่อยไปปรึกษาคุณหมอ และเล่าอาการต่างๆให้ฟัง คุณหมอนัดเข้าไปตรวจเช้าวันเสาร์ ที่รพ.เกษตร พร้อมทั้งx’ray

*** เช้าวันเสาร์ หน่อย + tyty ไปรพ.เกษตรแต่เช้า ชั่งน้ำหนัก tyty หนัก 1.66 เข้าพบคุณหมอ ตรวจดูจากอาการที่เล่าให้คุณหมอฟังว่าอาการน้ำลาย ก็พบว่า เกิดจากฟันซี่เดิม หรืออาจจะเพิ่มขึ้น ยาวไม่สบกัน

*** คุณหมอให้ยามาทานก่อน 7 วัน หากไม่ดีขึ้น ก็คงต้องทำการถอนเอาฟันซี่ที่เป็นปัญหาออก ยาที่ได้รับมา เป็นยาระงับปวด 1 ขวด อีกขวดน่าจะเป็นยาคุมการติดเชื้อ
***เราได้โทรไปบอกคำวินิจฉัย กับคุณหมออีกท่าน (tyty มีคุณหมอประจำ 2 ท่านซึ่งคุณหมอ 2 ท่านเป็นเพื่อนกัน) ว่าคุณหมอแรกมีคำวินิจฉัยอย่างนี้ คุณหมอท่านนี้บอกว่า เดี๋ยวจะขอกลับไปปรึกษากับ คุณหมออีก 2 ท่านที่รพ.เกษตร (1 ใน 2 ท่าน ก็คือ คุณหมอท่านแรก ที่วินิจฉัยอาการเมื่อวันเสาร์ และอีกท่าน คือคุณหมอที่เคยรักษาน้องกระต่ายเหมือนกัน)
*** จากที่ คุณหมอทั้ง 3 ได้ปรึกษากันแล้ว คือ ขั้นแรกรอผลจากการให้เจ้าtyty ทานยาไปว่าจะตอบสนองได่มากน้อยเพียงใด นัดดูอาการอีกครั้งวันเสาร์ที่ 13-5-06 หากตอบสนองได้ดี จะขอนัดตัดฟันซี่ที่มีปัญหาออก หลังจากนี้ก็รอดูอาการอีกครั้ง ว่าหลังจาการตัดฟันแล้ว จะกลับมาเป้นเหมือนเดิมอีกหรือไม่ คือ มีอักเสบข้างในจนทำให้น้ำลายไหล หากกลับมาเกิดอีกครั้งหลังจากได้รับการตัดฟันไปแล้ว

**** ทางเลือกสุดท้าย คือ ถอนฟัน ซี่ที่มีปัญหาออก ซึ่งเสี่ยงมาก




Create Date : 10 พฤษภาคม 2549
Last Update : 10 พฤษภาคม 2549 14:02:08 น. 4 comments
Counter : 347 Pageviews.

 
ขอหายเร็วๆนะคะพี่หน่อย.......โรคทางพันธุกรรม น่าสงสารพาร์ตี้จัง


โดย: blueprince วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:23:24:24 น.  

 

อิอิอออิอิิอิิิิิอิิอิอิิอิอิอิิอิอิิิิิอิอิอิอิิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิิอิอิอิ น่าักมาก


โดย: หรั่ง IP: 203.113.61.164 วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:29:33 น.  

 
หายเร็วนะ


โดย: บาส กาฬสินธิ์ IP: 203.113.61.164 วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:32:05 น.  

 
หายเร็วนะ


โดย: บาส กาฬสินธิ์ IP: 203.113.61.164 วันที่: 11 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:35:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zazimi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีคร๊าบ พวกเราสมาชิกแกงค์ "GasbyGang_แกงค์ของคนรักGasby"

Friends' blogs
[Add zazimi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.