Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 
20 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
ตอนที่๑๐

ตอนที่๑๐
ลินลดาอยู่ในร้านเสริมสวยซึ่งอยู่ใกล้กับที่พัก พนักงานคนหนึ่งกำลังแต่งเล็บมือให้หล่อนขณะที่หล่อนกำลังหมกมุ่นครุ่นคิด หล่อนยอมถอยห่างจากโจนาธานชั่วคราวเหมือนครั้งก่อนๆ แต่ใช่จะยอมแพ้ง่ายๆ เขาช่างใจแข็งและเอาแต่ผลักไสหล่อน โดยเฉพาะกับน้องชายของเขาที่หล่อนนึกเกลียดเข้าไส้ ถ้าให้ปล่อยมือจากชายหนุ่มลูกครึ่งก็เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้พวกผู้หญิงที่จ้องตะครุบเขา อย่างไรหล่อนก็ต้องกันท่าไว้ก่อน ตัวเขาไม่เท่าไร สำคัญที่น้องชายของเขา…เจอร์ราล์ด เจ้าเด็กวายร้ายเป็นมารผจญ ภายนอกฉาบด้วยใบหน้าอ่อนเยาว์ ความไร้เดียงสาและรอยยิ้มเป็นเพียงภาพลวงตาที่หลอกให้คนอื่นตายใจ ใครจะรู้ว่าแท้จริงภายใต้สิ่งลวงนั้นเด็กหนุ่มเป็นซาตานขนานแท้

แรกเริ่มเดิมทีตอนที่หล่อนหาทางเข้าหาโจนาธาน หล่อนไม่เคยรับรู้ว่าเขามีน้องชาย กระทั่งหล่อนล่วงรู้ก็พยายามจะเข้าทางเด็กหนุ่ม หล่อนพยายามพูดจาดีๆและเอาใจเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ เจ้าเด็กนั่นก็สนองตอบด้วยดี พอหล่อนหลงกลเพราะไม่คิดว่าเด็กหนุ่มที่พิการจะมีพิษสงมากมาย เจ้าเด็กมารก็เริ่มออกฤทธิ์ออกเดชให้หล่อนแสบทรวงและเจ็บแค้นหลายต่อหลายครั้ง นับแต่นั่งทานของหวานอยู่ด้วยกันสามคน พูดคุยกันอย่างออกรสอยู่ครู่หนึ่ง พอลับหลังพี่ชาย น้องชายสุดแสบก็สาดของหวานที่เหนียวเหนอะในถ้วยใส่หล่อน หล่อนกรีดร้องและโวยวายเสียงดังลั่น โจนาธานกลับมาพบเห็นภาพที่ไม่น่าดู เขาก็ซักถาม หล่อนจึงฟ้องเขาด้วยโทสะที่ยากจะข่ม เจ้าวายร้ายกลับกล่าวโทษหาว่าหล่อนพูดจาหยาบคายและแสดงท่าทีรังเกียจจนเขาระงับอารมณ์ไม่ได้ พี่ชายที่แสนดีก็เข้าข้างน้องชายสุดที่รัก หล่อนกลับกลายเป็นคนผิด เหตุการณ์ทำนองที่หล่อนเป็นผู้ถูกกระทำเกิดขึ้นหลายหน และหล่อนก็ตอบโต้ แต่ต้องเป็นฝ่ายปราชัยทุกครั้ง ความเจ็บแค้นแน่นหัวอกดังมีไฟสุมทรวงยังคงคุกรุ่นอยู่จนถึงทุกวันนี้ ต้องมีวันที่หล่อนเป็นฝ่ายชนะ คงสะใจพิลึกที่เจ้าเด็กมารต้องสูญเสียความรักที่ได้รับจากพี่ชาย ความรู้สึกที่ถูกแย่งชิงคงทำให้เจ้าเด็กพิการแทบกระอักเป็นเลือดเพราะต้องแบ่งปันตัวพี่ชายให้ใครอื่น ถ้าไม่ติดว่าตระกูลแลนด์ดอล์ฟเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและเงินซึ่งหมายความถึงการมีอำนาจอยู่ในมือ หล่อนคงจะโพนทะนาเรื่องที่ตระกูลนี้มีทายาทอีกคนที่พิการแถมนิสัยชั่วร้ายให้สื่อมวลชนรับรู้และกระจายข่าวไปทั่วแล้ว ผู้หญิงหลายคนก็อยากทำอย่างที่หล่อนคิด แต่ก็ไม่อาจทำได้ด้วยเหตุผลเดียวกัน

หญิงสาวยิ้มอย่างเยือกเย็น ระหว่างหล่อนกับเจ้าวายร้าย ไม่ใครก็ใครต้องตายกันไปข้าง ตาต่อตามา หล่อนก็จะฟันต่อฟันกลับ ให้รู้กันว่าหล่อนจะพ่ายแพ้อย่างยับเยินร่ำไป

รถยนต์สีแดงหยุดเคลื่อนตัวที่หน้าบ้านตระกูลแลนด์ดอล์ฟในยามที่ความมืดมิดมาเยือน ลินลดาลงจากรถยนต์ หล่อนมองผ่านประตูเหล็กฉลุลวดลายแบบตะวันตกและแลเห็น รปภ. วัยกลางคน

"เปิดประตูให้ฉันที" หล่อนร้องบอก

"คุณลินลดานั่นเอง" รปภ.จำหล่อนได้

"รู้ว่าเป็นฉันก็เปิดประตู"

"ผมต้องเรียนให้คุณโจน่าทราบก่อนครับ"

"เปิดเถอะน่า คุณโจน่ารู้ว่าเพื่อนอย่างฉันมาหา เขาต้องอนุญาตแน่"

รปภ.มีสีหน้าลำบากใจ

"ผมต้องเรียนคุณโจน่าจริงๆครับ"

เขาเดินกลับที่ป้อมยามและกดหมายเลขโทรศัพท์ภายในติดต่อกับโจนาธาน เพียงครู่เดียวประตูเหล็กก็เปิดออกด้วยระบบควบคุมจากภายในป้อมยาม

หญิงสาวขึ้นรถยนต์และติดเครื่องด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

ลินลดาส่งยิ้มหวานให้โจนาธาน สีหน้าของเขาบ่งบอกความเหนื่อยหน่ายกับการมาของหล่อนอย่างไม่ปิดบัง หล่อนส่งยิ้มเลยให้เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆคนร่างสูง เจอร์ราล์ดยิ้มแปลกๆให้หล่อน ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายสดใสเหมือนเด็กที่มองเห็นของเล่นถูกใจ แต่ทำให้คนมองรู้สึกขนลุกอย่างประหลาด หล่อนรีบเบนสายตามองเป้าหมายของตน

"คุณทำเหมือนไม่ยินดีต้อนรับลินอย่างนั้นแหละ" หล่อนเอ่ยอย่างตัดพ้อกับโจนาธาน

"'เพื่อน' มาหาทั้งทีทำไมพี่โจน่าจะไม่ยินดีต้อนรับล่ะครับ" เจอร์ราล์ดสวนคำและเน้นย้ำสถานภาพของผู้มาเยือน

"จริงเหรอคะคุณโจน่า" หล่อนแสร้งไม่ใส่ใจกับถ้อยความของฝ่ายตรงข้าม

"ครับ" ชายหนุ่มลูกครึ่งตอบอย่างเสียไม่ได้

"ลินคิดถึงคุณกับน้องจิลม๊ากมาก" ลินลดาใส่จริต

"ผมก็คิดถึงพี่ครับ" เด็กหนุ่มรับลูกด้วยสุ้มเสียงล้อเลียน

"มีเหตุการณ์น่าประทับใจตั้งหลายอย่างที่พี่ลินสร้างวีรกรรมไว้" เขาพูดต่อ

คนฟังฝืนยิ้ม ดวงตาของหล่อนฉายแววกระด้างก่อนเลือนหายอย่างรวดเร็ว

"พี่ลินทำผมมาหรือครับ" เขาสังเกตเห็นผมที่เคยยาวถึงกลางหลังของหล่อน บัดนี้ซอยสั้นจนเห็นท้ายทอย

"ค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศ"

"พี่โจน่าคงอยากเปลี่ยนบรรยากาศเหมือนกันเพราะเจอแต่บรรยากาศเดิมๆ น่ารำคาญ" คำพูดกระทบบ่งชี้ตัวบุคคล และประโยคสุดท้ายบอกอย่างชัดถ้อยชัดคำ

"คุณโจน่าก็ต้องออกเที่ยวบ้าง" ลินลดาแสร้งตีหน้าซื่ออย่างไม่รับรู้กับถ้อยคำของเด็กหนุ่ม

"ผมมีงานที่ต้องทำ คงไม่ว่างไปเที่ยว" โจนาธานเอ่ยตามน้ำทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าน้องชายพูดจากระทบกระเทียบหญิงสาว

"น่าเสียดายจังค่ะ" หล่อนปั้นสีหน้าตามถ้อยคำที่เอ่ย

"คุณมีธุระกับผมหรือเปล่า"

หล่อนส่ายหน้าน้อยๆ

"ลินบอกแล้วไงคะว่าคิดถึงคุณกับน้องจิล"

เจอร์ราล์ดเหยียดยิ้มแกมหยัน หล่อนช่างพูดออกมาอย่างไม่อายปาก ช่างเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าเสริมใยเหล็กจริงๆ

"ผมเคยบอกคุณอย่างชัดเจนถึงความสัมพันธ์ของเรา"

"ค่ะ คุณจำกัดลินให้เป็นแค่เพื่อน เพื่อนจะมาหาเพื่อนผิดด้วยหรือคะ"

เขาทอดถอนใจหนักๆกับความรั้นและดันทุรังของหล่อน

"คุณลินครับ ถ้าคุณอยากเป็นเพื่อนกับผม คุณก็ควรจะรู้จักการวางตัวมากกว่านี้"

"คุณอยากให้ลินวางตัวแบบไหนคะ"

"วางทั้งตัวทั้งหัวใจของพี่ลินให้อยู่ห่างๆจากพี่ชายของผมเป็นดี" เจอร์ราล์ดชิงเอ่ยทันควันก่อนที่พี่ชายของเขาจะทันเปิดปาก

คนฟังจ้องมองเด็กหนุ่มเขม็ง ฝ่ายหลังก็จ้องตอบอย่างท้าทาย

"พี่ลินเป็นผู้หญิง มืดๆค่ำๆเที่ยวมาหาผู้ชายถึงบ้านมันไม่งาม ผมว่าพี่ลินควรกลับบ้านนะครับ"

ถ้อยความสอนสั่งของฝ่ายตรงข้ามทำเอาลินลดาถึงกับสะอึก พี่ชายของเขากลับเงียบเฉยโดยไม่คิดจะต่อว่าน้องชายแม้สักคำที่ล่วงเกินผู้มีอายุมากกว่าอย่างหล่อน เขาให้ท้ายน้องชาย เด็กหนุ่มถึงได้ใจจนปราศจากความเกรงใจใครต่อใคร

"น้องจิลขา พี่เป็นผู้ใหญ่ที่รู้ว่าอะไรสมควรหรอกค่ะ" หล่อนฉีกยิ้ม

"งั้นก็สมควรกลับครับเพราะผมง่วงนอน"

สีหน้าของหล่อนเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงแทบจะในทันที หล่อนนึกอยากจะสวนคำที่เผ็ดร้อน แต่ก็เกรงโจนาธานที่เอ่ยปากสนทนาน้อยกว่าน้อยจะยิ่งมีอคติต่อตัวหล่อน ทั้งสีหน้าและแววตาที่เย็นชาของเจอร์ราล์ดก็ชวนให้หล่อนรู้สึกหนาวเยือกจนต้องยอมล่าถอย

"ลินกลับละค่ะคุณโจน่า น้องจิล"

"ครับ" คนร่างสูงรับรู้

น้องชายของเขายั่วยิ้มให้หล่อนอย่างผู้มีชัย

'วันพระหน้ายังมี ฝากไว้ก่อนเถอะเจ้าตัวแสบ' ลินลดารำพึงอย่างเข่นเขี้ยว

หล่อนขับรถยนต์ออกจากบริเวณบ้านหลังใหญ่ของสองพี่น้องอย่างหัวเสีย ต้องมีวันของหล่อน วันที่หล่อนสมหวังและเป็นหุ้นส่วนชีวิตของโจนาธาน ถึงวันนั้นหล่อนจะเขี่ยเจ้าเด็กวายร้ายให้พ้นจากชีวิตของหล่อนตลอดกาล

"เจ้าหล่อนคงคิดแค้นผม" เจอร์ราล์ดหัวเราะชอบใจ

"นายปากคอเราะร้ายเหมือนใครเนี่ย" พี่ชายถามอย่างระอิดระอาใจ

"ผมก็ไม่รู้"

"เฮ่อ ไงก็ขอบใจที่นายช่วยพี่"

"ก็เจ้าหล่อนรุกไล่พี่ ผมก็ต้องช่วย ถ้าพี่เกิดพลาดท่าต้องแต่งกับหล่อน…ก็เป็นโชคร้ายแบบสุดๆของผม ใครจะยอม"

"พี่อยากเห็นคนที่กำราบนายนัก"

"ผมก็อยากเห็น" พูดอย่างนึกสนุก

ดวงตาวาวๆของคนพูดทำให้คนฟังรู้สึกหนักใจ ใครหนอคือผู้ที่จะกำราบน้องชายของเขาให้สิ้นฤทธิ์ เมื่อไรผู้กล้าหญิงที่เขาอยากเห็นหนักหนาจะปรากฏตัว

"บางที WonderWoman อาจปรากฏละ เพียงแต่พี่ยังไม่รู้ และอีกไม่นานผมก็จะได้รู้เหมือนกัน" เด็กหนุ่มเอ่ยทันใจพี่ชาย

โจนาธานเคยชินกับคำพูดที่คล้ายกับคำพยากรณ์ของเจอร์ราล์ดซึ่งเป็นจริงเสมอ เขาเพียงยิ้มเนือยๆโดยไม่ปริปาก

สณาจิณห์เข้าทำงานตรงเวลาและด้วยคำอนุญาตจากชายหนุ่มลูกครึ่ง หล่อนก็สามารถเดินสำรวจบริษัทของเขาได้ทุกที่ทุกฝ่าย รวมทั้งเตร็ดเตร่อยู่หน้าห้องทำงานของเขา พอหล่อนเห็นยุภาเปิดแฟ้มงานและเตรียมจะพิมพ์ใส่เครื่องคอมพิวเตอร์ หล่อนก็ถลาเข้าไปเสนอความช่วยเหลือถึงที่

"คุณยุคะ ให้ซันช่วยนะคะ"

เลขานุการร่างป้อมส่งยิ้มอย่างเป็นมิตร

"ขืนคุณซันช่วยยุบ่อยๆ ยุก็เคยตัวสิคะ"

"ให้ซันอยู่เฉยๆ น่าเบื่อแย่"

"คำสั่งงานของคุณซันออกก็มีงานให้ทำเองค่ะ อีกอย่างคุณโจน่าจะหาว่ายุขี้เกียจและถือโอกาสใช้งานคุณ" หล่อนปฏิเสธอย่างนุ่มนวล

"ว้า คราวนี้คุณยุใจแข็งจัง"

"คนที่อยู่ในห้องใจแข็งกว่ายุหลายเท่าค่ะ" คนพูดบุ้ยใบ้

"คุณโจน่ามาทำงานตอนเช้าๆเสมอหรือคะ"

"ค่ะ ก่อนเวลาเข้างานตั้งเกือบชั่วโมง"

"โอ้โห ขยันอะไรปานนั้น" ร่างบางเอ่ยด้วยความอัศจรรย์ใจ

"ขยันอย่างกับเครื่องจักรจนยุรู้สึกเป็นห่วงคุณโจน่าเหมือนกัน"

"น่าเป็นห่วงจริงๆด้วยค่ะ" สณาจิณห์พลอยเออออห่อหมกไปกับอีกฝ่าย

เสียงโทรศัพท์กรีดก้องขัดจังหวะการสนทนาของสองสาว เลขานุการหน้าห้องเป็นผู้รับสาย และเสียงจากปลายสายก็ทำให้คนพูดเบ้ปากอย่างลืมตัว

'แม่หมอ' คาดเดาว่าคนที่ติดต่อเข้ามาต้องเป็นผู้หญิงและก็จริงดังคาดเพราะยุภาเอ่ยถ้อยคำปฏิเสธแทนเจ้านายหลายครั้งกว่าจะสามารถตัดการติดต่อกับปลายสายสำเร็จ

"เฮ้อ พวกคุณเธอช่างตื๊อเหลือหลาย ยุงี้หน่ายแทนคุณโจน่าจริงๆ"

"ใครคะ"

"คุณแอนนี่…นางแบบสาวชื่อดังค่ะ"

"ยังมีใครอีกไหมคะ" หล่อนเลียบเคียงถามอย่างชวนคุย

"คุณวี…วิภากรรณ ดาราดาวรุ่ง กับคุณลิน…ลินลดา ดีไซน์เนอร์มีชื่อค่ะ"

"อื้อฮือ หลากหลายอาชีพ"

"ค่ะ เมื่อก่อนเยอะจัด เดี๋ยวนี้เหลือแค่สาม คุณแอนนี่กับคุณวีเป็นน้องใหม่ คุณลินเป็นรุ่นเก๋า"

"น่ากลัวผู้หญิงที่มาชอบพอคุณโจน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ"

"คุณซันจะกลัวทำไมคะ" หญิงสาวร่างป้อมถามด้วยความสงสัย

"กลัวว่าเจ้านายของคุณยุต้องกินยาพาราฯเป็นกระปุกๆน่ะค่ะ"

"แค่คุณโจน่าเฉยๆชาๆ ขี้คร้านพวกคุณเธอจะหมดความอดทนจนหนีหายไปเอง"

"แถมเจอพ่อน้องชายยิ่งแล้วใหญ่"

"เอ๋ คุณซันพอจะทราบหรือคะ"

"นิดหน่อยค่ะ แฟนของเพื่อนที่เป็นเพื่อนกับคุณโจน่าเป็นคนเล่าให้ฟัง"

"คนที่ทราบว่าคุณโจน่ามีน้องชาย ในบริษัทเรามีแค่ไม่กี่คนค่ะ ยุก็เป็นหนึ่งในจำนวนคนน้อยคน ส่วนจะเพราะอะไรถึงไม่ให้แพร่งพราย ยุก็ไม่ทราบ เราเป็นผู้น้อยมีหน้าที่ปิดปากให้สนิทตามคำสั่งเพราะรับเงินเดือนเจ้านาย คุณซันคงเข้าใจ"

"เข้าใจค่ะ เหตุผลของเรื่องที่ต้องปิดบังขนาดนี้ ซันชักอยากรู้ ถ้ามีโอกาสซันก็อยากจะถามตัวคุณพี่ชายสักที"

"ยุไม่ขอรับรู้ดีกว่าค่ะ" คนพูดทำหน้าเมื่อย

ยุภาไม่ยอมให้หล่อนช่วยงานด้วยเกรงโจนาธานจะตำหนิ สณาจิณห์ก็จำต้องฆ่าเวลาเล่นด้วยการนั่งอ่านนิตยสารที่อีกฝ่ายจัดหาให้ด้วยความเบื่อหน่าย

กระทั่งช่วงสายโจนาธานก็ใช้อินเตอร์คอมสั่งให้ยุภาตามตัว 'แม่หมอ' ให้เข้าพบเขา เจ้าตัวที่ได้ยินคำสั่งจากคนในห้องก็เปิดยิ้มกว้าง

"คุณซันอยู่กับยุค่ะ" เลขานุการบอกกล่าวเจ้านาย

"เชิญคุณซันครับ" เสียงทุ้มบอกง่ายๆ

ร่างบางลุกยืนด้วยท่าทางมีชีวิตชีวาผิดหูผิดตาจากอิริยาบถก่อนหน้าที่แลดูไร้สีสัน หล่อนอยากพบเขาและก็สมดังใจนึกเพราะกำลังจนปัญญากับการคิดหาข้ออ้างอยู่พอดี

หญิงสาวอยู่ต่อหน้าเขา รอยยิ้มแผ่ซ่านบนใบหน้าของหล่อนทำให้คนมองที่ตีหน้าขรึมเต็มที่รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกระทบให้ใจวูบไหว ถ้าหล่อนยิ้มให้เขาบ่อยๆ คงมีวันที่ใจของเขาอ่อนยวบและกำแพงที่สร้างไว้ต้องพังทลายเป็นแน่ ทำไมรอยยิ้มและท่าทีของหล่อนจึงส่งผลต่อจิตใจของเขา…โจนาธานก็สุดรู้

"แผนงานของคุณผ่าน แสดงถึงการเตรียมพร้อมล่วงหน้า ผมพอใจกับแผนงานของคุณ"

"ซันเริ่มงานได้เมื่อไหร่คะ" ดวงตาของหล่อนเป็นประกายระยิบระยับอย่างกระตือรือร้น

"วันนี้ผมจะติดประกาศแจ้งให้พนักงานทุกคนทราบ คุณคงพร้อมจะเริ่มงานพรุ่งนี้ใช่ไหมครับ"

"ค่ะ ที่จริงวันนี้เลยก็ยิ่งดี"

"ใจร้อนจริง" เขาสะกดกลั้นความขบขันแกมเอ็นดูไว้ในสีหน้า

"ซันอยากทำงานค่ะ อยู่ว่างๆทั้งเบื่อทั้งเหงา" หล่อนพูดลุ่นๆตามนิสัย

"ข้าวของที่คุณต้องการคงจะพร้อมในอีกสองสามวัน ส่วนของที่คุณจัดหาเอง ผมก็อนุญาตตามใจคุณ"

"ขอบคุณมากค่ะ"

"คุณยังช่วยงานคุณยุอยู่หรือครับ" เขาถามอย่างเปลี่ยนเรื่อง

"เปล่าค่ะ คุณยุไม่ยอมให้ซันช่วยเพราะกลัวคุณจะตำหนิ" หล่อนพูดเหมือนกล่าวโทษเขา

"ผมไม่ได้ว่าอะไรคุณยุภาสักคำ" เขาปฏิเสธ

"อืม คุณน่าจะสำรวจบริษัทของผม ทำความรู้จักกับพนักงานฝ่ายต่างๆ คุณเห็นเป็นไงครับ" คนร่างสูงพูดต่อ

เขาอุตส่าห์เสนอความคิด หล่อนยังจะคิดเห็นเป็นอื่นอีกหรือ

"ดีค่ะดี"

บทสนทนาช่างแสนสั้น สณาจิณห์ออกจากห้องทำงานของเขาด้วยใจคอห่อเหี่ยว หล่อนหรืออยากจะใช้เวลาพูดจากับเขานานๆ เขากลับสนใจแต่งานตรงหน้า ครั้นหล่อนจะเก้ออยู่กับเขาก็ใช่ที่เพราะเขาต้องทำงานในฐานะผู้บริหารและหล่อนก็รู้กาลเทศะ

"คุณซันเข้าไปแป๊บเดียว" ยุภาเอ่ยเป็นเชิงถาม

"ค่ะ แค่คุยเรื่องแผนงานกับของที่ซันขอ หมดเรื่องคุยซันก็ออกมา ว่าจะซอกแซกทั่วตึกน่ะค่ะ ขอตัวนะคะ"

หญิงสาวร่างป้อมมองตามแผ่นหลังของ 'แม่หมอ' อย่างพิเคราะห์จนร่างบางเดินลับตา หล่อนสังเกตเห็นอาการบางอย่างที่ส่อออกมาทางสีหน้าท่าทางของอีกฝ่าย ความสดใสก่อนที่หญิงสาวจะเข้าพบเจ้านายของหล่อนเหือดหายไป เหลือแต่ความเงื่องหงอยยามออกมา

"ท่าทางคุณซันดูแปลกๆ หรือว่า…" หล่อนพูดค้างคาพลางเหลียวมองประตูห้องของเจ้านาย

ยุภายิ้มพราย หล่อนหวังให้ตัวเองคิดถูก คนที่แต่งงานกับโจนาธานก็เท่ากับเป็นเจ้านายของหล่อนอีกคน ถ้าเป็นสณาจิณห์ หญิงสาวผู้น่ารัก หล่อนก็ยินดีและเต็มใจจะช่วยลุ้น

'แม่หมอ' ร่างบางวางแผนสำรวจตั้งแต่ชั้นล่างสุดของบริษัท ไล่ขึ้นไปชั้นบนที่ผู้บริหารสูงสุดอย่างโจนาธานและญาติๆทำงาน ความที่มีอาชีพเป็นนักพยากรณ์ทำให้หล่อนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ก็ย่อมเป็นเรื่องง่ายในการทำความรู้จักกับพนักงานที่พบเจอ สณาจิณห์ชวนคนที่ท่าทางช่างเจรจาพูดคุยเรื่องทั่วๆไปอย่างเก็บข้อมูลไปในตัว หล่อนใช้วิธีการพูดตีขลุมเพื่อเลียบเคียงถามทัศนคติของพนักงานที่มีต่อผู้บริหารระดับสูง หรือใครบ้างที่มีอคติต่อผู้บริหารของบริษัท

เที่ยงตรงหล่อนก็มาถึงเกือบครึ่งทาง เบื้องต้นหล่อนต้องการเพียงข้อมูลอย่างหยาบๆ ข้อมูลเจาะลึกต้องรอให้ถึงเวลาที่หล่อนลงมือทำงานของตน เท่าที่เก็บข้อมูล หล่อนพอรู้ว่ามีพนักงานบางส่วนที่ชิงชังเจ้านาย ส่วนใหญ่เพราะเรื่องงานในหน้าที่ทั้งสิ้น เรื่องส่วนตัวมีเพียงน้อยราย

ขณะที่หล่อนเอื้อมมือกดเรียกลิฟต์เพื่อจะไปยังห้องอาหาร เสียงเรียกของเอริคก็ดังอยู่เบื้องหลัง

"คุณสณาจิณห์ บังเอิญจังที่พบคุณ" ผู้มีวัยมากกว่ายิ้มละไม

"คุณเอริคมาทำอะไรคะ"

"ผมลงมายืดเส้นยืดสาย เดินเรื่อยเปื่อยตามฝ่ายต่างๆ พูดคุยกับพนักงานบ้าง เป็นหลักจิตวิทยาอย่างนึงที่แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่พนักงาน" เขาพูดยิ้มๆ

"ดีที่คุณไม่เจอญาติผู้พี่ของผม" เขาพูดต่อ

"ค่ะ ถือเป็นโชคดี"

"คุณลงมาทำอะไร อย่าบอกนะว่าเดินเล่น"

"ซันอยากหาข้อมูลนิดหน่อยค่ะ" หล่อนยิ้มมุมปาก

เอริคพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจความหมายของถ้อยความที่หล่อนบอก

"คุณแนะนำตัวกับพนักงานหรือเปล่า"

"ค่ะ ซันบอกพวกเขาตามตรง คนทำนายก็ต้องการความร่วมมือและความไว้วางใจจากคนที่จะรับคำทำนายเหมือนกัน"

"เข้าใจทำงานจริงๆ" ผู้มีวัยมากกว่าเอ่ยด้วยความพึงพอใจ

"ลิฟต์มาละค่ะ" หญิงสาวบอกเขา

"LadyFirst" เขาเอ่ยพร้อมกับผายมือ

ภายในลิฟต์มีเพียงสณาจิณห์และอาของโจนาธาน ฝ่ายหลังที่กำลังจะไปทานข้าวกับหลานชายก็ออกปากเชื้อเชิญหญิงสาว คนถูกเชิญรับปากอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิดให้มากด้วยต้องการใกล้ชิดกับโจนาธาน

ประตูลิฟต์เลื่อนเปิด ณ ชั้นอันเป็นที่ตั้งของห้องอาหารขนาดใหญ่ คนร่างสูงที่คอยอยู่ก่อนมองเห็นร่างบางแต่ไกลก็ลอบถอนใจ เขาตั้งคำถามในใจ…จะมีสักครั้งไหมที่หนีหล่อนพ้น

เอริคกับหญิงสาวเดินเข้ามาในระยะใกล้ โจนาธานก็ปั้นสีหน้าเฉยชาใส่หล่อน

"อาพบคุณสณาจิณห์ที่ชั้นล่างเลยชวนมาทานด้วยกัน"

"ครับ" หลานชายบอกอย่างรับรู้

"อาจะซื้อคูปองต่างหาก โจน่า TakeCare คุณผู้หญิงด้วย เดี๋ยวค่อยเจอกันที่โต๊ะเดิม" ผู้มีวัยมากกว่าบอกคนทั้งสอง

ชายหนุ่มลูกครึ่งจำใจกระทำตามถ้อยคำของอา เขาเข้าแถวแลกซื้อคูปองให้สณาจิณห์ที่ยิ้มแป้นและยืนรออยู่อีกด้าน

อีกฟากหนึ่งหญิงสาวร่างป้อมตาไวมองเห็น 'แม่หมอ' หล่อนก็ผละจากเพื่อนร่วมงานแล้วปราดเข้าไปหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว

"คุณซันคะ"

คนถูกเรียกเหลียวมองต้นเสียง

"มากับใครคะ" ยุภาถามอย่างใคร่รู้

"คุณเอริค คุณโจน่าค่ะ"

คนฟังกวาดสายตามองหาผู้ที่ถูกเอ่ยนาม

"อ้อ ต่อแถวซื้อคูปองน่ะเอง"

"ใครเป็นเจ้ามือคะ" หล่อนถามต่อ

"คราวก่อนคุณเอริคกับคุณโจน่า คราวนี้ต่างคนต่างจ่ายค่ะ"

"คุณซันไม่ซื้อคูปองเหรอคะ"

"ฝากคุณโจน่าซื้อค่ะ"

คนฟังยิ้มในหน้าด้วยดวงตายิบๆ ไม่ว่าเจ้านายของหล่อนจะรับฝากหรือขันอาสากระทำให้ 'แม่หมอ' หล่อนก็เห็นเป็นเรื่องสนุกอยู่ดี

'สงสัยงานนี้มีแววลุ้นขึ้นแฮะ' หล่อนนึกคิดในใจ


Create Date : 20 มิถุนายน 2550
Last Update : 20 มิถุนายน 2550 13:11:47 น. 0 comments
Counter : 333 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาญจน์ฏี
Location :
ลำปาง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




โอม ศรี คเณศา ยะ นะ มะ ฮา โอม คะชานะนัม ภูตะคะณาธิเสวิตัม กะปิตะถะชัมพูผะละ จารุภักษะณัม อุมาสุตัม โศกะวินาศะการะกัม นะมามิ วิฆเนศวะระปาทะปังกะชัม.


ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นใน blog นี้เป็นของผู้เขียนตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน หากต้องการนำงานเขียนชิ้นใดไปเผยแพร่ ไม่ว่าเป็นการส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ กรุณาติดต่อขออนุญาตโดยติดต่อผ่าน ได้ที่อีเมลล์ภายในบอร์ดข้อมูลส่วนตัว มิฉะนั้นอาจเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย

**คำบูชาองค์ไกรลาสบดี**
'โอม นะมัห ศิวายะ'









Friends' blogs
[Add กาญจน์ฏี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.