Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
5 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
สุขสันต์วันเกิด แด่เรา...สองคน!

สุขสันต์วันเกิด แด่เรา…สองคน!

สติสัมปชัญญะของหล่อนคืนกลับอย่างช้าๆ สองตาก็ปรับรับภาพที่แรกพร่าเลือนให้แจ่มชัด แล้วเหลียวมองรอบกายด้วยความฉงนฉงายระคนอัศจรรย์ใจเป็นล้นพ้นพร้อมกับหวนคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ช่างประหลาดนักที่หล่อนไม่อาจจดจำสิ่งใดได้แม้สักอย่าง ความทรงจำสุดท้ายที่พอจะรู้…หล่อนกำลังเตรียมตัวเข้านอน จากนั้น…ทุกอย่างหายไปจากสมองจนสิ้น และที่นี่… กลับเป็นสถานที่แปลกตา หล่อนสำรวจตัวเองก็พบว่ายืนอยู่หน้ากระจกภายในห้องน้ำ ชุดที่สวมใส่ไม่ใช่ชุดนี้ สองมือ…สวมถุงมือหนาและรัดกุม มันเปื้อนเลือดสีสดเช่นเดียวกับเสื้อผ้า ในอ่างล้างหน้ามีมีดเล่มยาวที่อาบด้วยของเหลวชนิดเดียวกันกับมือสองข้าง ความตระหนกซ่านทั่วร่าง ความหนาวเยือกพลันเกาะกุมจิตใจ ร่างของหล่อนสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวสุดขีด หล่อนแทบไม่อยากนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แข้งขาพาลอ่อนแรงและร่างกายก็พร้อมจะทรุดนั่งกับพื้น แต่ยังแข็งใจเพราะอยากประจักษ์แก่สายตาว่าความคิดนี้เป็นจริงหรือไม่ หากกลับมีความรู้สึกตื่นใจแฝงเร้นอยู่ในซอกหลืบเล็กๆที่ใดที่หนึ่งภายในตัวของหล่อน

เตกีญากำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ ตาก็เหลือบเห็นกระเป๋าหนังสีดำที่เปิดอ้าเสียก่อน หล่อนเดินเข้าไปดูใกล้ๆด้วยความหวาดหวั่นที่กระหน่ำอยู่ในอก ในนั้นมีเสื้อผ้า รองเท้า หน้ากากแฟนซีที่น่าจะปกปิดใบหน้ามิดชิด เทปพันท่อตัดขนาดพอประมาณและติดไว้กับกระดาษมัน ขดเชือกไนล่อน และขวดยา มือที่ไม่อาจบังคับให้หยุดนิ่งเอื้อมหยิบขวดที่เห็น ระบุว่าเป็นยานอนหลับ หล่อนหลับตาและสูดลมหายใจลึกด้วยอาการคล้ายลมใกล้จับพลางปล่อยสิ่งที่อยู่ในมือให้ร่วงหล่น สังหรณ์ในใจว่าน่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงแน่แล้ว

หล่อนกัดฟันก้าวเท้าพ้นประตูก็เห็นเตียงใหญ่ห่างไปไม่กี่ก้าวเดิน กลิ่นคาวฉุนเข้าจมูก เป็นกลิ่นที่หล่อนรู้จัก และบนเตียงที่สีฉานเปรอะเปื้อนเพียงบางจุด มีร่างเปลือยของชายคนหนึ่งถูกมัดแขนขาด้วยเชือกไนล่อนติดกับหัวและปลายเตียง เขานอนท่าแผ่หงายและไม่ขยับตัว หล่อนก็สัมผัสถึงความน่าสะพรึงได้ทันที มันไม่จริงใช่ไหม…หล่อนรำพึง แต่สิ่งที่ประจักษ์ก็ไม่อาจทำให้คิดทางที่เป็นอื่น ความตกใจกลัวบีบให้น้ำตาเอ่อท้น เตกีญาไม่สามารถขจัดความรู้สึกนี้ ไม่มีทางสักนิด หากก็พยายามตั้งสติและควบคุมตนจนสุดความสามารถ แม้จะรู้สึกเหมือนสติแทบกระเจิงจวนเจียนแตกซ่านก็ตาม

ที่สุดหญิงสาววัยยี่สิบเศษก็เคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายที่สมองของหล่อนบอกว่าเขาตายแล้ว และเขาก็ตายแล้วจริงๆ ดวงตาเบิกโพลงบ่งบอกความกลัวและความเจ็บปวด ที่ปากถูกปิดด้วยเทปพันท่ออย่างเหมาะเจาะ เขาไม่ใช่คนที่หล่อนรู้จักหรือเคยพบเห็น ที่มาของกลิ่นคาวจากตำแหน่งหัวใจ มันถูกแหวกอ้า มีบางสิ่งยัดใส่ ศีรษะก้มมองก็พบว่ามันคืออวัยวะเพศของเขา และที่ๆหายไปล่ะ แต่ก่อนจะลากสายตาต่อ ก็สะดุดเข้ากับอักษรเลือดที่เขียนไว้ว่า 'สุขสันต์วันเกิด' หล่อนรู้สึกวิงเวียนและเกิดอาการปวดหนึบที่ศีรษะทันใด แล้วความทรงจำของใครบางคนก็เข้าแทนที่ สิ่งที่เห็นภายในห้องถูกทับซ้อนด้วยภาพเหตุการณ์เสมือนฟิล์มหนังที่ขาดตอน เริ่มตั้งแต่การกำหนดลักษณะของเหยื่อ การวางแผน การเตรียมการทุกอย่าง และการลงมือ

…เสียงร้องในลำคอ มือที่บรรจงวาดมีดปลายแหลมกรีดอกผู้ตาย มือที่จับกุมหัวใจที่ยังเต้นแรง ดวงตาของเขาแทบถลนหลุดออกนอกเบ้า แต่มือคู่เดียวกับหล่อนก็กระชากก้อนเนื้อออกมา มันนุ่มนิ่มและชุ่มโชก มีความพึงพอใจและหฤหรรษ์บังเกิดแก่ตัวหล่อน จะเรียกว่าเป็นตัวหล่อนทีเดียวคงไม่ถูกนัก คล้ายจะเป็นตัวหล่อน ทว่าไม่ใช่ ควรเป็นหล่อนอีกคน และหล่อนอีกคนก็บีบก้อนเนื้อจนเละคามือ สัมผัสได้ถึงของเหลวอุ่นข้นแฉะๆผ่านอุปกรณ์ป้องกันที่สวมใส่ อวัยวะเพศของเขาถูกตัดออกด้วยความสาแก่ใจที่ยากแก่การเข้าใจ มันถูกยัดใส่ในช่องว่างของร่างกายส่วนบน เสียงหัวเราะร่วนอย่างสำราญใจของหล่อนอีกคน ข้อความสื่อสารที่ถูกเขียนเพื่อให้หล่อนคนนี้ได้เห็น…

และแล้วสติสัมปชัญญะและการรับรู้ของหล่อนก็ค่อยๆถดถอยไปอยู่เบื้องหลังพร้อมๆกับการนึกถึงช่วงเวลาหนึ่งในความทรงจำขณะที่ความแข็งแกร่งของตัวหล่อนอีกคนแทรกซ้อนเข้ามาเต็มตัวและกลายเป็นผู้อยู่ฉากหน้าซึ่งคอยควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง

เตกีญาผู้เป็นความหวังของบิดามารดา แต่ไม่เคยสร้างความภาคภูมิใจใดๆให้พวกท่าน ว่างงานราว 4 ปีจวบจนปัจจุบันนี้ก็ไม่อาจหาเลี้ยงพวกท่านได้ หล่อนมีความสามารถน้อย สติปัญญาเท่ากับค่าเฉลี่ยทั่วไป หากการปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ใคร่ได้และเจ้าตัวเห็นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญเพราะมีนิสัยเช่นนี้ตั้งแต่วัยเยาว์ต่างหากที่ทำให้ไม่อยากทำงานแบบที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับใครๆ หล่อนอยากเป็นนายตัวเอง การรับพิมพ์งานเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่สมัยนี้เด็กรุ่นใหม่ก็ใช้คอมพิวเตอร์กันเป็นส่วนใหญ่และผู้เสนอบริการก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวทำให้ลูกค้ากระจายตัวและรายได้จากงานก็ไม่แน่นอน หนำซ้ำยังจะลดลง เกิดเป็นความเครียด ความวิตกกังวลและกดดันอย่างมาก ยิ่งนับวันที่สะสมโดยตลอดก็ส่งผลต่อตัวหล่อน เตกีญาจึงมีอาการปวดศีรษะเป็นพักๆ นานวันเข้าเกิดอาการถี่และยิ่งปวดทุกทีๆ รวมทั้งรู้สึกคล้ายมีใครอีกคนในตัวหล่อน เพียงรู้สึก แต่ยังไม่แน่ใจ

วันเวลาผันผ่านหล่อนก็รับรู้ถึงความแปลกเปลี่ยนของตน มีความแปลกแยกตัวมากกว่าแต่ก่อน การรับรู้ความเป็นมนุษย์ด้อยลง รับรู้ความรักความห่วงใยจากคนรอบข้างได้น้อยนิด และความรู้สึกควรตอบสนองดังกล่าวหลงเหลืออยู่บ้างเป็นบางส่วน ทว่ายังทำตัวได้อย่างสามัญมนุษย์ เกิดอาการลอยๆเบลอๆเป็นบางครั้ง จินตนาการได้ถึงการควบคุมและมีอำนาจเหนือผู้อื่น ทั้งการทำร้ายใครบางคนแล้วให้รู้สึกดี คิดเห็นว่ามนุษย์เป็นเพียงสิ่งเคลื่อนไหว และให้ความสนใจเรื่องน่ากลัวที่เหี้ยมโหดผิดมนุษย์มนา รวมถึงความรู้ด้านจิตเวชศาสตร์

อยู่มาวันหนึ่งหล่อนได้พบเห็นเว็บไซต์เกี่ยวกับสุขภาพจิตที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์รายวัน หล่อนตัดสินใจลองเข้าชมเข้าอ่านและตามลิ้งค์เข้าสู่เว็บไซต์ของกรมสุขภาพจิตก็พบแบบทดสอบ หล่อนไม่ผ่านการทดสอบหลายอย่างและเริ่มคิดหาทางออกเพื่อความเชื่อมั่น โรงพยาบาลประจำจังหวัดเป็นหนทางที่จะบ่งชี้ได้ชัดเจน เตกีญานั่งรถประจำทางไปที่โรงพยาบาลและถามหาแผนกจิตเวชเพื่อจะทำการทดสอบความเครียด ผลคือเจ้าหน้าที่บอกเพียงมีความเครียดระดับหนึ่ง แต่กลับถามให้เข้าพบจิตแพทย์ หล่อนก็ยินยอมโดยดีและทำบัตรผู้ป่วยในวันเดียวกัน

พยาบาลถามคำถาม เช่นว่า อาการเป็นอย่างไร เป็นมานานหรือยัง อยากทำร้ายตัวเองบ้างไหม และอื่นๆ ตัวหล่อนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นบอกเล่าที่ตรงไหนก็เพียงตอบคำถามสั้นๆและหลักใหญ่ของอาการว่าเกิดความเครียดทำให้ปวดศีรษะ และการพบจิตแพทย์วันแรกได้พูดคุยน้อยคำ จิตแพทย์ถามถึงความถี่ของอาการ มีความเครียดถึงขนาดอาเจียนหรือไม่ และมีอาการซึมเศร้าบ้างไหม เตกีญาก็ได้ยาตามสั่งสองชนิด ยาคลายเครียดเพื่อปรับสารเคมีในสมองอย่างหนึ่ง อีกอย่างมีฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ จิตแพทย์ยังให้ปรึกษากับนักจิตวิทยาอีกด้วย เตกีญาใช้เวลาในห้องปรึกษาหลายชั่วโมง นอกจากพูดคุยและถูกถามบ้าง หล่อนก็กล้าพูดตรงๆอย่างบอกเล่า และรู้ว่านักจิตวิทยาจ้องมองอย่างสำรวจกึ่งประเมินทำให้หล่อนมองเหมือนจะอ่านท่าทีของอีกฝ่ายเช่นกัน หล่อนมองลึกเข้าไปในดวงตาของคู่สนทนาราวค้นหาสิ่งที่ตนก็ไม่รู้ว่าคือสิ่งใด และถ้อยหนึ่งระหว่างนั้นก็ทำให้ผู้ที่อ่อนวัยกว่าถึงกับออกอาการผวาให้ได้เห็น ถ้อยดังว่าก็คือ…

'บางทีพี่ไปไหนก็รู้สึกกึ่งลอยๆ'

ปฏิกิริยาของนักจิตวิทยาทำให้เตกีญารีบพูดต่อ

'แต่ยังรู้ตัว'…

หล่อนหลุดจากห้องปรึกษาได้และถ้อยประโยคต่างๆก็แทบลบเลือนจนหมด หล่อนจำได้ไม่มาก

นับจากวันนั้นเป็นต้นมาเตกีญาต้องพบจิตแพทย์ตามนัดสองอาทิตย์ต่อครั้งเพื่อสอบถามอาการ ที่ตระหนักคือคนที่ช่วยหล่อนได้อย่างเป็นหลักคือตัวเองและรู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะจบกระบวนการเหล่านี้ได้ ขณะเดียวกันตัวตนของหล่อนก็จางลงบ่อยๆ และเปลี่ยนให้ใครบางคนซึ่งรับรู้ว่าเป็นอีกบุคลิกภาพได้มีบทบาทในชีวิตมากขึ้น

หล่อนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทานยาตามสั่งหรือเปล่าเพราะช่วงเวลาเหมือนกระโดดข้ามตอนเสียเฉยๆ แต่คาดเดาว่าอาจเป็นหล่อนอีกคนที่กระทำการกับยาให้หมดเกลี้ยงตามวันเวลาที่ควรจะเป็น เตกีญายังหลุดพ้นวงจรการพบจิตแพทย์ได้เร็วโดยที่ไม่ส่อพิรุธด้วยแรงกระตุ้นจากตัวตนที่อยู่ภายใน หล่อนดำเนินชีวิตสองแบบสองบุคคลด้วยความกังวลลึกๆว่าหล่อนอีกคนจะสร้างความเดือดร้อนให้ใครบ้างหรือไม่ จะกระทำเรื่องอันตรายบ้างหรือเปล่า ในเมื่อไม่ประสบผลกระทบเป็นเวลานานและไม่มีใครจับได้ก็ทำให้หล่อนเกิดความวางใจ

กระทั่ง…ณ วันนี้ และภาพความทรงจำหนึ่งก็ผุดในมโนสำนึกที่คล้ายภาวะหลับใหลของหล่อน เตกีญาลืมตาตื่นและลุกเดินไปยืนอยู่หน้ากระจกบานยาวในห้องนอน หล่อนเห็นดวงตาว่างเปล่าเสมือนหลุมลึกที่ดำมืด เป็นดวงตาของหล่อนไม่ผิดแน่ หากดวงตาคู่เดียวกันนี้ยังเป็นของอีกตัวตนที่เร้นลึกไม่แผกกัน

เสียงหัวเราะเล็กๆและรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมผุดที่มุมปากชั่วเสี้ยวนาทีก็เลือนหาย หล่อนไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร เวลานี้ก็ได้รับรู้แล้ว แต่จะหยุดเหตุที่จะเกิดครั้งต่อๆไปได้อย่างไรนั่นคือปัญหา ใช่ หล่อนรู้ว่าผู้ลงมือจะทำสิ่งนี้อีก

"หยุดทำไมล่ะ เธอเองก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ" เสียงที่คุ้นหูอย่างหยั่งรู้ความคิดดังเข้ามาภายในคล้ายความฝัน

คนที่เสมือนหลับใหลก็ยอมรับอย่างง่ายดาย

"มันสนุกตื่นเต้นเร้าใจจะตาย ดีออกที่ได้ทำแบบนี้ งั้นก็อย่าฝืนเลย จริงไหม"

เตกีญาที่เป็นฝ่ายรับฟังก็คล้อยตาม

"เราจะทำ 'มัน' ด้วยกันนะ" เป็นการชักชวนอย่างชื่นบาน

"เธอกับฉัน" เสียงกลั้วหัวเราะติดอำมหิต

"และนี่… ฉันทำให้พวกเรา เนื่องในโอกาสพิเศษ"

ฝ่ายรับฟังแทบรู้ได้ถึงดวงตาทอประกายกึ่งวาววามของฝ่ายพูด

"สุขสันต์วันเกิด แด่เรา สองคน"

ผู้มีบทบาทนำเริ่มต้นเก็บกวาดสิ่งที่จำเป็นต้องทำด้วยความระมัดระวังและใจเย็นเพื่อไม่ให้เหลือร่องรอยใดๆทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะออกจากห้องพักในโรงแรมและทิ้งผลงานอันชั่วร้ายไว้เบื้องหลังอย่างไม่ไยดี แล้วร่างบอบบางภายใต้หน้ากากแฟนซี มือถือกระเป๋าใส่อุปกรณ์และกุญแจรถยนต์ของผู้ตายก็ทำตัวอย่างผู้บริสุทธิ์ด้วยกิริยาเริงร่าอยู่ในลิฟต์ พลางร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์วนซ้ำด้วยความเริงรื่นที่คละเคล้าด้วยความสุขใจอย่างที่สุด.


Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2549 11:11:41 น. 2 comments
Counter : 299 Pageviews.

 
อ่า นึกว่า น้อง จขบ เกิดวันนี้สะอีก จาเข้ามาอวยพรอะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:11:26 น.  

 
แวะมาทักทายนะคะ สวัสดียามเย็นวันอาทิตย์


โดย: อพันตรี วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:18:17:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาญจน์ฏี
Location :
ลำปาง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




โอม ศรี คเณศา ยะ นะ มะ ฮา โอม คะชานะนัม ภูตะคะณาธิเสวิตัม กะปิตะถะชัมพูผะละ จารุภักษะณัม อุมาสุตัม โศกะวินาศะการะกัม นะมามิ วิฆเนศวะระปาทะปังกะชัม.


ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นใน blog นี้เป็นของผู้เขียนตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน หากต้องการนำงานเขียนชิ้นใดไปเผยแพร่ ไม่ว่าเป็นการส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ กรุณาติดต่อขออนุญาตโดยติดต่อผ่าน ได้ที่อีเมลล์ภายในบอร์ดข้อมูลส่วนตัว มิฉะนั้นอาจเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย

**คำบูชาองค์ไกรลาสบดี**
'โอม นะมัห ศิวายะ'









Friends' blogs
[Add กาญจน์ฏี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.