Bloggang.com : gappaman :

จับภาพจากหนังกับ Media Player Classic

สืบเนื่องจาก entry ที่แล้วเขียน review หนังไป เลยนึกเรื่องที่เป็นประโยชน์มาได้อีก

หลายๆคนอาจสงสัย (หรืออาจจะไม่สะกิดใจเลยก็ได้) ว่าทำไมผมถึงจับภาพจากในหนังมาโพสต์ใน blog ได้ดั่งใจต้องการ โดยไม่ต้องเอาภาพมาจากที่อื่นที่เขาเขียน review ไปแล้ว หรือจากเว็บไซต์ของหนังเรื่องนั้นๆ

จริงๆแล้วจะเอาโปรแกรมจับภาพมาเปิดรอไว้ระหว่างดูหนังก็ได้ ช็อตไหนจะเอาก็กดไป แต่ว่า .... มันเสียเวลาเหมือนกันครับ เพราะภาพที่ได้มาก็จะติดขอบหน้าต่างโปรแกรมเล่นหนังที่เราใช้อยู่นั่นเอง ต้องเอามา crop ตัดส่วนที่ไม่ต้องการก่อนนำไปใช้อีก หลายๆภาพก็เล่นเอาเหนื่อยไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

นี่ครับ .... ปกติเวลาเขียน blog ผมเอาโปรแกรม Faststone Capture จับภาพ (ตอนนี้เวอร์ชัน 6.3 แล้ว ไปโหลดได้ที่นี่ครับ >>> //rapidshare.com/files/155199484/FastStone.Capture.v6.3.rar) ถึงแม้จะเลือกให้จับภาพเฉพาะหน้าต่างที่เราต้องการได้ก็ตาม ยังไงก็ออกมาในสภาพนี้อยู่ดี

คนข้าง blog : โง่นี่
gappaman : ทำไมวะ?
คนข้าง blog : ไม่อยากให้มีขอบหน้าต่าง .... ก็เปิดหนังให้เป็น full screen ก่อนจับภาพสิวะ
gappaman : เอ็งนั่นแหละโง่ ....
คนข้าง blog : อ้าว ?
gappaman : กูลองแล้ว สมมุติหน้าจอ notebook กู 1280 x 800
คนข้าง blog : เออ .....
gappaman : เปิดหนังเต็มจอ อาจจะไม่เต็มจอจริงๆ ขนาดลดมาหน่อย แต่ก็ยังใหญ่อยู่ดี จริงเปล่า?
คนข้าง blog : ใช่
gappaman : ทีนี้พอจับภาพออกมา ขนาดภาพเป็นไง?
คนข้าง blog : ใหญ่
gappaman : แม่นแล้ว .... แถมพอมันใหญ่ ขนาดไฟล์ก็เยอะ มึงคงไม่เอาภาพขนาด 1000 x 700 กว่าพิกเซลไปใช้งานทันทีเลย ถูกไหม?
คนข้าง blog : ถูก
gappaman : แล้วมึงต้องทำไงต่อ ....
คนข้าง blog : resize รูป
gappaman : เสียเวลาไหม?
คนข้าง blog : เสีย
gappaman : เออ ....
คนข้าง blog : …………
gappaman : แล้วใครโง่?
คนข้าง blog : กู .... อุ๊บ !!!!
gappaman : นั่นไง

จริงๆแล้วจะเปิดหนังให้เต็มจอก่อนค่อยจับภาพก็ได้ ถ้าไม่อยากมานั่งลบกรอบหน้าต่างทีหลัง แต่หากจะทำอย่างนั้นเวลาจับภาพก็ต้องเหนื่อยกับการทำให้หนังเป็นโหมดเต็มจอตลอดเวลา เพราะเท่าที่ลองดูแล้วมันจะเด้งออกจากโหมดเต็มจอทุกครั้งที่จับภาพ

โอ๊ะ !!!!

เดี๋ยวก่อนครับ ..... เริ่มนึกอะไรขึ้นมาได้แล้ว ผมด่วนสรุปเร็วไปหน่อย ข้อมูลข้างต้นที่เขียนขึ้นมาทั้งหมดนี่ผมเอามาจากประสบการณ์ใช้งานของโปรแกรมดูหนังที่ผมใช้ประจำในเครื่องนะครับ คือ Media Player Classic โดยที่ไม่ได้ทดสอบกับโปรแกรมเล่นหนังของค่ายอื่นๆเลย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย (เผอิญว่า blog ตอนนี้ไม่ได้เขียนแบบรวดเดียวจบเลยมีเวลาตกตะกอนความคิด) แต่ครั้นจะไปแก้เนื้อหาทั้งหมดเสียใหม่ก็ขี้เกียจเกินไปแล้ว เลยตามเลยก็แล้วกันนะ

หลังจากทดสอบกับโปรแกรมเล่นหนังอื่นๆแล้ว .... มีข่าวร้ายจะแจ้งให้ทราบครับ คือทั้ง Power DVD (version 6.0) กับ Window Media Player 11 ที่อยู่ในเครื่องของผม พบว่าไม่สามารถใช้โปรแกรมจับภาพเก็บภาพในหนังออกมาเลย โดยจะติดมาแค่กรอบหน้าต่างของโปรแกรม แต่ส่วนที่ใช้แสดงภาพจะมืดสนิท ไม่มีอะไรเลย

ฉะนั้นแล้ว จากข้อมูลที่มีในมือตอนนี้ หากต้องการจับภาพจากหนัง(ใครจะเอาไปทดสอบกับโปรแกรมจับภาพหรือโปรแกรมเล่นหนังอื่นๆ ผมฝากด้วยแล้วกันนะครับ มัวแต่ทดลอง ไม่ได้เขียนกันพอดี แล้วอย่าลืมมารายงานผลกันบ้างนะ) ให้ใช้ Media Player Classic เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดครับ

Media Player Classic หาได้จากที่ไหน?

โหลดเอาได้ที่นี่เลยครับ K - Lite Codec pack <<< ไหนๆจะโหลดแล้วทั้งทีก็เอาไปพร้อมกับ codec ต่างๆเลย codec ..... ถ้าจะอธิบายง่ายๆมันก็คือโปรแกรมเสริมที่สามารถทำให้โปรแกรมเล่นหนังของเรารู้จักชนิดไฟล์หนังได้หลากหลายมากขึ้น ขาดไม่ได้เลยสำหรับคอหนังประเภทโหลดมาดูเอาจากที่ต่างๆ เพราะประเภทของไฟล์มีร้อยแปดพันเก้า แต่คอหนังแผ่น ซื้อมาดูประจำอาจจะไม่จำเป็น เพราะชนิดไฟล์มันเป็นแบบมาตรฐานอยู่แล้ว

จากนั้น ระหว่างที่ install มันจะถามเราว่า จะให้ลงโปรแกรมในเครื่องเต็มรูปแบบมากน้อยแค่ไหน จริงๆแล้วเลือกให้เป็นแค่ default ก็พอแล้ว แต่ถ้าจะเอาให้ชัวร์ชนิดที่ไม่ว่าเจอกับไฟล์หนังประเภทไหนก็สามารถเปิดดูได้ (เขาว่ากันว่าครอบคลุมถึง 99 % เชียวนะ) ก็เลือกแบบ lot of stuffs ไปเลยก็ได้

เสร็จแล้ว ก่อนที่จะเปิดหนังด้วย Media Player Classic ที่ได้มา เราต้องปรับ option กันก่อนนะครับ

ปรับให้ได้อย่างในภาพข้างล่างนี้นะครับ เสร็จแล้วก็เล่นหนังที่ต้องการจะจับภาพได้เลย Media Player Classic นี่ผมชอบอยู่อย่างตรงที่อยากจะหยุดหนังตรงไหนเพื่อจับภาพ ก็สามารถคลิกที่จอภาพได้โดยตรง ไม่ต้องมานั่งหาปุ่ม pause ให้เสียเวลา แม้ว่าการแสดงภาพจะค่อนข้างธรรมดาไปเมื่อเทียบกับ Power DVD ที่ภาพในหนังจะออกมามีสีสันสดใสและสวยกว่าก็ตาม แต่ถ้าไม่คิดมากอะไรมันก็ไม่เป็นไรหรอก

หลังจากหยุดภาพตรงฉากที่เราต้องการแล้ว ก็ให้ไปที่คำสั่ง File >>> Save Image หรือจะกด Ctrl + I บนคีย์บอร์ดก็ได้ จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้เราเลือกที่ๆจะ save รูป แนะนำให้กดคีย์ลัดจะดีกว่าหากกำลังดูหนังเต็มจออยู่จะได้ไม่เสียอารมณ์ ขนาดของรูปที่ได้จะเท่ากับขนาดของหนังที่เปิดมาตอนแรกสุด (ยังไม่เข้าโหมดเต็มจอ)

เรียบร้อยครับ สำหรับคอวิจารณ์หนังทั้งหลาย แค่นี้ก็สามารถทำภาพประกอบบทวิจารณ์หนังของตัวเองกันได้แล้ว

ที่เหลือนี่เป็น fan service แล้วกันนะครับ เอาภาพน้อง Sora Aoi มาฝากจากในหนังเรื่องต่างๆ

หนังอะไรน่ะเหรอ? รู้ๆกันอยู่แล้วล่ะน่า 5555+ (บนสุด : Reon Kadena)

คอมเมนต์ที่นี่

Create Date : 22 มกราคม 2552

0 comments

Last Update : 24 มกราคม 2552 14:45:24 น.

Counter : 9211 Pageviews.