ไก่เมืองน่าน...เรียงร้อยเรื่องราว
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
12 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

มะรุม...มีดียิ่งกว่าแกงส้มมะรุม




"แนะนำหนังสืออ่านเพิ่มเติม"

เกริ่นนำ..
คุณพ่อเป็นคนชักนำให้ทาน เพราะท่านทานแล้วสุขภาพดีขึ้น รวมถึงคนในครอบครัวเราด้วย เพื่อนๆที่รู้จักกันดี จะรู้ว่าดิฉันเป็นคนมีโรคเยอะ ไม่อยู่ที่บ้านก็ร.พ. ปกติซื้อเขาทาน แต่เห็นว่าอาการของตนเองดีขึ้นมาก น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้ด้วย คิดราคาเกือบทุน เพื่อทุกคนจะได้หมดทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บและสุขภาพดี ด้วสมุนไพรไทย หลังจากตนเองรักษาโรคภูมิแพ้มานาน 8 ปี (ค่ารักษาเดือนละประมาณ 20,000) ตอนนี้ทานมะรุมแคปซูลในราคาจิ๊บๆ อยากให้ลองกันนะคะ ลูกสาว"ยัยเกรซ"ก็ทานทุกวันค่ะ

"นี่เป็นคำยืนยันจากผู้ใช้ท่านหนึ่ง"


"ผงใบมะรุม"


"ดอกมะรุม"

"มะรุม" มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Moringa oleifera Lam. วงศ์ Moringaceae เป็นพืชกำเนิดแถบใต้เชิงเขาหิมาลัย เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลางที่ถูกปลูกไว้ในบริเวณบ้านไทยมาแต่โบราณ ต้นมะรุมพบได้ ทุกภาคในประเทศไทย เป็นพืชผักพื้นเมืองของไทยมาตั้งแต่โบราณแล้ว ภาคเหนือเรียก “มะค้อนก้อม” ภาคอีสานเรียก “ผักอีฮุม” เป็นต้นไม้ขนาดกลาง ทรงต้นโปร่งใบเป็นแบบขนนก คล้ายใบมะขามออกเรียงสลับกัน ดอกออกเป็นช่อสีขาว กลีบดอกมี 5 กลีบ ผลเป็นฝักยาว 20-50 ซม. เปลือกผลเป็นสีเขียว เมล็ดเป็นรูปสามเหลี่ยม มะรุมเป็นพืชที่ปลูกง่ายบนดินทั่วไปที่น้ำไม่ท่วมขัง, ปลูกเป็นพืชตามหัวไร่ปลายนา ตามที่ว่าง ตามรั้ว หรือปลูกเป็นแปลงพืชผักชนิดยืนต้น ปลูกแซมในป่าชุมชน สวนป่าของโรงเรียน สวนป่าของวัด และสวนป่าอาหารสัตว์โลก
เผยคุณสมบัติสมุนไพร “มะรุม” บำบัดโรคกว่า 300 ชนิด ทั่วโลกให้ความสนใจ ขณะที่คนไทยยังไม่รู้ค่า ล่าสุด ผู้ประกอบการรวมตัวนำมะรุมใส่เทคโนโลยียุคใหม่ หวังสร้างชื่อสู่สากล



ดร.หทัยกาญจน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ในฐานะที่ปรึกษาด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์สารสกัดสมุนไพร บริษัท H.C Herb-Club (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มะรุม หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Moringa oleifera Lam. จากผลงานวิจัยของประเทศเยอรมัน ซึ่งถือเป็นชาติผู้นำด้านการสกัดสารจากสมุนไพรระบุว่า มะรุมมีคุณสมบัติช่วยบำบัดโรคได้กว่า 300 ชนิด โดยเฉพาะโรคสำคัญๆ ของมนุษย์ เช่น โรคมะเร็ง โรคขาดสารอาหาร และโรคเอดส์ เป็นต้น

คุณค่าทางอาหารของมะรุม
มะรุมเป็นพืชมหัศจรรย์ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุด กล่าวถึงในคัมภีร์ใบเบิ้ลว่าเป็นพืชที่รักษาทุกโรคใบ มะรุมมีโปรตีนสูงกว่านมสด 2 เท่า การกินใบมะรุมตามชนบทของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศโลกที่ 3 เป็นการเพิ่มโปรตีนคุณภาพสูงราคาถูกให้กับอาหารพื้นบ้าน นอกจากนี้ มะรุมมีธาตุอาหารปริมาณสูงเป็นพิเศษที่ช่วยป้องกันโรค นั่นคือ
วิตามินเอ บำรุงสายตามีมากกว่าแครอต 3 เท่า
วิตามินซี ช่วยป้องกันหวัด 7 เท่าของส้ม
แคลเซียม บำรุงกระดูกเกิน 3 เท่าของนมสด
โพแทสเซียม บำรุงสมองและระบบประสาท 3 เท่าของกล้วย
ใยอาหารและพลังงานไม่สูงมากเหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก

จากอาหารมาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นผลิตชาใบมะรุมออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบุว่าใช้แก้ไขปัญหาโรคปากนก กระจอก หอบหืด อาการปวดหูและปวดศรีษะ ช่วยบำรุงสายตา ระบบทางเดินอาหาร และช่วยระบายกาก
ประเทศอินเดีย หญิงตั้งครรภ์จะกินใบมะรุมเพื่อเสริมธาตุเหล็ก ประเทศฟิลิปปินส์และบอสวานา หญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมจะกินแกงจืดใบมะรุม(ภาษาฟิลิปปินส์ เรียก “มาลังเก”) เพื่อประสะน้ำนมและเพิ่มแคลเซียมให้กับน้ำนมแม่เหมือนกับคนไทย

ชะลอความแก่
กล่าวกันว่ามะรุมมีฤทธิ์ชะลอความแก่ เนื่องจากยังไม่พบรายงานการวิจัยเกี่ยวกับมะรุมในด้านนี้ คาดว่าเป็นการสรุปเนื่องจากมะรุมมีสารฟลาโวนอยด์สำคัญคือ รูทินและเควอเซทิน (rutin และ quercetin)สารลูทีนและกรดแคฟฟีโอลิลควินิก (lutein และ caffeoylquinic acids)ซึ่งต้านอนุมูลอิสระ ดูแลอวัยวะต่างๆ ได้แก่ จอประสาทตา ตับ และหลอดเลือดจากการเสื่อมสภาพตามอายุ การกินสารต้านอนุมูลอิสระชะลอการเสื่อมสภาพในเซลล์ร่างกาย

ฆ่าจุลินทรีย์
สารเบนซิลไทโอไซยาเนตโคไซด์และเบนซิลกลูโคซิโนเลตค้นพบในปี พ.ศ. 2507 จากมะรุมมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ สนับสนุนการใช้น้ำคั้นจากมะรุมหยอดหูแก้ปวดหู ปัจจุบันหลังจากค้นพบแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร Helicobactor pylori กำลังมีการศึกษาสารจากมะรุมในการต้านเชื้อดังกล่าว

การป้องกันมะเร็ง
สารเบนซิลไทโอไซยาเนตไกลโคไซด์ชนิดหนึ่งและสารไนอาซิไมซิน(niazimicin) จากมะรุมสามารถต้านการเกิดมะเร็งที่ถูกกระตุ้นโดยสารฟอบอลเอสเทอร์ในเซลล์ มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ การทดลองในหนูพบว่าหนูที่ได้รับฝักมะรุมเป็น อาการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังจากการกระตุ้นน้อยกว่ากลุ่มทดลอง โดยกลุ่มที่กินมะรุมเนื้องอกบนผิวหนังน้อยกว่ากลุ่มควบคุม

ฤทธิ์ลดไขมันและคอเลสเทอรอล
จากการทดลอง 120 วัน ให้กระต่ายกินฝักมะรุม วันละ 200 กรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวันเทียบกับยาโลวาสแตทิน 6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวต่อวันและให้อาหารไขมันมาก

พบว่าทั้งกลุ่มที่กินมะรุมและยามีคอเลสเทอรอลฟอสโฟไลพิดไตรกลีเซอไรด์ VLDL LDL ปริมาณคอเลสเทอรอลต่อฟอสโฟไลพิดและ atherogenic index ต่ำลงทั้ง 2 กลุ่มมีการสะสมไขมันในตับหัวใจ และท่อเลือดแดง (เอออร์ตา) กลุ่มควบคุมปัจจัยด้านการสะสมไขมันในอวัยวะเหล่านี้ไม่มีค่าลดลงแต่อย่างใด กลุ่มที่กินมะรุมพบการขับคอเลสเทอรอลในอุจจาระเพิ่มขึ้น ผู้วิจัยจึงสรุปว่าการกินมะรุมมีผลลดไขมันในร่างกาย ที่ประเทศอินเดียมีการใช้ใบมะรุมลดไขมันในคนที่มีโรคอ้วนมาแต่เดิม การศึกษาการกินสารสกัดใบมะรุมในหนูที่กินอาหารไขมันสูงมีปริมาณคอเลสเทอรอลในเลือดลดลงอย่างมีนัยสำคัญเทียบกับกลุ่มควบคุม นอกจากนี้กลุ่มทดลองมีปริมาณไขมันในตับและไตลดลง

สรุปว่าการให้ใบมะรุมเพื่อลดปริมาณไขมันทางการแพทย์อินเดียสามารถวัดผลได้ในเชิงวิทยาศาสตร์จริง

ฤทธิ์ป้องกันตับ
งานวิจัยการให้สารสกัดแอลกอฮอล์ของใบมะรุมกรณีทำให้ตับหนูทดลองเกิดความเสียหาย โดยยาไรแฟมไพซิน พบว่าสารสกัดใบมะรุมมีฤืธิ์ป้องกันตับ โดยมีผลกับระดับเอนไซม์แอสาเทตอะมิโนทรานสเฟอเรสอะลานีนทรานมิโนทรานสเฟอเรส อัลคาไลน์ฟอสฟาเทสและบิลิรูบินในเลือดและมีผลกับปริมาณไลพิดและไลพิดเพอร์ออกซิเดสในตับ โดยดูผลยืนยันจากการตรวจชิ้นเนื้อตับ สารสกัดใบมะรุมและซิลิมาริน (silymarin กลุ่มควบคุมบวก)มีผลช่วยการพักฟื้นของการถูกทำลายของตัวจากยาเหล่านี้

ชาวอินเดียยังได้ทำการทดลองและเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆได้ถึง 300ชนิด


กลุ่มองค์การกุศลมากมายได้หันมาให้ความสนใจอย่างจริงจังกับ พันธุ์ไม้ชนิดนี้ รวมทั้งประเทศไทยกลุ่มนักศึกษาแพทย์จำนวน25ท่านจากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ได้ ทำการทดลองวิจัยในการที่จะนำมารักษาผู้ป่วยด้วย

โรคงูสวัด

กลุ่มประเทศอื่นๆเช่นอังกฤษ,เยอรมัน,รัสเซีย,ญี่ปุ่น,จีน,ก็หันมาให้ความสนใจและทำการค้นคว้าอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นโรค มะเร็ง เบาหวาน โรคเอดส์ และอีกมากมาย

จากงานวิจัยจากต่างประเทศ
1. ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิด ถึง 10 ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอด ได้เป็นอย่างดี
2. ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ ทำให้สามารถลดการใช้ยาลงโดยความเห็นชอบและการดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ผู้ รักษาด้วย
3. รักษาโรคความดันโลหิตสูง
4. ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายถ้าแม้ทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์เด็กที่เกิดมาจะไม่ติดเชื้อHIV นอกจากนี้ยังช่วยให้คนทั่วๆไป สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองถ้ารับ ประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้ง
5. ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะควบคุมได้และสามารถมีชิวิตอยู่อย่างคนทั่วไปได้ในสังคมการรักษาโรคเอดส์ที่ประสพผลสำเร็จในกลุ่มประเทศอาฟริกา แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาก็กำลังอยู่ในภาวะทดลอง
6. ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็งแต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์ แผนปัจจุบัน หากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการรักษาด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีร่างกายที่แข็งแรง
7. ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊า โรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม
8. รักษาโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็นโรคตาต้อ เป็นต้นถ้ารับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์
9. รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง โรคพยาธิในลำไส้ เป็นต้น
10. รักษาปอดให้แข็งแรง รักษาโรคทางเดินของลมหายใจ และโรคปอดอักเสบ

ในต่างประเทศมีการค้นคว้า และวิจัยอย่างกว้างขวางที่จะนำพืชชนิดนี้มาใช้รักษาความเจ็บป่วยของมนุษย์ เนื่องจากมะรุมเป็นพืชที่มีธาตุอาหารปริมาณสูงมาก

ใบ ช่วยแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ ใบสดมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ มีแคลเซียม วิตามินซี แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก นอกจากนี้ยังมีการค้นพบว่า ใบมะรุมมีโปรตีนสูงกว่านมสด 2 เท่า การกินใบมะรุมตามชนบทของประเทศกำลังพัฒนา และประเทศโลกที่ 3 เป็นการเพิ่มโปรตีนคุณภาพสูงราคาถูกให้กับอาหารพื้นบ้าน

เนื้อในเมล็ดมะรุม ใช้แก้ไอได้ดี มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก การรับประทานเนื้อในเมล็ด และใบสดเป็นประจำสามารถเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายได้ เมล็ด สามารถนำเมล็ดมะรุมมาสกัดน้ำมัน น้ำมันมะรุม (Ben Oil)
สรรพคุณ.. ใช้หยอดจมูกรักษาโรคภูมิแพ้ ไซนัสโรคทางเดินหายใจ ใช้หยอดหูฆ่าและป้องกันพยาธิในหู รักษาอาการเยื่อบุหูอักเสบ รักษาโรคหูน้ำหนวก ใช้ทาผิวหนังรักษาโรคผิวหนังจากเชื้อราและเชื้อไวรัส รักษาโรคเริม งูสวัด รักษาและบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ใช้ทารักษาแผลสด หูด ตาปลา ใช้ถูนวดบรรเทาอาการบริเวณที่ปวดบวมตามข้อ รักษาโรคไขข้ออักเสบ เก๊าท์ รูมาติก เป็นต้น



เนื่องจากมะรุมเป็นพืชสมุนไพรกลางบ้านดังนั้นการให้ผลย่อมช้ากว่ายาแผนสมัย ใหม่การที่จะใช้ให้ได้ผลอย่างจริงจังต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือนและต้องใช้ติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอจะให้ผลเป็นที่น่าพอใจร่างกายจะแข็ง แรงอยู่เสมอ คน ธรรมดาที่ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคก็สามารถใช้ได้เพื่อป้องกันตัวเองจากการติด เชื้อต่างๆ สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเป็นอย่างดียิ่ง

มะรุมยังมีคุณประโยชน์อีก มากมายซึ่งไม่สามารถที่จะนำมาอ้างอิงได้หมดในที่นี้ หากสนใจท่านสามารถหาอ่านได้จากเอกสารอ้างอิงกำกับท้ายเอกสารฉบับนี้ เพื่อใช้ประโยชน์ได้มากมายเช่นใช้ทำอาหารได้ รักษาโรคปวดตามข้อ โรคเก๊า รักษาโรครูมาติซั่ม และรักษาโรคผิวหนัง แก้ผิวแห้ง ใช้แทนยารักษาผิวให้ชุ่มชื้น รักษาโรคอันเกิดจากเชื้อรา

เอกสารอ้างอิง:

Nature’s Medicine Cabinet by Sanford Holst The Miracle Tree by Lowell Fuglie LA times March 27th 2000 article wrote by Mark Fritz. //www.PUBMED.GOV. (Search for Moringa) (Antiviral Research Volume 60, Issue 3, Nov. 2003, Pages 175-180: Depts. of Microbiology, Pharmaceutical Botany, Pharmacology, Faculty of Pharmaceutical Science, Chulalongkorn University, Bangkok.

นิตยสารหมอชาวบ้านปีที่ 29 ฉบับที่ 338 มิถุนายน 2550



แนะนำใบมะรุมแคปซูลที่ปลอดภัย "นี่ก็คำยืนยันจากผู้ใช้อีกท่านหนึ่ง"

"คือว่าพอดีที่บ้าน (ของคุณตา) มีต้นมะรุมหลายต้นเลยค่ะ และครอบครัวเราก็ทำทานเอง และแจกจ่ายญาติพี่น้อง....และมันก็ดีเกินคาดค่ะ แม่ของดิฉันเคยเส้นยึดมากๆ ก้มตัวไม่ได้ พอได้ทานผงมะรุมแล้ว ตอนนี้ก้มตัวได้เส้นไม่ยึดแล้ว

แถมคุณยายที่เป็นโรคหัวใจโต และไขมันในเลือดสูง ทานไปได้แค่เดือนเดียว ไปตรวจที่โรงพยาบาล คุณหมอบอกว่าหัวใจเป็นปกติและไม่โตแล้ว ไขมันในเลือดก็ลดลงด้วย ตอนนี้คนเฒ่าคนแก่ในครอบครัวของดิฉันเจ็บป่วยน้อยลง และมีความสุขขึ้นมาก เพราะไม่ค่อยมีโรคภัยมาเบียดเบียนมากมายเหมือนแต่ก่อนค่ะ พอข่าวแพร่ไปปากต่อปาก ก็มีคนมาขอซื้อที่บ้านเลยค่ะ พี่ชายข้างบ้านมาเอาไปทาน ปรากฎว่าหายจากหอบหืดค่ะ แต่ที่น่าดีใจที่สุดคือคุณน้าข้างบ้าน เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เจ็บปวดทรมานมาก แม่ของดิฉันเลยลองเอาไปให้ทาน ลองทานอยู่ประมาณ2เดือน คุณน้าคนนี้บอกว่าเค้าเจ็บปวดน้อยลงมากจากที่เคย ทำให้มีกำลังใจขึ้นมามาก ถึงจะไม่หายแต่ก็ไม่ทรมานเหมือนแต่ก่อนค่ะ ดีใจด้วยจริงๆ

ตอนนี้มีคนมาขอซื้ออยู่ไม่ขาด เราเลยทยอยปลูกเพิ่มมากขึ้น เพราะแม่ดิฉันมีความสุขมากๆ เลยค่ะที่ได้มีส่วนช่วยให้คนอื่นไม่เจ็บไข้ได้ป่วย และได้บอกผ่านความรู้อันนี้ เหมือนอย่างตอนที่เราได้รับมาอีกที ตอนนี้ที่สวน(ของคุณตา) เราปลูกมะรุมไว้ประมาณ 30 กว่าต้น โตไล่กันมาเลยค่ะ และ
จะทยอยปลูกต่อไปเรื่อยๆเพื่อให้คนอื่นๆได้มีโอกาสทานบ้างค่ะ

ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นแบบโฮมเมดค่ะ วิธีทำของเรา เป็นแบบ ออแกนิกส์ทุกขั้นตอนเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่การปลูก ดูแลรักษา เราใช้ปุ๋ยชีวภาพ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงเลยค่ะ เราเก็บใบล้วนๆ รูดก้านออกจนหมด ล้างด้วยน้ำด่างทับทิม แล้วตากเย็น ทุกกรรมวิธีไม่ผ่านความร้อนเลยค่ะ ตัวผง
และแคปซูลเราเก็บแบบทึบแสง เพื่อให้คงคุณค่าไว้ให้ได้มากที่สุดค่ะ เพราะเราทำทานเองเป็นหลักนี่เอามาโชว์ให้ดูเลย"


"ใบมะรุมบรรจุแคบซูล"


"เม็ดมะรุมแห้ง อีกตัวยาสำคัญ"

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "มะรุมรักษาโรค" เข้ามาเวปนี้เลยครับ

//www.oknation.net/blog/normalcode/2008/09

//www.khonmuang.com/BB/viewtopic.php?f=3&p=37069







 

Create Date : 12 มีนาคม 2552
5 comments
Last Update : 30 มีนาคม 2553 11:21:13 น.
Counter : 5501 Pageviews.

 

อืมม ...เคยได้ยินสรรพคุณมานานแล้วค่ะ เพิ่งทราบว่ามีแบบอัดเม็ดขายด้วย สนใจมากเลยค่ะ ถ้าสนใจทานจะหาซื้อได้ที่ไหนล่ะคะ

 

โดย: ธิดาดอง 12 มีนาคม 2552 9:03:31 น.  

 

แหะๆ มะรุมคืออารายยยยย
เค้ามะยู้จัก

 

โดย: funkylady 12 มีนาคม 2552 12:02:37 น.  

 

ถ้าสนใจอยากสั่งซื้อ จาต้องทำงัยค่ะ

 

โดย: เด็กเมืองเก่า IP: 125.24.143.46 12 มีนาคม 2552 19:55:13 น.  

 

ส่วนใหญ่มะรุมแคบซูลที่ทำขายกัน จะไม่บอกว่ามีส่วนผสมอะไรกันบ้าง เพราะลักษณะที่ดูแล้วไม่เหมือนกับที่เราทำทานเองเลย สีออกขาวตุ่นๆ บ้าง เขียวอ่อนซีดๆ บ้าง ดูส่วนผสมที่ระบุข้างขวดหรือซอง ก็ไม่บอกว่าใช้ส่วนไหน บอกแค่ว่า มะรุม ฉะนั้นผมแนะนำให้ทำไว้ทานกันเองดีกว่าสะอาดมั่นใจได้ของแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ครับ

 

โดย: ไก่เมืองน่าน 2 มกราคม 2553 13:12:04 น.  

 

เคยได้ยินสรรพคุณมาบ้างแต่ไม่คิดว่าจะเยอะอย่างนี้สนใจอยากสั่งซื้อบ้างต้องทำใงพอดีเพิ่งเปิดเจอ

 

โดย: คนลำปาง IP: 125.27.105.252 10 มกราคม 2555 7:39:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


gaigook2519
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับผมน้องใหม่ มีเรื่องราวหลากหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคนวัยทรงจำ (2519-2520) มาเล่าสู่กัน ติดตามผลงานผมได้เรื่อยๆ นะคับ มีสาระน่ะขอบอก
Friends' blogs
[Add gaigook2519's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.