เทพนิยายตอนจบ
18 ต.ค.52 สนามกีฬากลางเทศบาลหนองปรือ พัทยา ยูไนเต็ด 2-1 จุฬา ยูไนเต็ด
ผมเคยผ่านบทจบที่แสนเศร้าของฟุตบอลมาแล้วหลายครั้ง
แบบที่เห็นกะตา ย้อนกลับไปวันคริสต์มาสของปี 33
วันนั้นควรเป็นเทศกาลแห่งความสุข แต่กับนักบอลสวนกุหลาบฯ...มันเป็นวันเศร้า เมื่อ 3 ทีม 3 รุ่นประสบความพ่ายแพ้ในวันเดียวกัน
ความพ่ายแพ้ช่วงเช้าของทีม 14 ปีที่ผมเป็นส่วนหนึ่งในทีมนั้นไม่ใช่ความเสียหายมากนัก
ด้วยความที่อ.สุรินทร์ เข็มเงินคุมทั้งทีม 14 ปีและทีมโค้กคัพ (15 ปี) พวกเรารุ่น 14 ปีพอเสร็จภารกิจที่สนามกกท.หัวหมากแล้วก็เลยไม่ต้องกลับไปนั่งเรียนต่อ แต่ได้ติดสอยห้อยตามมาดูทีมโค้กคัพแข่งรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่สนามศุภฯ
สวนกุหลาบฯดวลจุดโทษแพ้โรงเรียนวัดรางบัวแบบสุดช็อก อดไปเล่นรอบสุดท้าย
นักเตะชุดนั้นร้องไห้กันระงม รวมทั้งพี่เอก ฮิมสกุลซึ่งกาลต่อมาได้เป็น แฟนพันธุ์แท้บอลโลก ด้วย ภาพที่เห็นทำเอาผมพลอยเศร้า แต่กับไอ้เอก (อีกเอกนึง...ชื่อโหลจังฟะ) เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีม 14 ปีนั้นถึงกลับหลั่งน้ำตาตามรุ่นพี่ออกมา
ผมเห็นน้ำตาไม่ได้น่ะ มันบอก
เวลาไล่เลี่ยกัน ทีมรุ่น 16 ปีก็แพ้วัดสุทธิฯในรอบรองฯอะไรสักถ้วยนี่แหละ
ส่วนบทเศร้าที่เห็นผ่านจอโทรทัศน์ก็เช่น
บอลโลกปี 90 จะว่าไปแล้วก็คือปี 33 ปีเดียวกับเหตุการณ์ข้างบนนั่นแหละ ดีเอโก มาราโดนาถึงกับปล่อยโฮออกมาหลังจบเกมนัดชิงฯที่แพ้เยอรมัน (ตะวันตก)
ตอนนั้นยังไม่ได้เชียร์อาร์เจนตินานะ แต่เห็นนักเตะมหัศจรรย์ระดับโลกร้องไห้แบบนี้ ผมก็พลอยเศร้าไปด้วย...
บทจบของจุฬา ยูไนเต็ดในปี 52 ถูกกำหนดขึ้นในวันอาทิตย์สุดสัปดาห์ที่พัทยา
Believe คำสั้น ๆ แต่มีความหมายยิ่งใหญ่
บทสุดท้ายของขุนพลจุฬา ยูไนเต็ดรออยู่ที่พัทยา
แต่ก่อนจะถึงบทอวสาน ผมขอเล่าย้อนความกลับไปตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์...
หลังจากตัดต่อสารคดีเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 5 เสร็จตอนเกือบตี 1 ผมขอตัวกลับบ้านไปก่อน ใครจะเชื่อว่าหลังจากนั้นดันมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นในบริษัทนั้น
เมื่อหุ้นส่วนใหญ่ 2 คนกลับมาจากประชุมนิสิตเก่าเพื่อมาคุมน้อง ๆ (ที่ผมชิ่งหนีไป) ทำเปเปอร์พรีเซนต์รายการโทรทัศน์เพื่อนำเสนอช่องไทยพีบีเอส โดยมีรุ่นพี่ซึ่งเป็น 1 ในผู้ปลุกปั้นกองเชียร์ Pink Panther ติดสอยห้อยตามมาด้วย
ดึกขนาดนี้ แน่นอนว่าทุกคน แอ๋ กลับมาแล้วแหละ
ต่อไปนี้คือคำให้การของน้อง ๆ ในบริษัท
พี่เขาสอนผมเต้นเพลงเอ็นกูลู ผมก็ต้องร้อง เอ็นกูลู ลู ลู เอ็นกูลูไม่เสียประตู แล้วก็เต้นไปด้วย น้องตัดต่อเล่า
จำได้ว่าคืนนั้นได้ยินแต่มาริโอ ๆ อะไรนี่แหละ น้องครีเอทีฟเสริม
มาริโอที่น้องเค้าได้ยินคือ เพลงเชียร์เนโต ที่ถือกำเนิดขึ้นหลัง เพลงเชียร์เอ็นกูลู ไม่นาน แต่อยู่ระหว่างทางกลับกรุงเทพฯหลังแม็ทช์ฉกแต้มจากชลบุรีได้เหมือนกัน เพลงนั้นมีเนื้อว่า
Mario Mario Mario Neto. When he gets the ball, we get the goal. Mario Neto
พี่ว่าดีนะ เราควรมีเพลงเชียร์แบบนี้เยอะ ๆ มันเป็นเพลงที่ง่าย ได้ยินแป๊บเดียวก็ร้องได้แล้ว หุ้นส่วนคนที่อาวุโสที่สุดสรุปในที่ประชุมหลังคืนเกิดเหตุนั้น 3 วัน
ผมบอกหรือยังครับว่า...ประชุมที่ว่าคือประชุมเกี่ยวกับงานของบริษัทนะ
แฟน ๆ Pink Panther เดินทางไปเชียร์ถึงพัทยา
มุมด้านหน้า
และอีกมุมหนึ่ง
ด้วยความที่พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยว แก๊งค์เด็กคณะผมจึงออกเดินทางไปปักหลักกันก่อน บ้างก็คืนวันศุกร์ บ้างก็บ่ายวันเสาร์ ส่วนผมนั้นยังทำงานไม่เสร็จจึงขอเดินทางไปร่วมกับรถบัสของกองเชียร์บ่ายวันแข่ง
ก่อนไป ผมค้นหนังสือเก่า ๆ กะจะหามุกเพื่อใช้เป็นธีมของการเขียน Review TPL ฤดูกาลนี้เป็นตอนสุดท้ายซะหน่อย แล้วก็ไปเจอการ์ตูนโดเรมอนเล่มนึง
แย่ละสิ ยัยนี่มาเยี่ยมบ้านอีกแล้ว โนบิตะตกใจพร้อมกลับรีบวิ่งออกจากบ้านทันที ทำเอาโดเรมอนถึงกับงง
อะไรของโนบิตะนะ แค่เด็กคนเดียวต้องหนีด้วย
สักพักคุณแม่พา ยัยนี่ มาหาโดเรมอนพร้อมกับฝากฝังว่า
เดี๋ยวแม่จะคุยกับแม่ของหนูคนนี้ ฝากโดเรมอนดูแลหนูคนนี้ให้ด้วยนะ
เด็กหญิงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าให้โดเรมอนอ่านนิทานเล่มหนึ่งให้ฟัง
มีธิดาเงือกแสนสวยอยู่คนหนึ่ง ทั่วท้องสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ไม่มีผู้ใดจะมีเสียงอันไพเราะเกินนางเงือกน้อยผู้นี้
วันหนึ่งเกิดพายุฝนกระหน่ำท้องทะเลปั่นป่วน เจ้าชายรูปงามแห่งเมืองนั้นพลัดตกทะเลไป
ธิดาเงือกได้ช่วยชีวิตเจ้าชายเอาไว้และจากไปอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับหัวใจของนางที่หลงรักเจ้าชายที่ได้ช่วยชีวิตไว้
ธิดาเงือกยอมแลกเสียงของนางกับขาเพื่อจะได้เป็นเช่นดังคนธรรมดา
แต่หลังจากนั้นเจ้าชายเกิดไปอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเมืองข้างเคียงเข้าพอดี ทิ้งธิดาเงือกให้เศร้าอยู่เพียงลำพัง
ความเสียใจอย่างสุดซึ้งทำให้ธิดาเงือกกลับคืนสู่ท้องสมุทร หายตัวกลายเป็นฟองทะเลไป
แง...ฮือ หนูน้อยอินกับนิทานจัด ร้องไห้เสียงดังพร้อมกับวิ่งไปหาแม่ คุณแม่ของโนบิตะไม่รู้เรื่องจึงบ่นเจ้าหุ่นแมวร่างกลมซะยืดยาว
ใช้ให้ดูแลน้อง แล้วไปทำน้องร้องไห้ทำไม? ใช้ไม่ได้เลยโดเรมอนนี่
นิทาน เจ้าหญิงเงือกน้อย เรื่องนี้ประพันธ์โดยฮานส์ คริสเตียน อันเดอเซน นักเขียนชื่อก้องโลกชาวเดนมาร์ก สิ่งที่ผมสงสัยมาตลอดก็คือ ทำไมเขาต้องจบนิทานสำหรับเด็กเรื่องนี้ (ความจริงมีอีกหลาย ๆ เรื่องด้วย) ให้เป็นแนว Tragedy ด้วยทั้ง ๆ ที่การเขียนว่า
...แล้วเจ้าชายกับเจ้าหญิงก็อภิเษกสมรสกัน แล้วอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป นั้น เขียนไม่เห็นจะยาก ผมยังเขียนได้เลย...แล้วผมก็อยากสัมผัสอารมณ์นี้หลังจบเกมที่หนองปรือด้วย ^___^
โฉมหน้าพัทยา ยูไนเต็ดคู่แข่งในนัดนี้
มิตรภาพระหว่างเกมการแข่งขัน
กองเชียร์ชุดทหารไทยของโลมามหาภัยมาถ่ายรูปร่วมกับกองเชียร์ทีมเยือน
รถบัสเคลื่อนออกจากรั้วจุฬาฯประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ วิ่งไปตามทางก่อนจะมาแวะที่ปั๊มประจำเพื่อให้แต่ละคนได้ ดื่มน้ำ...ปัสสาวะ
ผมเข้าไปเดินในมินิมาร์ท เห็นว่ามีลูกบอลชายหาดขายด้วยจึงบอกกับน้องคนหนึ่ง
น่าจะซื้อไปสักลูกนะ แล้วโยนลงไปที่หน้าประตูพัทยา เผื่อนริศจะเหวอแบบโฆเซ เรยนา ผมอ้างอิงเกมพรีเมียร์ลีก ซันเดอร์แลนด์-ลิเวอร์พูลเมื่อคืน
หลังจากปลดปล่อยและเติมพลังกันเรียบร้อย รถบัสระดับ King of Bus ก็ออกเดินทางต่อ
ท้องฟ้ามันครึ้ม มันครึ้มออกอย่างนี้ มันเหงาทุกทีที่ได้เจอ...ท้องฟ้าแบบนี้ทำให้รู้สึกเหมือนกับหกโมงเย็น ทั้ง ๆ ที่นาฬิกาชี้บอกเวลาว่าบ่ายสามกว่า ๆ เท่านั้น
อากาศแบบนี้ทำให้รู้สึกง่วงขึ้นมาทันควันหรือไม่แน่ก็ไม่ใช่เพราะอากาศหรอก อาจจะเป็นเพราะผมทำตามสุภาษิตไทยก็ได้
เข้าเมืองหนองปรือ ต้องปรือตาตาม
เรามาถึงสนามเกือบ ๆ 4 โมงเย็น ผมตรงลิ่วมาเก็บรูปบรรยากาศก่อนทั้ง 2 ทีมเดินลงสนาม
เหลือบไปเห็นเสื้อของมาสเซอร์จเด็จ มีลาภที่มีลายเซ็นนักบอลทั้งทีมเต็มตัวไปหมด ผมเกิดความสงสัยขึ้นมา...หรือจะเป็นการอำลาทีม?
เปล่าครับ...ที่นักบอลเซ็นให้ผมเหมือนการรวมพลังกันมากกว่าครับ เซอร์เด็ดอธิบาย
วันนี้พัทยา ยูไนเต็ดขอแค่เสมอก็จะอยู่รอดปลอดภัยแล้ว แต่น่าแปลกที่พวกเขาถอยนักเตะในเกมรุกลงไปเล่นแบ็กทั้งสองข้าง ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งอย่างซีเกต หมาดปูเต๊ะทางฝั่งขวาและจอมเก๋าอย่างสันติ ไชยเผือกทางฝั่งซ้าย มีนริศ ทวีกุลเฝ้าเสาอยู่ข้างหลังสมภพ นิลวงษ์และนิเวส ศิริวงค์
เขยิบขึ้นไปหนึ่งสเต็ปมีออตตรา อาตานาเซ ดาวเตะผิวดำเก็บกวาดหน้าแผงหลัง ใช้อิทธิพล พูลทรัพย์เดินเกมคู่พิชิต เกสโร
แนวรุกจากขวาไปซ้ายมีอมร ธรรมนามที่ฟอร์มกำลังแจ่มเหลือเกิน, เปาโล โอลิเวยราและวิลเลียน เมนดอนซา
ฝั่งทีมเยือนนั้นต้องชนะเพียงอย่างเดียว แต่กลับมีนักเตะติดโทษแบนถึง 3 คน เจ็บแบบลงไม่ได้อีก 1 คน ในขณะที่อารอนกับสมปอง สอเหลบก็ไม่สมบูรณ์มากนัก แต่จำต้องเข็นลงเพื่อประสานงานกันในแดนหน้า โดยมีกิตติศักดิ์ ปิ่นทองยืนทางซ้าย
แดนกลางใช้เนโตเดินเกมรุก มีชานนท์ วงษ์อารีกับวัฒนศัพท์ เจริญศรีระวังหลังให้
ส่วนแผงหลังนั้นถอยศักดา ชุติภัคพงศ์ลงไปเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟชั่วคราวคู่กับนันทพล พิบูลย์พล แบ็กขวา-ซ้ายคู่เดิม ประสิทธิ์ เทาดีและอดุลย์ หมื่นสมาน กัปตันทีม มีฌอง-มาร์ก เอ็นกูลูรักษาประตู
ผู้ใหญ่ของพัทยา ยูไนเต็ดบอกข่าวเรื่องการอัดฉีดหากอยู่รอดได้สำเร็จ
สันติมีคนระดับวีไอพีมาใส่ปลอกแขนให้
ส่วนอดุลย์ใช้รุ่นน้องอย่างอดิศักดิ์
เสื้อเซอร์เด็ดที่เต็มไปด้วยลายเซ็นนักบอลในทีม
อดุลย์เดินนำหน้าลูกทีมลงสนาม ส่วนสันติเดินช้าไปหน่อย
เนโต, อารอนและธงชาติบราซิล
ขุนพลเสือสามย่านรวมใจ สู้ตาย!
สมปองแม้จะไม่สมบูรณ์แต่กลับเล่นเหมือนร่างกายฟิตเปรี๊ยะ ลงไปช่วยประสิทธิ์ไล่แย่งบอลมาจากเมนดอนซาได้ด้วย ก่อนจะพาบอลขึ้นมาเอง เขาอาศัยจังหวะปอยฝ้าย (ยึก ๆ ยัก ๆ) เรียกฟาวล์จากปีกซ้ายชาวบราซิลของเจ้าบ้านได้ แต่ก็ทำเอาโค้ชต้อม ณรงค์ สุวรรณโชติออกมาโวย
ปอง อย่ายากสิ
เกมไปเรื่อย ๆ แต่กลับเป็นเจ้าบ้านที่ขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 10 จากสันติ ไชยเผือกที่ยิงบอลจากตำแหน่งคอร์เนอร์
ได้ประตูเร็วแบบนี้เกมเลยดุเดือดขึ้นทันที ประสิทธิ์พยายามลากลุยทางฝั่งขวาแล้วก็โดนเมนดอนซาเกี่ยวล้มลง ทำเอาเจ้าต๋อยถึงกับลุกขึ้นมาโวยทันที แต่นักเตะแซมบ้าก็ไม่มีแหยงเหมือนกัน เพื่อน ๆ ต้องรีบเข้ามาเคลียร์กันจ้าละหวั่น
แม้จะนำ 1-0 แต่เสียงสต๊าฟโค้ชพัทยา ยูไนเต็ดยังดังอยู่เนือง ๆ
ขยัน ๆ หน่อย
จุฬา ยูไนเต็ดพยายามลุยเพื่อเอาคืน แต่ต้องยอมรับว่าวันนี้ไม่ใช่วันของพวกเขา ต่อบอลกันไม่เนียนตาเหมือนที่ผ่าน ๆ มา
ในสนามก็ทุ่มเทกันไป ข้างสนามก็บู๊ดุเดือดเหมือนกัน พี่เต็ง มนตรี เครือวัลย์ที่ปรกติไม่ค่อยออกไปโวยอะไร วันนี้ผมเห็นว่ามีลุกไปคุยกับคุณพันเลิศ ฤกษ์อุไร ผู้ตัดสินที่ 4 เหมือนกัน...เอ๊ะ! หรือว่าพี่เขาจะชอบชื่อนี้เป็นพิเศษ
...2 ดอกแล้ว ได้ยินแว่ว ๆ ท้ายประโยคที่พี่เต็งโวยแบบนี้ หรือว่าคุณพันเลิศแกจะขายดอกไม้อยู่ที่ตลาดหนองปรือก็ไม่รู้สิ
เห็นฝั่งจุฬา ยูไนเต็ดโวย ฝั่งเจ้าบ้านก็ไม่ยอมให้ผู้ตัดสินที่ 4 มีเวลาหายใจเหมือนกัน ลุกขึ้นไปทำไม้ทำมือถามทันทีว่าทำไมจังหวะที่นักเตะทีมเยือนใช้มือดึงนั้นก่อนหน้านั้น (ประมาณ 5 นาทีแล้วแหละ) ถึงไม่เป่าฟาวล์
เกมนี้ทำท่าว่าจะจบลงอย่างรวดเร็วหลังผ่านครึ่งชั่วโมงไปได้แค่ 2 นาทีเท่านั้น เมื่ออิทธิพล พูลทรัพย์ยิงซ้ำลูกที่เอ็นกูลูพยายามจะ ไม่เสียประตู ในจังหวะแรกเข้าไป...2-0 ซะแล้ว
เสือสามย่านปรับทัพทันควัน ส่งเฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ลงไปแทนชานนท์ที่ไม่สมบูรณ์และเล่นไม่ได้ตามฟอร์มของตนเอง
ผมย้ายไปถ่ายรูปอยู่หลังประตูจุฬา ยูไนเต็ดแล้วก็ได้เห็นจังหวะที่ประสิทธิ์เข้าปั๊มบอลกับเมนดอนซาอย่างหนักหน่วง เสียงนั้นดัง ปัง! ตามมาด้วยเสียงด่าของกองเชียร์เจ้าบ้านที่สาบส่งแบ็กขวาร่างเล็ก ที่ชอบให้คนอื่นเรียกเขาว่าพี่เบ็ค แต่เขาไม่ใช่คนขี้เก็ก ส่วนผมจะโดนมะเหงก ถ้ามัวแต่เขียนสระเอ็ก ^^!
ไม่นานหลังจากนั้นพัทยา ยูไนเต็ดก็เปลี่ยนสมชาย สิงห์มณีลงไปแทนเมนดอนซาทันที
ช่วงพักครึ่งผมเดินผ่านซุ้มม้านั่งสำรองโลมามหาภัย ได้ยินเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทีมคุยกัน
ต้องเปลี่ยนออกเพราะเล่นไม่เข้ากับทีมเลย แถมยังอารมณ์เสียอีก จะเสี่ยงกับใบแดงเอา...
สันติไม่ยอมให้สมปองผ่านง่าย ๆ
จังหวะได้ประตูของทีมเจ้าบ้าน
แค่ 10 นาที จุฬา ยูไนเต็ดก็ต้องกลับมาเขี่ยบอลใหม่ซะแล้ว
3 ใน 4 แผงหลังเสือสามย่านทำหน้าเครียดหลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด
นริศ ทวีกุลไม่ยอมให้บอลผ่านมือง่าย ๆ
เนโตแตะคืนให้อารอนซัด แต่ไม่เป็นประตู
เอ็นกูลูสั่งการเพื่อน ๆ
ครึ่งหลังจุฬา ยูไนเต็ดเปลี่ยนเอาอดิศักดิ์ กานูลงมาแทนอารอนที่อาการบาดเจ็บจากนัดก่อนกำเริบ และแค่ 5 นาทีเท่านั้น กานูก็โยนฟรีคิกให้มาริโอ เนโต Get the goal ให้ชาวจุฬา ยูไนเต็ดได้สำเร็จ หนึ่งประตูที่ไล่มาเพิ่มความหวังให้กับขุนพลเสือสามย่านไม่น้อย
ได้ยินโฆษกสนามแอบหลังไมค์
อุ้ย! เริ่มเสียววุ้ย (ตอนนี้ผมขยับกายมาประจำการแถว ๆ เพรสบ็อกซ์แล้ว)
เกมหลังจากนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าจุฬา ยูไนเต็ดบุก พัทยา ยูไนเต็ดโต้กลับ แต่จังหวะเสียวนั้นมีด้วยกันทั้งสองทีม ลูกโต้กลับของทีมโลมามหาภัยนั้นมักจะได้เผชิญหน้ากับแผงหลังทีมเยือนแค่ 2 คนเท่านั้นเพราะขยับขึ้นสูงกันหมด
โค้ชต้อมเริ่มหงายไพ่เล่นแล้ว ส่งไพฑูรย์ นนทะดีลงไปเสริมเกมรุกแทนวัฒนศัพท์ พร้อม ๆ กับขยับเนโตขึ้นไปค้ำรอเล่นลูกโด่ง
เซอร์เด็ดเก็บตัวสำรองไว้ใช้ท้ายเกมเพื่อใช้เวลาให้เต็มที่ ส่งรังสฤษธิ์ สุทธิสาลงไปแทนพิชิตช่วง 11 นาทีสุดท้าย แล้วก็ส่งธนา ชนะบุตรลงไปแทนอมรตอน 2 นาทีสุดท้าย
เกมในครึ่งหลังหยุดชะงักไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ผู้ตัดสินกลับทดเวลาเจ็บแค่ 5 นาทีเท่านั้น มันน้อยเกินกว่าที่จุฬา ยูไนเต็ดจะยิงได้ 2 ลูกเพื่อกลับมาชนะ
บทสรุปสุดท้ายหลังคุณประพจน์ ดิสสมศรีเป่าลมสุดท้ายผ่านนกหวีดจึงเป็นจุฬา ยูไนเต็ดที่ต้องกลับไปเริ่มต้นในดิวิชัน 1 ใหม่ในฤดูกาลหน้า
พลุที่เตรียมไว้ถูกจุดขึ้นเฉลิมฉลองให้กับเจ้าบ้านหลายลูก ท้องฟ้าดูสวยงามในช่วงเวลานั้น ส่วนสนามหญ้าเขียวขจีนั้นมีทั้งความสวยงามในอารมณ์เปี่ยมสุขของเหล่านักเตะโลมา และความหม่นหมองในอารมณ์เศร้า ๆ ของนักเตะจากสามย่าน ขณะเดียวกันแฟน ๆ ชาวพัทยาก็เฮกันลงมาไล่ล่าเสื้อของนักบอลเป็นที่ระลึก บรรยากาศคล้าย ๆ แม็ทช์ปิดฤดูกาลของกัลโชจริง ๆ ดีที่ไม่มีใครต้องเหลือแต่กางเกงใน
ช่วงหลังเราตัวเจ็บเยอะ เลยทำให้ไม่ค่อยชนะ ส่วนเกมวันนี้ก็รู้สึกดีใจมากที่ช่วยให้พัทยารอดตกชั้นได้ ปีหน้าจะได้คุมทีมต่อหรือเปล่าก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ครับ โค้ชจเด็ดเผยความรู้สึก
ก็โอเคสำหรับเกมที่เราต้องมาเล่นในบ้านเค้า โดยต้องเอาชนะอย่างเดียวด้วย เรามีตัวเจ็บตัวแบนมากมาย สู้ได้แบบนี้ก็ต้องชมนักเตะแล้วที่มีความมุ่งมั่น จะเห็นว่าเกมครึ่งหลังเราดีกว่าเค้าจริง ๆ ส่วนทีมคู่แข่งก็ต้องชมว่าเตรียมแท็กติกมาดี คนดูรู้และเห็นอยู่ว่าเป็นอย่างไร ผมไม่ขอวิจารณ์ โค้ชต้อมระบายความในใจ
ส่วนอนาคตของจุฬา ยูไนเต็ดนั้น โค้ชผู้พลิกให้เสือสามย่านมีลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาลตอบแค่ในมุมที่เขาให้ความเห็นได้ ผมเชื่อมั่นว่าถ้าเด็กชุดนี้รวมตัวกันได้อย่างนี้ เราน่าจะกลับมาได้ในปีเดียว
นักเตะจุฬา ยูไนเต็ดรวมใจกันสู้ใน 45 นาทีสุดท้ายของฤดูกาล
ช่วงเวลาก่อนเริ่มเกมครึ่งหลัง
เฉลิมศักดิ์ไล่ล่าอิทธิพล
นันทพลล้มตัวสกัดเปาโล
อดิศักดิ์โยนให้เนโตโหม่งตีไข่แตก
เนโตส่งหัวใจให้แฟน ๆ
ไพ่ใบสุดท้ายไพฑูรย์ถูกทิ้งลงไปแทนวัฒนศัพท์
อารอนประคบประหงมอาการเจ็บที่ม้านั่งข้างสนาม
อิทธิพลโยนฟรีคิกโดยมีอดุลย์กระโดดขึ้นบล็อก
สัมภาษณ์เสร็จเห็นเนโตยืนอยู่ใกล้ ๆ โดนแฟน ๆ พัทยารุมทึ้งขอเสื้ออยู่ ผมรอให้พวกเขาเสร็จธุระก่อนจึงเดินเข้าไปคุย
ฤดุกาลหน้า อยู่จุฬา ยูไนเต็ดต่อนะ ผมพ่นภาษาอังกฤษสำเนียงไทย-แต้จิ๋ว
I dont know เนโตตอบแบบนั้นก่อนจะขยายความต่อยืดยาว ระหว่างที่คุยกัน เราจับมือกันไปด้วยตลอดเวลา...ได้แต่หวังว่ามันคงไม่ใช่การจับมือร่ำลานะ
ผมคิดจะจบบทสนทนาด้วยคำว่า
โชกาดอ
อ๊ะ ๆ ไม่ได้ทะลึ่งหรือจับมือนานจนเคลิ้มอยากดูนะครับ แต่เคยมีคนบอกว่า โชกา ดอ ในภาษาโปรตุกีสแปลว่า เล่นแจ๋วว่ะ ตะหากล่ะ...แต่ก็ไม่ได้พูดไปเพราะคำนี้พอเป็นสำเนียงไทยแล้ว มันฟังดูจั๊กกะจี้ยังไงชอบกลหรือไม่แน่อาจจะเป็นเพราะผมเบนความสนใจไปที่อารอนแล้วก็ได้ เนื่องจากมีแฟน ๆ จุฬา ยูไนเต็ดมาบูม BAKA ให้เพชฌฆาตอัจฉริยะชาวบราซิลอยู่ หนึ่งในนั้นมีไอ้โด้หรือไกรที่จบจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย
มันบูม BAKA ได้ถูกเปี๊ยบทุกคำ!
พี่ฟุเหยินสอนให้ที่ระยอง แต่สอนตอนเมา ๆ นะ
สนามหญ้าวันนี้เฉอะแฉะ ผมก้มมองรองเท้าผ้าใบของตนเอง...ไม่อยากให้มันสกปรก พลางคิดไปถึงรองเท้าวิเศษของโดเรมอน...
หลังจากที่ถูกคุณแม่ดุ โดเรมอนจึงล้วงรองเท้าวิเศษออกมาจากกระเป๋าหน้าท้อง รองเท้าคู่นี้พอใส่แล้วสามารถเข้าไปในหนังสือได้
โดเรมอนเข้าไปป่วนตัวละครในนิทานและเปลี่ยนตอนจบให้สุดท้ายเงือกน้อยได้ อภิเษกกับเจ้าชายแล้วอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป
ถ้ามีรองเท้าวิเศษ ผมก็อยากเข้าไปเปลี่ยนตอนจบที่แสนเศร้าของจุฬา ยูไนเต็ดเหมือนกันนะ...
นักเตะจุฬา ยูไนเต็ดเข้ามาแสดงความเคารพสต๊าฟโค้ชพัทยา ยูไนเต็ด
พลุฉลองชัยชนะของเจ้าบ้าน
กองเชียร์ Pink Panther ยังอยู่เคียงข้างนักเตะจุฬา ยูไนเต็ดเสมอ
ผมเดินออกมาหาแก๊งค์เด็กคณะผม พวกเขายืนเรียงกันอยู่ 3 คน ผมไม่ทันสังเกตอะไรจึงกะจะเฮฮา
ชินอัพ ว่าพลางทำท่าให้เชิดคางแบบที่มูริญโญทำตอนเสียแชมป์ให้แมนฯยูฯเมื่อ 3 ปีก่อน แต่พอเหลือบเห็นว่าดวงตา 6 ดวงนั้นมีสีแดงเรื่อ ๆ ผมเริ่มรู้สึกว่าผิดคิว
รู้จักกันมานาน ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นผู้ชาย 3 คนนี้ร้องไห้หรอกครับ
เวลาไม่ถึง 1 ฤดูกาล ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้พวกเขาผูกพันกับทีมสีชมพูถึงขนาดนี้ ในวันที่นักเตะสุดรักของพวกเขาปวดร้าว หัวใจของพวกเขาก็พร้อมจะรวดร้าวไปด้วย
สักพักอดุลย์ หมื่นสมานเดินมาทักทายพวกเรา เขาสวมกอดรุ่นพี่คนที่ไปป่วนเด็กในออฟฟิศของผมให้รู้จักเพลงเชียร์เอ็นกูลูและเนโตคนนั้นนั่นแหละ ก่อนจะมาคุยกับผม เราคุยกันไม่กี่คำเพราะผมไม่อยากคุยกับเขามากไปกว่านั้น
ไม่ได้หยิ่งหรอกครับ
แต่กลัวจะ ตาแดง ๆ ตะหาก
ผมมองบังดุลเดินผ่านไปเงียบ ๆ พลางคิดถึงการ์ตูนโดเรมอนต่อ
หลังจากเปลี่ยนตอนจบของนิทานเสร็จแล้ว โนบิตะก็โดนหนูน้อยคนนั้นคะยั้นคะยอให้อ่านนิทานให้ฟังบ้าง
โนบิตะอ่านถึงตอนจบที่กลายเป็นแฮปปี้ เอนดิงซะแล้ว
ฮือ แง เด็กหญิงคนนั้นร้องไห้เหมือนเดิม พร้อมกับฟ้องแม่ว่า ทำไมตอนจบไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะ
ในเมื่อ ฟ้า กำหนด ฟ้าเป็นผู้แต่งเทพนิยายจุฬา ยูไนเต็ดในปีนี้ให้จบแบบเศร้า ๆ เราก็ต้องยอมร่ำไห้เมื่อพลิกอ่านมาถึงหน้าสุดท้าย
ส่วนเทพนิยายจุฬา ยูไนเต็ดในปีหน้าน่ะ ผมไม่พึ่งรองเท้าวิเศษของโดเรมอนหรอก แต่จะใช้รองเท้าผ้าใบเก่า ๆ คู่นี้แหละลุยไปทั่วประเทศไทยตั้งแต่เชียงรายยันสงขลาเพื่อส่งกำลังใจให้ทีมสีชมพูทีมนี้
เรา (กองเชียร์และนักฟุตบอลทุกคน) จะเขียนตอนจบเทพนิยายเล่มนี้ว่า มีความสุขตลอดไป ร่วมกันให้ได้
...
ว่าจะจบเท่านี้ แต่เกิด เนิร์ด อยากให้กำลังใจทุกคนที่เกี่ยวข้องกับจุฬา ยูไนเต็ดขึ้นมาน่ะ
ขากลับผมเลือกที่จะกลับกับกลุ่มแฟน ๆ จุฬา ยูไนเต็ดเหมือนเดิม ไม่ได้กลับกับแก๊งค์เด็กคณะผม แม้จะเป็น King of Bus แต่มันก็มีปัญหาได้ ทำเอาเสียเวลาไปตั้งนาน แต่สุดท้ายพวกเราก็มาถึงสนามจุ๊บตอนเกือบ ๆ 5 ทุ่มเพื่อเก็บอุปกรณ์เชียร์ไว้ที่แคมป์นักเตะ
ท้องฟ้ายังมืดมิดอยู่ แต่อีกไม่นานมันก็จะสว่าง ได้เวลาที่เราจะอรุณสวัสดิ์กับชีวิตอีกครั้ง
แม้วันที่รออยู่ห่างเพียงใด หนทางแสนไกล จงฝ่าฟันไป สูงสุดแผ่นดิน เสียดฟ้ากว้างใหญ่ ก็ไม่เกินมือเราจะเอื้อมไปถึง หลงทางล้มลง บาดเจ็บบางที ขอเพียงให้มีกำลังแรงใจ พลั้งผิดเป็นครู เรียนรู้เริ่มใหม่ ก้าวเดินไป พาใจไปสู่จุดหมาย อย่ายอมแพ้ แค่โชคชะตามันวกวน สับสนวุ่นวายไม่นานก็คลาย อย่ายอมแพ้ แค่โชคชะตาพิสูจน์คน สู้ทนเดินต่อไป แม้วันนี้ยังมืดมนเต็มที ทุกข์ภัยย่ำยีกระหน่ำในใจ ขอแต่เรามี มีฝันยิ่งใหญ่ อีกไม่นาน...อรุณสวัสดิ์ยามเช้า
Create Date : 19 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 14:30:08 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2476 Pageviews. |
|
|
ขอแสดงความเสียใจด้วย
2011 เจอกันนะ จะรอ