Webblog : Futbol Review ท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ฟุตบอล
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
เทพนิยายตอนจบ

18 ต.ค.52 สนามกีฬากลางเทศบาลหนองปรือ
พัทยา ยูไนเต็ด 2-1 จุฬา ยูไนเต็ด


ผมเคยผ่านบทจบที่แสนเศร้าของฟุตบอลมาแล้วหลายครั้ง

แบบที่เห็นกะตา ย้อนกลับไปวันคริสต์มาสของปี 33

วันนั้นควรเป็นเทศกาลแห่งความสุข แต่กับนักบอลสวนกุหลาบฯ...มันเป็นวันเศร้า เมื่อ 3 ทีม 3 รุ่นประสบความพ่ายแพ้ในวันเดียวกัน

ความพ่ายแพ้ช่วงเช้าของทีม 14 ปีที่ผมเป็นส่วนหนึ่งในทีมนั้นไม่ใช่ความเสียหายมากนัก

ด้วยความที่อ.สุรินทร์ เข็มเงินคุมทั้งทีม 14 ปีและทีมโค้กคัพ (15 ปี) พวกเรารุ่น 14 ปีพอเสร็จภารกิจที่สนามกกท.หัวหมากแล้วก็เลยไม่ต้องกลับไปนั่งเรียนต่อ แต่ได้ติดสอยห้อยตามมาดูทีมโค้กคัพแข่งรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่สนามศุภฯ

สวนกุหลาบฯดวลจุดโทษแพ้โรงเรียนวัดรางบัวแบบสุดช็อก อดไปเล่นรอบสุดท้าย

นักเตะชุดนั้นร้องไห้กันระงม รวมทั้งพี่เอก ฮิมสกุลซึ่งกาลต่อมาได้เป็น “แฟนพันธุ์แท้บอลโลก” ด้วย ภาพที่เห็นทำเอาผมพลอยเศร้า แต่กับไอ้เอก (อีกเอกนึง...ชื่อโหลจังฟะ) เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีม 14 ปีนั้นถึงกลับหลั่งน้ำตาตามรุ่นพี่ออกมา

“ผมเห็นน้ำตาไม่ได้น่ะ” มันบอก

เวลาไล่เลี่ยกัน ทีมรุ่น 16 ปีก็แพ้วัดสุทธิฯในรอบรองฯอะไรสักถ้วยนี่แหละ

ส่วนบทเศร้าที่เห็นผ่านจอโทรทัศน์ก็เช่น

บอลโลกปี 90 จะว่าไปแล้วก็คือปี 33 ปีเดียวกับเหตุการณ์ข้างบนนั่นแหละ ดีเอโก มาราโดนาถึงกับปล่อยโฮออกมาหลังจบเกมนัดชิงฯที่แพ้เยอรมัน (ตะวันตก)

ตอนนั้นยังไม่ได้เชียร์อาร์เจนตินานะ แต่เห็นนักเตะมหัศจรรย์ระดับโลกร้องไห้แบบนี้ ผมก็พลอยเศร้าไปด้วย...

บทจบของจุฬา ยูไนเต็ดในปี 52 ถูกกำหนดขึ้นในวันอาทิตย์สุดสัปดาห์ที่พัทยา




Believe คำสั้น ๆ แต่มีความหมายยิ่งใหญ่

บทสุดท้ายของขุนพลจุฬา ยูไนเต็ดรออยู่ที่พัทยา


แต่ก่อนจะถึงบทอวสาน ผมขอเล่าย้อนความกลับไปตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์...

หลังจากตัดต่อสารคดีเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 5 เสร็จตอนเกือบตี 1 ผมขอตัวกลับบ้านไปก่อน ใครจะเชื่อว่าหลังจากนั้นดันมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นในบริษัทนั้น

เมื่อหุ้นส่วนใหญ่ 2 คนกลับมาจากประชุมนิสิตเก่าเพื่อมาคุมน้อง ๆ (ที่ผมชิ่งหนีไป) ทำเปเปอร์พรีเซนต์รายการโทรทัศน์เพื่อนำเสนอช่องไทยพีบีเอส โดยมีรุ่นพี่ซึ่งเป็น 1 ในผู้ปลุกปั้นกองเชียร์ Pink Panther ติดสอยห้อยตามมาด้วย

ดึกขนาดนี้ แน่นอนว่าทุกคน “แอ๋” กลับมาแล้วแหละ

ต่อไปนี้คือคำให้การของน้อง ๆ ในบริษัท

“พี่เขาสอนผมเต้นเพลงเอ็นกูลู ผมก็ต้องร้อง เอ็นกูลู ลู ลู เอ็นกูลูไม่เสียประตู แล้วก็เต้นไปด้วย” น้องตัดต่อเล่า

“จำได้ว่าคืนนั้นได้ยินแต่มาริโอ ๆ อะไรนี่แหละ” น้องครีเอทีฟเสริม

มาริโอที่น้องเค้าได้ยินคือ “เพลงเชียร์เนโต” ที่ถือกำเนิดขึ้นหลัง “เพลงเชียร์เอ็นกูลู” ไม่นาน แต่อยู่ระหว่างทางกลับกรุงเทพฯหลังแม็ทช์ฉกแต้มจากชลบุรีได้เหมือนกัน เพลงนั้นมีเนื้อว่า

“Mario Mario Mario Neto. When he gets the ball, we get the goal. Mario Neto”

“พี่ว่าดีนะ เราควรมีเพลงเชียร์แบบนี้เยอะ ๆ มันเป็นเพลงที่ง่าย ได้ยินแป๊บเดียวก็ร้องได้แล้ว” หุ้นส่วนคนที่อาวุโสที่สุดสรุปในที่ประชุมหลังคืนเกิดเหตุนั้น 3 วัน

ผมบอกหรือยังครับว่า...ประชุมที่ว่าคือประชุมเกี่ยวกับงานของบริษัทนะ




แฟน ๆ Pink Panther เดินทางไปเชียร์ถึงพัทยา

มุมด้านหน้า

และอีกมุมหนึ่ง


ด้วยความที่พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยว แก๊งค์เด็กคณะผมจึงออกเดินทางไปปักหลักกันก่อน บ้างก็คืนวันศุกร์ บ้างก็บ่ายวันเสาร์ ส่วนผมนั้นยังทำงานไม่เสร็จจึงขอเดินทางไปร่วมกับรถบัสของกองเชียร์บ่ายวันแข่ง

ก่อนไป ผมค้นหนังสือเก่า ๆ กะจะหามุกเพื่อใช้เป็นธีมของการเขียน Review TPL ฤดูกาลนี้เป็นตอนสุดท้ายซะหน่อย แล้วก็ไปเจอการ์ตูนโดเรมอนเล่มนึง

“แย่ละสิ ยัยนี่มาเยี่ยมบ้านอีกแล้ว” โนบิตะตกใจพร้อมกลับรีบวิ่งออกจากบ้านทันที ทำเอาโดเรมอนถึงกับงง

“อะไรของโนบิตะนะ แค่เด็กคนเดียวต้องหนีด้วย”

สักพักคุณแม่พา “ยัยนี่” มาหาโดเรมอนพร้อมกับฝากฝังว่า

“เดี๋ยวแม่จะคุยกับแม่ของหนูคนนี้ ฝากโดเรมอนดูแลหนูคนนี้ให้ด้วยนะ”

เด็กหญิงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าให้โดเรมอนอ่านนิทานเล่มหนึ่งให้ฟัง

“…มีธิดาเงือกแสนสวยอยู่คนหนึ่ง ทั่วท้องสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ไม่มีผู้ใดจะมีเสียงอันไพเราะเกินนางเงือกน้อยผู้นี้

วันหนึ่งเกิดพายุฝนกระหน่ำท้องทะเลปั่นป่วน เจ้าชายรูปงามแห่งเมืองนั้นพลัดตกทะเลไป

ธิดาเงือกได้ช่วยชีวิตเจ้าชายเอาไว้และจากไปอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับหัวใจของนางที่หลงรักเจ้าชายที่ได้ช่วยชีวิตไว้

ธิดาเงือกยอมแลกเสียงของนางกับขาเพื่อจะได้เป็นเช่นดังคนธรรมดา

แต่หลังจากนั้นเจ้าชายเกิดไปอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเมืองข้างเคียงเข้าพอดี ทิ้งธิดาเงือกให้เศร้าอยู่เพียงลำพัง

ความเสียใจอย่างสุดซึ้งทำให้ธิดาเงือกกลับคืนสู่ท้องสมุทร หายตัวกลายเป็นฟองทะเลไป…”


“แง...ฮือ” หนูน้อยอินกับนิทานจัด ร้องไห้เสียงดังพร้อมกับวิ่งไปหาแม่ คุณแม่ของโนบิตะไม่รู้เรื่องจึงบ่นเจ้าหุ่นแมวร่างกลมซะยืดยาว

“ใช้ให้ดูแลน้อง แล้วไปทำน้องร้องไห้ทำไม? ใช้ไม่ได้เลยโดเรมอนนี่”

นิทาน “เจ้าหญิงเงือกน้อย” เรื่องนี้ประพันธ์โดยฮานส์ คริสเตียน อันเดอเซน นักเขียนชื่อก้องโลกชาวเดนมาร์ก สิ่งที่ผมสงสัยมาตลอดก็คือ ทำไมเขาต้องจบนิทานสำหรับเด็กเรื่องนี้ (ความจริงมีอีกหลาย ๆ เรื่องด้วย) ให้เป็นแนว Tragedy ด้วยทั้ง ๆ ที่การเขียนว่า

“...แล้วเจ้าชายกับเจ้าหญิงก็อภิเษกสมรสกัน แล้วอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป” นั้น เขียนไม่เห็นจะยาก ผมยังเขียนได้เลย...แล้วผมก็อยากสัมผัสอารมณ์นี้หลังจบเกมที่หนองปรือด้วย ^___^




โฉมหน้าพัทยา ยูไนเต็ดคู่แข่งในนัดนี้

มิตรภาพระหว่างเกมการแข่งขัน

กองเชียร์ชุดทหารไทยของโลมามหาภัยมาถ่ายรูปร่วมกับกองเชียร์ทีมเยือน


รถบัสเคลื่อนออกจากรั้วจุฬาฯประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ วิ่งไปตามทางก่อนจะมาแวะที่ปั๊มประจำเพื่อให้แต่ละคนได้ “ดื่มน้ำ...ปัสสาวะ”

ผมเข้าไปเดินในมินิมาร์ท เห็นว่ามีลูกบอลชายหาดขายด้วยจึงบอกกับน้องคนหนึ่ง

“น่าจะซื้อไปสักลูกนะ แล้วโยนลงไปที่หน้าประตูพัทยา เผื่อนริศจะเหวอแบบโฆเซ เรยนา” ผมอ้างอิงเกมพรีเมียร์ลีก ซันเดอร์แลนด์-ลิเวอร์พูลเมื่อคืน

หลังจากปลดปล่อยและเติมพลังกันเรียบร้อย รถบัสระดับ “King of Bus” ก็ออกเดินทางต่อ

ท้องฟ้ามันครึ้ม มันครึ้มออกอย่างนี้ มันเหงาทุกทีที่ได้เจอ...ท้องฟ้าแบบนี้ทำให้รู้สึกเหมือนกับหกโมงเย็น ทั้ง ๆ ที่นาฬิกาชี้บอกเวลาว่าบ่ายสามกว่า ๆ เท่านั้น

อากาศแบบนี้ทำให้รู้สึกง่วงขึ้นมาทันควันหรือไม่แน่ก็ไม่ใช่เพราะอากาศหรอก อาจจะเป็นเพราะผมทำตามสุภาษิตไทยก็ได้

“เข้าเมืองหนองปรือ ต้องปรือตาตาม”

เรามาถึงสนามเกือบ ๆ 4 โมงเย็น ผมตรงลิ่วมาเก็บรูปบรรยากาศก่อนทั้ง 2 ทีมเดินลงสนาม

เหลือบไปเห็นเสื้อของมาสเซอร์จเด็จ มีลาภที่มีลายเซ็นนักบอลทั้งทีมเต็มตัวไปหมด ผมเกิดความสงสัยขึ้นมา...หรือจะเป็นการอำลาทีม?

“เปล่าครับ...ที่นักบอลเซ็นให้ผมเหมือนการรวมพลังกันมากกว่าครับ” เซอร์เด็ดอธิบาย

วันนี้พัทยา ยูไนเต็ดขอแค่เสมอก็จะอยู่รอดปลอดภัยแล้ว แต่น่าแปลกที่พวกเขาถอยนักเตะในเกมรุกลงไปเล่นแบ็กทั้งสองข้าง ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งอย่างซีเกต หมาดปูเต๊ะทางฝั่งขวาและจอมเก๋าอย่างสันติ ไชยเผือกทางฝั่งซ้าย มีนริศ ทวีกุลเฝ้าเสาอยู่ข้างหลังสมภพ นิลวงษ์และนิเวส ศิริวงค์

เขยิบขึ้นไปหนึ่งสเต็ปมีออตตรา อาตานาเซ ดาวเตะผิวดำเก็บกวาดหน้าแผงหลัง ใช้อิทธิพล พูลทรัพย์เดินเกมคู่พิชิต เกสโร

แนวรุกจากขวาไปซ้ายมีอมร ธรรมนามที่ฟอร์มกำลังแจ่มเหลือเกิน, เปาโล โอลิเวยราและวิลเลียน เมนดอนซา

ฝั่งทีมเยือนนั้นต้องชนะเพียงอย่างเดียว แต่กลับมีนักเตะติดโทษแบนถึง 3 คน เจ็บแบบลงไม่ได้อีก 1 คน ในขณะที่อารอนกับสมปอง สอเหลบก็ไม่สมบูรณ์มากนัก แต่จำต้องเข็นลงเพื่อประสานงานกันในแดนหน้า โดยมีกิตติศักดิ์ ปิ่นทองยืนทางซ้าย

แดนกลางใช้เนโตเดินเกมรุก มีชานนท์ วงษ์อารีกับวัฒนศัพท์ เจริญศรีระวังหลังให้

ส่วนแผงหลังนั้นถอยศักดา ชุติภัคพงศ์ลงไปเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟชั่วคราวคู่กับนันทพล พิบูลย์พล แบ็กขวา-ซ้ายคู่เดิม ประสิทธิ์ เทาดีและอดุลย์ หมื่นสมาน กัปตันทีม มีฌอง-มาร์ก เอ็นกูลูรักษาประตู




ผู้ใหญ่ของพัทยา ยูไนเต็ดบอกข่าวเรื่องการอัดฉีดหากอยู่รอดได้สำเร็จ

สันติมีคนระดับวีไอพีมาใส่ปลอกแขนให้

ส่วนอดุลย์ใช้รุ่นน้องอย่างอดิศักดิ์

เสื้อเซอร์เด็ดที่เต็มไปด้วยลายเซ็นนักบอลในทีม

อดุลย์เดินนำหน้าลูกทีมลงสนาม ส่วนสันติเดินช้าไปหน่อย

เนโต, อารอนและธงชาติบราซิล

ขุนพลเสือสามย่านรวมใจ สู้ตาย!


สมปองแม้จะไม่สมบูรณ์แต่กลับเล่นเหมือนร่างกายฟิตเปรี๊ยะ ลงไปช่วยประสิทธิ์ไล่แย่งบอลมาจากเมนดอนซาได้ด้วย ก่อนจะพาบอลขึ้นมาเอง เขาอาศัยจังหวะปอยฝ้าย (ยึก ๆ ยัก ๆ) เรียกฟาวล์จากปีกซ้ายชาวบราซิลของเจ้าบ้านได้ แต่ก็ทำเอาโค้ชต้อม ณรงค์ สุวรรณโชติออกมาโวย

“ปอง อย่ายากสิ”

เกมไปเรื่อย ๆ แต่กลับเป็นเจ้าบ้านที่ขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 10 จากสันติ ไชยเผือกที่ยิงบอลจากตำแหน่งคอร์เนอร์

ได้ประตูเร็วแบบนี้เกมเลยดุเดือดขึ้นทันที ประสิทธิ์พยายามลากลุยทางฝั่งขวาแล้วก็โดนเมนดอนซาเกี่ยวล้มลง ทำเอาเจ้าต๋อยถึงกับลุกขึ้นมาโวยทันที แต่นักเตะแซมบ้าก็ไม่มีแหยงเหมือนกัน เพื่อน ๆ ต้องรีบเข้ามาเคลียร์กันจ้าละหวั่น

แม้จะนำ 1-0 แต่เสียงสต๊าฟโค้ชพัทยา ยูไนเต็ดยังดังอยู่เนือง ๆ

“ขยัน ๆ หน่อย”

จุฬา ยูไนเต็ดพยายามลุยเพื่อเอาคืน แต่ต้องยอมรับว่าวันนี้ไม่ใช่วันของพวกเขา ต่อบอลกันไม่เนียนตาเหมือนที่ผ่าน ๆ มา

ในสนามก็ทุ่มเทกันไป ข้างสนามก็บู๊ดุเดือดเหมือนกัน พี่เต็ง มนตรี เครือวัลย์ที่ปรกติไม่ค่อยออกไปโวยอะไร วันนี้ผมเห็นว่ามีลุกไปคุยกับคุณพันเลิศ ฤกษ์อุไร ผู้ตัดสินที่ 4 เหมือนกัน...เอ๊ะ! หรือว่าพี่เขาจะชอบชื่อนี้เป็นพิเศษ

“...2 ดอกแล้ว” ได้ยินแว่ว ๆ ท้ายประโยคที่พี่เต็งโวยแบบนี้ หรือว่าคุณพันเลิศแกจะขายดอกไม้อยู่ที่ตลาดหนองปรือก็ไม่รู้สิ

เห็นฝั่งจุฬา ยูไนเต็ดโวย ฝั่งเจ้าบ้านก็ไม่ยอมให้ผู้ตัดสินที่ 4 มีเวลาหายใจเหมือนกัน ลุกขึ้นไปทำไม้ทำมือถามทันทีว่าทำไมจังหวะที่นักเตะทีมเยือนใช้มือดึงนั้นก่อนหน้านั้น (ประมาณ 5 นาทีแล้วแหละ) ถึงไม่เป่าฟาวล์

เกมนี้ทำท่าว่าจะจบลงอย่างรวดเร็วหลังผ่านครึ่งชั่วโมงไปได้แค่ 2 นาทีเท่านั้น เมื่ออิทธิพล พูลทรัพย์ยิงซ้ำลูกที่เอ็นกูลูพยายามจะ “ไม่เสียประตู” ในจังหวะแรกเข้าไป...2-0 ซะแล้ว

เสือสามย่านปรับทัพทันควัน ส่งเฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ลงไปแทนชานนท์ที่ไม่สมบูรณ์และเล่นไม่ได้ตามฟอร์มของตนเอง

ผมย้ายไปถ่ายรูปอยู่หลังประตูจุฬา ยูไนเต็ดแล้วก็ได้เห็นจังหวะที่ประสิทธิ์เข้าปั๊มบอลกับเมนดอนซาอย่างหนักหน่วง เสียงนั้นดัง “ปัง!” ตามมาด้วยเสียงด่าของกองเชียร์เจ้าบ้านที่สาบส่งแบ็กขวาร่างเล็ก ที่ชอบให้คนอื่นเรียกเขาว่าพี่เบ็ค แต่เขาไม่ใช่คนขี้เก็ก ส่วนผมจะโดนมะเหงก ถ้ามัวแต่เขียนสระเอ็ก ^^!

ไม่นานหลังจากนั้นพัทยา ยูไนเต็ดก็เปลี่ยนสมชาย สิงห์มณีลงไปแทนเมนดอนซาทันที

ช่วงพักครึ่งผมเดินผ่านซุ้มม้านั่งสำรองโลมามหาภัย ได้ยินเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทีมคุยกัน

“ต้องเปลี่ยนออกเพราะเล่นไม่เข้ากับทีมเลย แถมยังอารมณ์เสียอีก จะเสี่ยงกับใบแดงเอา...”




สันติไม่ยอมให้สมปองผ่านง่าย ๆ

จังหวะได้ประตูของทีมเจ้าบ้าน

แค่ 10 นาที จุฬา ยูไนเต็ดก็ต้องกลับมาเขี่ยบอลใหม่ซะแล้ว

3 ใน 4 แผงหลังเสือสามย่านทำหน้าเครียดหลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด

นริศ ทวีกุลไม่ยอมให้บอลผ่านมือง่าย ๆ

เนโตแตะคืนให้อารอนซัด แต่ไม่เป็นประตู

เอ็นกูลูสั่งการเพื่อน ๆ


ครึ่งหลังจุฬา ยูไนเต็ดเปลี่ยนเอาอดิศักดิ์ กานูลงมาแทนอารอนที่อาการบาดเจ็บจากนัดก่อนกำเริบ และแค่ 5 นาทีเท่านั้น กานูก็โยนฟรีคิกให้มาริโอ เนโต “Get the goal” ให้ชาวจุฬา ยูไนเต็ดได้สำเร็จ หนึ่งประตูที่ไล่มาเพิ่มความหวังให้กับขุนพลเสือสามย่านไม่น้อย

ได้ยินโฆษกสนามแอบหลังไมค์

“อุ้ย! เริ่มเสียววุ้ย” (ตอนนี้ผมขยับกายมาประจำการแถว ๆ เพรสบ็อกซ์แล้ว)

เกมหลังจากนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าจุฬา ยูไนเต็ดบุก พัทยา ยูไนเต็ดโต้กลับ แต่จังหวะเสียวนั้นมีด้วยกันทั้งสองทีม ลูกโต้กลับของทีมโลมามหาภัยนั้นมักจะได้เผชิญหน้ากับแผงหลังทีมเยือนแค่ 2 คนเท่านั้นเพราะขยับขึ้นสูงกันหมด

โค้ชต้อมเริ่มหงายไพ่เล่นแล้ว ส่งไพฑูรย์ นนทะดีลงไปเสริมเกมรุกแทนวัฒนศัพท์ พร้อม ๆ กับขยับเนโตขึ้นไปค้ำรอเล่นลูกโด่ง

เซอร์เด็ดเก็บตัวสำรองไว้ใช้ท้ายเกมเพื่อใช้เวลาให้เต็มที่ ส่งรังสฤษธิ์ สุทธิสาลงไปแทนพิชิตช่วง 11 นาทีสุดท้าย แล้วก็ส่งธนา ชนะบุตรลงไปแทนอมรตอน 2 นาทีสุดท้าย

เกมในครึ่งหลังหยุดชะงักไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ผู้ตัดสินกลับทดเวลาเจ็บแค่ 5 นาทีเท่านั้น มันน้อยเกินกว่าที่จุฬา ยูไนเต็ดจะยิงได้ 2 ลูกเพื่อกลับมาชนะ

บทสรุปสุดท้ายหลังคุณประพจน์ ดิสสมศรีเป่าลมสุดท้ายผ่านนกหวีดจึงเป็นจุฬา ยูไนเต็ดที่ต้องกลับไปเริ่มต้นในดิวิชัน 1 ใหม่ในฤดูกาลหน้า

พลุที่เตรียมไว้ถูกจุดขึ้นเฉลิมฉลองให้กับเจ้าบ้านหลายลูก ท้องฟ้าดูสวยงามในช่วงเวลานั้น ส่วนสนามหญ้าเขียวขจีนั้นมีทั้งความสวยงามในอารมณ์เปี่ยมสุขของเหล่านักเตะโลมา และความหม่นหมองในอารมณ์เศร้า ๆ ของนักเตะจากสามย่าน ขณะเดียวกันแฟน ๆ ชาวพัทยาก็เฮกันลงมาไล่ล่าเสื้อของนักบอลเป็นที่ระลึก บรรยากาศคล้าย ๆ แม็ทช์ปิดฤดูกาลของกัลโชจริง ๆ ดีที่ไม่มีใครต้องเหลือแต่กางเกงใน

“ช่วงหลังเราตัวเจ็บเยอะ เลยทำให้ไม่ค่อยชนะ ส่วนเกมวันนี้ก็รู้สึกดีใจมากที่ช่วยให้พัทยารอดตกชั้นได้ ปีหน้าจะได้คุมทีมต่อหรือเปล่าก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ครับ” โค้ชจเด็ดเผยความรู้สึก

“ก็โอเคสำหรับเกมที่เราต้องมาเล่นในบ้านเค้า โดยต้องเอาชนะอย่างเดียวด้วย เรามีตัวเจ็บตัวแบนมากมาย สู้ได้แบบนี้ก็ต้องชมนักเตะแล้วที่มีความมุ่งมั่น จะเห็นว่าเกมครึ่งหลังเราดีกว่าเค้าจริง ๆ ส่วนทีมคู่แข่งก็ต้องชมว่าเตรียมแท็กติกมาดี คนดูรู้และเห็นอยู่ว่าเป็นอย่างไร ผมไม่ขอวิจารณ์” โค้ชต้อมระบายความในใจ

ส่วนอนาคตของจุฬา ยูไนเต็ดนั้น โค้ชผู้พลิกให้เสือสามย่านมีลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาลตอบแค่ในมุมที่เขาให้ความเห็นได้ “ผมเชื่อมั่นว่าถ้าเด็กชุดนี้รวมตัวกันได้อย่างนี้ เราน่าจะกลับมาได้ในปีเดียว”




นักเตะจุฬา ยูไนเต็ดรวมใจกันสู้ใน 45 นาทีสุดท้ายของฤดูกาล

ช่วงเวลาก่อนเริ่มเกมครึ่งหลัง

เฉลิมศักดิ์ไล่ล่าอิทธิพล

นันทพลล้มตัวสกัดเปาโล

อดิศักดิ์โยนให้เนโตโหม่งตีไข่แตก

เนโตส่งหัวใจให้แฟน ๆ

ไพ่ใบสุดท้ายไพฑูรย์ถูกทิ้งลงไปแทนวัฒนศัพท์

อารอนประคบประหงมอาการเจ็บที่ม้านั่งข้างสนาม

อิทธิพลโยนฟรีคิกโดยมีอดุลย์กระโดดขึ้นบล็อก


สัมภาษณ์เสร็จเห็นเนโตยืนอยู่ใกล้ ๆ โดนแฟน ๆ พัทยารุมทึ้งขอเสื้ออยู่ ผมรอให้พวกเขาเสร็จธุระก่อนจึงเดินเข้าไปคุย

“ฤดุกาลหน้า อยู่จุฬา ยูไนเต็ดต่อนะ” ผมพ่นภาษาอังกฤษสำเนียงไทย-แต้จิ๋ว

“I don’t know” เนโตตอบแบบนั้นก่อนจะขยายความต่อยืดยาว ระหว่างที่คุยกัน เราจับมือกันไปด้วยตลอดเวลา...ได้แต่หวังว่ามันคงไม่ใช่การจับมือร่ำลานะ

ผมคิดจะจบบทสนทนาด้วยคำว่า

“โชกาดอ”

อ๊ะ ๆ ไม่ได้ทะลึ่งหรือจับมือนานจนเคลิ้มอยากดูนะครับ แต่เคยมีคนบอกว่า “โชกา ดอ” ในภาษาโปรตุกีสแปลว่า “เล่นแจ๋วว่ะ” ตะหากล่ะ...แต่ก็ไม่ได้พูดไปเพราะคำนี้พอเป็นสำเนียงไทยแล้ว มันฟังดูจั๊กกะจี้ยังไงชอบกลหรือไม่แน่อาจจะเป็นเพราะผมเบนความสนใจไปที่อารอนแล้วก็ได้ เนื่องจากมีแฟน ๆ จุฬา ยูไนเต็ดมาบูม BAKA ให้เพชฌฆาตอัจฉริยะชาวบราซิลอยู่ หนึ่งในนั้นมีไอ้โด้หรือไกรที่จบจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย

มันบูม BAKA ได้ถูกเปี๊ยบทุกคำ!

“พี่ฟุเหยินสอนให้ที่ระยอง แต่สอนตอนเมา ๆ นะ”

สนามหญ้าวันนี้เฉอะแฉะ ผมก้มมองรองเท้าผ้าใบของตนเอง...ไม่อยากให้มันสกปรก พลางคิดไปถึงรองเท้าวิเศษของโดเรมอน...

หลังจากที่ถูกคุณแม่ดุ โดเรมอนจึงล้วงรองเท้าวิเศษออกมาจากกระเป๋าหน้าท้อง รองเท้าคู่นี้พอใส่แล้วสามารถเข้าไปในหนังสือได้

โดเรมอนเข้าไปป่วนตัวละครในนิทานและเปลี่ยนตอนจบให้สุดท้ายเงือกน้อยได้ “อภิเษกกับเจ้าชายแล้วอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป”

ถ้ามีรองเท้าวิเศษ ผมก็อยากเข้าไปเปลี่ยนตอนจบที่แสนเศร้าของจุฬา ยูไนเต็ดเหมือนกันนะ...




นักเตะจุฬา ยูไนเต็ดเข้ามาแสดงความเคารพสต๊าฟโค้ชพัทยา ยูไนเต็ด

พลุฉลองชัยชนะของเจ้าบ้าน

กองเชียร์ Pink Panther ยังอยู่เคียงข้างนักเตะจุฬา ยูไนเต็ดเสมอ


ผมเดินออกมาหาแก๊งค์เด็กคณะผม พวกเขายืนเรียงกันอยู่ 3 คน ผมไม่ทันสังเกตอะไรจึงกะจะเฮฮา

“ชินอัพ” ว่าพลางทำท่าให้เชิดคางแบบที่มูริญโญทำตอนเสียแชมป์ให้แมนฯยูฯเมื่อ 3 ปีก่อน แต่พอเหลือบเห็นว่าดวงตา 6 ดวงนั้นมีสีแดงเรื่อ ๆ ผมเริ่มรู้สึกว่าผิดคิว

รู้จักกันมานาน ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นผู้ชาย 3 คนนี้ร้องไห้หรอกครับ

เวลาไม่ถึง 1 ฤดูกาล ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้พวกเขาผูกพันกับทีมสีชมพูถึงขนาดนี้ ในวันที่นักเตะสุดรักของพวกเขาปวดร้าว หัวใจของพวกเขาก็พร้อมจะรวดร้าวไปด้วย

สักพักอดุลย์ หมื่นสมานเดินมาทักทายพวกเรา เขาสวมกอดรุ่นพี่คนที่ไปป่วนเด็กในออฟฟิศของผมให้รู้จักเพลงเชียร์เอ็นกูลูและเนโตคนนั้นนั่นแหละ ก่อนจะมาคุยกับผม เราคุยกันไม่กี่คำเพราะผมไม่อยากคุยกับเขามากไปกว่านั้น

ไม่ได้หยิ่งหรอกครับ

แต่กลัวจะ “ตาแดง ๆ” ตะหาก

ผมมองบังดุลเดินผ่านไปเงียบ ๆ พลางคิดถึงการ์ตูนโดเรมอนต่อ

หลังจากเปลี่ยนตอนจบของนิทานเสร็จแล้ว โนบิตะก็โดนหนูน้อยคนนั้นคะยั้นคะยอให้อ่านนิทานให้ฟังบ้าง

โนบิตะอ่านถึงตอนจบที่กลายเป็นแฮปปี้ เอนดิงซะแล้ว

“ฮือ แง” เด็กหญิงคนนั้นร้องไห้เหมือนเดิม พร้อมกับฟ้องแม่ว่า “ทำไมตอนจบไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะ”

ในเมื่อ “ฟ้า” กำหนด ฟ้าเป็นผู้แต่งเทพนิยายจุฬา ยูไนเต็ดในปีนี้ให้จบแบบเศร้า ๆ เราก็ต้องยอมร่ำไห้เมื่อพลิกอ่านมาถึงหน้าสุดท้าย

ส่วนเทพนิยายจุฬา ยูไนเต็ดในปีหน้าน่ะ ผมไม่พึ่งรองเท้าวิเศษของโดเรมอนหรอก แต่จะใช้รองเท้าผ้าใบเก่า ๆ คู่นี้แหละลุยไปทั่วประเทศไทยตั้งแต่เชียงรายยันสงขลาเพื่อส่งกำลังใจให้ทีมสีชมพูทีมนี้

เรา (กองเชียร์และนักฟุตบอลทุกคน) จะเขียนตอนจบเทพนิยายเล่มนี้ว่า “มีความสุขตลอดไป” ร่วมกันให้ได้

...

ว่าจะจบเท่านี้ แต่เกิด “เนิร์ด” อยากให้กำลังใจทุกคนที่เกี่ยวข้องกับจุฬา ยูไนเต็ดขึ้นมาน่ะ

ขากลับผมเลือกที่จะกลับกับกลุ่มแฟน ๆ จุฬา ยูไนเต็ดเหมือนเดิม ไม่ได้กลับกับแก๊งค์เด็กคณะผม แม้จะเป็น “King of Bus” แต่มันก็มีปัญหาได้ ทำเอาเสียเวลาไปตั้งนาน แต่สุดท้ายพวกเราก็มาถึงสนามจุ๊บตอนเกือบ ๆ 5 ทุ่มเพื่อเก็บอุปกรณ์เชียร์ไว้ที่แคมป์นักเตะ

ท้องฟ้ายังมืดมิดอยู่ แต่อีกไม่นานมันก็จะสว่าง ได้เวลาที่เราจะอรุณสวัสดิ์กับชีวิตอีกครั้ง

“แม้วันที่รออยู่ห่างเพียงใด
หนทางแสนไกล จงฝ่าฟันไป
สูงสุดแผ่นดิน เสียดฟ้ากว้างใหญ่
ก็ไม่เกินมือเราจะเอื้อมไปถึง
หลงทางล้มลง บาดเจ็บบางที
ขอเพียงให้มีกำลังแรงใจ
พลั้งผิดเป็นครู เรียนรู้เริ่มใหม่
ก้าวเดินไป พาใจไปสู่จุดหมาย
อย่ายอมแพ้ แค่โชคชะตามันวกวน
สับสนวุ่นวายไม่นานก็คลาย
อย่ายอมแพ้ แค่โชคชะตาพิสูจน์คน
สู้ทนเดินต่อไป
แม้วันนี้ยังมืดมนเต็มที
ทุกข์ภัยย่ำยีกระหน่ำในใจ
ขอแต่เรามี มีฝันยิ่งใหญ่
อีกไม่นาน...อรุณสวัสดิ์ยามเช้า”




Create Date : 19 ตุลาคม 2552
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 14:30:08 น. 1 comments
Counter : 2476 Pageviews.

 
พวกพี่สุดยอด
ขอแสดงความเสียใจด้วย
2011 เจอกันนะ จะรอ


โดย: สาวกโลมา IP: 124.121.194.53 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:13:39:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

baevi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add baevi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.