23 ส.ค.52 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง
บางกอก ยูไนเต็ด 1-1 ทีโอที

“พรุ่งนี้เค้าให้พี่ไปช่วยงานเปิดตัวด้วยนะ ใส่เชิ้ต, กางเกงสแล็คนะพี่ เจอกันบ่ายโมง ส่วนงานน่าจะเริ่มบ่ายสอง...”

โค-โปรดิวเซอร์ของผมโทรมาตอนวันอังคาร (25 ส.ค.)

“ถ้างานเริ่มบ่ายสอง...เต็มที่ก็น่าจะเสร็จสักบ่ายสามกว่า ๆ ตีรถไปเมืองทองก็น่าจะเชียร์ทีโอทีทำศึกเอฟ.เอ.คัพกับบางกอก ยูไนเต็ดทันหน่า” ผมคิด

อ้อ! “งาน” ที่ผมพูดถึงนี้คืองานเปิดตัวช่อง “TAN Network” สถานีข่าวภาษาอังกฤษที่ผลิตโดยคนไทยซึ่งผมทำงานอยู่นั่นเองครับ

การเปิดตัวครั้งนี้ (26 ส.ค.) อลังการไม่น้อยเพราะมีท่านนายกรัฐมนตรี คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมาเปิดงาน, มีการจำลองจัดรายการบนเวทีโดยมีแขกรับเชิญคือท่านรมต.กรณ์ จาติกวณิชด้วย...

แหม! งานบิ๊กบึ้มขนาดนี้จะเป็นงาน “ภาคบ่าย” ไปได้ยังไง?...ใช่แล้ว! หมายกำหนดการการเปิดงานซึ่งอิงกับเวลาเดินทางมาถึงบริเวณงานของท่านนายกฯนั้นคือ 6 โมงเย็น

นั่นหมายความว่าผมอดไปลุ้นทีโอที...ทีมเชียร์อันดับ 2 ให้รักษาโอกาสที่จะเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้สักแชมป์นึงแน่นอน

แขกรับเชิญในงานมากหน้าหลายตามาก เหลือบไปเห็นคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานสโมสรบางกอก ยูไนเต็ดควงคู่มากับคุณพิเชษฐ์ ฤกษ์ปรีชา มือขวาคนสำคัญ

อยากจะเข้าไปแซวท่านจังเลยครับว่า

“ไม่ไปเชียร์บางกอก ยูไนเต็ดหรือครับ?” ^^

ในงาน ผมไม่มีหน้าที่อะไรเยอะหรอก แค่ยกโพเดียมและโซฟาประกอบฉากขึ้น-ลงเวทีเท่านั้นเอง...ก็เขาให้ผมมาเป็นแบ๊กสเตทนี่ -_-!

แต่ช่วงว่าง ๆ ผมก็แอบแวบเดินไปหน้างานรื่นรมย์กับบรรยากาศบ้างเหมือนกัน

แขกเยอะ, คนแน่นเอี๊ยด ดูแล้วน่าชื่นใจเหลือเกิน...เป็นนิมิตรหมายที่ดีว่าต่อไปนี้สถานีโทรทัศน์ช่องนี้จะลืมตาอ้าปากได้บ้าง...

แต่การเริ่มต้นดี ไม่ได้หมายความว่าปลายทางจะสวยงามนี่

ทีโอทีทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมาแล้วในการทำศึกสองนัดซ้อน ๆ กับบางกอก ยูไนเต็ด

...

ท่านนายกฯอภิสิทธิ์ (คนกลาง) มาเป็นประธานเปิดตัวช่อง TAN Network

การจำลองจัดรายการที่มีการพูดคุยกับท่านรมต.กรณ์ (คนขวา)

ย้อนเวลากลับไปเมื่อวันอาทิตย์ (23 ส.ค.)

“เจอทีโอที 2 นัดติดต่อกันแบบนี้ เราให้ความสำคัญทั้งสองแม็ทช์นะ แต่เน้นเกมลีกมากกว่า...” วรกรณ์ วิจารณรงค์ ผู้ช่วยโค้ชบางกอก ยูไนเต็ดเปิดใจ

ผมลองพลิกชื่อ 11 ตัวจริงของ “เทพมรกต” ดูแล้ว กลับพบว่ามีตัวจริง “จริง ๆ” ไม่ถึงครึ่งทีมเลย แถมยังต้องเอาศูนย์หน้าที่ไม่ค่อยได้ลงอย่างปรีชา ชาวกล้ามาเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟด้วย...หรือว่าจะไปเน้นบอลถ้วยมากกว่าละมั้ง?

“ที่จัดตัวสำรองลงเยอะเพราะตัวเจ็บ, ตัวแบนเยอะ เหลือให้เลือกเท่านี้แหละ” มือขวาของสมชาย ทรัพย์เพิ่มแจง

ในขณะที่ทีม “ฮัลโหล” ทีโอทีผู้มาเยือนนั้น 11 ตัวจริงก็ไม่ถึงกับ “ใหญ่” เหมือนกัน

“วันนี้เค้าไม่ได้เอาตัวจริงลงหลายคน ผมก็ดร็อปหลายคนเหมือนกัน วาลซีก็เก็บเอาไว้เป็นตัวสำรอง” โค้ชก๊อก พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณว่า

ยกแรกของการเจอกันสองนัดในรอบ 4 วันเลยกลายเป็นการซ้อมใหญ่เพื่อไปห้ำหั่นให้ถึงพริกถึงขิงกันอีกครั้งในศึกบอลถ้วยนัดกลางสัปดาห์ (ก็ตรงกับวันที่ผมติดงานเปิดตัว TAN Network นั่นแหละ) จะว่าไปแล้ว เอฟ.เอ.คัพนี่คือ “ความสำเร็จ” ที่เป็น “รูปธรรม” เดียวที่ทั้งสองทีมสามารถไขว่คว้าได้

กองเชียร์กลุ่ม "ฮาร์ดคอร์" ของเจ้าบ้าน บางกอก ยูไนเต็ด

กองเชียร์ทีโอทีทีมเยือน ที่ผมมองว่านิสัย "น่ารัก" ที่สุดในไทยพรีเมียร์ลีกแล้วมั้ง

สุเชาว์ นุชนุ่มและวีระ เกิดพุดซาเดินน้ำหน้าลูกทีมลงสนาม

กัปตันกบเดินจับมือกับนักเตะเจ้าถิ่น

กบไซเบอร์แลกธงกับวีระ

11 ตัวแรกของ "เทพมรกต" ที่ขาดตัวจริงไปหลายคน

11 ตัวแรกของฮัลโหล แน่นอนว่าต้องนำโดยปีกขวาหน้าหยกทีมชาติไทย

นักเตะบียูทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีด้วยการครองเกมได้มากกว่าแล้วก็ได้เฮสมใจอยากหลังนาฬิกากระดิกผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง เมื่อศุภเสกข์ ไก่แก้ว “หนุ่มผมยาวจอมเทคนิค” สับไกลูกเปิดมาให้จากทางปีกซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย

ทีมเยือนออกอาการร้อนรนทันทีด้วยการส่งวาลซี ศูนย์หน้าบราซิลตัวเก่งลงมาแทนเอ็มมานญวล มาเดนเก ดาวเตะแคเมอรูนเพิ่มประสิทธิภาพในเกมรุกทันที

ช่วงท้ายเกมปรีชา ชาวกล้า อดีตศูนย์หน้าเยาวชนไทยอายุ 19 ปีที่วันนี้หันเหมาเล่นหลังต้องถูกหามออกมาปฐมพยาบาลอยู่นานสองนานจากการศีรษะแตก

หัวของปราการหลังอาจจะแตก แต่ไข่ยังไม่แตก จบ 45 นาทีแรกเจ้าบ้านจึงยังนำอยู่นิ่ม ๆ ลูกนึง

กิตติศักดิ์ ศิริแว่น จอมทัพของเจ้าบ้านกับทรงผมใหม่

แผงหลังและผู้รักษาประตูทีมเยือนช่วยกันป้องกันการโจมตีทางอากาศ

ทรงศักดิ์ เฮมเขียวบู๊กับมาเดนเก

รามเทพ ชัยแป้นเข้าไปแสดงความยินดีกับศุภเสกข์หลังยิงนำ 1-0

ทีโอทีต้องส่งศูนย์หน้าชาวบราซิลลงไปแก้เกมช่วงท้ายครึ่งแรกทันที

แอคชันสวย ๆ ของโค้ชสมชาย ทรัพย์เพิ่ม

ทีมแพทย์ต้องระดมกันมาทำแผลให้กับปรีชา ชาวกล้าช่วงพักครึ่ง

เกมครึ่งหลังมองเผิน ๆ อาจจะนึกว่าเป็นสงครามมากกว่าเกมฟุตบอลเพราะพลเปลต้องทำงานหนักมาก โขยกลงไปแบกนักเตะบางกอก ยูไนเต็ดออกจากสนามถึง 2 คน อาทิตย์ บุญพาและพลวัฒน์ ปิ่นกอง (ไม่ได้กองแค่ปิ่นแล้ว กองทั้งตัวเลย ^^)

แต่ทั้งสองคนไม่โชคดีเหมือนปรีชานะเพราะเล่นต่อไปไม่ได้ คนแรกน่ะยังดีที่มีโควตาเปลี่ยนตัวเหลือ คมกริช คำโสกเชือกจึงได้ลงมาทำหน้าที่แทน แต่คนหลังนี่สิ โควตาเปลี่ยนตัวหมดแล้ว ช่วงท้ายเกมบียูจึงต้องกัดฟันเล่นแค่ 10 คนและโดนนักเตะฮัลโหลบุกขย่มฝ่ายเดียวจนมาทำนบแตกตอน 5 นาทีสุดท้ายที่ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษให้ทีมเยือน

แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นจุดโทษที่รู้กันแค่ในสนามเพราะกว่าสต๊าฟโค้ชบางกอก ยูไนเต็ดและกองเชียร์เทพมรกตจะรู้ว่าทีมเสียจุดโทษก็ตอนวาลซีหยิบลูกบอลมาวางเพื่อสังหารจุดโทษแล้วนั่นแหละ

แน่นอน เสียงโห่ดังกระหึ่มเพื่อส่งตรงไปถึงคุณชวลิต สนั่นไหวโดยเฉพาะ

มันเป็นจุดโทษหรือเปล่า?

จากที่ที่ผมนั่งก็กึ่ง ๆ มองไม่ค่อยชัดนะ...แล้วคนใกล้ ๆ อย่างวีระ เกิดพุดซาล่ะ?

“ถามว่าฟาวล์ไหม? จังหวะฟุตบอลมันฟาวล์อยู่แล้ว แต่กรรมการน่าจะดูเจตนาด้วยเพราะกองหลังของผมลื่น แล้วกองหน้าของเขาหันมาชนพอดี แต่ไม่เป็นไรครับ แล้วก็แล้วไป”

แล้วก็แล้วไป...รวมทั้งลูกบอลที่สังหารโดยศูนย์หน้าบราซิลด้วยที่แล้วผ่านมือวีระเข้าไปตุงตาข่าย อ้อ! แล้วก็สองแต้มด้วยที่หลุดมือบางกอก ยูไนเต็ดไปแล้ว

แม้จะแตกแต่ปรีชายังสกัดกั้นทางอากาศได้อย่างแข็งขัน

ไกรสร ปั้นเจริญพยายามแหวกกองหลังฮัลโหล

เลอันโดร บรากา จอมทัพชาวแซมบ้าพยายามแตะบอลลอดขาของอาทิตย์ บุญพา

แอคชันเท่ ๆ ของปรีชา ชาวกล้า

มิดฟิลด์จอมทัพของสองทีมห้ำหั่นกัน

จังหวะจุดโทษของทีโอที

วาลซี (ไม่เห็นในภาพ) สังหารจุดโทษเข้าไปอย่างเลือดเย็น

“ได้ 1 แต้ม ผมว่าไม่พอนะ เกมเราหนืดไปนิดนึง แล้วก็เสียดายลูกโทษลูกนั้น...มันก้ำกึ่งไม่ชัดเจน แต่ก็โอเคตัดสินไปแล้วก็ไม่เป็นไร ถ้าผู้เล่นไม่เจ็บจนเหลือสิบคน ผมว่าเกมน่าจะเป็นของเราได้” ผู้ช่วยโค้ชบางกอก ยูไนเต็ดให้ทัศนะ

“ครึ่งแรกเราเฉื่อยไปหน่อย พอเค้ายิงได้ก่อนทำให้เราเล่นยากเพราะต้องมาไล่ตาม ครึ่งหลังดีขึ้นก็น่าเสียดายนะ เราน่าจะชนะแต่กลับได้แต้มเดียว” โค้ชก๊อกตัดพ้อ พร้อมกับแย็บต่อว่า “แต่วันพุธ (เอฟ.เอ.คัพ) เต็มที่กว่านี้แน่และจะเปิดเกมรุกเต็มที่ด้วย”

ออกมาดึง 1 แต้มนอกบ้านได้ทำให้ความมั่นใจมีมากกว่า, ตัวผู้เล่นสมบูรณ์พร้อมกว่า, ได้กลับไปเล่นในบ้าน, วาลซีจะได้ร่ายมนต์แข้งแซมบ้าตั้งแต่ต้นเกม ฯลฯ มองปัจจัยต่าง ๆ แล้ว แม้ยกหนึ่งจะเสมอกัน

แต่ยกสอง ทีโอทีได้เปรียบกว่าเห็น ๆ และน่าจะรักษาเส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศเอฟ.เอ.คัพเอาไว้ได้นะ

...

แฟนคลับของทั้งสองทีมแลกของที่ระลึกกันช่วงพักครึ่ง

งานเปิดตัว TAN Network ประสบความสำเร็จพอสมควร

กระเช้าดอกไม้ที่แขกรับเชิญนำมาแสดงความยินดีนั้น เจ้านายบอกว่า ใครอยากได้ใบไหน เอากลับไปได้เลย

ผมเหลือบเห็นใบที่มีดอกลิลลี่สีขาว

“ยัยดั๊กกี้มันชอบลิลลี่สีขาวนี่” เลยตัดสินใจยกใบนี้กลับ

เดินออกมาข้างนอก ฝนตกหนัก ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าสายฝนนั้นโปรยปรายมาพร้อม ๆ กับน้ำตาของชาวทีโอทีที่เพิ่งตกรอบเอฟ.เอ.คัพมาหมาด ๆ...ตกรอบทั้ง ๆ ที่ผมมองว่า “พร้อม” กว่านั่นแหละ

ดอกลิลลี่สีขาวเปล่งปลั่งแข่งกับดอกกุหลาบสีแดงในกระเช้าเดียวกัน ไม่กี่วันข้างหน้าทั้งดอกขาวและดอกแดงก็คงจะเหี่ยวเฉา

แต่สำหรับวันนี้ ความสวยงามของพฤกษชาติในกระเช้าสานใบนี้สามารถสร้างโลกให้งดงามได้ ทำให้หญิงสาวที่จะได้เป็นเจ้าของยิ้มได้...และแน่นอน มันจะทำให้เธอตกรางวัลให้ผมสัก 2-3 ดอก

เอ้อ...อ่า...ผมหมายถึงหอมแก้มซ้าย หอมแก้มขวาสัก 2-3 ทีน่ะครับ ^^!

ดอกไม้ในกระเช้าเปรียบได้กับงานที่เพิ่งจบไป

สวยงาม...แต่วันข้างหน้าจะเหี่ยวเฉาเหมือนกันไหม?

ผมไม่รู้

รู้แค่ว่า

วันนี้ TAN Network เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นอีกนิดนึงแล้ว แต่ความสำเร็จที่แท้จริงอยู่ที่ว่าจะมีคนดูเพิ่มมากกว่าเดิมไหม? ช่องจะเลี้ยงตัวเองได้ไหม?

แน่นอน ผมไม่สามารถบังคับให้คนหันมาดูช่องนี้ได้มากขึ้นหรอก รวมทั้งไม่สามารถบังคับสปอนเซอร์ให้มาควักเงินสนับสนุนได้เช่นกัน...สิ่งที่ผมทำได้ก็แค่

ทำรายการของผมให้เต็มที่ที่สุดและออกมาดีที่สุด

ทีของผมแล้วผมคงไม่ทิ้งมันไปกับสายฝน...เหมือนกับที่ทีมรักอันดับสองอย่างทีโอทีเพิ่งทำลงไปหรอก

Create Date : 31 สิงหาคม 2552
Last Update : 31 สิงหาคม 2552 18:43:28 น.		1 comments
Counter : 1568 Pageviews.
Share Tweet