Webblog : Futbol Review ท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ฟุตบอล
Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
17 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
ไม่มีความหวานใดจืดจางลงได้รวดเร็วเท่าความฝัน

9 เม.ย.52 สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสงคราม



“อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย...”

สุนทรภู่ กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์เคยรจนาเอาไว้อย่างนั้นในเพลงยาวถวายโอวาท

จังหวัดสมุทรสงครามอาจจะเป็นแหล่งปลูกต้นตาลและผลิตน้ำตาลที่ขึ้นชื่อที่สุดจังหวัดหนึ่งในประเทศไทย แต่หากจะถามหาความหวานฉ่ำของเมืองแม่กลองในยามนี้...ต้องนี่เลยครับ “เทศกาลกินลิ้นจี่” ที่มีโปสเตอร์พีอาร์ติดมาตามทางก่อนเข้าจังหวัดเพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้มาลองลิ้มชิมรสกัน

และแล้วเมื่อถึงวันสุดท้ายของกำหนดการ เทศกาลนี้ก็จะจากไป รอให้กลับมา “กิน” กันใหม่ในปีหน้า

ความหวานฉ่ำของลิ้นจี่ช่างไม่ต่างอะไรกับความหวานของอ้อยตาล ที่พอหวานลิ้นสร้างความหฤหรรษ์ให้แก่ชิวหาชั่วครู่ชั่วคราวแล้ว ก็จืดจางหายไปมิทิ้งรสชาติใด ๆ ไว้

แต่กับความหวานของความฝันนั้นเล่า...พอจืดจางลง บางครั้งมันมาแทนด้วยรสชาติแห่งความขมขื่น

ดังเช่นที่นักเตะ, ทีมงานและผู้เกี่ยวข้องกับทีมสมุทรสงคราม เอฟ.ซี.ประสบอยู่ในตอนนี้

หลังจากสร้างเซอร์ไพร้ส์ทำผลงานได้ดีในฟุตบอลลีกสูงสุดของเมืองไทยเมื่อฤดูกาลที่แล้ว “ปลาทูคะนอง” สานต่อความสำเร็จนั้นด้วยการนั่งแท่นจ่าฝูงตั้งแต่วันแรกของฤดูกาลนี้ด้วยการถล่มจุฬา ยูไนเต็ด 3-0 ไม่มีอะไรจะสวยงามดุจดั่งความฝันเท่ากับการออกตัวแบบนี้อีกแล้ว^^

นัดต่อมาที่ต้องแข่งกับทีโอทีในบ้านนั้นมีการถ่ายทอดสดทางสยามกีฬาทีวีด้วย ก็อปปี้โปรโมทลงหนังสือพิมพ์ในเครือเดียวกันเขียนไว้ว่า

“ชมฟอร์มการเล่นของทีมจ่าฝูง สมุทรสงคราม...”

พวกเขาแพ้ทีมฮัลโหลแบบโชคร้าย 0-1 ในนัดนั้น

ก่อนจะออกนอกบ้านไปแพ้ราชนาวี-ระยอง ตามมาด้วยการแพ้บีอีซี เทโร ศาสนคาบ้านอีก

จากการแพ้อย่างโชคร้ายในนัดที่ 2 มาถึงตอนนี้...กลายเป็นว่าก่อนลงแข่งนัดที่ 5 สมุทรสงครามแพ้มา 3 นัดรวดแล้ว...ความฝันแสนหวานมลายหายไปอย่างรวดเร็ว

“ตอนที่เราชนะจุฬาฯ ผมมองว่าคู่แข่งไม่พร้อมมากกว่า การเป็นจ่าฝูงในนัดนั้น...เราก็ไม่ได้เหลิงนะ” คนึง บุราณสุข ศูนย์หน้าดาวยิงบอกเล่าความนึกคิด

ส่วนกัปตันทีมอย่างทรงวุฒิ บัวเพ็ชรรู้สึกอีกแบบนึง

“ชัยชนะนัดแรก 3-0 ทำให้เราตกอยู่ในความประมาทไปหน่อย มองว่าไทยลีกเป็นเรื่อง่าย แต่พอแพ้ทีโอทีนัดที่ 2 ในบ้านทำให้เราทบทวนได้ว่ามันไม่ง่ายหรอก การได้แต้มแต่ละแต้ม...มันไม่ง่ายเลย”

ความพ่ายแพ้ติด ๆ กันทำให้ขุนพลปลาทูคะนอง “ตื่น” จากความฝันดีในนัดแรกเพื่อมาพบกับความจริงที่ขมขื่น อย่างไรก็ดี “โค้ชฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุมยังมองว่าสถานการณ์ของทีมยังไม่ถึงขั้นวิกฤต

“จริง ๆ การเป็นจ่าฝูงในนัดแรกมันวัดอะไรไม่ได้หรอก แค่เป็นขวัญกำลังใจเท่านั้น แต่ตอนนี้ผมมองว่าทีมยังไม่วิกฤตนะ เพราะฟุตบอลของเราเป็นทีมหนีตกชั้น ไม่ได้หวังอยู่ท็อปไฟว์อะไรอยู่แล้ว...”




คัทเอาท์เทศกาล "กินลิ้นจี่"

เสื้อหมายเลข 8 ของกัปตันทีมทรงวุฒิ เป็นอีกเบอร์ที่ขายดี

สถานการณ์ตอนนี้ดูโค้ชฉ่วยโดดเดี่ยวเดียวดายเหลือเกิน


จากผลงานที่สามารถแทรกตัวเข้าไปเป็น 1 ใน 8 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลควีนส์คัพได้ ผสมผสานกับผลงานที่ “โอนะ” ในฤดูกาลที่แล้ว สร้างความคาดหวังให้กับแฟนบอลได้ไม่น้อย แล้วปัจจัยอะไรล่ะที่ทำให้สมุทรสงครามทีมเดียวกันนี้เพิ่งเก็บแต้มได้ 3 จาก 12 คะแนนที่มีให้ชิงชัย

“ผู้เล่นเรามีจำกัด แถมนักเตะหลักยังมาเจ็บหลังเสร็จศึกควีนส์คัพไปอีก 2 ตัวด้วย” โค้ชฉ่วยวิเคราะห์ “แล้วการให้เงินสนับสนุนของทางผู้ใหญ่มันก็บ่งบอกแต่แรกแล้วว่าเราต้องหนีตาย การบริหารแบบนี้ การมีนักบอลเท่านี้ มันบ่งบอกแล้วว่าเราเอาแค่นี้”

แม้ทุกอย่างจะจำกัดจำเขี่ย แต่ 2 นัดที่ผมได้มาเห็นสมุทรสงครามเล่นกับตา สิ่งที่พวกเขามีมากกว่าหลาย ๆ ทีมคือ “หัวใจ”...เจอโอสถสภา เอ็ม 150 นัดนี้ ผมจึงมาพิสูจน์หัวใจของพวกเขาอีกครั้ง

แล้วก็ได้รับรู้ว่า “(ห้างขาย) ยา” เม็ดนี้ช่าง “ขม” เสียจริง

น่าแปลกที่รสขมมักจะอยู่ติดลิ้นได้นานกว่ารสหวาน




กำลังใจจากกองเชียร์ "ปลาทูคะนอง"

กองเชียร์โอสถฯแม้จะไม่คึกคักตลอดเกมเหมือนหลาย ๆ ทีมที่ผมเคยเห็น แต่ก็มีอุปกรณ์ครบครัน


ลางร้ายมาเยือนสมุทรสงครามตั้งแต่นาที 33 เมื่อต้องเสียทศพร ศรีเรืองผู้รักษาประตูไปในเกมที่ยังสูสีดู๋ดี๋กันอยู่

ความผิดพลาดแค่เพียงนิดเดียวหลังจากนั้นไม่นาน ทำให้ปลาทูคะนองต้องพบกับความยากลำบากในครึ่งหลังเมื่อแผงหลังสกัดกันไม่ดีเปิดโอกาสให้จักรกริช บุญคำยิงให้ทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน

“เกมครึ่งแรกต่างคนก็ต่างเกร็ง ทางโอสถฯกะมาตั้งรับและโต้กลับอยู่แล้วเพราะรู้ว่าเราหลังชนฝายังไงก็ต้องบุก แต่เราดันมาพลาดนิดเดียวเป็นประตูเลย...นี่คือฟุตบอล...บุกมากกว่าแต่ทำไม่ได้ พอสกัดพลาดนิดเดียว โอสถฯลงโทษทันที” ทรงวุฒิเล่าความรู้สึกในช่วงเวลานั้น

แม้จะรู้ว่าเป็นงานหนักแต่กองเชียร์ในเสื้อฟ้ายังเปล่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจทีมรักไม่ขาดสาย พักครึ่งมีการเป่าทรัมเป็ตเรียกขวัญและกำลังใจให้กับทีมอีกด้วย...นี่คือ 45 นาทีสุดท้ายที่ขุนพลปลาทูคะนองต้องช่วยกันกอบกู้วิกฤตที่กำลังมาเยือน




แผงหลังเจ้าบ้านช่วยกันปกปักรักษาหน้าประตูตนเอง

โฉมหน้าจักรกริช บุญคำผู้ทำประตูแรก

อภินันท์ แก้วปิลาของปลทูคะนองขวางไม่ให้คริสเตียน อาเยวทำอะไรได้ถนัด ๆ

(จากซ้ายไปขวา) โจ้ 5 หลา, อาเยว เข้ามาร่วมเป็นเกียรติกับจักรกริชที่ทำประตูได้

รอยยิ้มหวาน ๆ จากกองเชียร์โอสถสภา


ทุกอย่างเป็นใจสมุทรสงครามไม่น้อยเมื่อเจษฎา พั่วนะคุณมีมิดฟิลด์ตัวตัดเกมของทีมเยือนเล่นแรงจนได้ใบเหลืองติด ๆ กัน 2 ใบ...เพียงแต่ว่าใบแรกนั้นแลกมากับอาการเจ็บของทรงวุฒิ บัวเพ็ชร กัปตันทีมปลาทูคะนองด้วย

“จังหวะนั้นโดนเจษฎาเหยียบ แต่ผมต้องฝืนลงไปเล่นต่อ...มันไม่มีตัวเปลี่ยน จึงต้องฉีดสเปรย์แล้วกัดฟันสู้...” กัปตันทีมวัย 29 เผย

ได้เปรียบตัวผู้เล่น ได้เปรียบเสียงเชียร์ สมุทรสงครามจึงเปิดเกมรุกอย่างหนักเพียงแต่จังหวะสุดท้ายไม่คม แต่ความได้เปรียบของพวกเขาไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากนัก...อาจจะแค่ชั่วความหวานของอ้อยตาลซาบซ่านที่ปลายลิ้นเท่านั้น (แหะ ๆ เวอร์ไปนิดส์นึง ^^!) เมื่อประสาร พันธ์สาลีโดนใบเหลืองใบที่ 2 ต้องออกจากสนามไปในจังหวะที่ดูกึ่ง ๆ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเก็บอารมณ์ไม่อยู่เหมือนกัน

“ผมว่าเขาเตะบอลนะ แต่ดันไปโดนขาโอสถฯ กรรมการน่าจะถามกรรมการที่ 4 ก่อน ไม่น่าด่วนตัดสินใจเลย” เป็นมุมมองของทรงวุฒิ กัปตันทีมแม่กลอง

เกมทำท่าว่าจะจบลงที่ 0-1 อยู่แล้ว ช่วงทดเวลาเจ็บ “โจ้ 5 หลา” สรายุทธ ชัยคำดี หัวหอกเอ็ม 150 ได้บอลจากบริเวณกึ่งกลางสนาม เขาพาบอลขึ้นหน้าไปเรื่อย ๆ ผมได้ยินเสียงจากข้างสนามตะโกนบอกว่า

“โจ้เก็บบอลไว้ พาออกด้านข้าง”

แต่โจ้ไม่ทำครับ

ผมแอบหัวเราะในใจให้กับความดื้อของจอมเข้าฮอร์สทีมชาติไทยสลับ ๆ กับคิดในใจว่า “เอ่อ! เสียงตะโกนจากข้างสนามเพื่อให้นักเตะถ่วงเวลามีจริงในโลกนี้ด้วย” มารู้ตัวอีกทีก็ตอนปิยะชาติ ศรีมะเรืองตัวสำรองของโอสถฯวิ่งมาเฮหลังได้ประตูตอกย้ำชัยชนะไปเรียบร้อยแล้ว

“เป็นเกมที่ดีเกมนึงเพราะทั้ง 2 ทีมเปิดเกมรุกใส่กัน อยู่ที่จังหวะใครจะทำได้ดีกว่า ซึ่งเราทำได้ ความจริงสมุทรสงครามก็เล่นดี แต่เราสามารถป้องกันได้” จักรกริช ผู้ทำประตูแรกให้ความเห็น

เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แต่ตอนนี้โอสถสภา เอ็ม 150 กลายเป็นรองจ่าฝูงไปเรียบร้อยแล้ว...ฝันหวานแสนสวยของพวกเขาในครั้งนี้จะสิ้นสลายลงเมื่อไหร่? รวดเร็วไหม? ไม่มีใครรู้ได้เลย



กองเชียร์สมุทรสงครามปลูกเร้าทีมรักอย่างเต็มที่ช่วงพักครึ่ง

ช็อตนี้เจษฎาถูกเหลืองแรก

นี่เหลืองที่สองเป็นใบแดง

ทรงวุฒิเข้าไปอธิบายผู้ตัดสินหลังประสารโดนใบเหลืองที่ 2

แผงหลังห้างขายยาสกัดกั้นการรุกของเจ้าถิ่นเต็มที่

โจ้ 5 หลาพยายามแหวกกองหลัง

คนึงเปิดลูกเตะมุมเข้าไปลุ้นช่วงท้ายเกม


ในขณะที่อีกฝั่ง นี่คือการแพ้ติด ๆ กัน 4 นัดรวด หล่นลงไปกองอยู่ที่ตำแหน่งรองบ๊วย ไม่มีอะไรขมขื่นเท่านี้อีกแล้ว

“เกมวันนี้เด็กไม่เอา เนือยไปหน่อย ผมก็หาสาเหตุไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมเค้าไม่เอา โดนไปแล้วก็ไม่วิ่ง ตอนนี้คงต้องมีการปรับทัพใหญ่กัน” โค้ชฉ่วยพูดเนือย ๆ (บ้าง)

“ยอมรับว่ารู้สึกเนือย ๆ ไปหน่อย สาเหตุน่ามาจากการบริหารงานของสโมสร...คือผู้ใหญ่ข้างบนพอมีผลงานไม่ดีก็โทษนักเตะอย่างเดียว ไม่สนใจว่าความเป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้าง...” คนึงตัดพ้อ

บรรยากาศหลังจบเกมของทีมเจ้าบ้านในยามนี้ดูเศร้าส้อยเสียเหลือเกิน สายตาของแต่ละคนดูเหม่อลอย น้ำเสียงของแต่ละคนก็ดูแหบปล่า ความงุนงงเกิดขึ้นในหัวใจทุก ๆ ดวงของนักเตะและกองเชียร์ปลาทูคะนอง...ไม่แน่ใจว่าสายตาเหม่อลอยของพวกเขานั้นจะมองเห็นทางออกของความเลวร้ายในครั้งนี้ไหม?

“ผมรู้สึกเป็นห่วงทีมนะ...ปีที่แล้ว เราไม่เคยเจอสถานการณ์อย่างนี้เลย ก็ต้องเรียกสปิริตกลับมาให้ได้” ทรงวุฒิเผยความในใจ

หากจะมีอะไรที่ทำให้บรรยากาศในยามนี้ไม่วังเวงจนเกินไป ผมคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของเหล่ากองเชียร์ปลาทูคะนองนั่นแหละ

หลังกรรมการเป่าจบเกม พวกเขาส่งเสียงให้กำลังใจอยู่บนอัฒจันทร์ว่า

“สู้ต่อไป ๆ ๆ”

จากนั้นหลาย ๆ คนเดินลงมาถ่ายรูปกับนักเตะ บางคนก็ตะโกน

“โค้ชฉ่วย คุณสุดยอดมากรู้ไหม”

“สู้ ๆ นะ พวกเราเป็นกำลังใจให้เสมอ”

ฯลฯ

“อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย...”

แม้สุนทรภู่จะแต่งกลอนบทนี้มากว่าร้อยปีแล้ว แต่เนื้อหาที่ท่านรจนาเอาไว้ยังเป็นจริงอยู่เสมอ...อ้อย, ตาล, ลิ้นจี่, น้ำตาล, ความฝัน ฯลฯ อะไรที่ว่าหวานก็ไม่มีความหวานอะไรเลยที่คงทนเท่าความหวานของมธุรสวาจา...โดยเฉพาะถ้อยคำสร้างกำลังใจทั้งหลายแหล่เหล่านั้น

ที่จะช่วยผลักดันให้ “ปลาทู” ตัวนี้ลบเลือนความขื่นขมและก้าวออกจากวิกฤตที่เลวร้ายนี้ไปได้




Create Date : 17 เมษายน 2552
Last Update : 17 เมษายน 2552 16:49:31 น. 5 comments
Counter : 1211 Pageviews.

 
สวัสดีจ้า แว๊บเข้ามาอ่านจ้า.......


โดย: baareeraa วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:17:38:44 น.  

 
เคยไปเยือนสมุทรสงครามเมื่อกลางปีที่ผ่านมา........
เป็นเมืองเล็ก ๆที่น่าอยู่และมหาวิทยาลัยสวยกว่าที่คิดเลยแหล่ะคะ...

..
ขับรถหลงทางด้วยแหล่ะ


โดย: เจ้าหญิงหงส์แดง (timeofmylove ) วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:2:06:06 น.  

 
"เศร้าสร้อย" นะ อิอิ



โดย: :D keigo :D วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:9:59:28 น.  

 
เข้าใจเปรียบเปรย ธรรมดาของลมปากคน ความหวานไม่เข้าใครออกใคร ไม่งั้นคงไม่มีคำว่าฝันหวานหรอกนะแต่ถ้าใช้บ่อยและพร่ำเพรือคงเลี่ยนได้เหมือนกัน


โดย: witch IP: 124.121.174.91 วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:13:10:41 น.  

 
บรรยายสุดยอดไปเลย เป็นนักเขียนอะเปล่าเนี้ย


โดย: น้ำฝน IP: 124.121.126.165 วันที่: 11 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:46:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

baevi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add baevi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.