ถ้า / เพียง / แต่
ฟุตบอลกรมพลศึกษา รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ประเภท ก รอบแรก 6 ธ.ค.56 สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ คลองหก สวนกุหลาบ 3-4 ประเทืองทิพย์วิทยา (0-0, จุดโทษ)
ไม่รู้อะไรดลใจให้วันนี้ผมพกตังค์ (มากกว่าค่ามอเตอร์ไซค์) ออกไปจ็อกกิ้งด้วย
บางทีอาจจะเป็นเพราะร้านข้าวแกงที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงข้ามสวนสุขภาพ, สถานที่ออกกำลังกายแห่งใหม่ที่ผมต้องมาใช้แทนชั่วคราวเพราะสนามบอลที่เคยใช้วิ่งเป็นประจำนั้นปิดปรับปรุง
สวนสุขภาพแห่งนี้เป็นสวนสุขภาพที่ใกล้ที่พักผมที่สุดแล้ว แต่กระนั้นถ้าจะเดินไป...ก็ถึงเหนื่อยเหมือนกัน ผมก็เลยมักพึ่งบริการมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
เช้านี้พอจ็อกกิ้งและออกกำลังกายโน่น นี่ นั่นเสร็จ ผมก็เดินข้ามถนนไปดูกับข้าวในร้านข้าวแกงที่ว่า ให้รู้กันไปเลยว่าจะมีอะไร โดน ๆ อย่างที่รู้สึกตะหงิด ๆ ไหม?
พบว่าก็ไม่เท่าไหร่
ก็เลยข้ามกลับมา
ถ้าเลี้ยวซ้ายก็คือเดินกลับที่พัก (แต่ผมไม่เดิน อาศัยรถรับจ้างเอา)
แต่ผมเลือกที่จะเลี้ยวขวาเพราะบนถนนสายนี้มีร้านอาหารเต็มไปหมด ไหน ๆ พกตังค์ออกมาแล้ว และผมก็เบื่อ ๆ ร้านอาหารแถวที่พักแล้วด้วย ก็เลยคิดว่าหาอะไรกินก่อนกลับดีกว่า
แล้วก็พบว่าช่วง 8 โมงเช้า ร้านส่วนใหญ่จะยังไม่เปิด - -"
เดินมาเรื่อย ๆ จนรู้ตัวอีกทีก็ได้ระยะไกลโขอยู่...ถ้าเพียงแต่...ผมเลี้ยวซ้ายแต่แรก ตอนนี้ก็อาจจะถึงที่พักแล้วมั้ง
วันนี้ผมวางแพลนไว้ว่าจะหยุดต่อเนื่องจากวันพ่อ (และลากยาวไปเสาร์-อาทิตย์-จันทร์-อังคารที่เป็นวันรัฐธรรมนูญเลย) โดยกะว่าจะไปเชียร์น้อง ๆ สวนกุหลาบลุ้นเข้ารอบบอลกรมพลศึกษา รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ประเภท ก ซะหน่อย (^.^)/
เวลาคิกออฟกำหนดไว้ที่ 11 โมงครึ่ง...ดูชิว ๆ ยังงั้ย ยังไงก็ไปทัน แต่เพราะผมมัวแต่อู้ สุดท้ายก็เลยไปถึงสนามอันไกลโพ้นถึงคลองหกเอาตอนที่คิกออฟไปแล้ว 5 นาที - -"
ถ้าเพียงแต่...ผมจะกลับที่พักหลังจากออกกำลังกายเสร็จเลย ผมก็น่าจะมาทันเก็บบรรยากาศก่อนที่น้อง ๆ จะลงสนามได้
การยิงจุดโทษ...จุดเปลี่ยนแค่เพียงเลือกขวาหรือซ้าย
กติกาที่ฝ่ายจัดการแข่งขันกำหนดเอาไว้สำหรับทัวร์นาเมนท์นี้คือทุกนัดจะต้องจบลงที่ผลแพ้-ชนะ
ถ้าเสมอกันทำยังไง?
ก็ดวลจุดโทษกันเข้าไปเสะ
ที่เจ็บกว่านั้นก็คือจะชนะในเกมสวย ๆ หรือจะฟลุคชนะจุดโทษ...คุณได้ 3 แต้มเท่ากัน -*-
พูดอีกอย่างนึง จะแพ้ถล่มทลายหรือจะบุกหนักแต่ยิงไม่ได้แล้วมาแพ้จุดโทษ...ก็ไม่ได้อะไรตอบแทนเท่ากัน -*-
ไม่มีหรอก ชนะในเกมได้ 3 แต้ม ชนะจุดโทษได้ 2 แต้ม แพ้จุดโทษเอาคะแนนปลอบใจไปแต้มนึง อะไรแบบเนี๊ยะ
สวนกุหลาบถูกจับมาอยู่สาย C ร่วมกับ ทีมเต็ง อัสสัมชัญ ธนบุรี, โรงเรียนกีฬาขอนแก่นและประเทืองทิพย์วิทยา
นัดแรก อัสสัมชัญ ธนบุรีโชว์ฟอร์มสมทีมเต็ง ถล่มประเทืองทิพย์วิทยา 4-0
อีกคู่ สวนกุหลาบทำได้แค่เสมอโรงเรียนกีฬาขอนแก่น 0-0 ก่อนที่จะมาแพ้ดวลจุดโทษ 4-5 T_T
นัดที่สอง เด็ก ๆ ชมพู-ฟ้าแก้ตัวได้อย่างยอดเยี่ยม เสมออัสสัมชัญ ธนบุรี 0-0 (อีกแระ) ก่อนที่คราวนี้จะสมหวังในการวัดดวงบ้างที่สกอร์ 4-3 (^-^)V
ในขณะที่อีกคู่ โรงเรียนกีฬาขอนแก่นเฉือนประเทืองทิพย์วิทยา 1-0
หนทางที่สวนกุหลาบจะเข้ารอบ อย่างแรกเลยคือเอาชนะประเทืองทิพย์วิทยาให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยไปลุ้นผลคู่หลังเอา
เพื่อลดทอนความยุ่งยาก ก็ต้องเชียร์โรงเรียนกีฬาขอนแก่นให้ชนะด้วย
เพราะถ้าหากอัสสัมชัญ ธนบุรีชนะ เท่ากับว่าจะมี 6 แต้มเท่ากันสามทีม ซึ่งฝ่ายจัดระบุไว้ว่าถ้ามีแต้มเท่ากัน 3 ทีม จับสลากตัดสินอย่างเดียวเลย
แต่ถ้ามีแต้มเท่ากันสองทีม ท่านว่าให้ดูผล เฮด ทู เฮด
นั่นหมายถึง ในขณะที่สวนกุหลาบกำลังลุ้นเข้ารอบ แต่ถ้าจับพลัดจับผลูแพ้ขึ้นมา ก็อาจจะจบบ๊วยของกลุ่ม อันหมายถึงการตกชั้นได้เลย (นอกจากอัสสัมชัญ ธนบุรีจะแพ้ด้วย ก็จะได้วัดจับสลากกัน 3 ทีม)
อ่านมาถึงตรงนี้ เริ่มงงแล้วใช่ไหม?...ใช่ครับ...ผมก็งงหมือนกัน (>_<)
แล้วก็งงต่อไปว่า...กรมพลศึกษาจะจัดการแข่งขันด้วยระบบธรรมดา ๆ ที่สากลเค้าทำกันไม่ได้หรือยังไง? หรือมัน เบ ๆ ไป ไม่เกร๋ไกร๋ ไม่จี๊ดจ๊าด ไม่โดน ไม่แนว ไม่อินดี้
เอาแหละ เพื่อไม่ให้งง สิ่งแรกที่เด็ก ๆ ชมพู-ฟ้าต้องทำคือ...ชนะ
จะชนะอะไรยังไงก็ได้ ขอให้จับหนูได้เป็นพอ เอ้ย! ไม่ใช่ ขอให้ชนะก็พอ
สวนกุหลาบลงแข่งมาแล้วสองนัด ต้องลุ้นจนถึงการดวลจุดโทษทั้ง 2 นัด
สวนกุหลาบจัดทัพลงสนามวันนี้ด้วยระบบเดียวกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของ 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้เลยนะ นั่นคือระบบ 3-5-2 มีก่อลาภ ตัณฑะตะนัยเป็นผู้รักษาประตู
แผงหลังสามคนประกอบด้วยจักรพันธ์ วังหิน, วัฒนพล พงษ์พานิชและวิชญะ ฆารไสย์
สามมิดฟิลด์ผู้ขับเคลื่อนเกมในแดนกลางก็คือกฤตนัย มุขธระโกษา (กัปตันทีม), วัชรกิตติ มากแก่นและฐิติพันธ์ กลิ่นเมฆ โดยมีผู้เล่นริมเส้นที่ต้องรับผิดชอบทั้งเกมรับและรุกอย่างธนะรัตน์ งาเกษมทางฝั่งขวาและภูริณัฐ บุญมั่นทางด้านซ้าย
คู่หน้าใช้บริการของธนวัฒน์ พึ่งสุขกับสัณหวัช จักษุวิจิตรกร
ส่วนประเทืองทิพย์วิทยานั้นมาในระบบ 4-4-2 มีเศรษฐา ดำเหลือเป็นผู้รักษาประตู
แผงรับจากขวามาซ้ายประกอบด้วยชนาวิษญ์ นุ่นด้วง, ยศธร มูลทองเนียม (กัปตันทีม), อธิป จันทรพรหมเดชและปิยวัฒน์ วาพัดไทย
แดนกลางคุมทัพโดยกวิช อือจรรยาและภควัต สกุลพอง มีกฤตภาส กอกลิ่นจี๊ดจ๊าดทางด้านขวาและทัตพงศ์ อรัญภูวนารถประจำการทางด้านซ้าย
คู่หน้าเป็นธนชาติ คุณดีและคชาวุฒิ สรรพโภชน์
ผมมาถึงที่สนามตอนที่เริ่มแข่งขันไปแล้ว 5 นาที สกอร์ยัง 0-0
แม้ช่วงนี้จะมีลมเย็น ๆ โชยมายามเช้า แต่ช่วงใกล้เที่ยงแบบนี้แดดจัดจ้านมาก จำได้ว่าสมัยยังนุ่งขาสั้นเรียนมัธยมอยู่ ไม่ว่าแดดจะสาดส่องขนาดไหนก็ยังรู้สึกมีความสุขที่ได้ไล่เตะบอลพลาสติกกับเพื่อน ๆ
น้อง ๆ นักบอลทั้ง 22 คนที่ลงสนามก็น่าจะมีความรู้สึกแบบนั้น?
ไม่ได้ถามพวกเขาหรอก แต่คิดเอาเองว่า ถ้าเลือกได้ น้อง ๆ คงไม่มีใครอยากเตะตอนใกล้เที่ยงแบบนี้หรอก - -"
เกมก็เลยออกมาในลักษณะเรื่อย ๆ จังหวะหวาดเสียวไม่ค่อยมีมาก
ยิ่งผสมผสานกับสภาพสนามที่เฉอะแฉะเป็นบางพื้นที่ (คาดว่าน่าจะเพราะรดน้ำก่อนแข่งไม่นาน) ทำให้เกมยิ่งลดคุณภาพลงไปอีก
ครึ่งแรก สวนกุหลาบได้โยนลูกโทษบอมบ์ใส่หน้าประตูประเทืองทิพย์วิทยาอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังทำอะไรได้ไม่ถนัดถนี่
แล้วก็จบ 40 นาทีแรกไปแบบโนสกอร์
เกมดูเรื่อย ๆ แต่ก็มีการปะทะแบบนี้ให้เห็นบ้างเหมือนกัน
พักครึ่ง สต๊าฟโค้ชสวนกุหลาบเน้นน้อง ๆ ในเรื่องการยืนตำแหน่ง, การเก็บบอล-ต่อบอล อย่าโยนยาว รวมทั้งกระตุ้นให้ทุกคนฮึกเหิมและแอคทีฟให้มากกว่าครึ่งแรก
นี่คือ 40 นาทีสุดท้ายที่สามารถตัดสินชะตาที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วได้เลย ลุ้นเข้ารอบหรือตกชั้น...
เกม 10 นาทีแรกยังไม่ต่างอะไรจากครึ่งแรกนัก เรื่อย ๆ ไม่มีจังหวะเสียวอะไรมาก สวนกุหลาบดูบุกมากกว่านิด ๆ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นไปกว่าคู่แข่งเท่าไหร่
ผมเหลือบไปเห็นข้าง ๆ ม้านั่งสำรองของประเทืองทิพย์วิทยามีกลุ่มนักเตะใส่เสื้อสีเหลืองมาวอร์มอัพอยู่ ตอนแรกเดาว่าเป็นนักเตะโรงเรียนกีฬาขอนแก่น แต่พอได้เห็นจะจะ กลับพบว่าเสื้อเหลืองที่เห็นนั้น มันเสื้อทีมโอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรีชัด ๆ ก็ได้ช่างภาพของโรงเรียนประเทืองทิพย์วิทยาไขข้อข้องใจให้ _/l_
ยังไม่ได้เซ็นเอ็มโอยูกับโอสถฯนะครับ แต่ก็เหมือนให้ความช่วยเหลือกันอยู่ ทีม 16 ปีนี่มีเด็กในอะคาเดมีของโอสถฯไม่กี่ตัวนะครับ เป็นพวกเซ็นเตอร์ฮาล์ฟนั่นแหละ เด็ก ๆ ในอะคาเดมีส่วนใหญ่อยู่ทีม 14 ปีครับ นอกจากนี้โอสถฯยังให้ความช่วยเหลือเรื่องโค้ชด้วย
ผมรีบกวาดสายตาดูใบรายชื่อทันที พบว่ามีชื่อ โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทยที่เคยเป็นโค้ชเยาวชนของ ทีมพลังเอ็ม อยู่ในกลุ่มสต๊าฟโค้ชด้วย
กลับมาดูเกมกันต่อ...
บรรยากาศการแก้เกมช่วงพักครึ่งของฝั่งชมพู-ฟ้า
นาทีที่ 58 ธนรัตน์ นักเตะริมเส้นฝั่งขวาของสวนกุหลาบพลิกพาบอลจี้เข้าหาประตูคู่แข่ง แต่กลับยิงหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
ถัดมาอีกนาทีเดียวสัณหวัช กองหน้าสวนกุหลาบได้ใบเหลืองเพราะไปตัดเกมเดินหน้าของอธิป แผงหลังคู่แข่ง
กลุ่มสต๊าฟโค้ชสวนกุหลาบปรับเปลี่ยนเกมเอาตอน 12 นาทีสุดท้าย ส่งภาณุพงศ์ นาทามลงมาแทนจักรพันธ์
เกมช่วง 10 นาทีสุดท้าย ประเทืองทิพย์วิทยาเริ่มทำเกมบุกได้มากขึ้นทำเอากองเชียร์เลือดชมพู-ฟ้าหายใจไม่คล่องไปเหมือนกัน
นาทีที่ 71 ประเทืองทิพย์วิทยาเกือบทำหัวใจของกองเชียร์จากย่านสะพานพุทธตกลงไปที่ตาตุ่ม จากจังหวะยิงไกล ก่อลาภ จอมหนึบเลือดชมพู-ฟ้าต้องออกแรงทุบบอลออกมา ก็เลยโดนคชาวุฒิตามเข้าซ้ำ แต่ก่อลาภก็ยังไม่ยอมสิ้นลาย
3 นาทีต่อมา สวนกุหลาบเปลี่ยนตัวอีก ส่งพีรวัส ฤทธิ์ประสงค์ลงมาแทนธนรัตน์
นาทีที่ 77 กวิช มิดฟิลด์ไดนาโมของประเทืองทิพย์วิทยารับใบเหลืองไปเพราะไปกีดขวางการจราจรของก่อลาภ ผู้รักษาประตูสวนกุหลาบที่กำลังจะเปิดบอล
ลีลาการโยกของธนรัตน์ งาเกษม ดาวเตะริมเส้นฝั่งขวาของสวนกุหลาบ
ในขณะที่ผมกำลังโพสต์รายงานสดในเฟซบุ๊ค กรุ๊ป SUAN CHEER ว่าทดเวลาเจ็บ 5 นาทีนั้น ในสนามก็มีเรื่องวุ่นวายขึ้น ผู้เล่นทั้งสองทีมฮือเข้าหากัน
หลังจากเคลียร์ทุกอย่างเสร็จ ผู้ตัดสินชักใบเหลืองให้พีรวัสของสวนกุหลาบ ตามมาด้วยการไล่กวิชของประเทืองทิพย์วิทยาออกจากสนาม แล้วก็ให้ประเทืองทิพย์วิทยาได้เตะฟรีคิกเข้าไปจากทางกราบซ้าย
เข้าใจว่าพีรวัสน่าจะเป็นคนทำฟาวล์ แต่กวิชมาเล่นนอกเกม (อาจจะเอาคืนให้เพื่อนอะไรประมาณนี้รึป่าว?)
สุดท้ายทั้งสองฝ่ายทำอะไรกันไม่ได้ ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
เรียกว่าผลงานของเด็ก ๆ 16 ปีชมพู-ฟ้าทีมนี้คงเส้นคงวามาก ๆ ไม่เคยเสียประตูให้ใคร แต่ก็ดันยิงใครไม่เป็นเลย - -"
ลูกโทษช่วงท้ายเกม หลังจากที่มีการแจกใบเหลือง-ใบแดงไปเรียบร้อย แต่ลูกโยนของกฤตภาสก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ระหว่างที่สต๊าฟโค้ชของทั้งสองทีมกำลังเลือก ผู้กล้า ที่จะตัดสินชะตาให้กับทีม กองเชียร์สวนกุหลาบก็ร้องตะโกนแซว
เบอร์ 8 (กวิช-โดนไล่ออก) เตะจุดโทษด้วยป่าว
ได้ยินอย่างนั้นกวิชตอบโต้ทันที ไม่รู้ว่าเพราะดูถ่ายทอดสดบอลนอกมาเยอะรึป่าว ก็เลยยกมือขึ้นทำขยับนิ้วเหมือนปากพูด สื่อสารประมาณว่า
เงียบ ๆ ไปเหอะ!
น่าเสียดายที่บอลนอกน่ะ โค้ชไม่ได้ทำหน้าที่เป็น ครู ด้วย กวิชก็เลยไม่รู้ว่าการตอบโต้แฟนบอลแบบนี้น่ะจะโดนโค้ช เบิร์ดกบาล เอาได้
ป๊าบ
ส่วนฝั่งสวนกุหลาบนั้น สต๊าฟโค้ชตัดสินใจไม่มอบอาญาสิทธิ์ทั้ง 5 นี้ให้ใครเลย คนไหนมั่นใจก็คนนั้นแหละ
ใครมั่นใจเดินออกไปยิง เข้า-ไม่เข้า ไม่มีใครว่า ยิงอย่างที่ซ้อม ๆ กันมา
ก่อลาภ เอ็งเหนือกว่าเค้าอยู่แล้ว เซฟให้ได้ อีกคนปลุกปลอบผู้รักษาประตูของทีม
นักเตะ, ทีมงาน, สต๊าฟโค้ชสวนกุหลาบรวมใจกันก่อนดวลจุดโทษ
จะว่าไปการยิงจุดโทษก็ไม่ต่างกับการเสี่ยงดวงนักหรอก
ขวา...หรือ...ซ้าย
ไม่ว่าคนยิงหรือคนเซฟ ถ้าเพียงแต่เลือกได้ถูกต้อง มันก็หมายถึงการได้ประตูหรือการเซฟได้
ภควัต สกุลพองของประเทืองทิพย์วิทยาก้าวออกไปทำหน้าที่คนแรก
ขวา มิดฟิลด์คนเก่งคิด
ซ้าย ก่อลาภเดา
ขวาคนยิงมันก็เท่ากับซ้ายคนเซฟ นั่นหมายความว่าก่อลาภพุ่งปัดลูกโทษของภควัตได้สำเร็จ ยัง 0-0 อยู่
คนแรกของสวนกุหลาบ ธนวัฒน์ พึ่งสุขก้าวออกมาอย่างมาดมั่น
สบาย ๆ รูนีย์ สต๊าฟโค้ชคนนึงส่งเสียงลุ้น
ซวบ
ธนวัฒน์ รูนีย์ไม่ทำให้ผิดหวัง ส่งลูกหนังลอยละลิ่วเข้าซุกก้นตาข่าย
สวนกุหลาบนำ 1-0
"รูนีย์ ชมพู-ฟ้า" ไม่พลาดในการยิงจุดโทษคนแรก
ทัตพงศ์ อรัญภูวนารถรับบทผู้กล้าคนที่สองของฝั่งประเทืองทิพย์วิทยา...และทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ
ส่วนฝั่งชมพู-ฟ้านั้น ปราการหลังคนเก่ง วิชญะ ฆารไสย์ก้าวออกมารับภาระนี้เป็นคนต่อไป
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟหมายเลข 6 ส่งบอลไปทางขวาของตนเอง บอลพุ่งลิ่วผ่านมือเศรษฐา ผู้รักษาประตูคู่แข่งไปแล้ว
น่าเสียดายที่มันหลุดกรอบประตูด้วย!
เสมอกัน 1-1
วิชญะยิงหลุดกรอบไป ทำให้สถานการณ์กลับมาเสมอกัน
คนที่สาม คชาวุฒิ สรรพโภชน์ของประเทืองทิพย์วิทยากับภูริณัฐ บุญมั่นของสวนกุหลาบ ไม่มีใครพลาดเลย
เสมอกัน 2-2
มาถึงคนที่ 4 อธิป จันทรพรหมเดช ปราการหลังจอมแกร่งของประเทืองทิพย์วิทยา (ผมเดาว่าหมอนี่แหละ น่าจะเป็นเด็กอะคาเดมีของโอสถฯ-เดาจากคำบอกเล่าของช่างภาพคนนั้น) ก้าวเดินออกมาทำหน้าที่
ก่อลาภผวาปัดได้...น่าเสียดายที่ไม่สามารถหยุดความแรงได้
โอสถฯ เอ้ย! ประเทืองทิพย์วิทยาก็เลยขึ้นนำ 3-2 โยนความกดดันมาให้เด็กชมพู-ฟ้าอีกครา
ฐิติพันธ์ กลิ่นเมฆ ก้าวออกไปรับหน้าที่ให้ชาวสวนกุหลาบ
ดาวเตะหมายเลข 11 จากย่านสะพานพุทธไม่เลือกซ้ายหรือขวา ส่งบอลเข้าไปตรง ๆ กลางประตูนั่นแหละ ในขณะที่เศรษฐาเลือกพุ่งขวา
สกอร์เลยขยับมาเป็น 3-3
ฐิติพันธ์ส่งบอลเข้ากลางประตูแบบนี้เบย
คนสุดท้าย ประเทืองทิพย์วิทยาส่งกฤตภาส กอกลิ่นมาทำหน้าที่ แล้วก็ไม่พลาด
ส่วนสวนกุหลาบนั้น วัชรกิตติ มากแก่น ห้องเครื่องคนสำคัญของทีมเดินออกมาทำหน้าที่
ดาวเตะหมายเลข 7 เลือกซัดบอลไปทางขวามือของตัวเอง เศรษฐาพุ่งไปทางเดียวกัน
บอลพุ่งวาบ มือเศรษฐาไปไม่ถึงแน่ ๆ
ปัง
ทว่าลูกหนังกลับพุ่งเข้าชนเสาอย่างจัง T_T
วัชรกิตติล้มตัวลงคุกเข่าด้วยความผิดหวัง ส่วนเศรษฐาวิ่งไปเฮฮากับเพื่อน ๆ
ประเทืองทิพย์วิทยาชนะแล้ว 4-3
ลูกโทษที่ทำให้ชาวชมพู-ฟ้าหัวใจสลาย
อธิป ปราการหลังของประเทืองทิพย์วิทยากับกฤตนัย กัปตันทีมสวนกุหลาบเดินมาปลอบใจวัชรกิตติ แต่เขาก็ยังคงก้มหน้าด้วยความเศร้าโศก
คาดว่าในหัวของวัชรกิตติคงมีแต่ภาพลูกบอลพุ่งชนเสา ฉายเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่แน่คืนนี้ ภาพเลวร้ายภาพนี้ก็ยังอาจจะตามมาหลอกหลอน
ถ้าเพียงแต่...
เราจะตั้งเท้าบีบมุมกว่านี้อีกไม่กี่องศา บอลมันอาจจะเบียดเสาเข้าไป...น้องหมายเลข 7 อาจจะคิดแบบนี้วนไปเวียนมา
ถ้าเพียงแต่...กติกาการแข่งขันจะไม่พิเศษใส่ไข่ มีการยิงจุดโทษตัดสินแพ้-ชนะทุกเกมแบบนี้ 3 แต้มอาจจะไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ แต่ก็คงไม่ จ่อ ตกชั้นเช่นนี้
ถ้าเพียงแต่...ชนะจุดโทษได้ 2 แต้ม แพ้จุดโทษจะมีปลอบใจสักแต้ม สวนกุหลาบก็จะมี 4 แต้ม อาจจะไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ แต่ก็ไม่ จ่อ ตกชั้นแบบนี้เช่นกัน
ถ้าเพียงแต่...ทีมจะเล่นได้เฉียบขาดกว่านี้ จบสกอร์ได้คมกว่านี้ ก็อาจจะไม่ต้องมาลุ้นดวลจุดโทษด้วยซ้ำ
แต่ความจริงแล้ว ถ้าเพียงแต่ มันก็แค่เรื่องสมมติที่เราอยากให้เป็นจริงเท่านั้น
ความจริงที่เห็นอยู่ตรงหน้าตอนนี้ก็คือ...ชัยชนะของโรงเรียนกีฬาขอนแก่นเหนืออัสสัมชัญ ธนบุรีคือแสงสว่างสุดท้ายที่ปลายอุโมงค์ของชาวชมพู-ฟ้าเท่านั้น
และแค่ไม่กี่นาที แสงสว่างนั้นก็ดับวูบไปอย่างง่ายดายเมื่ออัสสัมชัญ ธนบุรีกดขึ้นนำ 1-0 ได้อย่างรวดเร็ว -*-
ก่อนจะปิดเกมนี้ด้วยสกอร์ 3-1 ส่งสวนกุหลาบตกชั้นแบบเต็มตัว T_T
ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ชาวชมพู-ฟ้าพร้อมสนุบสนุนทีมเสมอ
ผมเป็นแค่เพียงศิษย์เก่า, แฟนบอลที่ตามมาเชียร์น้อง ๆ (ในนัดที่เวลามันลงตัว) คงไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรในทีมหรอก แต่คนที่เห็นปัญหาทุกอย่างนั้นคือทีมทำงานและสต๊าฟโค้ชต่างหาก
จบเกมนี้คงต้องเสวนา หาทางปรับปรุงทีมและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป
การแก้ปัญหานั้นมีหลายทาง
บางวิธีอาจจะถูก
บางวิธีก็อาจจะผิด
มันก็เหมือนเวลาที่จะเลือกทางเดินนั่นแหละ
ขวาหรือซ้าย...บางทีสวรรค์หรือนรกห่างกันแค่การเลือกทิศทาง
ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนเลือกหันขวาหรือซ้ายได้ถูกต้องนะครับ แล้วเดินตรงไปด้วยความมุ่งมั่นเลย กองเชียร์อย่างพวกผมพร้อมสนับสนุนทีมอยู่เสมอ
เพื่อที่ปีการศึกษาหน้า เราจะมาร่วมกันเชิดหน้าขึ้น...มองไปข้างบนเพื่อกลับมาอยู่ถ้วย ก กันอีกครั้ง (^-)b
Create Date : 09 ธันวาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 9 ธันวาคม 2556 12:19:27 น. |
Counter : 1494 Pageviews. |
|
|
|