งดเศร้าเข้าพรรษา
ฟุตบอลกองทัพอากาศ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี รอบ 16 ทีมสุดท้าย 23 ก.ค.56 สนามจันทรุเบกษา สวนกุหลาบ 2-3 กรุงเทพคริสเตียน
สิบกว่าปีก่อน...
แต่จะ กว่า เยอะแค่ไหนหรือจะเยอะกว่าคำว่า กว่า รึป่าวก็ช่างมันเถอะเนอะ ^^! เอาเป็นว่าตอนนั้นผมเรียนมัธยมชั้นปีที่ 3 ห้อง 5 มีอาจารย์ที่ปรึกษาชื่ออ.บุญตาและอ.อภิรดี
วันนั้นไม่ใช่วันเข้าพรรษา ในยุคที่ยังไม่มีการรณรงค์ งดเหล้าเข้าพรรษา แน่นอนมันเป็นวันเรียนธรรมด๊า ธรรมดานี่แหละ
แต่ที่ไม่ธรรมดาคือวันนั้นสวนกุหลาบเข้าชิงฟุตบอลนักเรียนกองทัพอากาศ
(รายละเอียดอย่างอื่นเลือน ๆ ราง ๆ อืม! เริ่มบอกใบ้แล้วว่า สิบกว่าปีก่อน นี่...สงสัยผมจะแอ๊บจำนวนปีลงมาแน่ ๆ :-p)
(เอาเหอะ ๆ ถ้าจะให้มั่วข้อสอบก็ขอเดาว่าเป็นรุ่น 16 ปีและชิงกับวัดสุทธิวรารามเพราะผมจำกองหลังของคู่แข่งได้แม่น เล่นเป็นตัวกวาดคนสุดท้ายแต่เดาะใส่เบอร์ 11 เขาชื่อสุบรรศ์ ยศหนองทุ่ม)
(สุบรรศ์โชว์ฟอร์มโดดเด่นกับทีมจังหวัดร้อยเอ็ดในศึกโค้กคัพชุดเดียวกับประธาน บุญศล (ที่ต่อมาย้ายมาเรียนที่กรุงเทพคริสเตียน) โดยสามารถนำทีมเป็นแชมป์ประเทศไทยได้ นัดชิงเอาชนะทีมจังหวัดบุรีรัมย์ที่นำทัพโดยณัฐวุฒิ เข็มทิศ (อุ้ยเสี่ยวป้อ เจ้าหนูอัจฉริยะ...ซึ่งต่อมาย้ายมาอยู่รั้วชงโคเช่นกัน))
(แล้วผมจะใส่วงเล็บเยอะ ๆ ทำไมให้มึนหัวนี่? - -")
นัดชิงทั้งที โรงเรียนเค้าจัดรถ จัดเด็กให้ไปเชียร์ฮีโร่ของโรงเรียนอยู่แล้วแหละ...เพียงแต่โควต้ามันไม่ใช่ชั้น ม.3!
อย่างนี้มันต้องประท้วง
วรวีร์ออกไป วีวีเก็ทเอาท์
เฮ้ย! ไม่ใช่ สงสัยผมจะคลั่งไคล้เพจ Jaytherabbit เพจสุดฮิตของกระต่ายจ้ำม่ำที่ชอบถือขวดน้ำยาไล่ปลวกในมืออยู่เป็นนิจ ก็เลยติดนิสัยอยากไล่ ปลวก ที่กัดกินความเจริญของวงการลูกหนังไทยซะงั้น ^^!
หลังจากโดนกดดันอยู่นาน สุดท้ายอาจารย์ก็ยอมปล่อยให้พวกเราออกไปเชียร์ทีมบอลของโรงเรียนจนได้ แต่รถเมล์ที่โรงเรียนเหมามาเพื่อขนกองเชียร์ไปสนามนั้นออกเดินทางไปแล้ว
พวกเราก็เลยโบกแท็กซี่ไปกันเอง
ในช่วงที่ชีวิตของผมยังมีแค่บ้านที่วงเวียนใหญ่กับโรงเรียนที่ปากคลองตลาด สนามธูปะเตมีย์นี่ โคตะระ ไกลมากในระดับ...มันอยู่ตรงไหนของโลกนี่ o_O ถ้าถีบผมลงจากแท็กซี่กลางทาง ผมคงจะร้องไห้แง ๆ กลับบ้านไม่ถูกแหง ๆ...
ภาพจากเพจ Jaytherabbit ขอเอามาแปะในบทความของผมเพื่อเป็นศิริมงคล (โทษฐานที่ผมชอบจริงจังมาก) ในภาพเป็น "งด (เรียกว่า) อ้วนเข้าพรรษา" แต่ชื่อเรื่องของผมคือ "งดเศร้าเข้าพรรษา"
วันเข้าพรรษาปีนี้...เป็นเช้าอีกวันนึงที่ผมไม่ได้ลืมตาตื่นที่บ้าน
ไม่ใช่ว่ากลับบ้านไม่ถูก แต่ผมเลือกที่จะมาเช่าห้องอยู่แถวออฟฟิศและเมื่อคืนก็เคลียร์งานเสร็จจนดึก แต่ดีแล้วแหละเพราะการเดินทางจากอพาร์ทเมนท์แห่งนี้ไปสนามจันทรุเบกษาไม่น่าจะใช้เวลานานเท่ากับเริ่มต้นเส้นทางจากบ้าน
สวนกุหลาบชุด 18 ปีมีคิวเตะรอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอลนักเรียนกองทัพอากาศกับคู่ปรับสำคัญ...กรุงเทพคริสเตียน
ไปถึงสนามสิบโมงครึ่งตามกำหนดการเป๊ะ แต่ในสนามยังเป็นทีมเสื้อเขียว-เหลืองแข่งอยู่ ทันทีที่ผมเดินมาถึงขอบสนามปุ๊บ พวกเค้าก็โดนคู่แข่งสอยทันที
พลทหารประจำสกอร์บอร์ดบิดขี้เกียจเล็ก ๆ ^^ แล้วขยับไปเปลี่ยน
แหลมฉบัง 2-1 เทพศิรินทร์ (และจบลงด้วยสกอร์ 3-1)
ผมเดินอ้อมจากฝั่งสกอร์บอร์ดไปอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นฝั่ง ที่ทำการหลัก
เดินไปที่ซุ้มทีมสวนกุหลาบก็มีน้องที่ใส่เสื้อชมพู-ฟ้า รุ่นบอลช่อง 7 สีทักทายทันควัน
สวัสดีครับพี่
คุ้นหน้า แต่ก็ใช้เวลานึกหลายนาทีเหมือนกันว่าเป็นใคร
(ยอมรับก็ได้ว่าผม แอ๊บแก่น้อย ตอนเขียนเริ่มต้นว่า สิบกว่าปีก่อน (แค่นั้นเองหรือ) ^^!)
นุ้ก จักพัน ไพรสุวรรณ กัปตันทีมสวนกุหลาบชุดแชมป์จตุรมิตร (ร่วม) เมื่อปลายปีที่แล้วนั่นเอง ก็เลยถามถึงจามจุรี ยูไนเต็ดซะหน่อย
ได้บทสรุปว่าเล่นดี แต่จบสกอร์ไม่ได้เท่านั้นเอง ก็เลยจมอยู่อันดับ 3 จากท้ายตารางลีกภูมิภาค โซนกรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่แบบนี้
สักพักคุณพนม กันหนูก็ควงภรรยาและสองลูกชายคนเก่งอย่างเจ้าอาร์ทและเจ้าไอซ์ อรรถพลและสิทธิโชคมาร่วมเชียร์เกมนี้ด้วย ^^
นุ้ก จักพัน กัปตันทีมสวนกุหลาบปีการศึกษาที่แล้ว ปัจจุบันสังกัดสโมสรจามจุรี ยูไนเต็ด
สวนกุหลาบชุดนี้คุมทีมโดยอดีตปราการหลังของโรงเรียนอย่างภาณุพงษ์ ฉิมผูก เขาจัดทัพวันนี้ในระบบ 4-4-2 มีเฉลิมเกียรติ ภู่โต๊ะยาเป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คนจากขวามาซ้ายประกอบไปด้วยชินวัตร อุบลอ่อน (กัปตันทีม), นันทวัฒน์ กกฝ้าย, วรภัทร มีบุญและพีรกานต์ อัศวประพล
แดนกลาง 4 คนมีประกาสิต ประวัติเลิศลักษณ์, กฤษณศักดิ์ ชื่นบัวอินทร์, เตชธร สีหะวงษ์และสิชล จันทร์ดี
คู่หน้าเป็น เกรียนพจน์ ชญานนท์ กลั่นประโคนกับกฤชนันท์ นาราช
ขณะที่กรุงเทพคริสเตียนนั้นมีนพรัตน์ บัวทิม อดีตศูนย์หน้าของชาวชงโคสีม่วงซึ่งโด่งดังมากับทีมจังหวัดนครสวรรค์ชุดแชมป์โค้กคัพ (รุ่นถัดจากจังหวัดร้อยเอ็ดของสุบรรศ์และประธานที่ผมเกริ่นนำตอนต้นนั่นแหละ) โดยที่ซุ้มม้านั่งสำรองมีประจักษ์ เวียงสงค์มานั่งดูอยู่ด้วย
แม้จะ 11 โมงแล้ว แต่แดดกลับไม่จัดอย่างที่คิดเพราะก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมาเปาะแปะ ๆ ให้พอเปียก ๆ
ภาณุพงษ์ติวน้อง ๆ ก่อนลงสนาม
กรุงเทพคริสเตียนขึ้นนำตั้งแต่ไก่โห่ในนาทีที่ 4 เมื่อวรภัทร แผงหลังร่างโย่งของฝั่งชมพู-ฟ้าจับบอลพลาดก็เลยโดนธนวัต คำรสสำเร็จโทษซะ
สวนกุหลาบไม่หวั่นไหว พยายามเดินเกมรุกเพื่อทวงคืน แค่ 6 นาทีก็ตีเสมอได้สำเร็จจาก เกรียนพจน์ ชญานนท์ ยิงเสร็จก็แอ็คทำเสยผมเลียนแบบ พี่ลีซอ ซะหน่อย
หล่อยิ่งกว่าลีซออีก กองเชียร์แซว
นาทีที่ 13 กรุงเทพคริสเตียนประเดิมใบเหลืองไปก่อนแบบไม่จำเป็น เมื่อศิวรุต พลหิรัญดันไปเตะฟรีคิกก่อนเสียงนกหวีดของผู้ตัดสิน แต่พอเตะใหม่อีกครั้งก็เป็นเรื่อง
เฉลิมเกียรติ ด่านสุดท้ายของทีมชมพู-ฟ้าออกไปตัดบอลพลาด บอลกิ๊ก ๆ กั๊ก ๆ อยู่หน้าประตูสวนกุหลาบ ในวินาทีที่แผงหลังจากย่านสะพานพุทธเหมือนโดนนะจังงังจะเคลียร์ก็ไม่เคลียร์ สุริยันต์ ไตรรัตน์ก็เลยซัดเข้าไปตุงตาข่ายซะ
กรุงเทพคริสเตียนออกนำอีกครั้ง 2-1
เกรียนพจน์เฮแบบนี้ ก่อนจะเสยผมแบบลีซอซะทีนึง
นาทีที่ 24 พีรกานต์ของสวนกุหลาบมารับใบเหลืองบ้างเมื่อควบไปเอาบอลแข่งกับธนชาติ ชมชื่นของฝั่งสีม่วง จังหวะสุดท้ายเป็นพีรกานต์ที่ดันไปทำฟาวล์
การต่อบอลของสวนกุหลาบนั้นอาจจะไม่โดดเด่นมาก แต่ก็ทำได้ไม่เลว ส่วนกรุงเทพคริสเตียนดูนักเตะจะเขี้ยวกว่านิด ๆ เกมเลยออกมาในลักษณะเบียด ๆ กัน แต่แล้วก่อนหมดเวลา 2 นาทีดูเหมือนว่า ชงโคสีม่วง จะเรียกบ๋อยเพื่อเช็คบิล แหย่ขาเข้าไปแข่งรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้วขานึง
เป็นจังหวะผิดพลาดของแผงรับชมพู-ฟ้าอีกครั้งเมื่อวรภัทรกับเฉลิมเกียรติไม่สื่อสารกัน สุริยันต์ก็เลยแต๊งกิ้วซะเลย
กรุงเทพคริสเตียนหนีหาย 3-1!
อยู่ในแคมป์ พวกเอ็งไม่คุยกันเลยหรือ โกรธกันอยู่เหมือนนักแบดรึป่าวนี่ กองเชียร์ชมพู-ฟ้าบ่นอุบ
และเกมก็จบครึ่งแรกที่สกอร์นั้น
ดูจังหวะเฮของคริสเตียนบ้าง หลังจากหนีห่างเป็น 3-1
บอลเค้าไม่มีอะไรเลย ภาณุพงษ์คอมเมนท์คำแรกหลังจากเรียกรุ่นน้องเขยิบมาฟังการอบรมใกล้ ๆ ที่เสียนี่เพราะไม่ส่งเสียงกัน ไม่สื่อสารกันทั้งนั้น ครึ่งหลังเดี๋ยวถ้าลงไปแล้วไม่มีการสื่อสาร ไม่มีการพูดคุยกัน ซ้อมวันพรุ่งนี้จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
จากนั้นอดีตปราการหลังทีมชาติไทยก็จัดการแก้เกมให้กับลูกทีม สิ่งที่เขาเน้นก็คือการป้องกันลูกโต้กลับเพราะคาดว่าทางฝั่งม่วง-ทองน่าจะหันมาแพ็คเกมมากขึ้น
ภาณุพงษ์ปลุกใจน้อง ๆ ให้ฮึดสู้ในช่วงพักครึ่ง
ครึ่งหลังสวนกุหลาบส่งชาญวิทย์ มณีอินทร์ลงมาเสริมเกมรุก แล้วก็เรียกใบเหลืองได้จากสันติภาพ แบ็กซ้ายของกรุงเทพคริสเตียนในนาทีที่ 58 โดยก่อนหน้านี้ธนวัตเพื่อนร่วมทีมสีม่วงก็ได้ใบเหลืองไปเช่นกัน
เกมเป็นไปอย่างที่คิดเมื่อกรุงเทพคริสเตียนหันมาแพ็กเกมแน่น ๆ ในขณะที่สวนกุหลาบพยายามเดินหน้า แต่ก็ยังไม่มีอะไรให้ได้ลุ้นมาก
ภาณุพงษ์ปรับเปลี่ยนเกมอีก ถอดกัปตันทีมอย่างชินวัตรออก แล้วส่งธีรภัทร แก้วกัลยาลงไปแทนในนาทีที่ 58
ประกาสิตลองส่องฟรีคิกให้สวนกุหลาบในนาทีถัดมา แต่ก็หลุดกรอบไป
โค้ชของกรุงเทพคริสเตียนสั่งให้ลูกทีมดึงเกมช้า ในขณะที่โค้ชของสวนกุหลาบเริ่มหงุดหงิดกับการตัดสินของกรรมการที่ไม่เป่าจุดโทษให้ในจังหวะที่ลูกทีมถูกฟาวล์ในเขตโทษ แล้วก็มีหลาย ๆ จังหวะที่ไม่เป่าฟาวล์ผู้เล่นกรุงเทพคริสเตียนเลย
แล้วก็มาถึงจุดระเบิดเมื่อลูกทีมโดนอัดหนัก ๆ แต่ผู้ตัดสินดันทำตัวเป็นจ่าเฉย
หัวหน้าผู้ตัดสินก็เลยต้องลุกออกมาปรามภาณุพงษ์ ส่วนในสนามนั้นผู้เล่นสวนกุหลาบคนนึงตะโกนบอกเพื่อน
มีสมาธิกับเกมหน่อย เรื่องอื่นให้ผู้ใหญ่เค้าคุยกันเอง
วินาทีเริ่มเกมครึ่งหลัง กรุงเทพคริสเตียนนำอยู่ 3-1
ช่วงท้ายเกม กรุงเทพคริสเตียนต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อสันติภาพ แบ็กซ้ายของทีมดันเข้าบอลแรงไปหน่อย ทำเอากองเชียร์สวนกุหลาบตะโกนลั่น
ต้องแดงแล้ว
และผู้ตัดสินก็วินิจฉัยแบบนั้นเหมือนกัน
นักเตะหมายเลข 11 ของชงโคสีม่วงเดินออกจากสนาม ปรบมือและพูดดัง ๆ ไปด้วย เยี่ยมมากครับ เยี่ยมมาก
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย สวนกุหลาบส่งกษิติ์เดช พรหมดนตรีลงไปแทนกฤชนันท์
โย่ง (วรภัทร) ขึ้นไปยืนค้ำเลย แล้วโยนใส่
สวนกุหลาบงัดแผนบอมบ์มาใช้ในช่วงท้ายเกมนั่นเอง
ได้ผลไหม?
วรภัทรขึ้นไปยืนค้ำแผงหลังคู่แข่งจริง ไซส์ข่มกันพอตัว แต่กลับไม่มีบอลโด่งมาให้โหม่งสักกะแอะ - -" ทำเอาภาณุพงษ์ปรี๊ดแตก -*-
บอกแผนไปทำไมไม่ทำตามกันล่ะ!
หลังจากนั้นผู้เล่นชมพู-ฟ้าจึงเริ่มจะโยนบอมบ์กันมากขึ้น
แล้วก็มาได้ประตูในนาทีที่ 79 (ก่อนหมดเวลา 1 นาที)
โย่งโหม่งล่ะสิ?
ไม่ใช่หรอก แต่เป็นเกรียนพจน์ตะหากที่ทำให้ช่วงทดเวลาเจ็บอีก 5 นาทีเป็นช่วงเวลาแห่งการลุ้นระทึก!
แต่ 5 นาทีนั้น กองเชียร์ชมพู-ฟ้าก็ทำได้แค่ลุ้นเท่านั้น บอลเฉียดไปเฉียดมา ข้ามหัวโย่งบ้าง เข้าหัวโย่งบ้าง
สุดท้ายเมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา สวนกุหลาบจึงยุติเส้นทางถ้วยนี้แค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น แพ้กรุงเทพคริสเตียนไป 2-3
ลีลาข้างสนามของอดีตกองหลังทีมชาติไทย
ภาณุพงษ์เดินไปเฉ่งผู้ตัดสินเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับมาบ่นเสียดายกับสต๊าฟของทีมท่านนึง
รู้สึกเสียของน่ะ ทีมนี้มันน่าเข้าได้ถึงรอบรองฯ...
ผมเห็นเฉลิมเกียรติ ผู้รักษาประตูสวนกุหลาบเดินออกมาพร้อมกับเอามือเช็ด ๆ บริเวณดวงตา ส่วนชญานนท์ที่ปรกติทำหน้าทะเล้นได้ตลอดเวลา พอหาจุดทิ้งตัวเหมาะ ๆ เจอก็ทำตาแดง ๆ ท่ามกลางเพื่อนฝูงน้องพี่ที่กรูกันเข้ามาปลอบใจ
เข้าใจว่าทุกคน ใส่ เต็มที่แล้ว เพียงแต่ในเกมฟุตบอลนั้นไม่เปิดโอกาสให้ความผิดพลาดย่ำกรายเข้ามาเยือนแม้สักหนเดียว (แต่นี่มาถึง 3 ครั้ง) เพราะมันหมายถึงความพ่ายแพ้ได้เลย
ผมหันไปเห็น (อดีต) กัปตันนุ้ก จักพัน ไพรสุวรรณที่ตั้งท่าจะกลับแล้ว ก็เลยถามว่า
ว่าไง เกมเป็นไงบ้าง
นุ้กพยักหน้านิดนึง ก่อนจะคอมเมนท์สั้น ๆ ว่า ก็โอเคครับ
สิทธิโชค กันหนู ศูนย์หน้า "วอนเดอร์ คิด" (จากโกลดอทคอม ประเทศไทย) ไม่มีชื่อในทีมก็ยังมาช่วยเสิร์ฟน้ำเพื่อน ๆ พี่ ๆ
ก็อย่างที่บอกครับว่าผมจำฟุตบอลนักเรียนกองทัพอากาศที่ผมเคยไปดูเมื่อ สิบกว่าปีก่อน ได้แค่เลือน ๆ ก็เลยจำไม่ได้แม่นว่าใครชนะ
(แต่ถ้าจะให้เดา ผมคุ้น ๆ ว่าวัดสุทธิฯชนะนะ และนั่นคือจุดเริ่มต้นในการก้าวเข้ามาเป็นทีมชั้นนำในระดับฟุตบอลนักเรียนของทีม ตริโกลอร์ (สามสี) ทีมนี้ด้วย)
(จำได้ว่าหลังจบเกม ผมและเพื่อน ๆ ก็ ซึม ไปเหมือนกัน T_T)
(จะมามุกเดิมวงเล็บเยอะ ๆ แล้วถามว่าทำไมต้องวงเล็บเยอะ ๆ ใช่ไหม?)
(โอเค รู้ทัน เลิกก็ได้ :-p)
ถ้าจำไม่ผิด ปีนั้นทีมรุ่น 16 ปีที่ (น่าจะ) แพ้วัดสุทธิฯในนัดชิงฟุตบอลกองทัพอากาศ กลับมาคว้าแชมป์กรมพลศึกษาได้สำเร็จ ดวลจุดโทษในเกมสุดดรามา ก่อนจะชนะเทพศิรินทร์ได้ (ในเกมที่เต๋า สมชาย เข็มกลัดโดยไล่ออก ของสวนกุหลาบก็โดนไล่ออกไปคนนึงเหมือนกัน คุ้น ๆ ว่าจะเป็นศักดิ์ดา มะลิลา ถ้าผิดก็ขออภัยครับ)
ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ ฟุตบอลก็ยังมีทัวร์นาเมนท์ใหม่ให้ชิงชัยเสมอ ขอเพียงนำสิ่งผิดพลาดในวันนี้มาแก้ไขและพัฒนาในสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก ^^
วันเข้าพรรษาแบบนี้ ก็เลยอยากปลอบใจน้อง ๆ นักบอลสวนกุหลาบในแบบธรรมะ ธรรมโมว่า...
งดเศร้าเข้าพรรษา
Create Date : 23 กรกฎาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2556 22:13:20 น. |
Counter : 2301 Pageviews. |
|
|
|