Webblog : Futbol Review ท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ฟุตบอล
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 

การชิงชัยใน Group of Death

ฟุตบอลเอซีเอสคัพ รอบแรก
30 มิ.ย.55 สนามสิรินธร
สวนกุหลาบ 1-0 เทพศิรินทร์


แทบจะเป็นประเพณีไปแล้วที่ฟุตบอลรายการเอซีเอสคัพ ซึ่งจัดขึ้นที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชาถูกกำหนดให้เป็นรายการสำหรับให้สต๊าฟโค้ชทีมนักเรียนไทยใช้ดูตัวนักเตะ

นอกจากนี้ยังเป็นฟุตบอลรายการแรกของปีการศึกษา เป็นทัวร์นาเมนท์สำหรับให้แต่ละทีมได้ปรับจูน ก่อนลงแข่งขันในรายการอื่น ๆ ต่อไป

ปีนี้สร้างความฮือฮาได้ตั้งแต่ตอนจับสลากเมื่อ 3 ยักษ์ใหญ่แห่งจตุรมิตรถูกจับมาอยู่ร่วมสาย D ด้วยกันเข้าอย่างจัง...สวนกุหลาบ, เทพศิรินทร์และกรุงเทพคริสเตียน o_O

ขาดไปแค่ “อินทรีแดง” อัสสัมชัญเท่านั้นเอง

อีกทีมที่ถูกจับพลัดจับผลูเข้ามาอยู่ในสายนี้คือโรงเรียนกีฬาจังหวัดตราด

นี่มัน Group of Death ชัด ๆ

“ผมเฉย ๆ มากเลยกับการจับมาอยู่กลุ่มนี้ เพราะบอลแบบนี้ พวกเค้าเจอกันบ่อยอยู่แล้ว รู้ทางกันดี มันอยู่ที่ทีมไหนมีความพร้อมมากกว่ากัน ใครลดข้อผิดพลาดของตัวเองได้มากที่สุดมากกว่า” ภาณุพงษ์ ฉิมผูก เฮดโค้ชสวนกุหลาบ อดีตปราการหลังทีมชาติไทยให้ทัศนะ

ในขณะที่โค้ชตุ๋ย ถาวร สุริยะผล เฮดโค้ชเทพศิรนทร์ก็ “เชิด” ใส่ความโหดหินที่ได้รับเช่นกัน

“ดีครับ...จะได้วัดระดับว่าเราจะแข่งจตุรมิตรไหวมั้ย? สายนี้มันขาดแค่อัสสัมชัญก็เป็นจตุรมิตรแล้ว ซึ่งเราก็จะได้ดูว่าเราสู้เค้าได้ไหม ที่ผ่าน ๆ มา เราก็ยอมรับว่ายังเป็นรองสามโรงเรียนนี้อยู่ แต่ก็ต้องสู้แหละครับ”

ความโหดหินของสาย D เอซีเอสคัพคราวนี้ต้องบอกว่าน้อง ๆ กลุ่ม B ของศึกยูโร 2012 กันเลย...ว่าเข้าไปโน่น

แล้วถ้าจะเทียบแบบนั้นจริง กรุงเทพคริสเตียนในฐานะเต็งหนึ่งของสายก็น่าจะเปรียบได้ดั่งเยอรมัน

โรงเรียนกีฬาจังหวัดตราดที่ดูชื่อชั้นเป็นรองทีมอื่น ๆ คงเปรียบได้กับเดนมาร์ก

สวนกุหลาบกับเทพศิรินทร์ ใครจะเป็นโปรตุเกส ใครจะเป็นฮอลแลนด์ล่ะนี่?

เด็ก ๆ เขียว-เหลืองตอบคำถามนี้ด้วยผลการแข่งขันแม็ทช์แรก เมื่อกล้า ๆ แพ้ “เดนมาร์ก” เอ้ย! โรงเรียนกีฬาจังหวัดตราด 1-2 ซะเลย :-p

นี่มันฮอลแลนด์ชัด ๆ

“วันนั้นทีมเราไม่พร้อมเอามาก ๆ รถเกิดแอคซิเดนท์ สายพานรถขาด ทำให้เรามาเลท...เลยเวลาแข่งไปตั้ง 40 นาที ซึ่งผมก็โทรคุยกับอ.สุพนธ์ (จากกรมพละ) แล้วก็โค้ชของร.ร.กีฬาจ.ตราดซึ่งเป็นรุ่นน้องของผม บอกให้รอหน่อยนะ เค้าก็บอกว่ารอได้” โค้ชตุ๋ยเล่าเหตุการณ์ “พอมาถึงสนาม เราได้วอร์มไม่น่าจะถึง 5 นาทีก็ต้องลงแข่งแล้ว เด็กนั่งรถมาไกล เมื่อย ยังไม่ได้รีแลกซ์อะไรเลย ก็เป็นเหตุให้แพ้ แล้วอีกอย่างคือตราดเค้าฟิตกว่าด้วย”

ในขณะที่สวนกุหลาบก็คงต้องรับบทบาทโปรตุเกสไปแหละนะ ก็นัดแรกเล่นแพ้เต็งหนึ่งของกลุ่มอย่าง “เยอรมัน” เอ้ย! กรุงเทพคริสเตียนซะอย่างนั้น

ปิยะพงษ์ หอมขจร อดีตดาวซัลโวรายการฟุตบอลนักเรียนรุ่น 15 ปีชิงแชมป์เอเชียอุตส่าห์ซัลโวให้สวนกุหลาบนำไปก่อนด้วยซ้ำ แต่ครึ่งหลังกลับโดน “ทีเด็ด” จากทางม่วง-ทองจนพ่ายไปกระเจิง 1-3

“วันนั้นเกมเราดีนะ...ในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังเด็กเราช็อตไปเอง” ภาณุพงษ์ให้ความเห็น “คือ...ถ้าให้ผมวิเคราะห์ ก็คงมองว่าเราโดนไวน่ะ เปิดครึ่งหลังมา 5 นาทีโดนไป 2 ลูกซ้อน ๆ อาจจะเป็นเพราะเด็กแอคทีฟไม่พอ แล้วทางคริสเตียน เด็ก ๆ ก็ดูมีความมุ่งมั่นมากกว่าด้วย”

แต่โปรแกรมการแข่งขันของสายนี้ไม่ได้เหมือนกับยูโรเค้าหรอกนะ เพราะโปรตุเกสกับฮอลแลนด์...ก็สวนกุหลาบกับเทพศิรินทร์ที่แพ้มาในนัดแรกนั่นแหละต้องมาวัดกันเลยในนัดที่ 2 ใครแพ้มีสิทธิ์จบเส้นทางแต่เนิ่น ๆ ทันที!

“ผมไม่ได้กดดันอะไรเลยนะ เพราะรายการนี้เค้าใช้สำหรับคัดเด็กติดทีมนักเรียนไทย ผมก็เลยพยายามเอาเด็ก ๆ วนลงไปเล่น เพื่อให้สต๊าฟโค้ชที่มาดูเด็กได้เห็นฟอร์มว่าเด็กของผมมีฝีมือติดทีมชาติได้มั้ยมากกว่า” เฮดโค้ช OSK113 พูดถึงสถานการณ์ของทีมแบบสบาย ๆ




รถนักกีฬาของทางฝั่งเทพศิรินทร์

ถาวร สุริยะผล เฮดโค้ชเทพศิรินทร์


เป้าหมายใหญ่ของสวนกุหลาบวิทยาลัยชุดนี้ก็คือการหวลคืนสู่บัลลังก์แชมป์จตุรมิตรอีกครั้ง โดยมีการคัดนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีเข้ามาผสมผสานกับเด็กเก่าจากปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังได้นักเตะจากอะคาเดมีของเลสเตอร์ ซิตี้มาเสริมแกร่งอีก 4 รายด้วย ไม่ว่าจะเป็นปิยะพงษ์ หอมขจร, อาทิตย์ พรหมขันธ์, เชาวรัตน์ วีระชาติและณัฐวุฒิ สมบัติโยธา

แต่กับทัวร์นาเมนท์แรกของทีมแล้ว ต้องบอกว่า “ยังไม่พร้อม” เท่าที่ควร

“เราเพิ่งรวมตัวกันได้ไม่กี่วัน มีเวลาฝึกซ้อมร่วมกันไม่ถึงอาทิตย์ โอกาสจะมีทีมเวิร์คที่ดีคงเป็นไปไม่ได้หรอก ต้องขอเวลาปรับจูนทีมเวิร์คนิดนึง แล้วก็สร้างแนวคิดในการเล่นฟุตบอลให้เด็กอีก...เด็กก็คือเด็กน่ะ ยังไม่มีความเจ้าเล่ห์ในการเล่นบอลเท่าไหร่ คิดว่าสักเดือนนึงเราน่าจะเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้” บิ๊กก๊อง วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้จัดการทีมชมพู-ฟ้าพูดถึงสภาพทีม

“ผมเพิ่งมาทำทีมได้ 2 อาทิตย์เอง มาเจอเด็กแบบครบ ๆ ทีมก่อนแข่งแม็ทช์แรกแค่ 2 วัน เด็กของเราฝีเท้าดีหมดแหละ มันขึ้นอยู่กับว่าผมจะฝึกเค้ายังไงให้ทำตามเราให้ได้ แพ้-ชนะในรายการนี้ผมไม่วอร์รี่อะไร แต่ถ้าแพ้ก็ดี ดีตรงที่ผมจะได้มีจุดที่จะนำไปแก้ไขสำหรับทัวร์นาเมนท์หน้าของผม” ภาณุพงษ์เสริม

ทั้งยูโร 2012 ทั้งงาน ไหนจะต้องเดินทางไปถ่ายทำรายการพิเศษให้โรงพยาบาลศรีนครินทร์ที่จังหวัดขอนแก่นแบบไป ๆ กลับ ๆ ซึ่งรวมเวลาแล้วแทบไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯเลย ตลอดเส้นทางไปศรีราชาวันนี้ ผมก็เลยนั่งนิ่งอยู่ในรถซึ่งมีธง รุ่นน้องโรงเรียนเป็นคนขับ มีแฟนของธงและโอ๊ต รุ่นน้องอีกคนเป็นผู้โดยสาร

ไม่ใช่อะไร...หลับครับ (-.-)Zzz...

มารู้ตัวอีกทีก็มาถึงศรีราชาแล้ว เหลือบดูเวลา...11 โมงเศษ ๆ กำหนดคิกออฟน่ะ 11 โมงตรง

นั่นเป็นเพราะเราออกจากกรุงเทพฯช้าไปหน่อยนั่นเอง

“สงสัยได้ดูแค่ครึ่งหลัง” พลขับแสดงความเห็นแบบนั้น

แต่ธงคาดการณ์ผิดไปนิดนึงเพราะเรามาถึงสนามสิรินธรตอน 11 โมงครึ่ง เกมสวนฯ-เทพฯแข่งไปแล้ว 20 นาที สกอร์ตอนนั้นยัง 0-0 อยู่

“เฮ้ย! มาไงน่ะ” พี่จุ่น สมปอง จังทองศิริ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสวนกุหลาบทักทายผม “อ้วนขึ้นนะ”

แหม! พี่ ขอเวลาผมเบิร์นอีกสักพักนึงได้ป่ะ? จะพยายามลดน้ำหนักให้ใกล้เคียงสมัยเรียนมหา’ลัยให้ได้...ว่าแต่เรื่องสังขารนี่ก็ไม่เข้าใครออกใครนะ ไม่ต้องไปดูไกลหรอก โน่น! ขอบสนามฝั่งเขียว-เหลือง คนที่ยืนตะโกนสั่งเกมปาว ๆ นั่น

โค้ชตุ๋ย ถาวร สุริยะผลในวันนี้ช่างไม่เหลือคราบไคลของอดีตปีกจอมพลิ้วแห่งรั้วแม่รำเพยเอาซะเลย!




ย่างเท้าเข้าสู่สนามสิรินธร

วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้จัดการทีมสวนกุหลาบนั่งประกบอยู่กับสมปอง จังทองศิริ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม


เกมนี้เทพศิรินทร์มาในระบบ 4-4-2 อาศัยเกมจี๊ดจ๊าดตรงริมเส้นจากสกล ผ่านเมือง (กัปตันทีม) ทางขวาและเดชฤทธิ์ นรินทร์ทางซ้ายเป็นอาวุธหลักในการเข้าทำ โดยมีณัฐพร ภูมีกับทศพร พ้นภัยเป็นคู่หน้า (คนหลังถ้าชื่อผิดผมขออภัยด้วยครับ เพราะในใบรายชื่อ หมายเลข 25 มีชื่อแบบนี้แหละ แต่ดันระบุข้างหลังไว้ว่า GK ก็เลยไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนรายชื่อหรือเปล่า?)

แดนกลางคุมทัพโดยสหราช หลักทองกับณัฐนนท์ วรรณลี

แผงหลังที่ยืนเรียงรายจากขวามาซ้ายอยู่หน้าพีระพงษ์ เรืองรินทร์-ผู้รักษาประตู ก็คือชวัล พันธ์สวัสดิ์, ปิยะวัฒน์ ประเสริฐสุด, ประสงค์ศิลป์ พิพิธวรศิริและนพรัช อัศวิชชกำจาย

ส่วนทางด้านภาณุพงษ์ ฉิมผูกนั้นจัดลูกทีมลงบู๊ในระบบ 4-3-3 ใช้อลงกรณ์ สุวรรณยุธเป็นผู้รักษาประตู

ขึงเกมรับโดย “คาฟู” อาทิตย์ พรหมขันธ์ในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ ยืนคู่กับนิรุตน์ ยาปัน มีชัชวาล ผูกดวงยืนทางด้านขวาและรัฐพล เพ็งอ่อนเนตรอยู่ทางด้านซ้าย

แดนกลาง 3 คนใช้สุทิน แบงเพชรกับเชาวรัตน์ วีระชาติดูแลเกมรับ ปล่อยให้ “นุ้ก” จักพัน ไพรสุวรรณ กัปตันทีมคอยทำเกม

กองหน้า 3 คนมีธนารัตน์ ครสระน้อยจี๊ดจ๊าดทางด้านขวา, ปิยะพงษ์ หอมขจรกระชากทางด้านซ้ายและฤทธิพร หวานชื่นยืนเป็นตัวเป้า




ขุนพล "ลูกแม่รำเพย" พร้อมลงสู่สนาม

นักเตะชมพู-ฟ้ารวมพลังใจกันก่อนแข่ง


25 นาทีที่ผมได้ดูต้องบอกว่าเกมค่อนข้างสูสีกัน แต่สวนกุหลาบมีจังหวะ “น่าได้” มากกว่านิด ๆ โดยเฉพาะช็อตที่ฤทธิพรได้โอกาสหลุดเข้าไปดวลเดี่ยว ๆ แต่ดันถูกบล็อกไว้ได้

โอกาสจะแจ้งของเทพศิรินทร์เกิดขึ้นในจังหวะที่ “คาฟู” ไปทำฟาวล์คู่แข่งจนได้ใบเหลือง เวลาเดียวกันนั้น ผู้กำกับเส้นก็ยกธงฟ้องว่าแนวรุกเขียว-เหลืองล้ำหน้าด้วย ซึ่งแสงหล้า งามนิตย์เลือกที่จะเป่าฟาวล์สวนกุหลาบมากกว่า

จากลูกฟรีคิก สหราชโยนให้เพื่อนโฉบตัดหน้าผู้รักษาประตูแล้วโหม่ง แต่ก็พลาดเป้าไป

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก นพรัช แบ็กซ้ายของเทพศิรินทร์มารับใบเหลืองอีกคน ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าหมดครึ่งด้วยสกอร์ที่ยังตรึงอยู่ที่ 0-0




จักพัน กัปตันทีมของสวนกุหลาบ

ภาณุพงษ์ติวเข้มลูกทีมขณะพักดื่มน้ำ

จังหวะที่ฤทธิพรหลุดเข้าไปยิงแต่ติดบล็อกของคู่แข่ง

พีระพงษ์ ผู้รักษาประตูเทพศิรินทร์เหมือนมีงานหนักนะนั่น


“บอลเราเล่นเหมือนดูโทรทัศน์กันมากไป ได้บอล พลิก ทำอะไรให้มันเหนือชั้น แต่ทำประโยชน์อะไรไม่ได้” คือคอมเมนท์นึงของเฮดโค้ชชมพู-ฟ้าตอนแก้เกมช่วงพักครึ่ง

จากนั้นอดีตปราการหลังคนเก่งก็เริ่มปรับทีม โดยสลับตำแหน่งกันระหว่าง “นุ้ก” จักพันและ “พงษ์” ปิยะพงษ์ หวังใช้ความเร็วของดาวเตะจากอะคาเดมีเลสเตอร์ ซิตี้เจาะคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟของคู่แข่ง

นอกจากนี้ยังติวเข้มฤทธิพรเรื่องการฉีกตัวหนีจากไลน์ออฟไซด์ที่คู่แข่งวางดักไว้ด้วย

แก้เกมเสร็จ ก็ถึงคราวของ “บิ๊กก๊อง” ผู้จัดการทีมบ้าง สิ่งที่อดีตมือขวาของ “บิ๊กหอย” เน้นมีอยู่ 3 เรื่องคือบอลจังหวะสอง, ความเจ้าเล่ห์หรือลูกพลิกแพลงในการเล่น แล้วก็จังหวะยิงประตูที่บางจังหวะไม่จำเป็นต้องใช้ความแรง

“บอลจะไปถึงทีมชาติได้ มันไม่ได้อยู่ที่กำลัง นี่...ต้องใช้สมอง” วิรัช ชาญพานิชย์พูดพร้อมกับชี้ที่ศีรษะของตนเอง

ก่อนลงสนามในครึ่งหลัง ผู้จัดการทีมชมพู-ฟ้ายังฝากเน้นย้ำกัปตันทีมอย่างจักพันด้วย

“ลูกทุ่มน่ะนุ้ก เอ็งไม่ต้องไปทุ่มเองหรอก มาคอยพักบอลดีกว่า ขนาดเมสซี ต่อให้อยู่ใกล้บอลตอนที่ออก มันยังไม่ทุ่มเองเลย”




โฉมหน้าผู้จัดการทีมกับโค้ชของสวนกุหลาบ

การแก้เกมช่วงพักครึ่งของสวนกุหลาบ


เทพศิรินทร์ปรับทัพตั้งแต่ต้นครึ่งหลังเลย ส่งอับดุลเลาะห์ หวันดาหนีลงมาแทนปิยะวัฒน์

เปิดฉากครึ่งหลังมาแค่ 4 นาที กองเชียร์ชมพู-ฟ้าเกือบได้เฮก่อน เมื่อจักพันปั่นฟรีคิกเฉียดเสาแรกไป

เกมของสวนกุหลาบในครึ่งหลังดูจะทำได้ดีกว่าเทพศิรินทร์ ปิยะพงษ์ หอมขจรเริ่มแสดงความอันตรายออกมาให้เห็น และช่วยตอกย้ำว่าทำไมเมื่อ 2 ปีก่อนคุณเนวิน ชิดชอบถึงดีใจนักหนาที่ได้เขามาร่วมทัพ

แต่เพราะเหตุติดขัดอะไรสักอย่าง ดาวเตะหมายเลข 10 คนนี้ก็เลยยังไม่ได้เดินสู่ถิ่นสะพานพุทธอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อปีการศึกษาที่แล้ว

จนสุดท้ายก็มาลงเอยในปีนี้นี่แหละ

นี่คือแม็ทช์ที่ 2 ที่ผมเคยเห็น “พงษ์” เล่น

ครั้งแรกคือเกมชิงชนะเลิศยูธคัพซึ่งปิยะพงษ์เล่นให้บุรีรัมย์

เกมนั้น “ปราสาทสายฟ้าจูเนียร์” โดนบีอีซี เทโร ศาสนถล่มกระจุยกระจาย เป็นเกมที่ปิยะพงษ์ทำตัวเป็นพี่เจมส์ เรืองศักดิ์ซะเนียนเลย

ก็...

ต้องอยู่อย่างไร้ตัวตน...ไง

ปิยะพงษ์แทบจะหายไปจากเกมวันนั้นเลย กลายเป็นดาวเตะร่างเล็กของ “มังกรไฟจูเนียร์” ซะอีกที่แย่งซีนไปหมด ด้วยลีลาลูกหนังอันเหนือชั้น ฉีกกองหลังบุรีรัมย์ขาดเป็นริ้ว ๆ

ในเวลาต่อมา เขาคนนั้นก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทยชุด U-19 และชุดคิงส์คัพปีล่าสุด

ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงเจ ชนาธิป สรงกระสินธ์

วันนี้มีหลาย ๆ ช็อตที่ปิยะพงษ์ทำให้ผมคิดถึงชนาธิป โดยเฉพาะช็อตที่แหวกผ่าน 2 กองหลังเทพศิรินทร์ไปอย่างง่าย ๆ ราวกับฉีกกระดาษ

“ปิยะพงษ์เป็นนักบอลที่มีความไว ขยัน เป็นศูนย์หน้าโดยแท้จริง แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ต้องเล่นกับทีมให้มากกว่านี้ ซึ่งผมพยายามปรับอยู่ แล้วร่างกายของเค้าต้องใหญ่กว่านี้ด้วย โดยเฉพาะถ้าจะขึ้นชั้นไปเล่นไทยพรีเมียร์ลีก” ภาณุพงษ์ให้ความเห็นถึงลูกทีมคนเก่ง

แล้วก็เป็นปิยะพงษ์นี่แหละที่มีส่วนในประตูขึ้นนำของสวนกุหลาบ ซึ่งลงท้ายกลายเป็นประตูชัยในที่สุดในนาทีที่ 66

ปิยะพงษ์อาศัยความเร็วกระชากไปทางปีกซ้าย ก่อนจะตบเข้ากลาง ลูกหลุดไปถึงเสาสอง ตรงนั้น “แทน” ธนารัตน์ ครสระน้อยรออยู่แล้ว ยึกยักอยู่ 2 จังหวะ ก่อนจะยิงเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ

เสียงบูมสวนฯดังขึ้นทันที ^O^

สวนกุหลาบ 1-0 เทพศิรินทร์!

“ตอนแรกกะยิงจังหวะแรก แต่เห็นกองหลังกระโดดมาบล็อก ผมก็เลยล็อกแล้วยิงจังหวะสอง ซึ่งก็เข้า ดีใจมาก ๆ เลยครับ” ฮีโรของสวนกุหลาบในเกมนี้เผยถึงวินาทีสำคัญ

10 นาทีต่อมา สุทินของสวนกุหลาบสบโอกาสยิงนอกเขต น่าเสียดายที่ลูกพุ่งไปชนคานเข้าอย่างจัง ชวดประตูที่ 2 อย่างน่าเสียดาย

และจากจังหวะโต้กลับ สกล กัปตันทีมเขียว-เหลืองสบโอกาสทดสอบฝีมือของอลงกรณ์ แต่ก็ดันยิงเบาไปซะอีก เลยเข้ามือจอมหนึบของสวนกุหลาบแบบสบาย ๆ

ทั้งสองทีมเริ่มทยอยเปลี่ยนตัวกันเรื่อย ๆ ของสวนกุหลาบเล่นถอด 3 ดาวเด่นในแนวรุกออกหมดเลย เหลือไว้เพียงแค่ปิยะพงษ์ หอมขจรคนเดียวเท่านั้นที่ได้เล่นจนจบเกม

ช่วงท้ายเกม ภาณุพงษ์ต้องออกมากระตุ้นลูกทีมเพราะไม่อยากช้ำใจเหมือนแม็ทช์แรกที่โดนยิงแซงจนพ่ายแพ้

“มีสมาธิหน่อย”

“จะเร่งไปไหน เราได้เปรียบอยู่”

และในที่สุด สวนกุหลาบก็ “เอาอยู่” จนครบ 90 นาที รักษาสกอร์ 1-0 ไว้ได้สำเร็จ




กัปตันนุ้กทำสมาธิก่อนลงแข่งครึ่งหลัง

วินาทีเปิดฉากครึ่งหลัง

เกมมีปะทะกัน จนบางครั้งต้องลงไปคุกเข่าแบบนี้บ้าง

ปิยะพงษ์ หอมขจร ความหวังใหม่ของชาวชมพู-ฟ้า

การขับเคี่ยวกันในแดนกลาง

ลูกฟรีคิกของกัปตันนุ้ก วันนี้เต็มที่ได้แค่เสียว

ดวลลูกกลางอากาศ

ฮีโรแทนเฮฮาหลังทำประตูชัย

บูมสวน!

ลูกฟรีคิกของเทพศิรินทร์


“วันนี้เกมรับเราดี แต่ในเกมรุก เราใช้จังหวะเปลืองไปหน่อย น่าจะจบสกอร์ได้มากกว่านี้ บวกกับอากาศร้อนด้วย แล้วเราก็เพิ่งเตรียมทีมด้วย” ภาณุพงษ์ให้คอมเมนท์หลังเกม

ส่วนฝั่งผู้แพ้นั้น โค้ชตุ๋ยดูไม่ได้ซีเรียสมาก

“พอใจในเกมระดับนึงนะ แต่เด็กเรายังไม่พร้อมเท่าที่ควร ทั้งในเรื่องของสนามซ้อมด้วย แต่ถึงจตุรมิตรช่วงเดือนพฤศจิกายนนั่นคิดว่าทีมต้องพร้อมแล้ว ตอนนี้ก็ดูเด็กไปเรื่อย ๆ ว่าใครควรได้ลงตำแหน่งไหน”

ชัยชนะในนัดนี้ทำให้สวนกุหลาบยังมีโอกาสเข้ารอบต่อไป โดยจะไปลุ้นเข้ารอบกับโรงเรียนกีฬาจังหวัดตราดวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคมนี้

ส่วนเทพศิรินทร์โอกาสจะแพ้รวดแบบฮอลแลนด์ก็มีไม่น้อยเหมือนกันเพราะแม็ทช์หน้าต้องโคจรไปพบกับกรุงเทพคริสเตียน!

“โรงเรียนกีฬาจังหวัดตราดนี่ดีในระดับนึงเลย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสวนกุหลาบหรือกรุงเทพคริสเตียนก็ยังเป็นรองอยู่เพราะสองทีมนั้นได้เปรียบเรื่องประสบการณ์ที่มากกว่า ผมมองว่าตราดต้องเอาแรงมาสู้กับ 2 ทีมนี้นะครับ” ถาวรให้ทัศนะถึงม้ามืดของสายนี้

ถ้าดูอย่างนี้โอกาสที่กรุงเทพคริสเตียนกับสวนกุหลาบจะผ่านเข้ารอบใน “กลุ่มแห่งความตาย” ของศึกเอซีเอสคัพก็มีสูงเหมือนกัน

แต่จะไปได้ไกลกว่านั้นไหม? ก็ต้องติดตามกันต่อไป

และต่อไปนี้คงไม่ใช่คำออกตัวของผมหรือของทีมงานสวนกุหลาบนะ...เอาเข้าจริงเอซีเอสคัพก็แค่ทัวร์นาเมนท์ลองทีม แล้วก็ปรับจูนทีมเท่านั้นแหละ แชมป์เป็นแค่โบนัสเท่านั้นเอง

เป้าหมายหลักในปีนี้ที่ชาวชมพู-ฟ้าทุกคนหมายปองก็คือการหวลคืนสู่บัลลังก์แชมป์จตุรมิตร...แน่นอนว่างานนี้โหดหินไม่ใช่เล่น

“เราอยากได้แชมป์นะ” วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้จัดการทีมสวนกุหลาบแบ่งรับแบ่งสู้ “แต่คู่ต่อสู้เค้าก็เตรียมตัวมาดีทั้งนั้นแหละ ซึ่งเราจะพยายามเต็มที่ให้ประสบความสำเร็จให้ได้”

Group of Death ของจริงอยู่ตรงนั้นต่างหากล่ะ!




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2555
0 comments
Last Update : 1 กรกฎาคม 2555 12:08:26 น.
Counter : 2933 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


baevi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add baevi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.