ผมพา 3 ผจก.ทีมชื่อดังไปดูเกมอัปยศที่สนามจุ๊บ
11 ต.ค.52 สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จุฬา ยูไนเต็ด 0-0 บางกอก ยูไนเต็ด
ตอนเด็ก ๆ คอลัมนิสต์สยามกีฬาที่ผมเฝ้าติดตามคนนึงคือ กัปตันชัยยะ ปั้นสุวรรณ
คุณลุงแกเป็นอดีตนักบอลทหารอากาศยุคโบราณ (มากกกกก) ที่มารับงานพิเศษ ขีด ๆ เขียน ๆ ลงในคอลัมน์ที่หน้า 5
สไตล์การเขียนคือเน้นตลกเอาไว้ก่อน กัปตันชัยยะมักจะออกตัวอยู่เนือง ๆ
อย่ามาหาสาระอะไรกับคอลัมน์ผมเลย ผมเน้นฮาอย่างเดียว
ถึงกระนั้นเรื่องราวที่เขานำมาเขียนก็เรื่องจริงทั้งนั้น เพียงแต่นำความอารมณ์ดีส่วนตัวมาฉาบเคลือบให้เป็นบทความเชิงตลก
ไม่ได้คิดว่าอดีตนักฟุตบอลรุ่นโบราณคนนี้จะเป็นแบบอย่างหรอกนะครับ แต่พอย้อนกลับไปอ่านงานเก่า ๆ ของตัวเองหลาย ๆ ชิ้น ผมก็ไม่ต่างกับกัปตันชัยยะเลย ที่ชอบนำเรื่องโน้นเรื่องนี้มาฉาบเคลือบเรื่องราวที่นำเสนอเพื่อให้เนื้อหามันซอฟท์ขึ้น
บางเรื่องราวที่นำมาฉาบเคลือบ...อาจจะเป็นประสบการณ์ของผมเอง
บางเรื่อง ผมแต่งเองล้วน ๆ...เช่นวันนี้ไง
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
ผมไปดูแม็ทช์ชี้ชะตาระหว่างจุฬา ยูไนเต็ดและบางกอก ยูไนเต็ดโดยพาผู้จัดการทีมฟุตบอลชื่อดังระดับโลกไปดูด้วยถึง 3 คน!
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
อาแซน เวนเกอร์
และโชเซ มูริญโญ
ทำไมต้องเป็นทั้งสาม?
คนแรกคือผู้จัดการทีมทีมโปรดของผม
คนที่สอง ผมชื่นชอบเป็นการส่วนตัวในแนวทางการทำทีม อีกทั้งยังเป็นคนปั้นนักบอลขวัญใจ (ที่สุด) ของผมในปัจจุบันอย่างเซส ฟาเบรกาสด้วย (ที่วงเล็บ ที่สุด ไว้เพราะผมปลื้มนักบอลหลายคนเหมือนที่ชอบผู้หญิงหลายคนนั่นแหละ)
คนสุดท้าย ผมชอบแคแรคเตอร์ล้วน ๆ แต่ก่อนอื่น ขอมือความ เอ้ย! เท้าความเล็กน้อย
สมัยเรียนมัธยม ผมยึดสเตฟาน เอฟเฟนแบร์กเป็นหนึ่งในขวัญใจ สาเหตุคือ
ถ้าผมมั่นใจในตัวเองแบบเอฟเฟ อะไร ๆ หลายอย่างในชีวิตก็คงจะดีกว่านี้
ยังจำคำพูดของจอมห้าวหัวเสือที่บ่งบอกถึงความมั่นใจแสนเปี่ยมล้นในตัวเองได้ดี
ทีมอื่นโง่เกินจะเป็นแชมป์ เพราะฉะนั้นบาเยิร์นเรานี่แหละที่จะเป็นแชมป์
อะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิต สมัยอายุ 15-16 ไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่โตหรอก
ก็แค่ตัวสำรองทีมโรงเรียนรุ่น 14 ปีอย่างผมที่ปีต่อมา (ต้องเล่นรุ่น 16) ดันไม่กล้าไปฝึกซ้อมกับทีมโรงเรียนน่ะสิ...เพราะไม่มั่นใจในตัวเอง
มารู้ตอนหลังว่า สุดท้ายโค้ชเก็บนักบอลไว้ทุกคนเลย แล้วแบ่งทีมออกเป็น 2 ชุดสำหรับแข่งกรมพละชุดนึง แข่งบอลทหารอากาศชุดนึง โดยตัวหลัก ๆ จะติดทั้ง 2 ชุด
ตอนนั้นผมไม่ได้เก่งนะ แต่อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเล่นทีม 16 ปีต่อ แล้วได้ซ้อม, ได้คลุกคลีกับทีมใหญ่อายุ 18 ปี (ซึ่งมีนักบอลเก่ง ๆ มากมาย) บ่อย ๆ ผมก็น่าจะพัฒนาฝีเท้าได้ ผสมผสานกับรูปร่างที่ใหญ่กว่าเด็กรุ่นดียวกัน, ความทุ่มเทที่มีให้กับฟุตบอลเกินร้อย, ความมุ่งมั่นและความใจสู้...ไม่รู้สิ ไม่แน่วันนี้ผมอาจจะเป็นนักเตะที่อาวุโสเป็นอันดับ 2 ของจุฬา ยูไนเต็ดรองจากกัปตันเก๋ วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐไปแล้วก็ได้...
เอ่อ...รู้สึกยิ่งเขียนก็ยิ่งโม้นะ ^^! แล้วมันจะไปแย้งกับประโยคต่อไปด้วย...
ถึงวันนี้ แม้จะเรียนจบคณะที่ คนหน้าด้าน (หมายถึงกล้าแสดงออกน่ะ) ติดอันดับของประเทศ แต่เอาเข้าจริง ผมก็ยังไม่มั่นใจในตัวเองอยู่ดี (เหรอ?) พอได้รู้จักกับมูริญโญ (ทำอย่างกะซี้กัน) ผมก็ยึดเขาเป็นขวัญใจทันที ด้วยเหตุผลเดียวกับแบบเอฟเฟนแบร์กเปี๊ยบ
แฟน ๆ มาซื้อตั๋วชมเกม "ชี้ชะตา" กัน
น้อง ๆ หน้าใสคนขายตั๋ว
ผมกระเตง 3 ผู้จัดการทีมดังมาถึงสนามจุ๊บเมื่อเลย 4 โมงไปแล้วหน่อย ๆ รุ่นน้องซึ่งเจอกันหน้าสนามทักผมคำแรกว่า
เค้าเลื่อนกลับไปแข่งสี่โมงครึ่งเหมือนเดิมนะพี่
มันไม่ยักกะเห็นคนดังที่มากับผมแฮะ ถ้าเป็นหนัง คนดูจะเริ่มรู้แล้วว่า...ที่แท้ 3 คนนั่นก็แค่เพื่อนในจินตนาการของผม (อ้าว! แล้วผมเฉลยตอนจบทำไม?)
เดินเข้าในสนามเห็นกองเชียร์จุฬา ยูไนเต็ดค่อย ๆ ทยอยกันมา ในที่สุดก็หนาแน่นจนต้องถ่ายคนไปนั่งที่อัฒจันทร์ฝั่งตรงข้าม (ส่วนนี้ผมรวมถึงแฟนบอลเป็นกลางทั่วไปด้วยครับ ไม่ได้ขี้ตู่เหมารวม)
ส่วนกองเชียร์สีเขียวของทีมเยือนถึงปริมาณไม่เยอะเท่า แต่ก็หนาแน่นดี แถมยังเชียร์อย่างสนุกสนานตั้งแต่เกมยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกลองที่เค้าว่ากันว่ามีมือกลองระดับเทพเป็นผู้ประโคมจังหวะ
แขกวีไอพีที่มาชมเกมนี้ด้วย
ที่สนามจุ๊บ แฟน ๆ เจ้าบ้านหนาแน่นเสมอ
ความคึกคักของแฟน ๆ "เทพมรกต"
แฟนบียู "กระเพื่อมตัว" พร้อมกับรอยยิ้มแสนหวาน
นักเตะเจ้าบ้านวันนี้เดินลงสนามด้วยการสวมเสื้อยืดสีขาวทับชุดแข่ง สกรีนตัวหนังสือภาษาอังกฤษสีชมพูว่า
How Beautiful a Day Can Be, With the Love of You and Me! Million Thanks One Love Chula United
เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรัก, ความศรัทธาและความมุ่งมั่นที่ทั้งนักเตะ, ทีมงานและกองเชียร์จะร่วมฝ่าฟันไปด้วยกัน
11 นักเตะชุดแรกในระบบ 4-2-3-1 มีฌอง-มาร์ก เอ็นกูลู, ประสิทธิ์ เทาดี, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, นันทพล พิบูลย์พล, อดุลย์ หมื่นสมาน (กัปตันทีม) : เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้, วัฒนศัพท์ เจริญศรี : กิตติศักดิ์ ปิ่นทอง, เนโต, อารอนและสมปอง สอเหลบ
เปลี่ยนจากนัดที่แล้วแค่คนเดียวคือกิตติศักดิ์ที่ได้ลงมาแทนกิตติภูมิ ปาภูงาซึ่งติดโทษแบน
ถ้าจำกันได้ เจ้าโลคนนี้แหละที่ยิงประตูชัยดับบางกอก ยูไนเต็ดคาบ้าน (ชั่วคราว) มาแล้ว
ส่วนของทีมเยือนนั้นผมดูไม่ค่อยออก แต่น่าจะมาในแนว 4-3-3 ซะมากกว่า ใช้ไกรสร ปั้นเจริญยืนหน้าเป้า มีประเสริฐ หาดเจียงกับริวจิ ซูเอโอกะเล่นริมเส้น
แดนกลางมีชีค อาบิ๊บ โฟฟานาปักหลั่นคุมเกม ขนาบด้วยทรงศักดิ์ เฮมเขียวและฐณกรณ์ พิชิตชัยพจนารถ ส่วนแผงหลัง ปรีชา ชาวกล้า อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทยชุด U-19 ต้องหันมาเอาดีกับการเล่นกองหลังซะแล้ว เมื่อได้รับบทบาทเซนเตอร์ฮาล์ฟอีกครั้งคู่กับปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์ กัปตันทีม ส่วนคู่แบ็กเป็นอาทิตย์ บุญพาและจีรณัฐ นนทเกษ มีวีระ เกิดพุดซาคนเดิมเฝ้าเสา
ทีมงานคุณภาพ (กรรมการ) เดินนำหน้านักเตะทั้งสองทีมลงสนาม
อดุลย์กับอภิวัฒน์ นายแบบเสื้อยืดแห่งการรวมใจ
ปุณณรัตน์เตรียมจับมือกับสมปอง
กัปตันบังดุลแลกธงกับกัปตันเป็ด
11 นักเตะเสือสามย่านกับภารกิจหนักในนัดนี้
แค่นาทีแรกโฟฟานา มิดฟิลด์แอฟริกันก็ลากแหวกแผงหลังจุฬา ยูไนเต็ดตั้งแต่กลางสนามจนถึงกรอบเขตโทษ ก่อนจะถูกสกัดล้มลง คุณปรีชา กางรัมย์ ผู้ตัดสินบอกไม่ฟาวล์
จังหวะเสียวครั้งแรกเป็นของเทพมรกตทีมเยือน เมื่อทรงศักดิ์แอบหลอกยิงนอกเขต เอ็นกูลูเหิรปัดไว้ได้งดงามในนาทีที่ 6
7 นาทีต่อมาเฉลิมศักดิ์ของฝั่งเจ้าบ้านลองบ้าง วีระก็ทำได้สวยไม่แพ้ผู้รักษาประตูจอมหนึบเสือสามย่านเหมือนกัน
จุฬา ยูไนเต็ดครองเกมได้เหนือกว่า แต่ดูพวกเขาก็ไม่ได้ถึงกับผลีผลามบุกแบบไม่ลืมหูลืมตา ค่อย ๆ ต่อบอลไปเรื่อย ๆ ไปไม่ได้ก็ฝากบอลกับเพื่อนหรือไม่ก็เปลี่ยนแกน
โฟฟานาตอบคำถามที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมทีมในไทยพรีเมียร์ลีกต้องมีนักเตะแอฟริกันไว้ในทีม? จากคุณสมบัติที่เขาโชว์ออกมาให้เห็นในวันนี้ แข็งแกร่ง, หนักหน่วง, อึด ทำเอานักเตะตัวเล็กกว่าอย่างเฉลิมศักดิ์, วัฒนศัพท์กระเด้งกระดอนไม่เป็นท่า ใหญ่ ๆ อย่างเนโตก็ยังปลิวเลย
โอกาสน่าได้ประตูที่สุดในครึ่งแรกคือจังหวะที่สมปองหลอกกองหลังเพื่อเปิดช่องให้อารอนหลุดเข้าไปเดาะบอลข้ามหัววีระ น่าเสียดายที่ดันข้ามคานไปด้วย
ท้ายครึ่งแรกบางกอก ยูไนเต็ดเปลี่ยนนันทวุฒิ ฝั้นชัยวังลงไปแทนดาวเตะญี่ปุ่นริวจิ ก่อนจะจบลงด้วยสกอร์จู๋น-จู๋น
ไม่มีใครสนใจเนโตเลยหรือไร
ทำฟาวล์ขนาดนี้พอรอดใบเหลือง บุญเลยพาอาทิตย์ให้กลายเป็นเป้าเสียงโห่จากแฟน ๆ เจ้าบ้าน
อดุลย์ยิ้มเก้อ ๆ เมื่อถูกผู้ตัดสินจับฟาวล์ประเสริฐ
สมปองพยายามผ่านกองหลังจำเป็นอย่างปรีชา
วีระออกมาตัดบอลก่อนกิตติศักดิ์จะทำอะไรได้
เฉลิมศักดิ์โดนรุมสอง
ช่วงพักครึ่ง เป็นโชว์ของเสือสาวสามย่านที่วันนี้มาแค่ 3 สาวเท่านั้น แต่ความน่ารักยังเปี่ยมล้น อืม!...มัวแต่ดูบอลจนลืม 3 ผู้จัดการทีมที่ผมพามาด้วยเลย (เดี๋ยวคนอ่านจะลืมว่าผมอุตส่าห์ปูมุกนี้มาตั้งนาน...เดี๋ยวได้ใช้ ๆ) ผมเห็นมูริญโญนั่งหน้านิ่ง เอามือเท้าคาง ชี้นิ้วเด่ออกมาทาบไปกับแก้ม แอคชันเดียวกับตอนที่เขาไปออกรายการ ชามเบรตติ ไนท์ รายการโทรทัศน์ชื่อดังของอิตาลีที่ผู้จัดชอบนำแดนเซอร์มาเต้นยั่วยวนแขกรับเชิญ ส่วนท่านเซอร์นั้นนั่งบริหารลมหายใจอยู่ บางทีเขาอาจจะอยากเปิด แฮร์ไดรเออร์ ใส่ใครสักคน ส่วนเวนเกอร์ยังนิ่ง ๆ
แม้จะมาแค่ 3 แต่ความน่ารักของสาว ๆ Pink Panther Girls ยังเปี่ยมล้น
สามสาวยังทำหน้าที่แลกของกับแฟน ๆ บางกอก ยูไนเต็ดด้วย
เปิดฉาก 45 หลังมา โค้ชต้อม ณรงค์ สุวรรณโชติเปลี่ยนไพฑูรย์ นนทะดีที่เพิ่งหายเจ็บลงไปตื๊ดเกมริมเส้นด้านซ้ายแทนกิตติศักดิ์ที่ไม่มีบทบาทเท่าไหร่ในครึ่งแรก
แค่ไม่กี่นาทีที่ลงไปสัมผัสหญ้าเทียม เจ้าอุ้มก็สับ ๆ ๆ หลุดแผงหลังเทพมรกตไปหลายคนก่อนจะส่งให้วัฒนศัพท์ยิงออกไป
มีคนบอกว่าตอนซ้อมนั้นประสิทธิ์ เทาดีแบ็กขวาร่างเล็กของจุฬา ยูไนเต็ดชอบออกลีลา โรนัลดิญโญทริก หันหน้าไปทาง จ่ายบอลไปอีกทาง เพิ่งมาสังเกตจริงจังวันนี้ แล้วก็ได้เห็นเป็นบุญตาอย่างน้อย 1 ช็อตด้วย
ชั่วโมงนึงผ่านไป อดีตมาราโดนาเมืองไทย สมชาย ทรัพย์เพิ่มเริ่มปรับทัพใหม่ด้วยการส่งวิทยา หมัดหลำลงไปเสริมความสดแดนกลางแทนฐณกรณ์
ถัดมา 5 นาทีจุฬา ยูไนเต็ดปรับแท็กติกใหม่ด้วยการเล่น 4-4-2 ส่งอดิศักดิ์ กานูลงไปแทนเฉลิมศักดิ์
เกมในครึ่งหลังจุฬา ยูไนเต็ดไม่ได้รุกดุดันเหมือนในครึ่งแรก ดูเกร็ง ๆ ไป ส่วนบางกอก ยูไนเต็ดนั้นพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีแต้มออกไป แม้กระทั่งการล้มแล้วไม่ยอมลุกขึ้นมาง่าย ๆ ก็ตาม
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่นักเตะในชุดเขียวล้มกันระนาวราวกับใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง สร้างความสับสนให้กับหมอเดียร์ แพทย์สาวประจำทีมมาก
นี่ชั้นจะเสี่ยงพวงมาลัยเอ้ย! ปฐมพยาบาลให้ใครก่อนดีนี่
โชเซ มูริญโญที่นั่งเงียบมานานถึงกับหลุดปาก (แน่ะ...ได้ใช้มุกนี้แล้ว)
ทีมหนึ่งมาเล่นฟุตบอล ส่วนอีกทีมเหมือนไม่ได้นอนมาเมื่อคืน
แต่บางกอก ยูไนเต็ดก็มีโต้กลับสวย ๆ นะ ผมแย้งกลับ
ก็ใช่ แต่ถ้าเล่นแบบนี้สู้ถอยรถบัสมาจอดไว้หน้ากรอบประตูดีกว่า ไม่เสียประตูแน่ แถมใครง่วง อยากนอนก็ขึ้นไปนอนได้ด้วย โค้ชอหังการตอบตามสไตล์
เวลาผ่านไปพร้อมกับความมืดที่คืบคลานเข้ามา อนิจจาที่ไฟในสนามจุ๊บไม่สามารถตอบโจทย์เรื่องความสว่างตรงนี้ได้เลย สนามช่างมืดมิดเหมือนสถานการณ์ของเจ้าบ้านหากยังโนสกอร์อยู่เช่นนี้
ช่วงท้ายเกมทั้ง 2 ทีมส่งไพ่ใบสุดท้ายตามแนวทางที่ทีมต้องเล่น
จุฬา ยูไนเต็ดส่งเรจินัลโดแทนอารอน (มารู้ตอนหลังว่าเพชฌฆาตอัจฉริยะบาดเจ็บ) ส่วนบางกอก ยูไนเต็ดส่งคมกริช คำโสกเชือกลงมาเล่นแนวรับทางฝั่งขวาแทนอาทิตย์ บุญพา เดาเอาจากท่าทางตอนเดินออกมา คิดว่าน่าจะหมดแรงเพราะเดินยังไงก็ไม่ถึงขอบสนามซะที
นาทีที่ 82 อภิวัฒน์ งั่วลำหินที่ไม่น่าจะเกิดมาทันดู ไอ้มดแดง นะ แต่กลับใช้ท่าไม้ตายของพวกคาร์เมนไรเดอร์เหล่านี้เล่นงานโฟฟานาซะลงไปนอนดิ้นราวกับถูกไฟช็อต...สกายคิกของเจ้าโอ๊ตช่างมีประสิทธิภาพรุนแรงนัก...รุนแรงพอที่จะได้ใบแดงด้วย!
ผมมองไม่เห็นเหตุการณ์ เวนเกอร์บอกผมอย่างนั้น
ผมอยากเป็นอย่างเวนเกอร์จัง จะได้ไม่เซ็งกับเหตุการณ์นี้ เจ้าโอ๊ตก็ทำเกินไป แต่ถ้าคิดว่าคนที่นอนดิ้นแหงก ๆ นั้นคือโฟฟานา ผมก็พอเข้าใจปราการหลังสกายไรเดอร์คนนี้นิดนึงนะ (ย้ำว่านิดนึง)
นอกจากแข็งแกร่ง, หนักหน่วง, อึดคือคุณสมบัติที่ผมยอมรับนักเตะแอฟริกันในไทยพรีเมียร์ลีกแล้ว ผมยังแอบใจแคบนิดนึงด้วยว่า พวกนี้หลาย ๆ คนเล่นตุกติกไม่น้อย (อย่าให้เอ่ยชื่อเลย ไม่อยากกระทบแฟนทีมไหน) โฟฟานานี่ก็ใช่...แต่ก็นั่นแหละ บอลอาชีพ คุณไม่มีสิทธิ์ถีบคู่แข่งดื้อ ๆ อย่างนี้หรอก
การแก้คืนที่ดีที่สุดคือเอาคืนพวกนี้ด้วยผลงานในสนาม หรือถ้าแบดบอยหน่อยก็ยึดคติ ตุกติกมา ตุกติกไป แต่ต้องเนียน ๆ นะแบบที่เดนนิส แบร์กคัมป์ ศูนย์หน้าฮอลแลนด์ ลูกศิษย์ของเวนเกอร์ทำบ่อย ๆ นั่นแหละ ภาพลักษณ์ของหมอนี่ที่คนดูเห็นคือสุภาพบุรุษ แต่กับคู่ต่อสู้แล้ว มักจะบ่นอุบว่ามันแสบร้ายเหลือ
แม้จะเหลือสิบคนแต่เสือสามย่านก็พยายามลุยเต็มที่ แต่ทุกครั้งบอลก็จะกระเด้งกระดอนกลับออกมาเพราะไปกระทบกับรถบัส...เอ้ย! ^___^ (ต้องไม่ลืมใส่อีโมติคอล จะได้รู้ว่าผมแซวเล่นจริง ๆ) เพราะนักเตะทีมเยือนตั้งรับได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ละคนร้อยใจเป็นหนึ่งเดียว สู้แบบยิบตาจริง ๆ
ช่วงท้ายเกมมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันระหว่างโค้ชที่ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่า มาราโดนาเมืองไทย อย่างสมชาย ทรัพย์เพิ่มกับเรจินัลโด ศูนย์หน้าบราซิล
ข้าว่าเปเล่เก่งกว่ามาราโดนาแน่ ๆ เพราะฉะนั้นมาราโดนาปลอมอย่างเอ็งไม่ติดฝุ่นหรอก
บางทีทั้งสองอาจจะเถียงกันเกี่ยวกับคำถามโลกแตกในวงการฟุตบอลโลกก็ได้ แล้วบางทีคุณปรีชา ผู้ตัดสินอาจจะเคยรับทรัพย์จากการ เล่นอาร์เจนตินา มาเยอะ เลยรู้สึกไม่เข้าหู จึงชักใบแดงซะเลย
ไฟมันมืด ผมมองไม่เห็นเหตุการณ์หรอก เวนเกอร์บอกกับผมอย่างนั้น ผมก็เลยโยกตัวไปถามทัศนะของมูริญโญ โค้ชที่มีสไตล์กวนทีนเหมือน ๆ กับโค้ชหนวดนั่นแหละ
อย่าลืมนะว่าผมคือเดอะ สเปเชียล วัน โค้ชโปรตุกีสเบ่งตามสไตล์ ฉะนั้น ผมไม่ลดตัวลงไปทำอะไรแบบนั้นกับนักเตะคู่แข่งหรอก
ได้ยินแบบนี้ เวนเกอร์ตาดีขึ้นมาทันควัน ผมแค่เตะขวดน้ำที่โอลด์ แทร็ฟเฟิร์ด ไม่ได้ไปทำอะไรใครยังโดนไล่ออกเลย แล้วไปยียวนคู่แข่งแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้คุมทีมข้างสนามต่อ
หลังจากเคลียร์กันวุ่นวายเพราะจุฬา ยูไนเต็ดก็จะวอล์คเอาท์ แฟนบอลจ้าบ้านก็ส่งคำหยาบกันฟุ่มเฟือย บุรุษชุดสูทข้างสนามตัดสินใจไปพูดคุยกับสมชาย ทรัพย์เพิ่มแล้วอัญเชิญให้ออกไปจากซุ้มม้านั่งสำรอง
เหมือนโค้ชหน้าโหดจะกลัวแฟน ๆ เจ้าบ้านจำไม่ได้จึงออกมาปรบมือประชดให้ชุดหนึ่ง แล้วเดินหายไปในมุมมืด
ทำไมไม่มายืนเก๊กหล่อหน้ากองเชียร์คู่แข่งแบบผมก็ไม่รู้สิ ผมว่าเท่กว่าปรบมืออีกนะ เวนเกอร์เริ่มติดคุยมาจากมูริญโญ
ธงชัย สุขโกกีพาไพฑูรย์ นนทะดี ตัวสำรองมาส่งถึงข้างสนาม
แฟน ๆ บูม BAKA ส่งกำลังใจให้นักเตะ
วินาทีเริ่มเกมอีก 45 นาทีสุดท้าย
ลุยขนาดนี้ ประสิทธิ์เป็นแบ็กขวาหรือปีกขวากันแน่
นั่นคริสเตียโน โรนัลโดหรือไพฑูรย์น่ะ
ทั้งสองทีมลงแข่งกันต่อ ไม่นานคุณปรีชา ผู้ตัดสินก็คิดง่าย ๆ ว่า เป่านกหวีดหมดเวลาดีกว่า หมดเรื่องหมดราวกันไปเถอะ
เท่านั้นแหละครับขวดน้ำปลิวว่อนมาจากอัฒจันทร์ฝั่งเจ้าบ้าน 2 ขวดซ้อน ๆ กระป๋องเบียร์อีกหนึ่ง
ท่านเซอร์ที่เงียบมาตลอดเกมเริ่มเปิด แฮร์ไดร์เออร์
ทำไมไม่ทดเวลาเจ็บ? อย่างน้อยเกมนี้ต้องมีอีก 10 นาที ผู้ตัดสินคนนี้น่ะดูไม่ฟิตด้วย กว่าจะเยื้องย่างมาที่เกิดเหตุได้ กว่าจะคิดว่าจะเป่าฟาวล์ให้ทีมไหนดี ตรงนั้นเสียเวลาคิดไปอย่างน้อยครั้งละ 20 วินาทีแล้ว แต่ก็ยังตัดสินผิด ๆ ถูก ๆ เหตุการณ์ปัญหานั่นก็ไปถึงเหตุการณ์ช้า กว่าจะควักใบเหลืองได้ ก็ต้องใช้เวลาแจก 30 วินาทีแถมยังต้องพักเหนื่อยอีกก่อนจะแจกใบแดง น่าขายหน้าจริง ๆ แค่เหตุการณ์การแจกสองใบนี่ก็ต้องมีทดเวลาอีก 1 นาทีเนื่องจากสมรรถภาพที่ไม่ถึงของเขาเอง
ล่าสุดคำสัมภาษณ์แนวนี้หลังแม็ทช์ซันเดอร์แลนด์อาจจะเล่นงานให้ท่านเซอร์เดือดร้อนได้
ผมไม่ได้สนใจคำพูดของเซอร์อเล็กซ์มากเพราะเห็นอภิวัฒน์ยืนถ่ายรูปกับแฟน ๆ อยู่ตรงหน้า พลันที่สองสายตาสบกัน ผมหลุดคำพูดออกไปเบา ๆ ว่า
โอ๊ตอ่ะ...
ไม่ได้คิดต่อว่าอะไรน้องหรอกครับ แค่อยากเตือน ๆ นิดนึงเท่านั้น แต่พอเห็นสีหน้าของเขา เห็นมือที่เขายกขึ้นมา ผมรู้สึกทันทีว่าเจ้าตัวรู้สึกผิดอยู่แล้ว จึงเก็บคำพูดทุกคำไว้ที่ลำคอพลางดูเจ้าเบียร์ สุริยะ อมตเวทย์ทำหน้าที่ช่างภาพให้กับปราการหลังหมายเลข 8
แฟน ๆ เสือสามย่านยังให้กำลังใจนักเตะจุฬา ยูไนเต็ดต่อไป
ทั้งนักเตะและทีมงานขอบคุณแฟน ๆ สำหรับกำลังใจอันเปี่ยมล้น
สักพักผมมีโอกาสพูดคุยกับช่างภาพของบียู ก่อนจะเข้าไปสมทบกับแฟน ๆ Pink Panther ถึงตอนนั้น เพื่อนในจินตนาการทั้งสาม ก็ขอตัวลาไปเรียบร้อยแล้ว
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน...หากไม่ใช่แฟนแมนฯยูฯ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงหมั่นไส้เขา
อาแซน เวนเกอร์...ผมเคยไม่ชอบเขาช่วงที่นำอาร์เซนอลท้าชิงกับแมนฯยูฯได้สูสี
โชเซ มูริญโญ...สุดหมั่นไส้เลยกับช็อตวิ่งเตลิดก่อนจะคุกเข่าลงสะใจ หลังพาปอร์โตมาเขี่ยแมนฯยูฯตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อปี 2004 แต่พอเขามาอังกฤษ ได้รู้จักเขามากขึ้น ผมกลับเปลี่ยนเป็นชอบ
ชอบ-ไม่ชอบ ดี-ไม่ดี บางครั้งมันขึ้นอยู่กับจุดที่คุณยืน แต่ทุกคนสามารถเลือกเก็บเอาไว้แต่คำว่า ดี แล้วละทิ้งความ ไม่ดี ไปได้
เกมวันนี้ผมขอลืมสิ่งที่ไม่น่าจดจำไปนะ
ฝั่งบียู ผมไม่ขอเข้าไปวิจารณ์เพราะไม่อยากเป็น นักถ้ำมอง เหมือนที่มูริญโญเคยตอกเวนเกอร์เจ็บ ๆ
ส่วนฝั่งจุฬา ยูไนเต็ด ผมขอกราบหัวใจของนักฟุตบอลและทีมงานทุกคน...พวกคุณทำดีที่สุดแล้ว
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่กลายเป็นจุดด่างพร้อย ผมไม่เห็นด้วยกับการกระทำเหล่านั้น แต่ผมขอเลือกไม่จำมัน
ตอนนี้ผมขอจำแค่ว่า 18 ตุลานี้ ผมต้องเชียร์ทีมนี้ต่อไปและหวังว่าพวกเขาจะชนะ...พร้อม ๆ ไปกับสถานการณ์เป็นใจในสนามอื่น
Create Date : 14 ตุลาคม 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 14:24:40 น. |
Counter : 1821 Pageviews. |
|
|
|
คิดซะว่าเป็นกำลังใจแล้วกันนะพี่
ปีหน้า (ถ้ารอด )
ผมจะหาทางจัดสรรอย่างอื่นมาให้