It is not how much we have, but how much we enjoy, that makes happiness.

<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
21 มิถุนายน 2555
 

บินเดี่ยว คิดเดี่ยว ฉายเดี่ยว เกือบสายเดี่ยว ตอนที่ 1 Quebec City,QC

แต่น แต้น แต๋น แตน แต้น...มาแล้วจ้า มาแล้วจ้า...เกริ่นเบาๆว่า ทริปนี้เกิดขึ้นจากความบังเอิญล้วนๆที่ทำให้ได้บินเดี่ยว ฉายเดี่ยว ฯลฯ ใจตอนนั้นได้แต่คิดว่า..."เออก็ดีว่ะ ฝันมานานล่ะที่จะได้เดินทางคนเดียวบ้าง"...วางแผนล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน...การจะหาตั๋วถูกได้นั้นไม่ง่ายเลย เฝ้าเพียรเปิดเนตดูทู๊กวัน เช็คราคาตลอดดดดด เมื่อได้ราคาที่พอใจก็จองทันที 9-16 มิถุนายน 2555 (2012) จุดมุ่งหมายคือ Quebec City, Montreal, Ottawa, Toronto, and Niagara Falls...เราจะบินจาก Calgary ไป Quebec City ขากลับก็จาก Toronto มา Calgary...เราหาข้อมูลตลอด แต่เพิ่งมาจัดหนักหนึ่งอาทิตย์ก่อนบินเอง...หาจาก Tripadviser บล็อคต่างๆ เนต...และที่สำคัญเลย หนังสือเล่มนี้ที่โฮสซื้อให้ไว้เป็นข้อมูล



ป่ะ !!!!! เริ่มออกเดินทางกันดีกว่า Lucky Day คือ 9 มิถุนายน 2555 ขาไปได้ตั๋วของ Air Canada เครื่องบินไม่ใหม่มาก แต่ดูหนังฟรี บริการก็โอเค...เราได้ลุ้นตลอดตั้งแต่ขาไปล่ะ...Boarding Pass ที่ปริ้นออกมาคือ เราต้องไปลงที่ Montreal แล้วรอต่อไปยัง Quebec City แต่มันไม่ระบุที่นั่งให้เรา เราก็งงไม่เข้าใจความหมายโคดย่อของเขา แถมลงเครื่องปุ๊บรีบวิ่งไปยัง Gate เพราะเครื่องลงจอดตอนเวลา Boarding Pass จะไป Quebec City พอดี...เจอคนบ่นตอนเราไม่ให้ทางด้วย เราก็แกล้งฟังเขาพูดไม่รู้เรื่องดีกว่า...แหมลองมาเจอเวลาอย่างเราไหมคะคุณ (ไม่ได้โกรธเขานะ เพราะรู้ไม่มีใครเข้าใจ)...หาทางไปไกลมาก อ่านป้ายเอา วิ่งป่าราบเลย หอบแฮกๆๆๆ...เมื่อมาถึงหน้า Gate ปรากฏว่า..."ขอโทษด้วยนะคะ เราไม่มีที่นั่งเหลือให้คุณแล้ว เราพยายามถามหาอาสาสมัครที่จะไม่ไป แต่ไม่มีใครที่ตอบตกลงเลย เพราะฉะนั้นคุณต้องรอขึ้นเครื่องอีกทีตอนประมาณสามทุ่มนะคะ"...เอ่อ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ตอนนั้น 18.30 เครื่องจะออก 19.00...อะไรฟะเนี่ย เงินก็จ่ายนะเฟ้ย แม้จะได้ราคาถูกมา ทำไมทำงี้กะเราอ่ะ โมโหมากกกกกกกกกกกก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งดูผู้โดยสารเดินผ่านขึ้นเครื่องไปอย่างลอยนวล ...ได้ทีเลยเมาท์กับชายชาวจีนผู้ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน...แต่ในทีสุดฟ้าก็มีตา...เจ้าหน้าที่เดินมาพร้อมถามชื่อสกุลเรา...พร้อมแจ้งว่า "คุณได้สิทธิ์ในการขึ้นเครื่องนะคะ เพราะเราเหลือที่นั่งว่าง 1 ที่ค่ะ... มันแบบว่า...จากจะเอ่ยปากด่า กลายเป็นขอบคุณเบาๆๆๆๆ...บินแค่ 50 นาทีก็ถึงแล้ว ด้วยเครื่องบินลักษณะแบบนี้



เมื่อไปถึงสนามบินแล้ว มีทางเดียวเท่านั้นที่เข้าเมืองได้ ณ ตอนนั้นคือ Taxi...เขาก็บอกเราว่า "เธอรู้รึเปล่า เรามีราคาตายตัวนะว่าเธอต้องจ่าย $44.50"...เราก็เอ๋อมากกกกกกกกกกกก ไรฟะหาข้อมูลมา มันไม่แพงขนาดนี้นี่หว่า ถามเขากลับไปว่า "เธอไม่ต้องกดมิเตอร์ใช่ไหม"..."ใช่"...หลังจากนั้นเราก็นั่งหน้าบึ้ง เพราะคิดว่าถูกโกงค่า Taxi แหงมๆ คนยิ่งไม่มีตังค์อยู่ด้วย พอเขาถามมาจากไหน เลยเออออบอกไปว่าฟิลิปปินส์ (เรื่องไรจะบอกว่ามาจากไทยล่ะ)...พอไปถึง Hi Hostel ถามย้ำไปว่าเท่าไหร่นะ เขาชี้ให้ดูข้างกระจกพร้อมบอกอีกทีว่า $34.50...อ้าว !!!!! หลงโมโหมาตลอดทาง สรุปจ่ายไป $35...ไม่ได้ให้ทริปด้วย เพราะเคือง (ไม่ดีนะเนี่ยเรา แอ๊บมึนซะงั้น)



ที่ Hi Hostel ข้อดีคืออยู่ในกำแพงเมืองเก่า เดินไปเที่ยวได้ทุกที่สะดวกมาก ขอบอก...เราจองพัก 8 คนต่อห้อง ลักษณะเตียงประมาณนี้...เจอสาวฝรั่งเศสสามคนมาเที่ยวกัน...ตอนเช้าจะมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นคนที่คอยเก็บเตียงให้สะอาด จัดการให้เพื่อนทุกเตียง อดนึกถึงเพื่อนเหมี่ยวไม่ได้...ถ้าแกมาด้วยคงดี



และนี่ก็คืออาหารมื้อแรก ข้าวกับเนื้อ



กินอิ่มก็หลับเอาแรง เพราะเพลียอยู่ เตียงเล็กพอดีตัว อย่าคิดจะขยับนะ ไม่งั้นยาวแน่ทั้งคนนอนล่างและบน เพราะสั่นไหวตลอด ห้องน้ำรวมก็โอเคดี ใช้ได้หมดทั้งชั้น

วันที่ 10 มิถุนายน 2555

วันนี้เป็นวันที่สองแล้ว Quebec City ได้ชื่อว่าเป็น New France ภาษาทางการคือฝรั่งเศส...วันนี้แผนที่วางไว้คือไปน้ำตก Montmorency Fall อย่างแรกหาซื้อ 1 Day Pass ที่ร้านที่มีเครื่องหมาย RTC ซื้อได้ด้วยเงินสดเท่านั้น ราคา $7 จากร้าน Jack&Jill...เจอคุณป้าใจดีบอกทางไปให้ เดินไปด้วยกัน ชวนคุยไปมา สามีคุณป้าเป็นพ่อครัวที่เคยไปเรียนที่ประเทศไทย คุณป้าใจดีมากกกกกก...จริงๆบัตรมีขายอยู่ใกล้ Hostel แค่หนึ่งนาที ไม่เข้าใจเจ้าหน้าที่ทำไมไม่แนะนำฟะ เราเดินไปซื้อแถวหอนาฬิกานี้ ...ไม่น่าเชื่อพรหมลิขิตให้เจอ Taxi คันนั้นมาจอดรอลูกค้าอยู่บริเวณนั้น...แกล้งทำไม่เห็นดีกว่า...และแล้วเราก็เห็นความสำคัญของ Iphone วันนี้เองว่า มันเป็น Map ที่ช่วยบอกทางไป และบอกสายรถที่จะขึ้นด้วย...ไปน้ำตกนี้ขึ้นได้สายเดียวคือสาย 800





เมื่อไปถึงแล้ว กรุณาอย่าเดินข้ามสะพานตรงถนนนะคะ ให้ไปทางลัดทางนี้ อยู่ตรงป้ายรถเมล์เลย



ถ้าข้ามสะพานตรงถนน จะมองเห็นวิวน้ำตกแบบนี้



เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ไปโผล่ที่เขาจัดการแสดงศิลปะ หรือการขายภาพเขียนนั่นเอง มันดูเข้ากับธรรมชาติดีอ่ะ



และแล้วเราก็มาถึง Montmorency Fall ซึ่งมีความสูงมากกว่า Niagara Falls 30 เมตร...แต่ความอลังการเราอย่าไปเทียบนะ เทียบไม่ได้





เดินลงบันได 487 ขั้น...ชันและสูงมากกกกกกกกกกกกกกก ขาสั่นไปตลอดทาง ขอให้คุณลุงถ่ายรูปให้ ก็เห็นแต่ตัว น้ำตกนี่อย่าให้พูดเลย เห็นแค่น้ำนิดๆๆด้านหลัง เราบอกขอบคุณพร้อมก้มหัว ดันพูดภาษาญี่ปุ่นกลับมาหาเราซะงั้น เป้าหมายคือลงไปด้านล่างและเดินไปที่ขึ้นกระเช้า (แต่ไม่ขึ้นหรอก)...ที่นี่คุณจะได้ Map ที่สามารถพาคุณเที่ยวได้รอบเมืองได้ง่ายมากกกกกกกกกกก ดีกว่าที่ได้มาจาก Hostel อีกอ่ะ





เสร็จแล้วเดินข้ามสะพานกลับไปท่ารถเมล์...แล้วก็ดูวิวไปด้วย เสียวนะคะข้ามสะพาน









และเพราะ Map จาก Iphone อีกนี่แหล่ะที่ทำให้เราลงผิดป้าย ขอลงกลางไฟแดงที่จอดติดอยู่ แต่สุดท้ายไม่ใช่จุดหมายที่จะไป...เราต้องการไป Paliament Building คือไปถึงแล้ว แต่ไม่สามารถเดินเที่ยวชมด้านในได้ เพราะไปตรงกับวันอาทิตย์







เดินกลับไปหาอะไรลองท้องดีกว่า ค่อยไปสู้ศึกดีกว่า



แนะนำให้เดินที่ถนน Saint-Jean...ตอนเย็นนี่ปิดถนนเลยอ่ะ เดินสบาย เป็นถนนสายช็อปปิ้ง...ส่วนตัวเราเดินดูพอ เพื่อนสั่ง แกอย่าซื้อของฝั่งนั้นนะเฟ้ย Tax แพง











เดินไปดู Basilica-Cathedral Notre-Dame de Quebec...ความรู้สึกคือ ไม่ได้อลังการมาก แต่ก็สวยดี...มาต่างประเทศดูโบสถ์...มาไทยดูวัด



แล้วก็เดินไปดูต่อที่ Cathedral Holy Trinity มันดูเรียบๆ แต่เราแอบอลังการอยู่ในใจ สถานที่เล็กๆก็จริง แต่ทำให้เรารู้สึกเหมือนฉันเป็นเจ้าสาวนะ...แถ แด แด แดม แถ แด แด แดม แถ แด แดม แดม แดม แดม ดะ แดม...





และก็เดินกินลมชมวิว ไปเรื่อยๆๆๆๆๆ



เดินตรอกนู้น โผล่ตรอกนี้...มีซอยขายงานศิลปะด้วยนะค๊ะ คนขายหล่อมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก





และแล้วก็มาถึง Le Chateau Frontenac เป็นโรงแรมที่ถูกสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1893 เดินมาเรื่อยๆก็เจอเองแหล่ะ...เราจะเห็นวิวแม่น้ำจากมุมสูง หรือเดินลงบันไดมาที่ถนนด้านล่าง เขาเรียก Old Upper Town ไป Old Lower Town














เมื่อลงบันไดมาจะเจอสวนสาธารณะ และมองเห็นภาพวาดที่กำแพงสุดอลังการแบบนี้





และเราก็เดินลงมาตามถนน Cote de la เพื่อตามหาถนน Rue du Petit-Champlain...ซึ่งเป็นถนนที่แคบที่สุดใน North America เราสามารถเลือกซื้อของได้หลากหลาย ร้านค้าตกแต่งได้น่าเข้ามากกกก และน่ารักสุดๆๆๆๆๆๆ แต่เราไม่ได้เดินเข้าไปชมเลย บรรยากาศยุโรปสุดๆๆๆ (แอบคิดเองว่าใช่ ทั้งๆที่ไม่เคยไปยุโรป)













เดินฉะแวบขอไปดูเดินดูงาน Rendez-vous Naval de Quebec...แต่วางแผนผิด ไปถึงเย็นๆ เขาปิดให้เข้าไปเดินดูบนเรือได้ อดไปตามระเบียบ



เดินย้อนกลับไปที่ Rue du Petit-Champlain อีกครั้งกับบรรยากาศน่ารักๆๆๆ























เดินไปเรื่อยๆ เพื่อตามหา Fairmont Le Chateau Frontenac ซึ่ง Iphone Map บอกว่าแถวๆนี้แหล่ะ แต่เพราะความเหง้าของเรา
เลยทำให้ เดินเลยไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆ จนมาถึงแถวๆๆๆนี้...วิวแบบเหนือคำบรรยายอ่ะ แต่เราก็ไม่มีเวลาดื่มด่ำกับมันมากนัก เพราะต้องทำเวลาอีกหลายอย่าง







เดินเรื่อยๆๆไปตามทางนี้ ก็จะพบกับจุดหมายคือ La Citadelle ที่บังเอิญเดินมาเจอเอง ประวัติน่าสนใจมากกกกกกก เอาคร่าวๆๆๆ ฝรั่งเศสสร้าง แต่อังกฤษทำต่อจนเสร็จ...เราก็อาศัยเดินไปตามทัวร์จีน มั่วเข้ากลุ่มเขาไป เดินตามที่คนเดินเยอะๆๆๆๆ ไปไหนกันนะ ไหนตามไปดูหน่อยสิ ที่ไหนได้..คณะทัวร์กลุ่มนี้ยืนต่อแถวเข้าห้องน้ำ









เดินมาเรื่อยๆก็มาโผล่ที่ Fortifications of Quebec เป็นกำแพงเมืองเก่าที่มีความยาว 4.6 กิโลเมตร รอบๆๆ Old Upper Town





เจอป้าย Stop Sign ภาษาฝรั่งเศส แปลกตาดี



เดินมาเพื่อจุดมุ่งหมายสุดท้ายของวันนี้ นั่นคือ Battlefields Park ...ระหว่างทางเดินผ่านร้าน JA Moison ซึ่งเป็นร้านที่เก่าแก่ที่สุดใน North America เราอ่ะอยากเข้าไปลองอาหารมาก แต่ไปคนเดียว บอกตรงๆ ไม่กล้าเดินเข้าไปอ่ะ ไม่รู้จะสั่งอะไร อาหารฝรั่งนี่อย่าให้พูดเลย ไม่ชอบอย่างแรง... Park ที่เราไปถึง เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น park นี้รวมหมดทุกสิ่งเข้าด้วยกัน ทั้งเนินเขา สวน และภูเขา วิวจากบนลงล่างก็จะเห็นแม่น้ำ ต้นไม้เต็มไปหมด หันหลังกลับมาก็เห็นตึกสูงๆบางส่วนด้วย...ถ้ามีเวลาไม่เยอะ ไม่แนะนำให้มาเดินนะคะ เพราะจะเมื่อขาสุดๆๆๆๆอ่ะ



เย้ เย หมดทริปใน Quebec City แล้ว แต่เดี๋ยวก่อน...ไมเราไม่เห็นรูปข้างตึกล่ะ มันอยู่ไหนอ่ะ เดินทั่วแล้วน๊าาาาาาา ปิ๊ง ป่อง...นึกออกแล้ว กลับไปที่สวนสาธารณะที่เรายืนมอง ดีกว่า...ว่าแล้วก็ออกเดินทางอีกครัง เพื่อตามหาเป้าหมายสุดท้าย...สู้ๆๆๆจูยูริน...ในที่สุด...โอ้ นั่นไง มันอยู่ตรงนั้นเอง มันอยู่ด้านหลังแต่เราดันเดินผ่านหน้าตาเฉย มันน่าเขกหัวจริงๆๆเล้ย เฮ้อ...







เท่าที่แอบฟังไกด์ของนักเรียนเหล่านี้ ได้ความมานิดๆหน่อยๆว่า ภาพวาดที่ตึกนี้ มีอายุมากกว่า 200 ปีแล้ว และคนต่างๆที่อยู่ในภาพคือบุคคลสำคัญทั้งนั้น เราเป็นคนต่างถิ่นไม่รู้หรอกว่าคนเหล่านั้นคือใคร แต่นักเรียนเขาตอบกันได้นะ

วันที่ 11 มิถุนายน 2555

ววางแผนตอนแรกว่าจะไปเดินเล่นที่ Rue du Petit-Champlain อีกครั้ง แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ฝนตกแต่เช้า...ก็เลยตัดสินใจ check-out ดีกว่า ไปรอขึ้นรถไฟที่สถานีขนส่งดีกว่า...จองตั๋วล่วงหน้าเป็นเดือน ได้มาในราคา $60.94...ที่ขึ้นรถไฟเพราะราคาไม่ต่างกับรถบัสมาก อยากลองนั่งดูว่าจะเหมือนนั่งในเครื่องบินเหมือนที่ใครๆบอกเล่าหรือเปล่า มีคนบอกว่าจะได้เห็นวิวที่สวยงามระหว่างทางด้วย ว๊าววววววววววววว ...เดินไปสถานีไม่ไกล...แต่หนักเป้แฮะ



















Via Trail สายที่ไปจาก Quebec City ไป Montreal นั้น ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย...มารู้ทีหลังว่า ถ้าคุณไปกับเพื่อนและอยากประหยัดให้นั่ง Allo Stop น่าจะเป็นเหมือนรถตู้บ้านเรา จ่ายน้อยกว่าด้วย แต่เราไปคนเดียวไม่กล้าไปอ่ะ...คุณลุงพนักงานบริการ บริการไม่ประทับใจเราเท่าไหร่ มีครอบครัวจีน(มั้ง) สามคนพ่อแม่ลูกชาย อาจจะภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเท่าไหร่ คือเขาฟังไม่เข้าใจว่า รถไฟจะเข้าสายนะ พอถึงเวลาที่ควรจะถึงสถานีที่ Montreal เขาก็ลุกทั้งครอบครัวเพื่ไปเอากระเป๋าเดินทาง แต่ลุงพนักงานคนนี้กลับตะคอกใส่อย่างรุนแรงมากกกกกกกกกกกก ว่าทุกคนเขาก็ลง Montreal กันหมดแหล่ะ รถสาย เข้าใจป่ะ อารมณ์ลุงแกไม่น่าเป็นพนักงานบริการเลยอ่ะ แอบสงสารในใจ...คนเป็นพ่อนี่อารมณ์เสีย ประมาณต่อยได้นี่ต่อยไปล่ะ

จบทริปที่ Quebec City อย่างมีความสุข สนุก เมื่อย เหนื่อย หิวข้าว หิวส้มตำ...เป็นเมืองที่น่ารักเมืองหนึ่ง อยู่แบบสงบๆๆๆ ถ้าคุณพูดภาษาฝรั่งเศสได้ สบายไปเลย น่าไปๆๆๆๆๆนะ โดยเฉพาะถ้าไปกับคนที่เรารัก


Create Date : 21 มิถุนายน 2555
Last Update : 28 มิถุนายน 2555 9:34:40 น. 5 comments
Counter : 2387 Pageviews.  
 
 
 
 
รอตอนที่ 2ต่อคะ
 
 

โดย: PPJULY IP: 118.172.80.68 วันที่: 21 มิถุนายน 2555 เวลา:19:28:53 น.  

 
 
 
อยากไปเที่ยวบ้างจัง
 
 

โดย: Hiyoko IP: 124.144.114.10 วันที่: 22 มิถุนายน 2555 เวลา:14:41:20 น.  

 
 
 
มาค่ะ มาค่ะ...ขออัฟต่อล่ะกันนะ...เพลียมาหลายวัน...อันนี้ยังอัฟไม่หมดง่วงก่อนอ่ะ... Thanks มิตรรักแฟนๆที่ติดตาม อิอิอิอิอิอิ
 
 

โดย: pinkhug วันที่: 23 มิถุนายน 2555 เวลา:8:53:27 น.  

 
 
 
รอตอนต่อไป อย่างใจจดใจจ่อ
 
 

โดย: Hiyoko IP: 124.144.114.10 วันที่: 23 มิถุนายน 2555 เวลา:15:24:57 น.  

 
 
 
พอดีวางแผนจะไปเที่ยวแคนาดาตามเมืองที่คุณไปแต่ข้อมูลตาม Internet เกี่ยวกับการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะมีน้อยมากเลยค่ะ
ขอรบกวนถามคูณหน่อยได้ไหมไหมค่ะว่าการจองรถไฟหรือรถบัสระหว่างรัฐในแคนาดาต้องเข้าไปจองที่web อะไรค่ะ
ขอบคุณค่ะ
 
 

โดย: Rati IP: 171.7.192.54 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:9:07:48 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

pinkhug
 
Location :
Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add pinkhug's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com