มากับพระ

ถ้าถามว่าคาดหวังอะไรจากหนังเรื่องนี้
ตอบได้ทันทีเลยว่า ธรรมมะที่สอดแทรกเสียงหัวเราะ พร้อมกับภาพการปฏิบัติธรรมบนหลังม้า

ที่ได้ไปดูมามันก็มีส่วนที่คาดไว้ทั้งหมด แต่ว่า มันมีส่วนเกิน ที่ทำเอาเซ็งจิต
ส่วนเกินที่ว่าคือ บทที่เกินมา โดยมีคนรับเคราะห์ที่จะโดนคนที่ไปดูมารุมด่าว่ามาเล่นเรื่องนี้ทำไมคือ ปู ไปรยา คนอื่นจะคิดเหมือนกันรึเปล่าเนี่ย

แต่ว่ากันตามบทหนังแล้ว เธอเป็นส่วนประกอบที่จะมีหรือไม่ก็ได้ เป็นดอกไม้เพื่อสร้างสีสรรค์ แต่ว่าเอามาวางไว้ซะกลางจอ(ผิดที่ไปหน่อย)

ถ้าจะหาว่าผิดที่ไหน น่าจะเป็นสายหนังที่ต้องการจุดขายมากขึ้น ความมึนของคนเขียนบท คนตัดต่อที่ทำงานตามความต้องการของตัวเองไม่ได้ ฯลฯ ไม่รู้จะว่ายังไงดีแล้ว

ลืมอีกอย่าง ใครเป็นคนจัดเสื้อให้ปูไปรยาในหน้งเรื่องนี้เนี่ย ลืมไปรึไงว่า เรื่องนี้ เค้าอยู่ในวัดบนเขา ไม่ใช่กลางสยาม และเป็นฤดูหนาว มาใส่เสื้อโชว์ร่อง... ซะทุกฉาก ทำให้ภาพของปู ที่ออกมาน่าอนาถ ความตั้งใจจะช่วยเหลือ (มาสอนหนังสือเด็ก) กลายเป็นส่วนรองลงไปกลายเป็นมาเดินแฟชั่นในวัดแทน

ทำให้หนังไม่ดีเท่าที่ควร
ทั้งๆที่บทตลกที่ใส่มาทำให้หนังดูดี เมื่อรวมกับความพยายามจะช่วยเหลือชาวบ้านของ หลวงพี่ และ พล การมาเรียนรู้ธรรมะของเณรเล็ก ความรักที่มีต่ออุ้ย ของเณรโก๊ะ ส่วนนี้ทำให้หนังมีมิติขึ้นมา

แต่ด้วยส่วนค้านที่มีอยู่ตลอดเรื่องทำให้ อารมณ์สะดุดเป็นระยะ

แถมยังยัดเอาการตามหาทองของโทน(โทนี่) + ความโลภของผู้ใหญ่พิศาล (ขอโทษค่ะจำชื่อตัวละครในหนังไม่ได้) เข้ามาอีก ตรงนี้น่าจะแยกเป็นอีกภาคไปเลยนะคะ

แล้วก็ทั้งที่มีดารามีฝีมือมาเล่นมาก แต่กลับโฟกัสเนื้อเรื่องไปผิดจุดซะงั้น

แล้วตัวละครทุกตัวก็แบนๆ ไร้ที่มาที่ไป ถึงแม้ว่าจะให้เหตุผลว่ามาที่นี่เพราะอะไร แต่มันไม่พอ เพราะว่าอารมณ์ต่อเนื่องซีนมันไม่มี

อยากให้ต้นสังกัดเอาไปตัดต่อใหม่ แก้ส่วนที่ ปู เมาออกไปบ้าง แล้วใส่ส่วนที่สอนหนังสือเข้ามาแทน(ในตอนจบที่มาพร้อมเครดิต) หนังน่าจะดีกว่านี้อีกมาก

แต่ทำเอาเข้าใจขึ้นมาทันที

ว่าเหตุใดหนังเกาหลี ถึงตีตลาดได้มากกว่าหนังไทย เพราะว่าคอนเซปท์ หนังจะชัดเจนกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่นี่ดูแล้วเหมือนโดนหลอกยังไงชอบกล

Create Date : 11 มกราคม 2550 Last Update : 11 มกราคม 2550 13:44:57 น. Counter : 541 Pageviews.		2 comments
Share Tweet