Photobucket - Video and Image Hosting
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
26 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
Don Wai Market, Heaven on Earth of the Epicurean

เช้าวันที่ 27 จู่ ๆ แม่ก็ถามขึ้นมาว่าฉันเคยไปตลาดวัดดอนหวายแล้วหรือยัง ในใจก็คิดว่าดีจริง ๆ เพราะยังรู้สึกว่าไปตลาดน้ำไม่ค่อยจุใจเท่าไหร่ แถมชื่อคุ้น ๆ แบบนี้ ท่าทางต้องเริ่ด

Photobucket - Video and Image Hosting

พอจอดรถเรียบร้อย คุณแด๊ด แม่ และฉันก็พร้อมใจกันเดินไปเข้าห้องน้ำ ฉันกับแม่ยืนรอคุณแด๊ดอยู่หน้าห้องน้ำเป็นนานสองนาน ทำไมถึงยังไม่ออกมาซักที รอไม่ไหวจึงเดินออกไปตรงทางเข้าตลาด เห็นคุณแด๊ดยืนกวักมือเรียกเรา 2 คนอยู่หยอย ๆ หน้าตูม แต่ฉันกับแม่หน้าตูมกว่า เพราะคุณแด๊ดไปไหนไม่ยอมบอกกล่าว ปล่อยให้พวกเรายืนรอขาแข็งตากแดดหน้ามัน

Photobucket - Video and Image Hosting

เมื่อเดินเข้าตลาดไปหน่อยนึง ฉันเริ่มกดชัตเตอร์ ถ่ายนู่นถ่ายนี่อย่างบ้าคลั่ง พยายามให้เหตุผลกับคนอื่นว่าถ่ายไปให้นักเรียนดูประกอบการศึกษา (แต่จดบัดนี้ยังไม่ได้งัดออกมาให้ดูซักภาพเดียว) ชอบจริง ๆ การเดินตลาดแบบนี้ เห็นอะไรก็น่าซื้อ น่ากินไปหมด แต่...ราคาก็แพงอยู่เหมือนกัน

Photobucket - Video and Image Hosting

ในใจร่ำ ๆ ว่าจะซื้อน้ำตาลมะพร้าว เห็นเขียนไว้ถุงละ 30 บาท มีทั้งแบบทรงขันใบโต และฝาจุกขนมครกใบย่อม ราคาเท่ากันหมด ในใจคิดว่าทรงขันใบโตนี่ท่าทางจะใช้ยาก ซื้อทรงจุกขนมครกไปดีกว่า หมายตาเอาไว้ว่าขากลับจะมาซื้อ แต่ความที่มีขายหลายร้านจัด ยิ่งดูไป ยิ่งเริ่มผลัดวัน...เอาไว้คราวหน้าค่อยซื้อ

ไม่ได้กินชมพู่ลูกแดง ๆ โต ๆ แบบนี้มานานมากแล้ว กี่ปี่แล้วหว่า 5-6 ปีแล้วกระมัง แต่คราวนี้ก็ไม่ได้กินอยู่ดี เพราะท้องเล็กแต่ตาใหญ่ เห็นอะไรเป็นอยากคว้าเข้าปากหมด แต่สุดท้ายก็ยัดไม่ลง

Photobucket - Video and Image Hosting

คุณแด๊ดพอเห็นไหลบัวเท่านั้นแหล่ะ ปรี่เข้าใส่เลย รู้สึกจะขายถุงละ 25 บาท กลัวไม่พอกินเพราะน้องชาย กับน้องเหมียวจะมากินข้าวที่บ้านด้วย คุณแด๊ดเลยซื้อ 2 ถุง เอามาผัดกระเทียมน้ำมันหอย เรื่องของเรื่องน้องชายจอมยุ่งเกิดอาการอยากกินเห็ดถอบที่ตัวเองได้มา เอามาฝากไว้ตู้เย็นบ้านแม่จนแข็งโป๊กเป๊กเป็นน้ำแข็งปาหัวหมาแตก คุณแด๊ดก็เลยคิดจะทำเมนูนู่นนี่ขึ้นมา

มะม่วงน้ำปลาหวานถุงนี้ แค่เห็นก็น้ำลายสอออกมาเต็มกระพุ้งแก้ม 2 ข้างแล้ว เนื้อมะม่วงหั่นบางจนส่องกับแดดทะลุแบบนี้ น้ำปลาหวานที่นับตัวกุ้งได้เลย ถุงกะจ้อยร้อยแบบนี้ ชุดละ 40 บาท (แพงว่ะ...หรือเงินบาทฉันใหญ่) คุณแด๊ดเคยแซวฉันอยู่เรื่อย ๆ

"ลูกยังฝันว่า เงินบาทใหญ่อยู่อีกเหรอ"

"ดูสิ เดี๋ยวนี้เงินบาทขนาดลดลงไปตั้งเท่าไหร่ ขนาดพอ ๆ กับเหรียญ 2 สลึงเลย"

แต่อารามด้วยความที่อยากกินมาก เกิดอาการเสี้ยน เลยคว้ามาถุงนึง แต่กว่าจะคว้าก็หยิบมะม่วงลองจิ้มน้ำปลาหวาน กับกะปิหวานของแม่ค้าจนหมดถ้วยเลย

Photobucket - Video and Image Hosting

วันต่อมาฉันเลยคุ้ย ๆ ตู้กับข้าว ควานหาน้ำตาลมะพร้าวหมื่นปีสีคล้ำของคุณแด๊ด พร้อมกับแรงช่วยโขลกกุ้งแห้งจากคุณแด๊ด(ฉันไม่ชอบกุ้งแห้งเป็นตัว ๆ) ซอยพริกขี้หนูสด หอมแดงสด และกะปิอีกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ฉันก็ทำกะปิหวานขึ้นมาได้กล่องtupperwareใหญ่ ขนาดเจ้าแอนมาเห็นยังตาลุกวาว....เกิดอาการเสี้ยนมะม่วงดิบขึ้นมาอีกราย

Photobucket - Video and Image Hosting

ยิ่งเดินต่อไปเรื่อย ๆ เอ๊ะ....ยิ่งคุ้น ๆ

"แม่คะ ใช่ตลาดนี้เปล่าที่เราเคยมากินเป็ดกัน"

"ใช่ลูก แม่ก็ว่าเคยพาลูกมาแล้วนะ"

"ใช่แม่....จำได้แล้ว เอ๊ะ...มันไม่มีของขายในเรือนี่แม่"

"ก็ไม่มีน่ะสิ ยังไม่ได้บอกซักคำว่ามี"

"อ้าวแม่....หนูนึกว่าเป็นตลาดน้ำ"

Photobucket - Video and Image Hosting

ฉันอยากซื้อปลาริวกิว กับปลาเค็มกลับมาเสียจริง สมัยอยู่ฮ่องกง ปลาเค็มมีให้หาได้เกลื่อนกลาดตามตลาดสด แถมอร่อยด้วย ไม่เค็มปี๋แบบบ้านเรา แต่ไอ้ปลาริวกิวเนี่ย ที่ไหน ๆ ก็ไม่เจ๋งเท่าบ้านเรา....เที่ยวนี้ก็ไม่มีแพลนจะไปทะเลเลย ขึ้นเหนือตลอด คุณแด๊ดก็เลยบอกให้ฉันซื้อจากที่ตลาดนี้ไปซะ ไอ้ฉันประเภททั้งงก และหวังน้ำบ่อหน้า เพราะทั้งตลาดดูแล้วมีอยู่เจ้าเดียวที่ขาย ดีหรือเปล่าก็ไม่รู้ โก่งราคาหรือเปล่าก็ไม่รู้ สรุปไม่ได้ซื้อกลับมา คุณแด๊ดคงจะนึกสมน้ำหน้าอยู่ในใจ...เลือกนัก!

ที่ปลาสลิดละก็วางขายเกลื่อนเลย แต่ไม่ได้ซื้อมา เพราะจำได้ว่ามีคราวหนึ่ง คุณแด๊ดอุตส่าห์ไปซื้อปลาสลิดบางบ่อให้ ทั้งตัวใหญ่อวบอ้วนทั้งมัน...ฉันก็ทิ้งมันไว้ในตู้เย็นเสียจนราส้ม ๆ ขึ้น ปล่อยไว้เป็นปี สรุปทิ้งไป 7-8 ตัว เสียดายเงินที่สุดจากนั้นก็ไม่เคยซื้อปลาสลิดมาไว้อีกเลย

Photobucket - Video and Image Hosting

มีคนเอาขวดpetลิตรมาตัดเป็นของตกแต่งบ้านด้วย ทึ่งไอเดียภูมิปัญญาชาวบ้าน แต่ไม่ได้ซื้อมา เพราะกลัวทิ้งอีก ที่เสียดายคือหอยหวานร้านนี้...คนขาย ๆ เก่งอีกต่างหาก ซื้อมาแล้วจำไม่ได้ว่าเอาไปไว้ที่ไหน (ก็อยู่ในบ้านน่ะแหล่ะ) แต่หาไม่เจอ มานึกออกก็ตอนกลับมาญปแล้ว...ลืมเอามาด้วย แม่กับคุณแด๊ดคงต้องกินเบิ้ล 2 ถุง แต่มันหร่อยมาก ๆ เลย น้องเค้าให้ชิมทุกอย่างที่ขาย สุดท้ายฉันถึงตัดสินใจซื้อหอยหวานเนี่ยแหล่ะ....อย่างเดียวด้วย น้องแม่ค้าคงโล่งใจ ขยันชิมแต่ไม่ขยันอุดหนุน

Photobucket - Video and Image Hosting

เต้าหู-เผือกทอดแบบนี้ นาน ๆ กินทีอร่อยเหมือนกัน เสียดายที่ลุงคนขายขี้เหนียวน้ำจิ้มไปนิด แม่เป็นคนอยากกิน ถึงกับไปยืนเป็นไทยมุง ต่อคิวซื้อด้วย ทั่วตลาดมีรถเข็นเจ้าของลุงอยู่เจ้าเดียว ไร้คู่แข่งทางการค้า อย่างนี้จะไม่ให้ขายดียังไงไหวเนอะ

ไอติมกะทิทรายถ้วยนี้ได้ใจฉันไปสุด หากไม่ติดว่าพุงจะแตกกลางตลาด ฉันคงจะซื้อมากินอีกถ้วย รสชาติละลายในปาก หอมหวาน ไม่มันข้นจัดเหมือนไอติมกะทิทั่วไป คุณแด๊ดบอกว่าขนาดน้องโม่งมาจากสวีเดน พามากินยังติดใจ ชมเปาะ บอกว่าอร่อย ๆ แถมซื้อเบิ้ล 2 ถ้วยด้วย

Photobucket - Video and Image Hosting

ฉันกับคุณแด๊ดซื้อไอติมกันคนละถ้วย แล้วมานั่งกินที่โต๊ะม้าหินริมแม่น้ำ แม่ไม่ได้กินไอติมหรอก แต่ไปซื้อน้ำเป็ปซี่ใส่ถุงดูด เจ้าเหมียวตัวนี้มันป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ โต๊ะม้าหิน กำลังนอนผึ่งแดดอย่างมีความสุข แล้วฉันกับคุณแด๊ดก็ไปแย่งที่มันเสีย มันทำจมูกฟุตฟิ้ตได้กลิ่นอาหาร แม่เลยจิ้มเต้าหู้ทอดให้มันกิน...เหอ เหอ เหอ เจ้าเหมียวมันบอกว่ามันไม่ใช่มังสวิรัติ มันจะกินหอยหวาน แม่ก็เลยเปิดถุงหอยหวานแบ่งให้มันกิน (ถุงแม่ ไม่ใช่ถุงฉันหรอก) ขนาดน้ำตาลเคลือบจนแข็งโป๊กมันก็ยังเอียงคอ ขยับปากให้พอเหมาะพอเจาะได้มุม แล้วเคี้ยวขบอย่างเมามัน แถมยังมีการมาร้องขอชิ้นต่อไปด้วย แม่ก็หยิบให้มันกินอีก 3-4 ชิ้น จนฉันต้องบอกให้หยุด ไม่งั้นจะไม่เหลือให้คนกินแล้ว

จากนั้นก็ไปซื้อไข่เค็ม สงสัยว่าจะเป็นร้านอร่อย เพราะลูกค้ามารอสั่งกันตรึม จนขายไม่ทัน เจ้าของต้องควบมอเตอร์ไซด์กลับไปเอาจากที่บ้านมาเพิ่ม ลองจับดูไข่ยังอุ่น ๆ อยู่เลย แสดงว่าเพิ่งต้มเสร็จใหม่ ๆ และสุดแสนเสียดายที่สุดท้ายฉันก็จำใจต้องให้แม่และคุณแด๊ดช่วยกินทั้ง 8 ใบ(บวกกับ 4 ใบที่ฉันแบ่งให้ตอนแรก ครบโหลนึงพอดี) เพราะไม่สามารถขนมาญปได้สักใบ เนื่องจากน้ำหนักกระเป๋าเกิน

Photobucket - Video and Image Hosting

วันที่ 28 ฉันจงใจที่จะไม่ออกไปเที่ยวไหน เพราะตั้งใจอยากจะนอนพักที่บ้าน 1 วัน เนื่องจากคืนนี้ตาอ้วนจะบินมาจากญป ไฟลต์เดียวกับฉัน เวลาเดียวกัน ถึงเมืองไทยเวลา 5 ทุ่มครึ่ง

สักประมาณบ่าย 2 โมงเมืองไทย เสียงโทรศัพท์ร้องดังขึ้น

"This is me. I'm sorry. I missed the plane" ตาอ้วนส่งเสียงมาตามสาย

"อะไรนะ" ฉันกรีดร้องถามอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

"When I arrived, check in counter just closed"

ฉันหน้ามือตามัวหูอื้อไปหมด เพราะก่อนหน้านั้นแม่กับคุณแด๊ดบอกให้ฉันเตือนตาอ้วนว่าอย่าพลาดเครื่องบิน (เนื่องจากเหตุการณ์นี้เคยเกิดมาครั้งหนึ่งแล้ว) แล้วฉันก็เตือนไปแล้ว เสียใจตรงที่ฉันควรจะโทรไปกระตุ้นให้ตาอ้วนรีบออกจากบ้าน แต่ก็ไม่คิดว่าจะไร้ความรับผิดชอบเสียขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ไฟลท์ออกจากนาริตะบ่าย 3 โมง(เวลาญป) คุณชายมีเวลาเตรียมตัวจัดกระเป๋าตั้งครึ่งค่อนวัน

ฉันโกรธ โกรธ โกรธจนหูอื้อ กระแทกหูโทรศัพท์ลงโครม ทั้ง ๆ ที่บอกไปแล้วว่าเช้าวันที่ 29 น้องชายจะขับรถพาพวกเราไปเชียงรายแต่เช้า คุณแด๊ดจองโรงแรมทางนั้น จองรถตู้ทางนั้นหมดทุกอย่างแล้ว ทำไมตาอ้วนถึงมาทำให้เสียแผนไปหมด ตาอ้วนพยายามเพียรโทรมาครั้งแล้วครั้งเล่า เจอฉันด่า และวางหูโทรศัพท์โครม ๆ กลับไปทุกครั้ง ในใจตอนนั้นนึกแช่งชักหักกระดูก...คิดเลยเถิดไปขนาดที่ว่าดีล่ะ จะขอหย่าเสียเลย พอกันทีกับพฤติกรรมที่ไม่มีการวางแผนอะไรล่วงหน้า ชอบทำอะไรเวลาจวนตัว

เป็นใคร ๆ ก็ต้องโกรธคุณแด๊ดกับแม่น่ะเหรอ...ทำใจกันไว้แล้ว เพราะรู้ว่านิสัยลูกเขยตัวเองเป็นแบบนี้ เป็นนิสัยที่เสียที่เจ้าตัวไม่รู้จักแก้ ไม่รู้จักเข็ด

ดีหล่ะ...ก็ปล่อยทิ้งไว้ที่ญปละกัน ในเมื่อรู้จักสร้างปัญหา ก็ต้องให้รู้จักแก้ปัญหาเองบ้าง


Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2550 22:08:50 น. 0 comments
Counter : 929 Pageviews.

fudge-a-mania
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add fudge-a-mania's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.