Japan and ATM

เมื่อวันอังคารฉันไปเรียนสาย ครูแอบค้อน แต่ไม่พูดอะไร ต้องรีบผงกหัวด๊ก ๆ ขอโทษขอโพยครูเป็นการใหญ่ (แต่พี่คนไทยสายกว่าฉันอีกว่ะ) หันมองซ้ายมองขวา...เฮ่อ...ค่อยยังชั่ว ตาอ้วนไม่ซุ่มมอง ก็ตาอ้วนนั่นแหล่ะ ชอบใช้วาจาเชือดเฉือน เวลาฉันเปรียบเทียบอะไรกับคนที่ทำแย่กว่าฉัน พี่แกต้องว่า

คนอื่นทำไม่ดี มันไม่ใช่เหตุผลที่เราจะต้องไปทำไม่ดีตามเค้านี่ ตาอ้วนเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ประจำบ้าน ปล่อยแกไป

ที่ว่าสายนั้นไม่ใช่ว่าฉันนอนตะวันส่องตูดโด่ง หรือมัวแต่แต่งตัวทำสวยหรอก (แต่งยังไงมันก็ไม่สวยไปกว่านี้แล่ว) ฉันมัวแต่แวะไปธนาคารต่างหาก ก่อนออกจากบ้านก็คำนวณดูเวลาให้เร็วกว่าปกติ 15 นาที ด้วยความมั่นใจว่าต้องทำธุระเสร็จภายในเวลาที่กำหนดแน่ ๆ (ไปปล้นธนาคารเค้าไม่อยู่กันนาน ใช่ม้า เดี๋ยวตำรวจจับ )

พักหลัง ๆ ฉันไม่ไปธนาคารทุกเดือนเหมือนช่วงปีแรก ๆ จะหยอดกระปุกตุนไว้ พอได้สักร้อยนึงก็เอาไปใส่ธนาคารที ไม่เปลืองเวลา ช้อบชอบ....เพราะสมัยก่อน สิ้นเดือนทีก็จะรีบเอาเงินไปฝากที ปรากฏว่าคิวยาวเหยียด เสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ โดยใช่เหตุ

คราวนี้มีเหตุให้ต้องไป เนื่องจากออมสินพี่หมูกำลังจะแตกวัยสาวดังเปรี๊ยะ ๆ หากไม่แงะเอาพยาธิในท้องพี่หมูไปชำแหละ เห็นทีจะอุ้มพี่หมูไม่ไหวแล้ว

ฉันชอบเก็บเหรียญ (จริง ๆ ขึ้นชื่อว่าเงินแล้ว ชอบเก็บหมดเลย...แต่ไม่ชอบใช้) เวลาฉันได้เงินเดือนมา แบงค์ใหญ่จะเอาคลิปตัวเล็กหนีบแยกเป็นกอง ๆ ละ 10 ใบ เอาคลิปหนีบที ส่วนแบงค์ย่อย ๆ แบบแบงค์พัน หรือเป็นเศษเหรียญ ฉันหยอดกระปุกหมดเลย แต่หากเป็นเงินค่าขนมที่ใช้ทุกวันแล้วเหลือเป็นเหรียญ ก็จะไม่หยอดกระปุก เก็บเหรียญไว้ใช้วันต่อไป ฉะนั้นกระปุกน้องหมูนี้ เป็นเหรียญที่ได้จากเงินเดือนล้วน ๆ

เหรียญมีทุกค่า ตั้งแต่ 1-5-10-50-100-500 เมื่อเก็บไว้ได้สักระยะหนึ่ง (ประมาณทุก 2 ปี) ฉันก็จะกอบเอาเหรียญไปฝากธนาคาร ไม่ได้ไปที่เคาน์เตอร์หรอก ไปแค่ATM เอาเหรียญใส่ถุงก๊อปแก๊ป เดินถือไปแบบนี้เลย ยังกะลุงเชยเข้ากรุง...แต่ว่าเหรียญมันหนักอึ้ง ไม่เอาใส่กระเป๋าหรอก เดี๋ยวเสียรูป ใส่ถุงก๊อปแก๊ปแบบนี้แหล่ะ ฝากเสร็จก็ทิ้งถุงไปเลย...

ATM ญี่ปุ่น ฉันว่ามัน cool มั่ก ๆ นอกจากฝาก-ถอน-โอนเงินได้เหมือนATMทั่วโลกแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้มีระบบใหม่ที่เรียกว่าBIOMETRIC ATM เอาไว้จะบอกในภายหลัง มาคุยเรื่องการฝากเหรียญก่อน

เหมือนกับทุกครั้ง ฉันจะกดเลือกเมนูภาษาอังกฤษ ก็จะมีเสียงผู้หญิงแบบไม่ดัดจริตบอกว่า

welcome to our bank. thank you for coming (หรืออะไรทำนองนี้) --> แล้วก็เลือกเมนูฝากเงิน --> มันจะขึ้นไฟกระพริบที่ช่องใส่สมุดเงินฝาก กับ ช่องใส่บัตรATM ฉันก็ใส่สมุดเงินฝากเข้าไป สักพักช่องที่เปิดรับเหรียญ + แบงค์ก็เปิดออก ฉันก็ค่อย ๆ เอามือกำเหรียญทีละมือ ใส่เหรียญเข้าไป ช่องก็จะรีบปิด แล้วก็มีเสียงนับเหรียญ (ซั่ด ซั่ด ซั่ด ซั่ด) ---> ให้เรากดคอนเฟิร์มตัวเลข --> เครื่องบันทึกยอดเงิน --> สมุดเงินฝากคืนออกมา

ครั้งที่แล้วฉันจำได้ว่า ฉันเอาเหรียญล้วน ๆ ไปฝาก 22,630 เยน ฉันเทเหรียญใส่ลงไปในช่องรับเหรียญ 3 รอบเท่านั้น แต่เที่ยวนี้เครื่องไม่ยอมให้ฉันใส่เหรียญทีละมาก ๆ อีกแล้ว

เที่ยวนี้ฝากแค่ 17,574 เยน ฉันต้องแบ่งเหรียญออกใส่ถึง 6 รอบ! (ถึงไปโรงเรียนสายไง) พนักงานธนาคารที่ยืนคอยให้คำแนะนำ ปราดเข้ามาหาฉัน รีบอธิบายว่า ให้ใส่ทีละนิด หากมูลค่าเหรียญเกิน 1 หมื่นเยน เครื่องจะไม่ทำงาน ว่าแล้วลุงก็ถือวิสาสะเอามือสอดเข้ามาในถุงก๊อปแก๊ป กำเอาเหรียญไปใส่ช่องให้ฉัน (ฮ่วย...ลุง เอามือออกไป)

ทางด้านขวามือของเครื่อง มีอุปกรณ์ตัวใหม่ที่ฉันเพิ่งเคยเห็น (สงสัยไม่ได้มาธนาคารเสียนาน) เอ...มันคืออะไร สงสัยจัง กลับมาบ้าน ก็มาค้น ๆ คุ้ย ๆ ดูข้อมูล แล้วก็ถึงบางอ้อ มันคือ ระบบใหม่ที่ทางธนาคาร 東京三菱銀行ติดตั้งเพื่อป้องกันการโจรกรรมถอนเงินจากบัตรATM

ข้อมูล+รูปภาพที่ได้ต่อไปนี้ ฉันคัดลอกมาจากที่นี่ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

เดี๋ยวนี้มีผู้ร้ายแอบทำการก๊อปปี้ บัตรATM แล้วค่อย ๆ ถอนเงินออกทีละนิด ๆ โดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเหยื่อที่ไม่ค่อยเอาสมุดเงินฝากไปอัพเดท บัตรATMก็ไม่ได้หายไปไหน และเจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าข้อมูลในบัตรถูกก๊อปปี้ไปแล้ว ทางธนาคารTokyo Mitsubishi จึงติดตั้งตู้ATMแบบใหม่ ใช้บัตรIC Card ตรวจสอบผู้ใช้บัตร โดยการใช้แสงใต้แดง (infrared)อ่านเส้นเลือดดำบนฝ่ามือ ถ้าเป็นตัวจริงแน่แล้ว จึงจะถามรหัสผ่าน 4 หลักอีกครั้งหนึ่ง เรียกเทคโนโลยีแบบนี้ว่า Biometric ATM

ส่วนวิธีการสมัครใช้ ฉันก็ไม่รู้ขั้นตอนเหมือนกัน คงต้องไปติดต่อกับทางเคาน์เตอร์ธนาคาร ใครที่เคยใช้เทคโนโลยีแบบนี้แล้วช่วยมาบอกต่อให้ทราบด้วยนะคะ

ถึงไม่ใช่ญี่ปุ่นที่เดียวที่ใช้biometric ATM แต่ฉันก็คิดว่า cool!

mahalo

Create Date : 24 พฤษภาคม 2550		0 comments
Last Update : 26 พฤษภาคม 2550 7:00:13 น.
Counter : 1309 Pageviews.
Share Tweet