|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
ซื้อบ้านจัดสรรมีข้อควรรู้อะไรบ้างวันนี้เรามีคำตอบ
ทุกวันนี้บ้านจัดสรรผุดขึ้นมาทุกพื้นที่ ไม่ว่าในซอก ในซอย ในหลืบ ต่างก็มีบ้านจัดสรรอยู่ทั้งนั้น ดังนั้นเราซึ่งเป็นผู้บริโภคจึงมีทางเลือกในการซื้อบ้านจัดสรรมากยิ่งขึ้น แต่การจะซื้อบ้านซักหลังต้องตริตรองให้ดี คิดหน้าคิดหลัง คำนึงเรื่องอื่นๆ อีกจิปาถะ เพราะเราต้องใช้เงินจำนวนมากในการหาซื้อบ้าน เราคงไม่อยากคิดพลาดซื้อบ้านอย่างไม่รอบคอบหรอก จริงไหม แล้วก่อนที่เราจะซื้อบ้านเราควรมีความรู้เรื่องอะไรบ้างล่ะ
ผู้ซื้อบ้านจัดสรรมักเข้าใจ (เอาเอง) ว่า โครงการหมู่บ้านจัดสรรจะดูแลเรื่องสาธารณูปโภคส่วนกลางให้ผู้ซื้อตลอดไป เพราะเรื่องเหล่านี้มีปรากฏอยู่ในสัญญาซื้อขายและใบโฆษณาประชาสัมพันธ์ของโครงการอย่างชัดเจน แต่ในความเป็นจริงแล้วจะไม่เป็นเช่นนั้นตลอดไป เพราะทางโครงการจะรับผิดชอบเรื่องบริการสาธารณูปโภคต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ทางโครงการยังขายบ้านได้เพียงส่วนน้อย หรือตราบเท่าที่ยังมีกำไรจากการจัดให้บริการสาธารณูปโภคเหล่านั้นอยู่ แต่เมื่อใดที่ทางโครงการขายบ้านได้แล้วเป็นส่วนใหญ่ (มากกว่าครึ่ง) หรือไม่มีกำไรจากการจัดบริการสาธารณูปโภคเหล่านั้น ทางโครงการก็สามารถเรียกเก็บค่าสาธารณูปโภค (ค่าส่วนกลาง) ให้สูงขึ้นจากข้อตกลงในสัญญาซื้อขายได้ โดยที่ผู้อยู่อาศัยไม่อาจปฏิเสธได้เลย และถ้าทางโครงการไม่ได้รับความร่วมมือ (ไม่สามารถเรียกเก็บค่าส่วนกลางเพิ่มขึ้น) จากผู้อยู่อาศัย ทางโครงการก็สามารถยกเลิกบริการต่างๆ เหล่านั้นได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เพราะผู้จัดสรรที่ดิน (เจ้าของโครงการ) สามารถพ้นภาระความรับผิดชอบต่อเรื่องเหล่านี้ได้ เมื่อผู้จัดสรรฯ ยกกรรมสิทธิ์ในสาธารณูปโภคส่วนกลางของโครงการให้เป็นสาธารณสมบัติ (ให้ตกอยู่ในความดูแลขององค์การปกครองท้องถิ่น ซึ่งอาจเป็นเทศบาล หรือ อบต.แล้วแต่กรณี) ในกรณีที่กลุ่มผู้อยู่อาศัยไม่สามารถจัดตั้งนิติบุคคลฯ ขึ้นมารับช่วงต่อได้ภายใน 180 วัน นับจากวันที่ผู้จัดสรรฯประกาศยกเลิกการดำเนินการดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้ ผู้ซื้อบ้านจัดสรรจึงไม่อาจคาดหวังได้ว่า จะมียามรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน หรือมีบริการเก็บขยะตลอดไป และบริการสาธารณูปโภคส่วนกลางต่างๆ อันได้แก่ ถนน ทางเท้า ไฟฟ้า ประปา สระน้ำ สวนหย่อม และสนามเด็กเล่นจะได้รับการดูแลให้คงอยู่ในสภาพดีและดูสะอาดน่าอยู่เหมือนตอนที่ผู้ซื้อบ้านเข้าอยู่ใหม่ๆ เว้นเสียแต่ว่า ท่านจะต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายในราคาแพงตามแต่ทางโครงการจะเรียกเก็บเพิ่มขึ้นในอนาคตโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ดังนั้น ผู้ซื้อบ้านจัดสรรทุกรายจะต้องเข้าใจในเรื่องเหล่านี้และต้องพร้อมเผชิญกับปัญหาที่จะตามมาดังกล่าว
ถึงตรงนี้ ท่านที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านจัดสรร จึงควรศึกษาเรื่องนี้ไว้ประกอบการพิจารณาอีกเรื่องหนึ่งด้วย ส่วนท่านที่ซื้อบ้านจัดสรรอยู่มานานแล้วก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจเผชิญกับปัญหานี้ไว้บ้าง เพราะวันหนึ่งขยะหน้าบ้านท่านอาจล้นถังออกมาเพราะไม่มีใครมาเก็บให้ ยามรักษาการที่คุ้นเคยอาจหายหน้าไป สวนหย่อมและสนามเด็กเล่นอาจกลายเป็นตลาดนัดสินค้าราคาถูก ตรอกซอกซอยที่เคยมีไฟฟ้าส่องสว่างก็อาจมืดมิด ถนนภายในหมู่บ้านที่เคยเงียบสงบอาจกลายเป็นทางลัด สำหรับคนหมู่บ้านอื่น ซ้ำร้ายอาจกลายเป็นที่ประลองความเร็วของพวกเด็กแว้นก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านจัดสรรจึงไม่อาจชะล่าใจได้ แต่ควรหาทางป้องกันปัญหาไว้แต่เนิ่นๆ เมื่อเกิดปัญหาจะได้ไม่ยากลำบากในการแก้ไข หมู่บ้านหรูๆของท่านจะได้ไม่กลายเป็นชุมชนแออัดไปโดยปริยายอย่างที่ท่านไม่เคยคาดคิดมาก่อน
สำหรับทางออกของปัญหาตามแนวทางที่กฎหมายนี้กำหนดไว้ให้คือ การจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรขึ้นมารับช่วงดำเนินการเกี่ยวกับสาธารณูปโภคต่อจากผู้จัดสรรที่ดิน (โครงการ) ซึ่งกฎหมาย ได้ให้อำนาจและสิทธิพิเศษแก่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรไว้มากมายหลายประการ อาทิเช่น มีอำนาจในการออกข้อบังคับของหมู่บ้านเป็นการเฉพาะ มีอำนาจเรียกเก็บค่าบริการสาธารณูปโภคส่วนกลางจากผู้อยู่อาศัยทุกราย มีอำนาจในการทำนิติกรรมต่างๆ สามารถเป็นตัวแทนฟ้องร้องในคดีความที่เกี่ยวข้องกับหมู่บ้านและผู้อยู่อาศัยได้ และได้รับการยกเว้นภาษีรายได้ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การดำเนินการใดๆต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือร่วมใจของสมาชิกในหมู่บ้านเป็นสำคัญ (นับเป็นประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานอย่างแท้จริง) เพราะการจัดตั้งนิติบุคคลฯต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ (มติของที่ประชุมใหญ่) และการดำเนินงานของนิติบุคคลฯ ต้องทำในนามคณะกรรมการนิติบุคคลฯที่เลือกตั้งมาจากสมาชิกส่วนใหญ่นั่นเอง
ที่มา ทำเลดี
Create Date : 29 มิถุนายน 2555 |
Last Update : 29 มิถุนายน 2555 20:08:48 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1759 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|