ยศศักดิ์ในบริษัท

ก่อนอื่นขออภัยที่หายไปนาน เพราะช่วงที่ผ่านมาเจอมรสุมงานนิดหน่อย แต่พอทำเสร็จแล้วก็สบาย อีกเรื่องที่ไปเจอมาคือ การลง window7 พอลงเสร็จปรากฎว่าการ์ดจอ ไม่รองรับ นี่ขนาดใช้การ์ดจอแยกนะเนี้ย เลยต้องกลับมาลง XP เพื่อนรัก


เข้าเรื่องดีกว่า ความจริงเรื่องที่จะเขียนวันนี้ค่อนข้างจะลึกซึ้ง และเป็นปัญหาที่หลายบริษัทเจอ อันนี้ไปหาข้อมูลเจาะลึกมาด้วย ทั้งหนังสือ ทั้งสอบถามจากผู้บริหารระดับสูงที่มีประสบการยาวนาน อีกทั้งผู้บริหารที่เป็นเจ้าของกิจการอีกมากมาย เรื่องที่เราจะพูดถึงวันนี้คือ "การแทรกแซงการทำงาน" ซึ่งมันจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง "ตำแหน่งหน้าที่ในบริษัท" แต่เพื่อไม่ให้เครียดเลยกะว่าเขียน แค่สั้นพอ รวมร่างกันเป็น "ยศศักดิ์ในบริษัท" โดยจะเปรียบเทียบบริษัทเป็นกองทัพ และบอกแค่ว่าจริงๆแล้ว แต่ละตำแหน่งควรทำอะไร สมมติว่าเราบินได้นะ แล้วมองลงไปที่กองทัพด้านล่าง จะเห็นคน 4 กลุ่ม กำลังกลุ้มใจ 555


กลุ่มแรก จอมทัพ แน่นอนครับส่วนใหญ่จะเป็นฮ่องเต้ด้วย ซึ่งนั้นก็หมายถึง กลุ่มคนที่มีความเป็นเจ้าของในบริษัท เช่น เจ้าของ ผู้ถือหุ้น ประธานบริษัท รองประธาน (สองตำแหน่งหลังส่วนใหญ่จะต้องพอมีหุ้นบ้าง จนถึงมากที่สุด) กลุ่มนี้สนใจแค่ภาพรวมก็พอ สนใจกำไร รายได้ ค่าใช้จ่ายที่เป็นก้อนรวมก็พอ อีกอย่างคือการวางทิศทางบริษัท ถ้ากลุ่มนี้ก้าวล่วงลงมาเกินกว่านี้จะเกิดปัญหาเด็กเส้น สายใคร เด็กใคร ลูกรัก ซึ่งแน่นอนครับ คนกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีเวลาสนใจรายละเอียดมากนัก นานเข้าก็เหมือนดาบสองคม กลุ่มเด็กเส้น ลูกรักพวกนี้ ก็จะเริ่มใช้อำนาจหน้าที่ในทางไม่ถูกไม่ควร ดูอย่างพวกขุนนางคนสนิทในหนังเกาหลี คนไหนเจ้าเรียกใช้บ่อย ก็มักจะโกง
อีกทั้งการก้าวล่วงลงมาจะทำให้โครงสร้างการบริหารเสียกระบวน องค์ชายรัชทายาทจะบริหารราชกิจไม่ได้ซะที เอิ้ก เอิ้ก เอิ้ก

กลุ่มที่สอง แม่ทัพ อำนาจรองมาจากจอมทัพ ได้ตำแหน่งมาเพราะได้รับการแต่งตั้ง ส่วนมากจะได้รับความไว้วางใจช่วงแรก พอออกศึกหนักเข้า ห่างนายหน่อย ก็เริ่มไม่ค่อยได้รับความไว้วางใจ โดนกังฉินเป่าหูฮ่องเต้ สุดท้ายทำงานจนโดนประหาร (เชิญออก) แม่ทัพก็เปรียบดัง กรรมการผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการ มีหน้าที่คุมทหารออกศึก หรือ เรียกว่า หัวหน้าพนักงานบริษัททั้งหมด เค้าจะมีหน้าที่วางแผนกลศึกต่างๆ เพื่อให้ชนะในศึกเท่านั้น ต่างกับจอมทัพนะครับ จอมทัพอาจเป็นผู้เขียนฝันว่าจะครองแดนใต้ทั้งหมด แต่แม่ทัพรับผิดชอบเฉพาะศึกที่ได้รับมอบหมายเช่น ศึกปราบเจ้าเมือง ซึ่งก็เปรียบได้กับการทำให้ผลประกอบการของบริษัทในปีนั้นเป็นตามเป้าหมาย ดูแลทหาร(พนักงาน)ให้อยุ่ในระเบียบ ดูแลอาวุธ(ทรัพย์สิน)ให้ใช้งานได้เสมอ ดังนั้นแม่ทัพสั่งการใด ทหารทุกคนต้องทำตามอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นกองทัพจะเดินได้อย่างไรกัน การทำงานของแม่ทัพ ถ้าเป็นเรื่องงานให้สั่งผ่านนายกอง ห้ามไดเร็กตรงไปที่นายทหาร แต่ถ้าเป็นเรื่องสาระทุกข์สุกดิบ ความเป็นอยู่ ให้เข้าตรงได้ทุกคน ทำบ่อยๆก็ดี เพราะใครๆ ก็อยากรู้สึกนายมีความใส่ใจตน ปัญหาที่แม่ทัพจะเจอบ่อย ก็คือ นายกองไม่ทำตาม หรือนายกองวรยุทธต่ำ ปัญญาด้อย อาจเพราะเป็นเด็กเส้น แต่อย่างไรก็ดี การตัดไฟแต่ต้นลมยังเป็นแนวคิดที่ดี อย่าปล่อยให้ไฟไหม้ทังป่าแล้วจึงหาทางดับไฟ (วิธีตัดไฟมีหลายแบบ ไม่ใช่ไล่ออกอย่างเดียวนะ) ความมีคุณธรรม และเมตตาเห็นได้ในระยะยาวถ้าคุณเป็นทองแท้ แต่ความเป็นผู้นำ มีโอกาสครั้งเดียว

กลุ่มที่สาม คือนายกอง เปรียบดังผู้จัดการฝ่าย ไม่รวมรองผู้จัดการ เพราะ รองไม่มีอำนาจแท้จริง เป็นแค่ตำแหน่งสวยหรู และมีหลายที่เอาไว้หุบปากพวกแข็งข้อกับตน อำนาจอยู่ที่ผู้จัดการ (เรื่องจริงนะ อิ อิ) สำหรับนายกองแล้ว หน้าที่คุณคือ ทำตามคำสั่งของแม่ทัพ แต่ดีหน่อยที่คุณมีสิทธิตัดสินใจ และจัดการสิ่งต่างๆได้ เมื่อคุณอยู่ในสนามรบ รวมทั้งอาจใช้ประสบการณ์ที่มีในการเสนอแนะกับแม่ทัพได้ ผลงานดีมีโอกาสได้เป็นแม่ทัพหรือรองในภายภาคหน้า คุณจะมีลูกน้องมากมาย ดังนั้นคุณคือคนที่จะกำหนดงานให้ลูกน้องทุกคน ฝึกฝนเค้า ให้คุณให้โทษเค้า งานคุณจะมีรายละเอียดเยอะกว่าคนสองกลุ่มแรกมาก ถ้าคุณส่งเสริมลูกน้องให้ไปในทางที่ถูก คุณก็จะสบายไปแปดอย่าง เรียกได้ว่าเป็น แม่ทัพจูเนียร์ก็ว่าได้ เป้าหมายของคุณคือ ทำให้สำเร็จตามที่แม่ทัพสั่งแค่นั้น แค่นั้น และแค่นั้นจริงๆ ไม่อย่างนั้นกลศึกที่แม่ทัพวางจะไม่สำเร็จ และทำให้นายกองท่านอื่นๆตายไปด้วย

กลุ่มสุดท้าย สำคัญสุด แต่ไม่ค่อยมีใครเห็นหัว กลุ่มนี้ คือ พลทหาร เปรียบดัง เจ้าหน้าที่ พนักงานของบริษัท ตั้งแต่รองผู้จัดการลงมา หน้าที่คุณคือทำงานตามตำแหน่งคุณ เช่นมีหน้าที่ยิงธนูก็ยิงไป มีหน้าที่ตีกลองก็ตีไป มีหน้าที่ทำอาหารก็ทำไป งานจะไม่เปลี่ยนแปลงนัก ทำซ้ำๆไปทุกวัน คุณจะโดดเด่นเหนือใครได้ ถ้าคุณทำงานแบบเดิมได้เร็ว ถูกต้อง ดีมาก เพราะนั้นจะทำให้นายกองคุณได้หน้า ได้ผลงาน คิดดูนะถ้ากองร้อยคุณ ยิงธนูเก่งเข้าเป้าทุกนัด ยิงได้เร็วกว่าคนอื่นสามเท่า คุณคิดว่านายกองคุณจะได้ปูนบำเหน็จ และก้าวหน้าไหม และคุณจะได้ก้าวหน้าไหม ดังนั้น คุณต้องหมั่นฝึกฝนงานคุณให้ชำนาญ หมั่นพัฒนาตนเอง เมื่อนายกองพอใจแล้วเค้าจะให้โอกาสคุณในการทำงานที่ยากขึ้น (ถ้าเจอนายกองดีนะ) ให้โอกาสในการเสนอสิ่งต่างๆ จำไว้อดทนรอเวลานั้น ถ้าคุณก้าวเร็วไป อาจถูกมองเป็นแทงข้างหลัง (นายกองแบบนี้มีเยอะ)

นี่พยายามย่อแล้วนะเนี้ย เอาเป็นว่าผู้มีประสบการณ์เค้าบอกว่าประมาณนี้ ถ้าเป็นเช่นนี้บริษัทจะสงบสุข งานราบรื่น ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เพราะทุกคนทำตามหน้าที่ ไม่แทรกแซงกัน และแข่งกับตนเอง ไม่ใช่แข่งกับเพื่อนร่วมงาน ถ้าจอมทัพไม่ล่วงลูกมาที่นายกอง หรือพลทหาร ถ้าแม่ทัพไม่ข้ามหัวนายกอง ถ้านายกองมีคุณธรรม และความสามารถ ถ้าพลทหารไม่ข้ามหัวนายกอง ถ้าในกองทัพต่างฝ่ายไม่เป็นศัตรูกัน ถ้ามีบริษัทแบบนี้จริง ก็ขอให้ได้ไปอยู่ด้วยเถิด สาธุ

อะอะยังไม่จบซักหน่อย ความจริงมีเรื่องการขยายธุรกิจด้วยข่าวลือด้วยนะ อันนี้ฟังมาจากประสบการณ์จริงของอดีตเจ้าของอุตสาหกรรมห้องเย็น และอาหารแช่แข็งเลยนะ แต่มันค่อนข้างซับซ้อนมาก ใช้ทั้งการสร้างข่าวลือในกลุ่มร้านค้า เพื่อสร้างแรงจูงใจไปสู่ชาวประมง การสร้างธุรกิจเกี่ยวเนื่องให้คนอื่น เพื่อเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจหลัก แล้วยังมีการเป็นศูนย์กลางให้กับผู้ผลิต ผู้จำหน่ายขายส่ง และผู้จำหน่ายรายย่อยอีก ไว้ถ้าเรียงลำดับได้เมื่อไหร่จะนำมาให้ทุกท่านได้อ่านนะ

Create Date : 11 กันยายน 2552		2 comments
Last Update : 11 กันยายน 2552 11:12:06 น.
Counter : 925 Pageviews.
Share Tweet