"face" และ "book" คำต้องห้ามชื่อเว็บไซต์...ออกเสียงใกล้เคียงก็ไม่ได้ด้วย
"face" และ "book" คำต้องห้ามชื่อเว็บไซต์
หน้าเพจอดีตเว็บไซต์ Lamebook
หน้าเพจ Teachbook
หน้าเพจ Placebook
ใครที่คิดจะสร้างเว็บไซต์เครื่อข่ายสังคมแล้วอยากตั้งชื่อเว็บไซต์ของตัวเองด้วยคำว่า "face" หรือ "book" ประกอบอยู่ด้วยให้คิดใหม่เสีย เพราะหากคุณมีเรื่องฟ้องร้องกับเฟซบุ๊ก ก็จะมีโอกาสสูงมากที่ชัยชนะจะเป็นของยักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคม นาทีนี้เฟซบุ๊ก (Facebook) ได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานราชการสหรัฐฯในการเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า "face" แล้ว ถือเป็นความสำเร็จหลังจากที่เฟซบุ๊กแสดงท่าทีเพียรพยายามสานต่อเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2005 หลายคนไม่สงสัยเลยว่าทำไมเฟซบุ๊กต้องจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า "face" เพราะเมื่อพิจารณาประวัติศาสตร์การฟ้องร้องที่เฟซบุ๊กเคยดำเนินไว้ จะพบว่าเฟซบุ๊กส่งฟ้องเว็บไซต์เครือข่ายสังคมหลายแห่งที่พยายามเลียนแบบเฟซบุ๊กโดยใช้คำว่า book มาก่อน เช่น เว็บไซต์ Teachbook เครือข่ายสังคมครูที่เฟซบุ๊กมองว่าลอกเลียนแบบชื่อกันเห็นๆ หรือ Lamebook เครือข่ายสังคมเรื่องตลกที่เฟซบุ๊กไม่ตลกด้วย ตรรกะการฟ้องคือ เฟซบุ๊กนั้นมองว่าเว็บไซต์เกิดใหม่หลายรายกำลังพยายามตักตวงประโยชน์จากเฟซบุ๊กด้วยการเลียนแบบชื่อ บนความหวังให้ผู้บริโภคจดจำชื่อที่ลอกเลียนมาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการฟ้องร้องก็ได้ผล โดยขณะนี้เว็บไซต์เกิดใหม่ส่วนใหญ่ที่มีคำว่า book อยู่ต่างทยอยเปลี่ยนชื่อแต่โดยดี เมื่อคำว่า book มีปัญหา คำว่า face จึงไม่น่าไว้วางใจเป็นธรรมดา เพราะฝรั่งมังค่าก็นิยมการลอกเลียนแบบเหมือนกัน โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รายงานระบุว่าเว็บไซต์นาม Placebook (เมื่ออ่านออกเสียงว่า "เพลสบุ๊ก" จะพบว่ามีความใกล้เคียงกับเฟซบุ๊กมาก) นั้นได้รับจดหมายเตือนจากเฟซบุ๊ก ก่อนจะยอมชื่อเป็น TripTrace ในที่สุด เฟซบุ๊กจึงยื่นเรื่องขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า "face" โดยระบุว่าเฟซบุ๊กมีความจำเป็นต้องใช้คำว่า face เป็นเครื่องหมายการค้าในการทำธุรกิจผู้ให้บริการโทรคมนาคม ผ่านการให้บริการห้องแชตออนไลน์ และกระดานสนทนาอิเล็กรอนิกส์ การได้สิทธิ์เครื่องหมายการค้าคำว่า face ครั้งนี้จึงทำให้เฟซบุ๊กถูกมองว่าได้ยกระดับอาวุธทางกฏหมายในการต่อกรกับเว็บไซต์อื่นที่ริอ่านตั้งชื่อซึ่งประกอบด้วยคำว่า "face" หรือ "book" หากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นในอนาคต เรื่องนี้เฟซบุ๊กเคยมีบทเรียนในปี 2008 เพราะในปีนั้นเฟซบุ๊กต้องซื้อเครื่องหมายการชื่อ Faceparty.com เว็บไซต์เครือข่ายสังคมสัญชาติอังกฤษที่ให้บริการในปี 2000 หนึ่งในหลายสิ่งที่สามารถสรุปได้หลังจากอ่านข่าวนี้แล้ว คือชาวออนไลน์ทุกคนควรท่องไว้ว่าการตั้งชื่อเว็บไซต์ที่ปลอดภัยที่สุดคือการเลี่ยงคำที่มีเสียง "เอซ" และ "อุ๊ก" ยกตัวอย่างเช่น หากคนชื่อเกรซและคนชื่อปุ๊กจะสร้างเว็บไซต์ร่วมกัน ก็อย่าเสี่ยงตั้งชื่อเว็บว่า "เกรสปุ๊กดอทคอม" เลยจะดีกว่า ..ไม่งั้นถูกฟ้องไม่รู้ด้วยนะ..
ที่มา //www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9530000167457
Create Date : 03 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 3 ธันวาคม 2553 10:09:27 น. |
|
0 comments
|
Counter : 994 Pageviews. |
|
|
|
|
|