ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
>"ความลับ" ของ "ในหลวง" ที่ชาวไทยภูมิใจ<

"ความลับ" ของ "ในหลวง" ที่ชาวไทยภูมิใจ

เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" ซาบซึ้งดีว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชกรณียกิจสำคัญนานัปการอันเป็นคุณอย่างใหญ่หลวงแก่ปวงชนชาวไทย ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม และร่วมเทิดพระเกียรติคุณ "แนวหน้า" ขอนำเรื่องราวเกี่ยวกับ "ในหลวง" ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ได้รวบรวมจากฟอร์เวิร์ดเมลมานำเสนอ ดังนี้

ความลับในหลวงที่ชาวไทยควรรู้

งานเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสงานฉลองสิ ริราชสมบัติครบ 60 ปี เรื่องพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีการเสวนาเฉลิมพระเกียรติหัวข้อ "เรื่องที่คนไทยอยากรู้" จาก "ท่านผู้หญิง ม.ร.ว.บุตรี วีระไวทยะ" รองราชเลขาธิการ และ "นางปิยะนุช นาคคง" ผอ.พิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว เป็นผู้ดำเนินรายการ ณ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ผู้ดำเนินการเริ่มโหมโรงที่ "พระเกศา" ที่หลายคนสงสัยว่าทรงตัดแล้วจะนำไปไว้ที่ใด???.....

ปรากฏว่าเก็บไว้ที่ "ธงเฉลิมพล" เพื่อพระราชทานให้ราษฎรที่ทำคุณงามความดีแก่ประเทศชาติ

จากนั้นผู้ดำเนินรายการถามว่าพระเจ้าอยู่หัวโปรด "รายการโทรทัศน์" ช่องไหน???.....

รองราชเลขาธิการ ตอบว่า พระองค์ท่านทรงดูข่าวสัญญาณฝรั่งเศสของยูบีซี ที่ทราบเพราะก่อนหน้านี้ยูบีซีเคยจะถอดรายการออก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดต่อไปว่า "อย่าพึ่งถอด เพราะในหลวงโปรด" นอกจากนี้ พระองค์ท่านยังทรงรับฟังข่าวด้านอื่นๆด้วย แต่โทรทัศน์เป็นเรื่องรอง เพราะทรงให้ความสำคัญกับวิทยุเป็นหลัก จากที่ทราบมาในหลวงเคยทรงโทรศัพท์รายงานสถานการณ์ต่างๆใน กทม. ไปที่ จส.100 โดยใช้พระนามแฝง ผอ.พิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว

ผู้ดำเนินรายการถามต่อว่าพระองค์ท่านโปรด "เสวย" อะไร???

"ท่านผู้หญิงบุตรี" กล่าวว่า พระองค์ท่านทรงเพ้อระหว่างประชวรว่าต้องการเสวย "หูปลาฉลาม" แต่ต้องไม่ใส่ผงชูรสเพราะทรงแพ้ แต่ก็ไม่ถึงกับทรงขาดไม่ได้ สมัยก่อนรัฐบาลห้ามนำเข้า พระองค์ท่านก็ไม่เสวย ปัจจุบันกลุ่มกรีนพีซออกมาต่อต้านว่าปลาฉลามถูกฆ่าจำนวนมาก พระองค์ท่านจึงเลิกแล้วเปลี่ยนไปเสวยปลาแทน

ผู้ดำเนินรายการถามต่อว่านอกจาก "คุณทองแดง" และลูกๆ พระเจ้าอยู่หัวทรงเลี้ยงสัตว์อื่นหรือไม่???.....

"ท่านผู้หญิงบุตรี" กล่าวว่า คิดว่าไม่มี แต่ก่อนพระองต์ท่านทรงโปรด "คุณวานร" ซึ่งมีนิสัยดุ เมื่อสิ้นคุณวานร พระองค์ท่านก็ไม่ทรงเลี้ยงสุนัขกว่า ๑๐ ปี จนมาทรงพบคุณทองแดง

จากนั้นผู้ดำเนินรายการเปิดโอกาสให้ผู้ฟังถาม

คำถามแรก คือ พระเจ้าอยู่หัวทรงตักเตือนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หรือไม่???.....

"ท่านผู้หญิงบุตรี" กล่าวว่า เนื่องจากสมเด็จพระบรมฯ ทรงเป็นพระโอรสพระองค์เดียว จึงทรงซนมาก เวลาที่ทรงทำโทษ ทรงใช้เข็มขัดเฆี่ยนบ้างในบางครั้ง แต่เมื่อสมเด็จพระบรมฯ ทรงอภิเษกสมรสก็ทรงเลิกสั่งสอน พร้อมตรัสว่า "พ่อแม่จะวางมือเพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว"

จากนั้นมีถามว่าในหลวงทรงเครื่องดนตรีได้กี่ประเภท???.....

"ท่านผู้หญิงบุตรี" บอกว่า ถ้าเป็นดนตรีสากลจะทรงได้ทุกประเภท โดยเฉพาะแซกโซโฟน คือเครื่องดนตรีที่โปรดเป็นพิเศษ ส่วนดนตรีไทย ตนไม่เคยเห็น แต่ถ้าสมเด็จพระเทพรัตนฯ แล้วทรงโปรดแน่นอน

ล้นเกล้าชาวไทย..... ในหลวงของเรา

"ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล" เขียนไว้ในหนังสือ "ใต้เบื้องพระยุคลบาท" ยืนยันได้อย่างชัดเจนกับสมญานามเบื้องต้น โดย ดร.สุเมธ กล่าวว่า.....

ในโลกนี้มีสถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่ประมาณ ๑๐ กว่าสถาบัน ผมกล้าเรียนในที่นี้ว่าไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ไหนในโลกนี้ที่จะทรงงานให้กับประชา
ชน เท่ากับพระมหากษัตริย์ไทย คือ อยู่ในสถานะที่เป็น "ผู้ให้บริการรับใช้ประชาชนไทย" ถึงแม้ว่าจะเป็นประมุขของประเทศ แต่เมื่อคิดดูลึกซึ้งจริงๆแล้ว ทรงบริการและรับใช้ประชาชนจริงๆ

ในหนังสือยังได้พูดถึง "พระจริยาวัตร" อันงดงามของพระองค์อีกอย่างหนึ่งที่ผมเห็นว่าเป็นแบบอย่างที่ดีต่อประชาชนชาวไทยทุกห
มู่เหล่า ยิ่งในภาวะบ้านเมืองระส่ำระสาย ข้าวยากหมากแพงเงินทองฝืดเคือง เพราะถูกพิษเศรษฐกิจเล่นงานอย่างนี้ แนวพระราชดำริ "เศรษฐกิจพอเพียง" ยิ่งดูมีคุณค่าอย่างมหาศาล

ในยามที่ประชาชนชาวไทยไร้ที่พึ่ง สิ้นหวังกับสภาพความเป็นอยู่ของบ้านเมือง ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ ภาครัฐรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันประหยัด งดใช้ของนอก อุดหนุนของไทยเพื่อไม่ให้เงินตราไหลออกนอก ซึ่งทำให้ประชาชนตื่นตัวกันพักใหญ่ แต่ก็ทำกันได้ลุ่มๆดอนๆครึ่งๆ กลางๆไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก ไม่นานก็หันกลับมาใช้นิสัยเดิมๆ เช่นเคย

จะมีใครรู้บ้างไหมว่า..... "พ่อหลวง" ของชาวไทยพระองค์นี้ทรงยึดมั่นการประหยัดอดออม มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์แล้ว แม้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ก็ไม่เคยละทิ้ง ซึ่งถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชนทุกชนชั้นไม่ว่าจะยากดีมีจนขนาดไหนก็ตาม

"พระองค์ท่านทรงเป็นผู้นำอย่างแท้จริง ดูแค่ฉลองพระบาทเป็นต้น พวกตามเสด็จฯทั้งหลายใส่รองเท้านอก และยิ่งมาจากต่างประเทศใส่แล้วนุ่มเท้าดี พระองค์กลับทรงรองเท้าที่ผลิตในเมืองไทย คู่ละร้อยกว่าบาท สีดำเหมือนอย่างที่นักเรียนใส่กัน แม้กระทั่งพวกเรายังไม่ซื้อใส่เลย

พระมหากษัตริย์จะทรงซื้ออะไรก็ได้ เราอย่าดูพระองค์เฉยๆ แต่มองให้ละเอียดถี่ถ้วน แล้วเราจะประทับใจในพระ องค์ ฉลองพระองค์ปีแล้วปีเล่า ๖-๗ ปีก็เป็นองค์นั้น ผมจำได้มีอยู่ ๓ องค์ มีสีเทา แล้วก็ลายๆสีน้ำตาล และก็อีกองค์หนึ่งสีน้ำเงิน ครั้งหนึ่งผมมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯในพระราชวังเป็นการส่วนพระองค์ ก็นั่งถวายงาน ทรงฉลองเสื้อเชิ้ตปรากฏว่าคอเสื้อเชิ้ตของพระองค์เปื่อย ซึ่งเป็นเราคงทิ้งแล้ว ทรงใช้นาฬิกาเรือนละไม่กี่ร้อยบาท"

"ท่านผู้หญิง ม.ร.ว.บุตรี" บอกผมมาว่าปีหนึ่งพระองค์ท่านทรงเบิกดินสอ ๑๒ แท่ง เดือนละแท่งใช้จนกระทั่งกุด ใครอย่าไปทิ้งของพระองค์ท่านนะ จะทรงกริ้ว ทรงประหยัดทุกอย่าง ทรงเป็นต้นแบบทุกอย่าง ของทุกอย่างมีค่าสำหรับพระองค์ทั้งหมด ทุกบาททุกสตางค์จะทรงใช้อย่างระมัดระวัง ทรงสั่งให้เราปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบ....

นี่เป็นแบบอย่างเพียงเศษเสี้ยวของพระจริยาวัตรของในหลวง ประชาชนทุกหมู่เหล่าควรดำเนินตามรอยพระยุคลบาทข เพื่อประเทศชาติจะได้อยู่ดีมีสุข เพื่อพระองค์ท่านจะทรงเหนื่อยน้อยลง

ไม่มีพระมหากษัตริย์องค์ใดจะทรงให้และทรงยิ่งใหญ่เทียบเท่าพระมหากษัตริย์ไทยอีกแล้ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.....กับคุณๆ ๔ ขา เรื่องราวของแต่ละ "คุณ" ล้วนแต่ช่วยให้ทราบถึงน้ำพระทัยเมตตาและพระอารมณ์ขัน รวมทั้งพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทยให้เด่นชัดขึ้น

ตอนที่ ๑ เช้าวันใหม่ที่สดใสของ "คุณมะลิ"

แต่เดิมนั้นภายในพระตำหนักสวนจิตรลดาฯ เคยมี "คุณๆ" แค่ ๔ คือ "คุณสุดหล่อ", "คุณหมามุ่ย" สุนัขพันธุ์ดัลเมเชี่ยน กับ "คุณซูซี่" และ "คุณคุ้กกี้" ซึ่งเป็นสุนัขพันธ์ค้อกเกอร์ สแปเชียล วันหนึ่ง "หมาขี้เรื้อน" ขนยาวสีขาวจากข้างถนน ซึ่งเคยเรียกกันว่า "อีมะลิ" ก็มุดหลุดรอดเข้ามาภายในบริเวณกรงของคุณๆในช่วงที่กำลังเป็นสัด พร้อมที่จะผสมพันธุ์ "คุณสุดหล่อ" กับ "คุณหมามุ่ย" ก็เลยขึ้นไปผสม กระทั่งเจ้าหน้าที่ภายในวังมาเห็น "อีมะลิ" เข้า จึงจับไปส่งให้ กทม.

เมื่อความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปรับ "เมีย" ของ "คุณสุดหล่อ" กับ "คุณหมามุ่ย" กลับมาเลี้ยงดู มะลิก็เลยได้รับการเลื่อนฐานะ จากที่เคยเรียกกันว่า "อีมะลิ" หมาจรจัดข้างถนนกลายเป็น "คุณมะลิ" "คุณหมอนพกฤษณ์ จันทิก" นายสัตวแพทย์ประจำ รพ.สัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งร่วมดูแลสุนัขของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เล่าว่าหลัง "คุณมะลิ" คลอดลูกได้ครบ ๑ อาทิตย์ รพ.ก็ส่ง "คุณมะลิ" และลูกๆกลับเข้าวัง ซึ่งก็ได้สร้างความเกษมสำราญให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นอย่างมาก

"พอมีลูกสุนัข ๙ ตัวเข้ามาอยู่ในวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คงจะทรงพระเกษมสำราญขึ้นมาก เสด็จพระราชดำเนินมาทรงถ่ายรูปลูกสุนัขทั้ง ๙ ด้วยพระองค์เองทุกวัน ตอนช่วงที่ลูกหมาคลอด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงละเอียดมาก มีรับสั่งให้จดวันที่และเวลาเป็นนาทีนะครับ รวมทั้งชั่งน้ำหนักแรกคลอด ถวายรายงานให้พระองค์ท่านทราบ หลังจากนั้นก็ยังต้องชั่งน้ำหนักถวายรายงานพระองค์ท่านทุกวัน แม้ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานลูกๆคุณมะลิ ให้กับข้าราชบริพารไปแล้วก็ยังมีรับสั่งด้วยความเป็นห่วงให้ถ่ายรูปลูกหมามาส่ง และให้ชั่งน้ำ หนักมาถวายรายงานให้พระองค์ท่านทราบอย่างน้อยเดือนละครั้ง"

ตอนที่ ๒ "คุณทองแดง" สุนัขประจำรัชกาล

หลัง"คุณมะลิ" มีลูกเล็กๆได้ไม่นาน "คุณทองแดง" ลูกสุนัขเทศ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงย่อมาจากคำว่า "เทศบาล" ก็ได้เข้ามาอยู่ในพระราชวัง พระตำหนักสวนจิตรลดาฯ บ้าง เดิม "คุณทองแดง" เป็นลูกของ "นังแดง" สุนัขจรจัดบริเวณ ถ.พระราม ๙ โดยมีนายแพทย์คนหนึ่งนำ "ทองแดง" มาทูลเกล้าฯ ถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตร เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปเปิดศูนย์การแพทย์พระราม ๙ เมื่อทอดพระเนตร "ทองแดง" แล้วมีรับสั่งว่า ให้นำเข้ามาเลี้ยงเพราะ "นังแดง" ในเวลานั้นมีสภาพโทรมมาก ไม่สามารถเลี้ยงลูกได้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงยก "คุณทองแดง" ให้เป็น "ลูกเลี้ยง" ของคุณมะลิ เพราะในเวลานั้น อายุน้อยกว่าลูกของคุณมะลิแค่วันเดียว ซึ่ง "คุณมะลิ" ก็รัก "คุณทองแดง" เหมือนลูกตัวเอง

นพ.นพกฤษณ์ เล่าว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงชื่นชม "คุณมะลิ" ในฐานะที่เป็น "แม่หมาตัวอย่าง" อยู่บ่อยๆ เพราะไม่มีความรังเกียจเดียดฉันท์ลูกหมาอย่าง "คุณทองแดง" ซึ่งไม่ใช่ลูกตัวเองเลย ในบางครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงใช้เรื่องของ "คุณมะลิ" มาเป็นคติสอนคนหลายๆ คน เมื่อเข้ามาอยู่ในวัง "คุณทองแดง" ก็เป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากเป็นสุนัขที่ชาญฉลาดมาก.....

นพ.นพกฤษณ์ เล่าต่อว่า ความฉลาดของ "คุณทองแดง" ก็เช่นเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรียกให้คุณทองแดงขึ้นเฝ้าเพื่อจะทรงชั่งน้ำหนัก แค่รับสั่งว่า "ทองแดงไปชั่งน้ำหนัก" ทาง "คุณทองแดง" ก็จะทรงเดินขึ้นตาชั่ง หากตัวของ "คุณทองแดง" บังเข็มอยู่ก็จะเบี่ยงตัวให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงก้มลงทอดพระเนตรสเกลได้สะดวก

หรืออย่างเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับที่พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล และนำคุณๆ ไปด้วย เมื่อเสด็จพระราชดำเนินลงมาเพื่อทรงออกกำลัง ตรงถนนบริเวณชายหาดซึ่งมีต้นมะพร้าวอยู่ เพียงรับสั่งว่า "อ้อมต้นมะพร้าว" คุณทองแดงก็จะวิ่งอ้อมต้นมะพร้าวทันที โดยไม่ต้องมีการสอน ขณะที่คุณอื่นๆ จะวิ่งเล่นสนุกสนานตามประสา และเมื่อวิ่งอ้อมต้นมะพร้าวไปสักครึ่งต้นจะหยุดหันมามองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เหมือนจะถามว่า ถูกไหมเพคะทำนองนั้น

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงพยักพระพักตร์ หลังจากนั้น "คุณทองแดง" ก็จะเดินหรือวิ่งต่อ "คุณทองแดง" เป็นสุนัขที่ไม่เข้ามาเคลียคลอพระองค์ท่าน เวลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน จะนำเสด็จอยู่หน้าพระองค์ท่าน เวลาพระองค์ท่านประทับนั่งก็จะนั่งหมอบอยู่ด้านหน้า ใช้ ๒ ขาหน้าเกยกันเหมือนคนกำลังหมอบคลาน เป็นท่านี้ตลอด แล้วหันหน้าออกไปด้านนอก คอยระแวดระวังด้านนอกอย่างเดียว "คุณทองแดง" จึงได้รับการตั้งฉายาว่าเป็น....."สุนัขประจำรัชกาล"

ในหลวง.....ที่สุดของหัวใจคนไทย

เรื่องราวต่อไปนี้เป็นตอนหนึ่งใน ๔๐ เรื่องของหนังสือ "ที่สุดของหัวใจ" ที่เป็นความผูกพันของคนไทยกับ "ในหลวง" ซึ่งประทับอยู่ในหัวใจของผู้ที่ได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท อ่านแล้วไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดคนไทยถึงรักในหลวงได้มากมายเพียงนี้ ด้วยรู้แล้วว่าในหลวงทรงรักประชาชนยิ่งกว่าพระองค์เอง

+ น้ำลดหรือยัง.....โดย ถาวร ชนะภัย

หลายปีมาแล้วเมื่อครั้งน้ำท่วมภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เป็นช่วงเวลาที่การสื่อสารแห่งประเทศไทย ได้นำเครื่องโทรพิมพ์มาติดตั้งที่ห้องทรงงานใหม่ๆ ข้าราชสำนักท่านหนึ่ง กรุณาเล่าให้ฟังว่า แม้ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ยังไม่เสด็จขึ้นห้องพระบรรทม แต่ทรงคอยติดตามข่าวเรื่องอุทกภัยที่หาดใหญ่อยู่อย่างใกล้ชิด ด้วยทรงห่วงใยราษฎร

จึงทรงส่งคำถามผ่านเครื่องโทรพิมพ์ด้วยพระองค์ โดยทรงเองถามไปทางหาดใหญ่ว่า....."น้ำลดแล้วหรือยัง"

โดยที่ไม่ทราบว่า ผู้ส่งคำถามมานั้น คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำตอบที่มีผ่านมาทางเครื่องโทรพิมพ์เมื่อเวลาตี ๒ ตี ๓ มีข้อความที่ตอบด้วยความไม่พอใจว่า.....

"ถามอะไรอยู่ได้ดึกดื่นป่านนี้แล้ว คนเขาจะหลับจะนอน"

แต่ตอนท้ายของคำตอบก็ไม่ลืมที่จะบอกด้วยว่า

"น้ำลดแล้ว"

+ ไม่ต้องกั้น.....โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล

มีอยู่ครั้งหนึ่งเสด็จฯ ไปที่เซ็นทรัลวันที่มีประชุมรัฐสภาโลก วันนั้นผมจำได้ผมติดอยู่บนท้องถนน ฝนตกผมก็มีวิทยุเลยได้ยินรับสั่งมากับตำรวจมาเลย.....

"วันนี้ไม่ต้องกั้นรถ"

ทรงเข้าใจความทุกข์ของราษฎรตลอดเวลา วันนี้เป็นวันฝนตกรถติดกันอย่างมหาศาล ถ้าขืนต้องไปติดขบวนอีกสร้างความทุกข์ให้กับประชาชน ทรงวิทยุบอกตำรวจว่า.....

"ขบวนจะแล่นไปพร้อมกับรถของประชาชนไม่ต้องกั้น เคลื่อนที่ไปพร้อมกัน"

นี่เป็นแบบอย่างเพียงเศษเสี้ยว ของพระจริยาวัตรของพระองค์

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.....


ที่มา:
"ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์"
//www.naewna.com/news.asp?ID=290823
//www.pranippan.com/new/board/index.php?s=4511f84149992a1ff4a2851811ef4e89&showtopic=1661



Create Date : 01 กรกฎาคม 2555
Last Update : 1 กรกฎาคม 2555 13:39:56 น. 1 comments
Counter : 2685 Pageviews.

 
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

รักพระองค์ ขอให้พระองค์อายุยืนนาน ค่ะ


โดย: ด.ญณัฏฐณิชา ดังจิตต์ IP: 27.55.8.207 วันที่: 1 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:13:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.