ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
28 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
ขี้เหล็กเทศ.. ประโยชน์มากมาย


ภาพจาก //www.rain-tree.com/


ขี้เหล็กเทศ
ชื่ออื่น ๆ : ขี้เหล็กผี พรมดาน ชุมเห็ดเล็ก(ภาคกลาง) ขี้เหล็กเผือก หมากกะลิงเทศ ลับมืนน้อย ผักเห็ด (ภาคเหนือ) กิมเต่าจี้ ม่อกังน้ำ (จีน) ผักจี๊ด (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน)

ชื่อสามัญ : coffea Senna

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia occidentalis Linn.

วงศ์ : CAESALPINIACEAE


ลักษณะทั่วไป

ต้น : เป็นพรรณไม้ปีเดียวตาย ลำต้นมีความสูง 1-2 เมตร เนื้อไม้ตรงโคนต้นจะแข็ง และจะแตกกิ่งก้านสาขามาก

ใบ : จะออกสลับกัน ส่วนก้านใบนั้นเป็นใบร่วมยาวประมาณ 3-5 ซม. ตรงโคนใบจะมีตุ่มนูนออกมา 1 ตุ่ม ใบย่อยมีราว 3-5 คู่ คู่ปลายนั้นจะมีขนาดใหญ่ คู่ถัดไปจะมีขนาดเล็กลงนาตามลำดับ ลักษณะปลายย่อยนั้นจะรีปลายของมันจะแหลมยาวประมาณ 3-6 ซม. กว้างประมาณ 1-2 ซม. ส่วนฐานใบจะเบี้ยวข้างหนึ่ง ตรงขอบใบจะเรียบขนอ่อนนุ่ม ด้านหลังใบจะมีขนอ่อนนุ่มสั้น ๆ ถ้าขยี้ใบดมกลิ่นจะเหม็นเขียวหูจะเป็นใบเส้นมีลักษณะแหลมและหลุดร่วงง่าย

ดอก : จะออกเป็นช่อตรงง่ามใบ และมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ลักษระใบจะรีปลายแหลม ส่วนกลีบดอกจะมีสีเหลือง 5 กลีบ ตรงปลายกลีบดอกจะมนและกลม

เกสร : เกสรตัวผู้นั้นจะมีอยู่ 10 อัน ส่วน 3 อันที่อยู่ตรงบนจะร่วงไป และอีก 7 อันที่อยู่รอบ ๆ ก็ตะเจริญเติบโตเต็มที่ลักษณะของรังไข่จะเป็นเส้นโค้ง มีขนสีขาวปกคลุม ปลายรังไข่นั้น จะมีก้านสั้นของเกสรตัวเมียอยู่

ฝัก : มีลักษณะเป็นเส้นตรงรูปทรงกระบอก แบนและมีขอบเห็นได้ชัดเจนทั้ 2 ด้าน มีความยาวประมาณ 6-10 ซม. กว้างประมาณ 3-4 มม. จะมีรอยตามขวางนูนขึ้นเปลือกฝักบาง

เมล็ด (ผล) : ผลเมื่อก่จะมีสีน้ำตาล ฝักหนึ่งจะมีเมล็ดประมาร 40 เมล้ด ลักษณะเมล็ดนั้นจะกลมมรีและแบน ปลายด้านใดด้านหนึ่งจะมีลักษณะค่อนข้างแหลม ผิวภายนอกจะเรียบและแข็ง

การขยายพันธุ์ : ขี้เหล็กเทศนั้น พบขึ้นเองตามที่รกร้าง ที่แห้งแล้ง ที่ตามไหล่เขา และริมน้ำลำคลอง โดยใช้เมล็ด

ส่วนที่ใช้ : ทั้งต้น ใบ ใก และเม็ดใช้เป็นยา ทั้งต้นและใบควรใช้แห้ง หรือจะใช้สดก็ได้ ส่วนฝักและเมล็ดนั้น ควรเก็บเมื่อฝักแก่จัดเป็นสีน้ำตาล ตากแห้ง แล้วเด็ดก้านฝักออกแล้วหั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ หรือใช้เกาะเปลือกเอาแต่เมล็ด เก็บตากแห้งไว้ได้

สรรพคุณ : ทั้งต้นและใบ ใช้แห้งประมาณ 6-10 กรัม ส่วนใบสดเพิ่มอีกประมาณ 1 เท่าตัว ใช้ต้มกินหรือคั้นเอาน้ำกิน ถ้าใช้ภายนอก ควรตำก่อนแล้วใช้พอก กินจะมีรสขม ใช้ขับของเสียออกจากไต ใช้กล่อมตับ รักษาอาการบวม ถอนพิา รักษาอาการไอ หอบ ท้องผูก หนองใน ปวดหัว ปัสสาวะเป็นโลหิต แผลบวมอักเสบ ตาแดง แมลงสัตว์กัดต่อย หรือถูงูกัด ฝักและเมล็ด ใช้แงประมาณ 6-10 กรัม ใช้ต้มน้ำกินมีรสชุ่ม ขม แต่มีพิา บำรุงกระเพาะอาหารใช้กล่อมตับ ทำให้การขับถ่ายดี และทำให้ตาสว่าง ใช้รักษาระบบการย่อยอาหารไม่ดี โรคบิด ปวดท้อง ท้องผูก ปวดหัวและถอนพิษ ปวดกระเพาะอาหาร วิงเวียน ตาบวมแดง ถ้าใช้ภายนอกควรบดให้ละเอียดเป็นผง แล้วใช้ทาได้

ตำรับยา

1. รักษาโรคไข้มาลาเรีย ให้นำเมล้ดมาคั่วให้เกรียมจนมีกลิ่นหอม แล้วบดเป็นผฝให้ละเอียด ใช้กินครั้งละ 6-10 กรัม วันละ 2 เวลา

2. รักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ที่อักเสบเรื้อรัง ท้องผูกเป็นประจำ ระบบทางเดินอาหารย่อยไม่ดี ให้ใช้เมล็ดที่คั่วจนเหลืองประมาณ 15-30 กรัม บดแล้วกินติดต่อกันเป็นเวลา 10 วัน

11. โรคหนองใน ปัสสาวะเป็นโลหิตใช้ต้นสด 30 กรัม ต้มน้ำกิน

12. ลดความดันโลหิตสูง ให้คั่วจนเกรียมมีกลิ่นหอมแล้วบดเป็นผง ใช้กินครั้งละ 3 รัม ผสมกับน้ำตาลกรวดพอสมควร ชงน้ำรับประทานเป็นประจำ

13. แมลงสัตว์กัดต่อย ให้ใช้ใบสดตำพอก

14. ฝีบวมอักเสบ ให้ใช้ใบตากแห้งแล้วบดเป็นผง ผสมกับน้ำส้มสายชูพอก หรือจะเอาผสมเหล้าพอก ช่วยเร่งให้หัวฝีออกเร็วขึ้น

15. งูกัด ให้ใช้ใบสดประมาณ 30-60 กรัม นำมาต้มคันน้ำกิน และกากสามารถใช้พอกได้

16. ตาแดงบวมเห็นพร่ามัว ให้ใช้เมล้ดแห้ง 15-30 กรัม ผสมกับน้ำตาลกรวดประมาณ 30 กรัม ชงกับน้ำกินได้

ข้อมูลทางคลีนิค1. รักษาอาการอักเสบภายนอก ใช้ใบสดนำมาตำพอกบริเวณที่เป็น รวมทั้วต้นสดประมาณ 30-60 กรัม หรือจะเมล็ดประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มนำกิน สามารถทำให้อาการอักเสบหายได้

?

2. รักษาอาการปวดเรื้อรัง ให้นำใบสดประมาณ 20 กรัม เนื้อหมูอีก 250 กรัม ใช้ต้มน้ำกินวันละ 1 ตำรับ จากการรักษาคนไข้จำนวน 42 ราย ได้ผล 36 ราย ส่วนที่เหลืออีก 6 รายไม่ได้ผล และจากการติดต่อสอบถามคนไข้ที่หายจากการเป็นโรคมาแล้วครึ่งปี ยังไม่ปรากฏอาการเดิมอีก

ข้อมูลทางเภสัชวิทยา


1. น้ำต้นจากใบและต้น สารสกัดจากแอลกอฮอล์ของพรรรไม้ชนิดนี้ จะมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อในลำไส้เล้กและมดลูกหนูใหญ่ และช่วยลดความดันดลหิตของสุนัขที่ทดลอง นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นหัวใจของกระต่ายได้เล็กน้อย สารสกัดที่ได้จากต้นขี้เหล็กด้วยแอลกอฮอล์ ผสมกับอีเธอร์ปริมาณ 100 มก. จะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ และทำให้เพิ่มปริมาณน้ำปัสสาวะของสุนัขที่ได้จากการทดลองทำให้สลบและให้น้ำสม่ำเสมอ มีปัสสาวะเพิ่มขึ้นอีก 300% เมื่อนำมาเปรีบยเทียบกับสัตว์ที่ทดลองกลุ่มที่ไม่ให้สารสกัด

2. มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ สารที่สกัดด้วยปิโตรเลียมอีเธอร์ เบนซิน แอลกอฮอล์จากใบ รากและเมล้ด ทำให้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น Staphylococcus aureus, Bacillus subtilis,B. proteus และ Vibrio cholerae ฤทธิ์ที่สามารถฆ่าเชื้อนี้เกิดจากน้ำมันระเหยของพรรณไม้ สารสกัดด้วยพรรณไม้ชนิดนี้จะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้บางชนิด

หมายเหตุ : เมล็ด จะมี Toxalbumin เป็นสารพิษที่ทำให้ถ่ายอย่างแรง เมื่อนำมาคั่วพิษนั้นก็จะหาย พิษจาการกินเมล็ดหรือรากขี้เหล็กเทส จะมีอาการท้องเสียและอาเจียน รักษาโดยการล้างกระเพาะอาหาร โดยเอาไข่ขาวผสมกับกรดฝาด tannic acid และถ่าน ให้กิน ถ่าอาการหนักให้นำเกลือและกลูโคส หรืออาจให้ยาอื่น ๆ กินแก้ตามอาการคนไข้ เมล็ดนั้นนำมาคั่วจนหอมเกรียม แล้วนะมาชงน้ำกิน ช้วยขับปัสสาวะ เป็นยาบำรุง บำรุงธาตุ รักษาอาการไข้ ปวดข้อรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจ บวมน้ำ รักษษภายนอกบดเป็นผง ทำเป็นยาขี้ผึ้งรักษาผิวหังอักเสบ กลากเกลื้อน ผื่นคัน และรักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ ช่วยดูดหนองฝี ในเมล็ดมี rhein, physcion, homodianthrone, aloe-emodin, emodin, chrysophanol, physcion-l-glycoside, physcion homodianth-rone และจะมี tkoxalbulmin,N-methylmorphline alkaloid ส่วนกรดอมิโนนั้นได้แก่ aspartic acid, arginine,alanine,cystein-cystine,histidine,glutamic acid,glycine,methionine,isoleucine,lysine,leucine,phenylalanine,serine,threonine,proline และกรดอมิโนอื่น ๆ ที่ยังไม่ทราบอีก นอกจากนี้ยังมีคาร์โบไฮเดรทที่สามารถละลายในน้ำได้ 5.52% จะประกอบด้วย raffinose,lactose,maltosse และ sucrose มีไขมันซึ่งประกอบด้วย oleic acid 30.71% linolenic acid 6.3% linoleic acid 31.4% กรดไขมันอิ่มตัวประมาณ 19.7% น้ำมันระเหยประมาณ 0.7% unsaponfifer matters 7.4% galactomannan ทั้งต้น ให้ปริมาณโปแตลเซี่ยมมากกว่าต้นชุมเห็ดไทย ใช้ทำปุ๋ยพืชสด ทั้งต้นที่มีฝักแห้งหนัก 14 กก. ให้เกาะกินติดต่อกันมากกว่า 17 วัน จะมีผลระคายเคืองต่อระบบการย่อยอาหาร ใบ จะมี oxymethylanthraquinones เล็กน้อย physcion,l, 8-dithydroxyanthraquinone,hydroxyanthraquinone,dianthronic heteroside,chrysophanol,4,5,4,5,-tetrahydroxy-2, 2-dimethylbianthraquinone emodin,matteucionl-7-rhamondide,jaceidin-7-rnamnoside และ heterodianthrones quercetin ใบใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ ต้มกิน ขับถ่ายพยาธิ รักษากลากเกลื้อน ดอก จะมี physcion,emodin,physcion-1-B-D-gucopyranoside และ B-sitosterol เปลือกต้น ใช้ชงน้ำกิน รักษาโรคเบาหวาน ส่วนยาชงจากเปลือกใช้รักษาดรคมาลาเรีย หนองใน บิดที่เกิดจากเชื้อมาเลเรีย และปัสสาวะเป็นโลหิต ฝัก จะมี total anthraquinones 4.5%, emodin,oxymethylanthraquinone 0.3%,free anthraquinones 1.9%,chrysophanol,heterodianthrone จะประกอบด้วย chytosterol,stigmasterol,xanthorin,islandicin,cassiollin,helminthosporin. รากยังใช้ทำเป็นยาถ่าย ใช้ขับพยาธิ ยาชงจากรากยังทำเป็นยาบำรุง ช่วยขับปัสสาวะ รักษาอาการบวมน้ำ รักษาโรคกี่ยวกับตับ โรคหนองใน มีปัสาวะเป็นโลหิต บิดที่เกิดจากเชื้อมาลาเรีย และรักษาไข้มาลาเรียด้วย

หมายเหตุ : “ผักเคล็ด ขี้เหล็กเทศ ขี้เหล็กผี ชุมเห็ดเล็ก(ไทย) หมากกะลิงเทศ จับมืนน้อย ขี้เหล็กเผือก ฝักเห็ด(พายัพ) ชุมเห็ดเทศ(ใต้)” inSiam.Plant Names,1948,p.104.,Cassia occidantalis Burkill,I,1935,p.478 ” kachang kota (probably bean of thr fort,the fort being Malacca)in Siam,Chum het tet,ki-lek-peuk.”,Cassia occidenalis Harms in Schmidt, Floraof Koh Chang, V, 1902, p.163 “Klong Prao,in drygrassy spots”,and Add p.427 “Plains at Lem Dan,”

พจนานุกรม สมุนไพรไทย ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม



Create Date : 28 กรกฎาคม 2552
Last Update : 28 กรกฎาคม 2552 17:51:43 น. 0 comments
Counter : 861 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.