"น้องอาร์ม"ยอดกตัญญูทำงานหาเงินดูแลยายป่วยโรคมะเร็ง
"น้องอาร์ม"ยอดกตัญญูทำงานหาเงินดูแลยายป่วยโรคมะเร็ง 15 มิย. 2552 12:20 น.
เมื่ออ่านเรื่องราวนี้แล้ว ต้องการช่วยเหลือเด็กที่มีความกตัญญูและเป็นเด็กดี ร่วมช่วยเหลือได้โดยโทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อมูลก่อนก็ได้ที่โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด เบอร์โทรศัพท์ 055-411675 หรือโอนเงินผ่านบัญชีของน้องอาร์ม ได้โดยตรงที่ บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาอุตรดิตถ์ ชื่อบัญชี อาร์ม แสงหัวช้าง หมายเลขบัญชี 510-0-63702-1
เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 15 เม.ย 52 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเด็กชายอาศัยอยู่กับยายป่วยเป็นโรคมะเร็งขั้นสุดท้าย อยากให้สังคมให้การช่วยเหลือ จึงเดินทางไปที่ห้องแถวบ้านชั้นเดียวเลขที่ 256/10 ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ พบดช.อาร์ม แสงหัวช้าง อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์
ด.ช.อาร์ม กล่าวว่า ตั้งแต่เล็กอยู่กับตาและยายโดยไม่เคยได้เจอพ่อแม่มาก่อน โดยตา ทำงานเป็นยามอยู่ที่โรงเลื่อยจักรท่าเสา ต่อมาได้เสียชีวิต เจ้าของโรงเลื่อยใจดีให้อยู่ฟรีอนุญาติให้อยู่ไปได้ มาระยะหลังยายได้ป่วย ปัจจุบันยายป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้าย หลังจากรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ แพทย์ได้ส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรังสีรักษา จ.พิษณุโลก นานเกือบ 1 ปีแล้ว
ทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 น.ผมจะเดินมายังสถานีรถไปศิลาอาสน์ เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ระยะกว่า 5 กิโลเมตร โดยจะหิ้วถุงพลาสติกที่ใส่นมกล่อง 1 แพ็ค พร้อมกับขอตั๋วรถไฟฟรีจากเจ้าหน้าที่ช่องจำหน่ายตั๋ว 1 ที่นั่งเดินทางไปยัง จ.พิษณุโลก ไปเยี่ยมยายที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรังสีรักษา จ.พิษณุโลก ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในทุกวันอาทิตย์
"ทุกวันจันทร์ถึงศุกณ์ผมไปของานทำที่อู่รับทำสีรถยนต์ ทำหน้าที่ขูดสีรถ และจัดเตรียมอุปกรณ์ เก็บทำความสะอาดอู่ เพื่อแลกกับอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนตอนเช้าของทุกวันที่ไปเรียนหนังสือจะไปช่วยแม่ครัวทำความสะอาดโรงอาหาร เพื่อแลกกับอาหารเช้าและขนม ส่วนยายจะมีรายได้เดือนละ 500 บาทจากเงินเบี้ยยังชีพ เพราะอายุมากไม่สามารถทำงานหนักๆได้ โดยตนจะไม่รบกวนขอเงินยายมาใช้ เพราะต้องการให้ยายเก็บไว้ใช้" ดช.อาร์ม กล่าว ตอนนี้ผมกับยายต้องอยู่ก่างกันมาเป็นปี ช่วงที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ยายต้องรับการฉายรังสีทุกวัน เป็นห่วงยายที่สุดทุกคืนจะคิดถึงและนอนไม่หลับ อยากให้ยายหายจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันตามเดิม และบางวันที่อยู่คนเดียว ต้องเดินทางไปกลับวันละ 10 กิโลเมตร แต่เคยมีผู้ใหญ่ใจดีซึ่งเป็นคนขับรถสองแถวรับจ้างเคยอนุญาตให้นั่งรถมาโรงเรียนฟรี แต่เกรงใจเพราะเราไม่ได้ทำงาน หรือทำประโยชน์อะไรให้กับเขา จะอาศัยเขาฟรีไม่ได้ จึงตัดสินใจเลือกที่จะเดินมาเรียน
"ผมไม่อยากได้อะไร แต่อยากให้ยายหาย ขอให้ผมมีงานทำเพื่อแลกกับอาหารและของใช้ไว้ให้ยาย ตั้งแต่ยายไปรักษาตัวที่ จงพิษณุโลก ผมไปเยี่ยมยายทุกสัปดาห์ จะมีเพียง 1 สัปดาห์ที่ไม่ได้ไปหายาย และยายก็ร้องไห้ เพราะว่ารถไฟหยุดวิ่ง เนื่องจากเดินดินถล่มทับรางรถไฟวิ่งไม่ได้ ส่วนอนาคตอย่างเรียต่อสายอาชีพและอยากเป็นช่างซ่อมรถยนต์และอยากเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถ" เด็กชายอาร์ม กล่าว
นางประทุมทิพย์ ไพเราะ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด กล่าวว่า เด็กชายอาร์ม เป็นเด็กดีมากๆ เป็นเด็กที่มีความประหยัด เกรงใจ และจะไม่ยอมเอาของใครฟรีๆ แต่ขอแลกกับการทำงาน ตั้งแต่ยายไม่สบายและไปอยู่ จ.พิษณุโลกทางโรงเรียนอนุญาตให้รับอาหารฟรีที่โรงอาหารทุกมื้อ แต่เด็กชายอาร์มขอช่วยงานแม่ครัว และทำความสะอาดโรงอาหาร เพื่อแลกกับข้าว
ดังนั้น เมื่อทราบเรื่องของเด็กชายอาร์ม ได้กำชับให้สามารถมาเบิกเงินกองกลางดังกล่าวไปใช้ได้ โดยเฉพาะใช้ซื้อสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และค่าขนม ไม่น่าเชื่อเด็กชายอาร์มไม่เคยมาขอเบิกเงินดังกล่าวแม้แต่บาทเดียว เมื่อสอบถามจะได้รับคำตอบว่า ยังไม่จำเป็น บางครั้งครูที่โรงเรียนให้เงินครั้งละ 100-200 บาท เด็กชายอาร์มจะขอแลกด้วยการทำงานทุกครั้ง
Create Date : 20 มิถุนายน 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 3 สิงหาคม 2552 0:18:47 น. |
Counter : 1155 Pageviews. |
|
|
|