|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ชาวละตินอเมริกันในสหรัฐฯ รับอิสลามเพิ่มขึ้น
ชาวละตินอเมริกันในสหรัฐฯ รับอิสลามเพิ่มขึ้น
More US Hispanics drawn to Islam
โดย Amy Green, นิตยสารเดอะคริสเตียนซายมอนิเตอร์ (The Christian Science Monitor)
แปลโดย วาริษาฮ์ อัมรีล
//www.newmuslimthailand.com/main/index.php
หมายเหตุ: ชาวฮิสแพนนิก (Hispanic) หมายถึงคนที่พูดภาษาสแปนนิช ได้แก่ ผู้ที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้และอเมริกากลาง
ออร์ลันโด, ฟลอริดา – แม้เธอจะคลุมฮิญาบและผิวคล้ำมาก, แคทเธอรีน การ์เซีย ดูไม่เหมือนกับชาวออร์ลันโดพื้นเมืองหรือนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวดิสนีย์เวิลด์ เมื่อถูกถามว่าเธอมาจากไหน, คนถามเองจะเซอร์ไพรส์เสมอ เพราะแคทเธอรีนมิใช่ชาวตะวันออกกลาง, แต่เป็นชาวโคลัมเบีย
นั่นเป็นเพราะแคทเธอรีน, พนักงานของบุ๊คสโตร์หรือร้านหนังสือ, ผู้อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เมื่อ 7 ปีก่อน, เป็นชาวฮิสแพนนิกและเป็นมุสลิม
ในยามบ่ายของเดือนรอมดอน, เดือนศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม, เธออยู่ที่มัสยิดในเสื้อตัวหลวมและกระโปรงยาว เพื่อให้ถูกต้องตามหลักอิสลาม “ฉันไม่เคยรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเลยตอนอยู่ในประเทศของตัวเอง, แต่ในอิสลาม ฉันกลับรู้สึกว่าฉันเหมาะกับทุกๆ อย่างในความเชื่อแบบอิสลาม” เธอกล่าว
แคทเธอรีนเป็นหนึ่งในจำนวนชาวฮิสแพนนิกในสหรัฐฯ ที่พบว่าหลักการศรัทธาและวัฒนธรรมอิสลามคล้ายคลึงกับวัฒนธรรมของตัวเองอย่างเหลือเชื่อ ชาวฮิสแพนนิกที่หันมาศรัทธาในอิสลามมีทั้งนักวิชาการ, นักศึกษา, ไปจนแม่บ้าน ด้วยสาเหตุแตกต่างกันไปเช่น จากการแต่งงาน, จากการศึกษาด้วยความอยากรู้อยากเห็น, และจากการแชร์ความรู้สึกที่ว่าชาวมุสลิมก็เป็นคนอพยพมาใหม่ของสหรัฐฯ เช่นเดียวกับชาวฮิสแพนนิก
จำนวนประชากรฮิสแพนนิกมุสลิมในปัจจุบันมีประมาณ 200,000 คน เติบโตขึ้นจากปี 1999 ประมาณ 30%, จากการประมาณการโดย อาลี ข่าน, ผู้อำนวยการสภามุสลิมอเมริกันสาขาชิคาโก โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ 9/11 ความสนใจในอิสลามยิ่งมีมากขึ้นกว่าปกติ ชาวฮิสแพนนิกเพิ่งตระหนักว่าชาวมุสลิมเคยครอบครองสเปนเมื่อหลายศตวรรษก่อน (เรียกว่า อาณาจักร อันดาลุส หรือ อันดาลูเชีย ช่วงค.ศ.711-1492) และชาวมุสลิมได้ทิ้งมรดกทางวัฒนธรรมไว้ที่สเปนมากมายทั้งเรื่องของอาหาร, ดนตรี, และภาษา
“ชาวฮิสแพนนิกจำนวนมาก...ผู้เปลี่ยนมารับอิสลามบอกว่า พวกเขาได้หันกลับมาหาวัฒนธรรมดั้งเดิมของตัวเอง มรดกที่พวกเขาไม่เคยรู้” เอียฮ์ซาน บักบี กล่าว เขาเป็นอาจารย์ภาควิชาภาษาอารบิกและอิสลามศึกษาของมหาวิทยาลัยเคนตั๊กกี
แนวโน้มดังกล่าวก่อให้เกิดองค์กรอิสลามิกละติน อาทิเช่น องค์กรดะวะฮ์ละตินอเมริกัน (Latino American Dawah Organizaion) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1997 โดยชาวฮิสแพนนิกในเมืองนิวยอร์กที่เปลี่ยนมารับอิสลาม ทุกวันนี้องค์กรนี้ขยายตัวไปทั่วสหรัฐฯ แล้ว
อัตราการเจริญเติบโตของประชากรฮิสแพนนิกมุสลิมสูงมากในเมืองใหญ่ๆ เช่น นิวยอร์ก, ฟลอริดา, คาลิฟอร์เนีย, และเท็กซัส ที่มีประชากรฮิสแพนนิกเป็นจำนวนมาก มัสยิดกลางของเมืองออร์ลันโด, รัฐฟลอริดา, ซึ่งมีคนมาละหมาด 700 คนทุกอาทิตย์, ก็ตั้งอยู่ในเขตที่พักอาศัยของชาวฮิสแพนนิก
อิหม่าม มาฮ์มูด มุสรี, ประธานสมาคมอิสลามของฟลอริดากลาง, กล่าวว่า เมื่อไม่กี่ปีก่อนเป็นเรื่องยากมากที่จะได้ยินคนพูดภาษาสแปนนิชในมัสยิด
มุสรีบอกว่า ทุกวันนี้มีการเรียกร้องให้แปลหนังสือเกี่ยวกับอิสลามเป็นภาษาสแปนนิช และก็ให้มีสถานีวิทยุอิสลามที่เผยแพร่เป็นภาษาสแปนนิชด้วย ทางมัสยิดมีชั้นเรียนศาสนาสอนเป็นภาษาสแปนนิชสำหรับสตรีทุกวันเสาร์ “ผมบอกได้เลยว่าใช้เวลาแค่ไม่กี่ปีหรอก เราจะได้เห็นมัสยิดที่ใช้ภาษาสแปนนิชเป็นภาษากลาง และอิหม่ามเป็นชาวฮิสแพนนิก”
ที่ลอสแองเจลิสด้านใต้ตอนกลาง, กลุ่มนักศึกษามุสลิมจากยูซีแอลเอ (UCLA, University of California at Los Angelesมหาวิทยาลัย 1 ใน 10 อันดับแรกของสหรัฐฯ) เมื่อทศวรรษก่อนได้ก่อตั้งคลินิกรักษาโรคในแถบที่พักอาศัยของคนยากจน นายแพทย์มันซูร ข่าน, รองประธานและผู้ร่วมก่อตั้งคลินิกซึ่งชื่อว่า University Muslim Medical Association Community Clinic, กล่าวว่า ในปัจจุบันคลินิกแห่งนี้รักษาผู้ป่วยถึง 16,000 คน, ส่วนใหญ่เป็นชาวฮิสแพนนิก, ผู้มองเห็นว่าคลินิกแห่งนี้ทำให้พวกเขาไม่ต้องไปเสี่ยงกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ (เพราะชาวฮิสแพนนิกส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ โดยผิดกฎหมาย)
นายแพทย์มันซูรกล่าวว่า ทางคลินิกมิได้รักษาเพื่อชักชวนให้ชาวฮิสแพนนิกเปลี่ยนมารับอิสลาม แต่พวกเขาสนใจในอิสลามเพราะเห็นว่าอิสลามเน้นเรื่องครอบครัว หนึ่งในพยาบาลอาสาสมัครได้ก่อตั้งองค์กรอิสลามิกละตินในบริเวณดังกล่าว ส่วนสตรีฮิสแพนนิกอีกคนหนึ่งบอกนายแพทย์มันซูรว่า เธอชอบฮิญาบเพราะทำให้เธอนึกถึงพระนางมารีผู้บริสุทธิ์ หรือ เวอร์จินมารี (Virgin Mary)
บักบีกล่าวว่า แนวโน้มดังกล่าวบ่งชี้ว่า อิสลามมีความเป็นอเมริกันมากขึ้นและก็กลายเป็นศาสนาที่ไม่แปลกสำหรับสังคมอเมริกันแล้ว พรรคริพับลิกันมีนโยบายที่ไม่เข้มงวดกับชาวฮิสแพนนิกมุสลิมและมุสลิมผิวดำในสหรัฐฯ ซึ่งพวกเขาทั้งสองกลุ่มสามารถโชว์ให้มุสลิมทั้งโลกได้เห็นคุณค่าของประชาธิปไตย, และจะลดความรุนแรงลงได้ บักบีเชื่อว่า คนแบบบินลาเดนในโลกนี้มีน้อยมากๆ
“เมื่อชาวฮิสแพนนิกและชาวอเมริกันอื่นๆ เปลี่ยนมารับอิสลามมากขึ้น จะช่วยเป็นสะพานเชื่อมสังคมมุสลิมกับสังคมอื่นๆ ได้” บักบีกล่าว “คำพูดและการกระทำของมุสลิมใหม่เหล่านี้สำคัญมาก เพราะพวกเขาคือความภาคภูมิใจของมุสลิมทั้งโลก”
แคทเธอรีนจากโคลัมเบียมาเพื่อศึกษาด้านอินเตอร์เนชั่นแนลบิสซิเนสในสหรัฐฯ เธอเป็นคนเคร่งศาสนาและตอนเด็กๆ เคยคิดจะเป็นแม่ชีในโบสถ์ แต่เธอมีคำถามมากมายกับคำสอนของศาสนาคริสต์ เธอสงสัยว่า ทำไมคริสเตียนถึงรับประทานเนื้อหมูได้ในเมื่อไบเบิลสั่งห้าม (หมายเหตุ: ในพันธะสัญญาเก่า Old Testament พระเจ้าบอกไว้ชัดเจนว่าห้ามรับประทานหมูและสิ่งอื่นๆ อีกหลายประเภท ซึ่งยิวยังปฏิบัติตามอยู่และข้อห้ามเรื่องการรับประทานสิ่งต่างๆ ที่พระเจ้าบอกไว้ในพันธะสัญญาเก่านั้นเคร่งครัดกว่าในอัล-กุรอานหลายเท่านัก ส่วนการให้รับประทานเนื้อหมูได้นั้นไปอ่านดูกันเอาเองในพันธะสัญญาใหม่ว่าผู้ใดออกคำสั่งนี้, พระเจ้าหรือมนุษย์?) และทำไมต้องอธิษฐานผ่านพระนางมารีหรือไม่ก็นักบวช ทำไมไม่ให้มนุษย์ขอพรจากพระเจ้าโดยตรง
ในสหรัฐฯ เธอมีเพื่อนเป็นมุสลิม และในที่สุดเธอก็เปลี่ยนมารับอิสลาม ครอบครัวของเธอในโคลัมเบียก็เห็นด้วยกับเธอในเรื่องนี้ ทุกวันนี้เธอรับประทานอาหารฮาลาล เพื่อให้สอดคล้องกับคำสอนของอิสลาม
“นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับฉัน” แคทเธอรีนกล่าวอย่างอ่อนโยนด้วยภาษาอังกฤษที่ไม่แข็งแรง “ฉันไม่เคยรู้สึกมีความสุขและสงบแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต”
ที่มา: More US Hispanics drawn to Islam. The Christian Science Monitor. 28 September 2006.
//www.csmonitor.com/2006/0928/p03s02-ussc.html
Create Date : 21 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2552 21:16:36 น. |
|
0 comments
|
Counter : 772 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
อิสลามศาสนาที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก อิสลามไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด เพราะถ้าอิสลามเป็นอย่างที่คุณคิดเป็นไปตามสื่อแล้วล่ะก็ คงไม่มีผู้คนทยอยรับอิสลามกันอย่างต่อเนื่องแบบนี้แน่
|
|
|
|
|
|
|